ญาณ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย รสมน, 9 มิถุนายน 2009.

  1. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    อนาคตังสญาณคือญาณที่ล่วงรู้อนาคต เป็นญาณของผู้มีอภิญญาจิต

    ตามหลักฐานในพระไตรปิฎกและอรรถกถา มีปรากฏว่า พระพุทธเจ้า พระปัจเจก

    และพระอรหันตสาวก มีอนาคตังสญาณ และญาณนี้ไม่เหมือนจุตูปปาตญาณ แต่

    ในบางแห่งท่านสงเคาะห์ ในทิพย์จักษุ ยถากัมมูปคญาณ

    ดังข้อความในอรรถกถาดังนี้

    พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ - หน้าที่ 1029

    บทว่า ยถากมฺมูปเค - เป็นไปตามกรรม คือ เป็นไปตามกรรม

    ที่สะสมไว้. ท่านกล่าวถึงกิจของทิพจักษุด้วยมีอาทิว่า จวมาเน บทก่อน.

    แต่ด้วยบทนี้ท่านกล่าวถึงหน้าที่ของยถากัมมูปคญาณ - ญาณกำหนดรู้ว่า

    สัตว์เป็นไปตามกรรม.

    อนึ่ง ลำดับแห่งการเกิดของฌานนั้นมีดังนี้ ภิกษุในศาสนานี้

    เจริญอาโลกกสิณมุ่งไปสู่นรกเบื้องต่ำ ย่อมเห็นสัตว์นรกทั้งหลายเสวย

    ทุกข์ยิ่งใหญ่. การเห็นนั้นนั่นแหละ เป็นกิจของทิพจักษุ. ภิกษุนั้น

    มนสิการอย่างนี้ว่า สัตว์เหล่านี้ทำกรรมอะไรไว้หนอ จึงต้องเสวยทุกข์

    นั้น. ครั้นแล้วญาณมีกรรมนั้น ๆ เป็นอารมณ์เกิดแก่ภิกษุนั้นว่า เพราะ

    ทำกรรมนี้.

    อนึ่ง ภิกษุเจริญอาโลกกสิณมุ่งไปสู่เทวโลกเบื้องบน เห็นสัตว์

    ทั้งหลายเสวยมหาสมบัติในสวนนันทนวัน มิสสกวัน และปารุสกวัน

    เป็นต้น. การเห็นแม้นั้นก็เป็นกิจของทิพจักษุนั้นเอง. ภิกษุนั้นมนสิการ

    อย่างนี้ว่า สัตว์เหล่านี้ทำกรรมอะไรไว้หนอ จึงต้องเสวยสมบัตินี้ ครั้น

    แล้วญาณมีกรรมนั้นเป็นอารมณ์เกิดแก่ภิกษุนั้นว่า เพราะทำกรรมนี

    นี้ชื่อว่ายถากัมมูปคญาณ. การบริกรรมต่างออกไปจากนี้ไม่มีแก่ภิกษุนี้.

    แม้อนาคตังสญาณก็เหมือนญาณนี้. จริงอยู่ ญาณเหล่านี้มีทิพจักขุญาณ

    เป็นบาท ย่อมสำเร็จพร้อมด้วยทิพจักษุนั่นเอง.
    พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 317

    ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประกาศสงเคราะห์คุณแห่งความเป็น

    พระสัพพัญญูแม้ทั้งหมดด้วยวิชชา ๓ อย่างนี้คือ ทรงสงเคราะห์อตีตัง-

    สญาณด้วยปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ทรงสงเคราะห์ปัจจุปปันนังสญาณและ

    อนาคตังสญาณด้วยทิพยจักษุญาณ (และ) ทรงสงเคราะห์โลกุตตรคุณ
    พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 636

    บทว่า โส วา มํ อปรนฺตํ ผู้นั้นพึงถามปัญหาปรารภขันธ์ส่วนอนาคตกะเรา

    คือ เพราะอนาคตังสญาณ ย่อมสำเร็จ แก่ผู้ได้ทิพยจักษุ. เพราะฉะนั้นพระองค์

    จึงตรัสอย่างนี้. บทนอกนี้มีนัยดังได้กล่าวแล้วในตอนก่อน
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    โมทนาสาธุธรรมครับ.....ผมกำลังหาเรี่องนี้ในพระสูตรอยู่พอดี.......เรื่องของวิชชา 3 . อภิญญา 6 ....เรื่องกสิน ..ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้..........
     

แชร์หน้านี้

Loading...