ฉายา "สุธัมมปัญโญ" นี้ได้แต่ใดมา ?

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 11 กุมภาพันธ์ 2009.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172
    ถาม : .......................................................

    ตอบ : ก็มันเกิดยาก ความสะดวกสบายของเครื่องใช้ไม้สอยยุคใหม่ โดยเฉพาะรีโมทคอนโทรลล่ะตัวทำลายสมาธิเลย ไม่ชอบใจกดปิ๊ปเปลี่ยนช่อง ลักษณะความสนใจเด็ก ก็เลยหลุดเป็นชิ้นๆ เหมือนอย่างกับตัวต่อตัวต่อจิ๊กซอว์ อะไรทำนองนั้น แล้วมันก็แปลก เขาก็สามารถที่จะรวมเป็นชิ้นๆ ได้เหมือนกัน ในเมื่อความจำของเขาก็ดี ความสนใจของเขาก็ดีมันไม่ได้อยู่กับร่องกับรอย สมาธิก็จะสั้น เจอมากต่อมากด้วยกัน บางทีคุยกับเรา ถามปัญหาหนึ่ง ตอบไม่ถึงครึ่ง มันไปปัญหาที่ ๗ ที่ ๘ แล้ว ว่าไปเรื่อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่ถามเลยซะด้วยซ้ำไป ไม่ต้องห่วงเขาหรอกจ้ะ มันยุคสมัยของเขา ถึงเวลาเขาก็ต้องเอาตัวรอดของเขาจนได้แหละ

    ถาม : แล้วสังเกตอย่างที่ผมสังเกตไหมครับว่า ระยะหลังๆ ผมพบว่าคนไทย ความเลื่อมใส ศรัทธาในศาสนาก็พลอยเสื่อมไปด้วย ?

    ตอบ : จ้ะ นี่มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติล่ะจ้ะ มันเรื่องปกติเลย

    ถาม : คือเหมือนกับว่ามัน... ความเชื่อเรื่องนรก สวรรค์ เรื่องพระพุทธเจ้าก็แทบจะไม่มี ?

    ตอบ : พระพุทธเจ้าท่านตรัสเอาไว้ชัดแล้ว ท่านบอกว่ายิ่งนานไปข้างหน้า สัญญากับปัญญาก็เสื่อมลง ทรามลง ตอนสมัยที่บวชกับหลวงพ่อใหม่ๆ หลวงพ่อท่านบอกว่า พระพุทธเจ้าท่านตั้งฉายาพระรุ่นนี้มาให้ตรงความเป็นจริงทุกองค์เลย ถ้าหากว่าสึกหาลาเพศไป จะบวชใหม่ก็ให้ใช้ฉายาเดิม ของเราฉายา สุธัมมปัญโญ ท่านบอกว่า แปลว่าผู้มีปัญญาในการปฏิบัติธรรมดีมาก เราก็เอ๊ะมันจะดีมากตรงไหนหว่า พอไล่ไปไล่มามาถึงยุคปัจจุบันนี้ ปรากฏว่า สิ่งที่เราวิเคราะห์วิจัย คอยประเมินคอยตรวจสอบตัวเองอะไรอยู่ตลอด พอมาเจอนักปฏิบัติรุ่นหลังๆ เขาไม่มีการทำอย่างนี้เลย เราก็ อ๋อ ! ที่แท้มันมีปัญญาในการปฏิบัติธรรมแบบหัวหมาน่ะ นึกออกไหม ?

    สมัยอยู่กับหลวงพ่อ เป็นหางราชสีห์ ยังเป็นไม่ได้เลย แต่พอมาถึงยุคนี้มันกลายเป็นคนมีปัญญาไปได้ ก็เลยกลายเป็นมีปัญญาแบบหัวหมา ต้องทนมาเป็นผู้นำเขา แต่ว่าเป็นผู้นำกลุ่มที่มันด้อยคุณภาพมากแล้ว สมัยที่อยู่กับหลวงพ่อก็มีพระอยู่องค์หนึ่ง เขาเองเขาก็ไปอยู่ในกลุ่มระดับที่เรียกว่าเกรดเอเลย ใช่ไหม ? เขาก็เลยคิดไม่ได้ทัน ทำไม่ทัน คนอื่นทั้งนั้น กลายเป็นตัวตลกอยู่ในรุ่น โดนเพื่อนต้อนอยู่ตลอด

    คราวนี้วันสึกร้องไห้ร้องห่มกับหลวงพ่อ ผมเองมันไม่เอาไหนเลย ออกไปจะทำมาหากินได้อย่างกับคนอื่นเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? หมดความมั่นใจไปเลย หลวงพ่อท่านก็หัวเราะ เอ้อ ! ออกไปดูเถอะลูก เดี๋ยวก็รู้เอง ใช่ไหม ? เจ้านั่นหายไปสัก ๓-๔ เดือน กลับมาร้องไห้ใหม่ คราวนี้ เขาบอกว่าไงรู้ไหม ? หลวงพ่อครับ ไอ้ที่ผมแย่ที่สุดในวัด ผมไปดีที่สุดในที่ทำงานเลย โน่นหางราชสีห์จ้ะ ของอาตมานี่หัวหมา สู้เขาไม่ได้ นานไปสัญญาและปัญญาจะทรามลงไปเรื่อยๆ พระพุทธเจ้าท่านบอกชัดอยู่แล้ว สิ่งที่เราเคยคิดวิเคราะห์ วิจัย ประเมินผลอะไร ในลักษณะที่หลวงพ่อท่านสอนมา รุ่นหลังๆ เขาไม่ทำกันเลย มาหาเราแก้ไขปัญหาอยู่ได้ทุกเดือน




    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนตุลาคม ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ




    .
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...