ชม"นรก-สวรรค์"วัดพืชอุดม บูชาเครื่องราง-สร้างอุโบสถ

ชม"นรก-สวรรค์"วัดพืชอุดม บูชาเครื่องราง-สร้างอุโบสถ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>วัตถุมงคลส่งท้ายปลายปี 2552 ปลุกเสกเรียบร้อยแล้วอีกหนึ่งรุ่น คือเครื่อง รางของวัดพืชอุดม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี วัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของ "นรก-สวรรค์" ซึ่งสร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงให้ผู้ไปเที่ยวชมอย่างยิ่ง โดยจัดพิธีขึ้นที่วัดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย.2552 เวลา 19.00 น. มีพระเกจิอาจารย์ดังแห่งยุคร่วมประจุพระคาถาพุทธาคมหลายรูป หลวงพ่ออุดมทรัพย์ วัดประสิทธิเวช จ.นคร นายก เป็นประธานจุดเทียนชัย พร้อมนั่งปรกร่วมกับหลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี, หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อสมชาย วัดปริวาศ กรุงเทพฯ หลวงพ่อเกิด วัดโพธิ์แทน จ.นครนายก, พระอาจารย์เปี๊ยก, พระอาจารย์ป้อม และหลวงพ่อสมบูรณ์ เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม (ดับเทียนชัย) ฯลฯ

เครื่องรางชุดนี้ถือว่าเป็นชุดพิเศษของวัดพืชอุดม เนื่องจากทางวัดได้นำหนังเสือ และกะลาตาเดียวมาจัดสร้างตามตำรับโบราณาจารย์อย่างเข้มขลัง และเคร่งครัดในพิธีกรรม เพื่อให้บังเกิดคุณวิเศษตามความเชื่อที่สืบทอดกันมา ไม่ว่าจะในเรื่องเมตตามหานิยม แคล้วคลาด คุ้มครองป้องกัน รูปแบบที่สร้างประกอบด้วย พระสมเด็จหนังเสือ, ตะกรุดหนังเสือมหายันต์แห่งยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ปั๊มนูนที่ใต้ฐาน, หน้าเสือ, ราหูกะลาตาเดียว (หน้าเดียว) ราหูกะลาตาเดียว (สองหน้า), ราหูพร้อมสร้อยแกะจากกะลาตาเดียว, ราหูกะลามหาอุด และผ้ายันต์ราหู โดยรายได้ทั้งหมดใช้สมทบทุนสร้างอุโบสถหลังใหม่, ศาลาหอไตร และศาลาปฏิบัติธรรม <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ความเป็นมาของวัดพืชอุดมสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี 2417 เดิมชื่อว่า "วัดราษฎร์ศรัทธาราม" ต่อมาในสมัย พระอธิการช่วง ธัมมโชติ ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น "วัดพืชอุดม" เนื่องมาจากบริเวณวัด และพื้นที่ใกล้เคียงอุดมไปด้วยไม้ผลไม้ดอกและพืชพรรณธัญญาหารต่างๆ วัดนี้เกิดขึ้นจากแรงศรัทธาของราษฎรในท้องถิ่นโดยมีคุณแม่แสง เอี๋ยววัฒนะ ได้อุทิศที่ดินเพื่อสร้างวัดจำนวน 12 ไร่ 2 งาน 17 ตารางวา และมีเถ้าแก่เฮง เอี๋ยววัฒนะ, นางแจ๋ม เกษรบัว และนายยศ-นางเที่ยง ยอดเพ็ชร ร่วมบริจาคเงินอุปถัมภ์ก่อสร้าง และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี 2418 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 และทางวัดได้ซื้อที่ดินเพิ่มเติมในภายหลังทางทิศใต้อีกจำนวน 7 ไร่ 1 งาน 83 ตารางวา ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นที่ตั้งของอุโบสถจัตุรมุขหลังใหม่ รวมพื้นที่ของ วัด 20 ไร่ สิ่งปลูกสร้างในยุคแรกส่วนใหญ่เป็นไม้เนื้อแข็ง ซึ่งปัจจุบันได้ผุพังทรุดโทรมจนต้องรื้อถอนออกไปหมด

วัดนี้มีเจ้าอาวาสปกครองดูแลบูรณะถาวรวัตถุต่างๆ พร้อมทั้งเผยแผ่พุทธศาสนาอย่างต่อเนื่องมาเป็นลำดับรวมทั้งสิ้น 9 รูป ปัจจุบันคือ พระอธิการสมบูรณ์ สิริปุญโญŽ หรือ หลวงพ่อสมบูรณ์Ž ทั้งนี้ พระอาจารย์แดงŽ เจ้าอาวาสองค์แรกได้ดำเนินการก่อสร้างอุโบสถทั้งหลัง ภายในมีพระพุทธโสธรจำลองเป็นพระประธาน โดยพระครูอุดมภาวนาภิรัต (ไสว) อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 7 เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ออกแบบ นรกสวรรค์ และพัฒนาวัดเรื่อยมา โดยท่านได้สร้างวิหารพระเจ้าเปิดโลก แสดงนรก-สวรรค์ 31 ภูมิ เป็นวิหารขนาดใหญ่หลังเดียวของเมืองไทย ออกแบบก่อสร้างได้อย่างวิจิตรพิสดารลึกล้ำสวยงามเป็นพิเศษ ชั้นล่างได้จัดสร้างและตกแต่งเป็นนรกที่ได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัสน่าสยองพองขนอันเป็นผลจากการกระทำความชั่วต่างๆ โดยมีหุ่นสัตว์นรกที่เคลื่อนไหวด้วยกลไกที่มีเสียงประกอบเพียงแห่งเดียวของเมืองไทย ส่วนชั้นบนนั้นได้แสดงสวรรค์ภูมิและพรหมภูมิ

ทั้งนี้ เปิดให้สาธารณชนทั่วไปได้เที่ยวชมฟรี เพื่อเป็นอนุสติเตือนใจให้คนละเว้นความชั่ว มุ่งทำแต่ความดี ตามหลักการที่ว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" ปลูกฝังคุณธรรมและให้ความรู้ในชาติกำเนิดภพภูมิต่างๆ รวมทั้งในด้านศิลปวัฒนธรรม ทั้งทางคดีโลกและคดีธรรม แบบโสตทัศนธรรมศึกษา นอกจากนี้ ยังเป็นวัดเดียวของไทยที่ได้หยิบยก เน้นเอาเรื่องราวของพระปฐมสมโพธิ ตอนทรงทำยมกปาฏิหาริย์ "เปิดโลก" ตลอดทั่วทั้งหมื่นจักรวาลขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบรมศาสดา ซึ่งได้นำมาเทศน์สั่งสอนกันมากที่สุดและเป็นตอนที่มีความสำคัญดีเยี่ยมที่สุดที่ได้ทรงแสดงไว้ในพระไตรปิฎก

วัดพืชอุดมได้รับสมญานามว่าเป็น "วัดที่มีป้ายบอกทางมากที่สุดในประเทศไทย" เป็นป้ายที่หล่อด้วยปูนเชิญชวนให้มาเที่ยวชม โดยมีปรากฏอยู่ทุกจังหวัดตั้งแต่เหนือสุดที่จ.เชียงราย ไปสุดแดนใต้ที่สุไหงโก-ลก ทิศตะวันออกจรดตะวันตก ว่ากันว่า ทุกอำเภอและทุกจังหวัดต้องมีป้ายบอกทาง แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ป้ายบอกทางบางส่วนถูกทำลายไป เพราะการขยายถนน น่าจะเหลืออยู่เพียง 25-30% เท่านั้น ซึ่งทางวัดไม่กล้าที่จะไปติดเพิ่ม หรือซ่อมแซมเพราะติดขัดเรื่องกฎหมายและข้อบังคับเรื่องการติดตั้งป้ายของหน่วยงานราชการต่างๆ

นอกจากนั้น ทางวัดยังมีโครงการหนึ่งที่ไม่เหมือนวัดใด คือ โครงการวัดสเตย์ (WAT STAY) ซึ่งได้รับการตัดสินให้เป็นโอท็อป แดนท่องเที่ยวระดับประเทศประจำปี 2549

สนใจไปเที่ยวชมวัดและร่วมบูชาเครื่องรางหนังเสือและตะกรุดชุดนี้ สอบถามรายละเอียดที่ โทร.0-2563-0248, 0-2563-1130


http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09TMHhNUzB5TUE9PQ