ฉาบกะโหลกเมื่อกระโดดตึกตาย

วันนี้จะเอ่ยถึงวิธีช่วยเด็กคนหนึ่งซึ่งกระโดดตึกตาย
เด็กสาวคนนี้มาหาเราที่บ้าน
ติดต่อกับเราผ่านสมาธิ
น้องเล่าว่า ปวดหัว ปวดกราม ปวดไปหมดเลย
ก็เลยหาทางช่วยน้องด้วยการชวนมานั่งกรรมฐาน
เพื่อพอกกายทิพย์ให้น้องโดยเฉพาะบริเวณส่วนหัว
ซึ่งบุบและกะโหลกแตก

 

วิธีนั่งกรรมฐานคือ ต้องใส่หมวกที่ตัดกระแสคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าโลกหรือคลื่น EM
เช่นหมวกที่ทำจากยาง หรือ foil ห่ออาหาร
แล้วค่อยๆ ฉาบกายทิพย์หรือพอกกายทิพย์นั่นเอง
และข้อสำคัญคือ เมื่อฉาบส่วนกะโหลกแล้ว ต้องระวังไม่ให้กะโหลกร้าวอีก ด้วยการห้ามมีเซ็กส์ใดๆทั้งสิ้น

 

ภาพที่เห็นต่อไปนี้ คือหมวกที่ตัดคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า

 

เราพยายามจะช่วยน้องเขา แต่น้องเขาขาดเซ็กส์ไม่ได้
พวกผีผู้ชายก็มานอนกับน้องเขาแล้วถ่ายพลังจักระให้เพื่อให้น้องเขาหายปวดหัว แต่นั่นเป็นวิธีที่ผิด !!!!
เราบอกน้องเขาว่าต้องใช้วิธีใส่หมวกแล้วนั่งสมาธิพอกกายทิพย์ น้องเขาไม่เชื่อ
เราไม่รู้จะช่วยน้องเขาอย่างไรแล้ว

 

น้องเขากระโดดตึกตาย ในศาสนาพุทธยังให้โอกาสแก้ตัวได้ด้วยการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
แต่หากเป็นศาสนาอื่น เขาจะปล่อยไปเลย ถือว่า ขัดคำสอนของศาสนา ลงนรกอย่างเดียว
ดังนั้น เราจึงเอาวิญญาณของน้องมานั่งกรรมฐานกับเรา โดยหวังว่า น้องจะได้พอกกายทิพย์ด้วย
ลำพังตัวเราเองก็ธาตุไฟแตก เพราะต้องอาบน้ำแข็งในการควบคุมจักระ
มาตอนนี้ เสมือน เตี้ยอุ้มค่อม ที่เอาน้องเขามาเลี้ยงไว้
แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร
ศาสนาพุทธไม่เคยทิ้งกัน

 

เหตุผลที่เรารับวิญญาณของน้องคนนี้มาอยู่ด้วยเนื่องจาก เราต้องการให้น้องเขาเป็นกรณีศึกษา
เพราะศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์ปฏิเสธแม้แต่การประกอบพิธีศพให้แก่คนที่ฆ่าตัวตาย
เราอยากทราบว่า เหตุใดทั้งสองศาสนาจึงปฏิเสธ
จึงได้รับน้องเขามาอยู่ด้วยค่ะ

 

เวลาที่น้องเขามาอยู่กับเรา เราจะเจ็บหัวกะโหลกและกรามมากๆ จนแทบจะทนไม่ได้เลยค่ะ
ตอนแรกก็ไปหาหมอ พอดีเจอหมอเก่งคือปู่ของเราเป็นอาจารย์หมอที่ศิริราช ท่านให้เราไปนั่งในห้องดับจิต แป๊บเดียวหายปวดเลยค่ะ
ตอนนี้สงสัยต้องกลายเป็น ผีโรงเย็นตามโรงน้ำแข็งแล้วล่ะค่ะ คริ คริ