เรื่องเด่น ชีวิตเหมือนใบไม้ในป่า ( หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง )

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 12 พฤษภาคม 2018.

  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,034
    ค่าพลัง:
    +70,090
    150801-1-2.jpg

    ชีวิตเหมือนใบไม้ในป่า


    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง


    พระธุดงค์ในป่าเขาจะมองดูต้นไม้เล็กและเขาก็จะมองดูต้นไม้ใหญ่ จะดูใบไม้ที่เขียวชอุ่ม มีความสดมีความสวย แล้วก็มองดูใบไม้ที่หล่นลงมา ดูทำไม ไม่รู้ (หัวเราะ) ไอ้ที่ดูนึกว่าใบไม้มันจะเป็นทองคำบ้าง จะมาขาย (หัวเราะ) เขาดูตอนนี้ก็มาเปรียบเทียบกับชีวิตว่า

    ไอ้ชีวิตของเรามันก็มีสภาพเหมือนกับใบไม้และต้นไม้ ทีแรกก็มีสภาพเหมือนต้นไม้เล็กเล็ก ค่อยๆ โต มันเติบโตทีละน้อยๆ มันมีต้นแล้วมันก็มีกิ่ง มีกิ่งแล้วก็มีก้าน แต่ละก้านมันก็มีใบ ทีนี้ดูใบแต่ละใบก็เต็มไปด้วยความเขียวชอุ่ม ไปดูใบใหม่มันเขียวมันสดใสน่ารัก ไปดูดูใบเก่ามันเริ่มเหี่ยวแห้ง แล้วก็มองดูใบไม้ที่หล่น ในที่สุดมันก็หล่นลงมา

    ไอ้ชีวิตของเราก็คงเหมือนกัน มันเคลื่อนเข้าไปหาความตายเช่นเดียวกับใบไม้หรือต้นไม้ที่ตาย มันเติบโตขึ้นทีละน้อยๆ ไอ้ใบเก่ามันก็ผลัดใบหล่นลงมา ใบใหม่มันก็เกิดขึ้น ก็เหมือนกับชีวิตและร่างกายของเรา ที่พระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่าเป็น "สันตติ" มันตายอยู่ทุกวัน ของเก่าที่เรากินเข้าไป อาหารเก่าที่เรากินเข้าไปบำรุงร่างกาย หมอเขาจะเรียกว่าอะไรก็ช่างเถอะ มันก็มีความเสื่อมมีการสลายไป ไอ้เราก็กินอาหารต่อไป

    เขาเรียก "สันตติ" มันก็มีการสืบต่อ เราก็มองไม่เห็นความตาย แต่ความจริงเรามันตายทุกวัน เราจะเห็นอะไรมันตายล่ะ ไอ้อาหารมันตาย กินเช้าแล้วตอนสายมันก็หิว ถ้าอาหารมันไม่ตายตอนสายเราก็ไม่ต้องกิน หรือไม่อย่างนั้นกินเช้าแล้วตอนเย็นเราก็ไม่ต้องกิน กินวันนี้แล้ววันพรุ่งนี้ มะรืนนี้มันก็ไม่ต้องกิน แต่ความจริงนี่เราต้องกินทุกวัน ก็เพราะไอ้สิ่งที่มันอยู่ในร่างกายเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงมันหมดไป

    สลายตัวไปเหมือนกับใบไม้เก่าๆ มันก็ค่อยหล่นลงไป แล้วใบใหม่มันเกิดขึ้นมา เราก็มองไม่เห็นว่าไอ้ต้นไม้นี่มันแก่หรือมันตาย ถ้าหากว่าอาหารมันไม่สามารถจะหล่อเลี้ยง มันหมดตัวเมื่อไร ขณะนั้นความตายจะปรากฏขึ้น ต้นไม้ก็ตาย แม้แต่ชีวิตของเราก็เหมือนกัน ในขณะบั้นปลายของชีวิต เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างไม่สามารถจะสืบต่อหล่อเลี้ยงได้ เราก็สิ้นชีพสังขารหรือที่เรียกกันว่าตาย สิ้นลมปราณ

    นี่เขาก็จับเอาสภาวะของต้นไม้มาเป็น"วิปัสสนาญาณ" เทียบเรากับต้นไม้นี้มีสภาพเหมือนกัน ไอ้เกิดแล้วก็ตาย ตายแล้วก็เกิด ไอ้เกิดกี่ชาติกี่ชาติ สมมติว่าเราจะไม่ลงนรก ไม่เกิดเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน ให้เกิดเป็นคนทุกชาติ มันก็ทุกข์แบบนี้ ไม่มีชาติไหนที่จะมีความสุข แล้วเราจะนั่งหาความเกิดไปทำเกลือทำไม





    *****************************************************************

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤษภาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...