จุดธูปกี่ดอกเพื่ออัญท้าวเวสสุวรรณโณหรือท้าวพยายมมารับดวงวิญญาณ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย lnwmafia1, 15 พฤศจิกายน 2014.

  1. lnwmafia1

    lnwmafia1 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +21
    ต้องจุดธูปกี่ดอกเพื่ออัญท้าวเวสสุวรรณโณหรือท้าวพยายมมารับดวงวิญญาณหรือภูติผีวิญญาณร้ายที่อยู่รอบตัวีนัส
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ของอย่างนี้ขึ้นอยู่แก่กรรมครับ ถ้าเขายังไม่หมดกรรมก็อยู่ตรงนั้น... เรื่องหน้าที่การรับวิญญาณอะไรนั้น ท่านทำของท่านอย่างดีแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องเชิญต้องบอก....
     
  3. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    ขอขยายอีกนิดน่ะครับ

    สัมภเวสี-คนตายก่อนอายุขัย โดยหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
    สัมภเวสี คือคนที่ตายก่อนอายุขัย เรียกว่ามีกรรมที่เรียกกันว่า อุปฆาตกรรม มาริดรอน ตัดรอนเสียตั้งแต่ยังไม่หมดอายุขัย ท่านพวกนี้เวลาตาย ทางนรกไม่ต้องการ ทางสวรรค์ไม่ต้องการ บุญที่ทำไว้ยังไม่ให้ผล หรือว่าบาปที่เขาทำยังไม่ให้ผล ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะเรียกไปสอบสวนและจัดการลงโทษ

    มีสภาพเหมือนกับคนออกจากบ้านนี้ แล้วไปเข้าบ้านโน้นไม่ได้ จะกลับมาเข้าบ้านนี้ก็ไม่ได้ เดินไปเดินมาอยู่ด้วยความลำบาก อยากจะกินอะไรก็หากินไม่ได้ ผีประเภทนี้เรียกว่าสัมภเวสี แปลว่าพวกแสวงหาที่เกิด


    เจ้าที่เฮี้ยน

    ผู้ถาม บ้านเช่าที่ดิฉันเช่าไปหาหมอดูบอกว่า เจ้าที่แรงและเฮี้ยนมาก ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอยู่เป็นประจำ อยากจะเรียนถามหลวงพ่อว่า เราจะแก้ความเฮี้ยนของเจ้าที่ได้อย่างไรเจ้าคะ...
    หลวงพ่อ เจ้าที่แรงมาใช่ไหม...ไปซื้อช้างมา ๒ เชือก ให้ช้างชนให้ตายโหงไปเลย เจ้าที่แรงลองปล้ำหรือเปล่า... ถ้าเจ้าที่แรงจริงๆ นี่พูดกันตรงไปตรงมานะ ที่นั่นมีประโยชน์มาก จะมีลาภ ทำให้ถูกใจเถอะมีหลายแห่ง ฉันเคยพบมาแล้ว
    เจ้าที่เฮี้ยนเป็นอย่างนี้ ถ้าเราไปอยู่ใหม่ๆ เพียง ๒ ปี เขาจะให้คุณ ถ้าปีที่ ๓ ไม่แสดงความเคารพเขาเล่นงานแน่ ถ้าเราทราบก็แสดงความเคารพโดยตั้งศาลให้ เท่านั้นเขารวยกันเยอะแล้ว นักเลงนี่ถ้าไม่เกรงใจก็รวน ถ้าหากว่าชอบใจก็ให้หนัก
    ผู้ถาม อ้อ ! อย่างนี้ก็แสดงว่าแล้วแต่ "พระอารมณ์" หรือครับ
    หลวงพ่อ ไม่ใช่...เขาถือว่าปรามาสเขา เจ้าที่เฮี้ยนก็แสดงว่าเป็นอากาศเทวดา เทวดาชั้นจาตุมหาราชครองอยู่ นักเลงใหญ่
    ผู้ถาม วิธีที่จะทำให้ท่านถูกอกถูกใจ จะต้องทำอย่างไรครับ
    หลวงพ่อ ไม่ยากอะไร...เอา "ยกทรง" ไปตั้งศาล
    เวลาตั้งศาลก็ต้องดู คนเห็นแก่ลาภมากเกินไปไม่ควรเอา จะไม่มีผล ไม่งั้นอันดับแรกทดลองดูก่อน เราก็ทำหิ้งเข้า เอาผ้าขาวปู มีดอกไม้ มีแจกกันไปตั้งไว้ขอบูชาเจ้าที่ เวลาบูชาก็บูชาพระก่อน แล้วก็ต่อด้วยบูชาเจ้าที่เลย ลองลีลานี้ก่อน ถ้าเขาพอใจก็มีผล ถ้าไม่พอใจก็ตั้งศาลให้หมดเรื่องกันไป


    (หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๕ หน้า ๕๕-๕๖)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2014
  4. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ทำไมต้องจุด ทำไมต้องเชิญวิญญาณครับ เขาเป็นอะไรครับ จะให้เขาไปไหนครับ แล้วจะให้ใครเป็นคนพาไป ทำไมเป็นต้องเป็นท่านผู้นั้นพาไป ไม่เข้าใจครับ ช่วยขยายความเดี่ยวจะช่วยตอบให้ครับ
     
  5. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    ตามนี้ครับท่าน tjs

     
  6. Earth n Water

    Earth n Water เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    930
    ค่าพลัง:
    +2,047

    ขออ้างอิงข้อความนี้ที่ว่า.....



    "สัมภเวสี คือคนที่ตายก่อนอายุขัย
    เรียกว่ามีกรรมที่เรียกกันว่า อุปฆาตกรรม
    มาริดรอน ตัดรอนเสียตั้งแต่ยังไม่หมดอายุขัย
    ท่านพวกนี้เวลาตาย ทางนรกไม่ต้องการ
    ทางสวรรค์ไม่ต้องการ
    บุญที่ทำไว้ยังไม่ให้ผล หรือว่าบาปที่
    เขาทำยังไม่ให้ผล
    ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะเรียกไปสอบสวนและ
    จัดการลงโทษ "


    มีความสงสัยคือ.....
    ถ้ายังไม่ถึงเวลาตาย แล้วจะตายสำเร็จหรือคะ ?
    บางครั้งเคยได้ยินคนเขาพูดกันว่า.....



    " ถึงคาดเมื่อไหร่ ก็ตายเมื่อนั้น "



    ช่วยอธิบายหน่อยค่ะ




    =====================================


     
  7. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    จุดทั้งกำไปเลยครับ เน้นชัวร์ เขาเชื่อกันว่า ยิ่งเยอะยิ่งดี ว่าบารมีผู้เชิญมาก อยากให้มาต้องจุดหนักๆ
    แต่จะมาได้รึเปล่านะ ถ้าความเป็นจริงไม่ตรงกับที่เชื่อที่ศรัทธา
     
  8. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    มีความสงสัยคือ.....
    ถ้ายังไม่ถึงเวลาตาย แล้วจะตายสำเร็จหรือคะ ?
    บางครั้งเคยได้ยินคนเขาพูดกันว่า.....


    " ถึงคาดเมื่อไหร่ ก็ตายเมื่อนั้น "


    ช่วยอธิบายหน่อยค่ะ


    ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยครับที่เข้ามาตอบช้า เมื่อวานไม่ได้สังเกต

    เหตุให้ความตายเกิดทั้ง 4 ประการ มีรายละเอียดที่ต้องศึกษาดังต่อไปนี้

    1. อายุกขยะมรณะ ตายเพราะสิ้นอายุ อายุ เมื่อว่าโดยสภาวธรรมแล้ว ได้แก่ ชีวิตรูป ขยะ แปลว่า ความสิ้นไป เมื่อรวมกันเป็น อายุขัย แปลว่า ความสิ้นไปแห่งอายุ ในที่นี้มุ่งหมายเอาการกำหนดเขตแห่งการตั้งอยู่ของชีวิตรูปของบุคคลในภูมินั้นรวมๆ กันเป็นหลัก อาจเรียกว่า อายุกัป คือกำหนดอายุของคนในแต่ละยุค เมื่อกล่าวโดยบุคคลาธิษฐาน หมายถึง ตาย เมื่อแก่ หรือ แก่ตายตามปกติทั่วไป

    หมายความว่า สัตว์ทั้งหลายที่เกิดอยู่ในภูมิใดสมัยใด เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ดำรงชีวิตอยู่ได้ตลอดขัยแห่งอายุของสัตว์นั้นๆ ในภูมินั้นสมัยนั้น ถึงแม้ว่ากรรมที่จะให้อายุดำรงอยู่ในกำเนิดนั้นยังไม่สิ้นไปก็ตามที เช่น เกิดเป็นมนุษย์ในชมพูทวีป ในสมัยปัจจุบันนี้ มีอายุครบ 75 ปี อันเป็นขัยแห่งอายุมนุษย์ในปัจจุบันนี้แล้วจึงตาย เพราะแม้เมื่อปฏิสนธิด้วยจิตที่ให้มีอายุยืนนานมากก็ตาม แต่มาเกิดในช่วงของภูมิที่เริ่มเสื่อมเพราะฤดูกาลวิบัติและอาหารวิบัติ สัตว์นั้นก็ต้องตายตามอายุของภูมินั้น เช่น พระสัพพัญญูพุทธเจ้าทุกพระองค์มีอายุหนึ่งอสงไขย แต่ก็ไม่อาจดำรงพระชนมชีพตลอดอสงไขย <SUP>1 </SUP>หรือเทพเจ้าบางองค์อุบัติในสวรรค์ชั้นต่ำ เพราะความปรารถนาของตนสมัยเป็นมนุษย์ เช่น พระเจ้าพิมพิสาร เสด็จสวรรคตไปอุบัติ ณ สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาเป็นยักษ์ชั้นสูงชื่อ ชนวสภะ แม้พระองค์จะมีบุญมากก็ตาม แต่เมื่อครบกำหนดอายุในสวรรค์ชั้นนั้นก็ต้องจุติแล้วจึงอุบัติใหม่อีก ผู้ที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์เล็กน้อยหรือมากกว่าเกณฑ์นิดหน่อย เช่น ปัจจุบันก็อายุระหว่าง 73-77 ก็ยังจัดอยู่ในการตายเพราะสิ้นอายุ

    <SUP>1</SUP> ที.มหา.อ.มหาปนาทสูตร 13/77

    2. กัมมักขยะมรณะ ตายเพราะสิ้นกรรม กรรม ในที่นี้ หมายถึง ชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรม คือกรรมนำไปเกิดและที่หล่อเลี้ยงสนับสนุนให้ดำรงอยู่ในภพปัจจุบันนี้เท่านั้นกัมมักขยะ หมายถึงเป็นการสิ้นสุดอำนาจแห่งกรรมทั้งสองนี้ หมายความว่า เมื่อชนกกรรมที่นำเกิดและอุปัตถัมภกรรมที่ช่วยส่งเสริมในภูมินั้นหมดกำลังลง ในขณะที่สัตว์นั้นดำรงชีวิตอยู่ไม่เต็มอายุกัป ก้ตายลงก่อนก็ดี หรือ อยู่เกินอายุขัยของภพนั้นแล้วจึงตายก็ดี เช่น ในสมัยนี้อายุอย่างน้อยต้อง 75 ปี แต่ผู้นั้นอาจดำรงอยู่ได้เพียง 1 เดือน 2 เดือน 1 ปี 10 ปี เป็นต้นก็ตายลงเสียก่อน หรือตายตอนอายุ 100 กว่าปี ซึ่งเกินอายุกัปเพราะอำนาจกุศลกรรมและยาหรือมนต์ แม้เทวดาบางองค์อุบัติในสวรรค์ชั้นสูงด้วยบุญกรรมเล็กน้อย ก็ไม่อาจจะอยู่เสวยทิพยสมบัติได้ตลอดอายุของเทวดาชั้นนั้นก็ต้องจุติเพราะหมดบุญ เป็นต้น ก็จัดว่า ตายเพราะสิ้นกรรม<SUP>1</SUP>
    <SUP></SUP>
    <SUP>1</SUP> ขุ.อ.การีเปติวัตถุ 49/392
    3. อุภยักขยะมรณะ ตายเพราะสิ้นอายุและสิ้นกรรมพร้อมกัน หมายความว่า สัตว์เกิดขึ้นและดำรงชีวิตอยู่เต็มขัยแห่งอายุกัปของตนแล้ว และประจวบกับชนกกรรม และอุปัตถัมภกรรมก้สิ้นกำลังลงพร้อมกันด้วย สัตว์นั้นจึงตายลง




    4. อุปัจเฉทกมรณะ ตายเพราะมีกรรมตัดรอน หมายถึง การตายเพราะกรรมเข้าไปตัดวิบากและกรรมชรูป
    หมายความว่า ผู้ที่มีอายุยังไม่ถึงขีดอายุขัย และอำนาจของชนกกรรมกับอุปัตถัมภกกรรมก็ยังไม่หมด แต่ด้วยอำนาจของอกุสลกรรมของสุคติสัตว์ที่ได้ทำแล้วในภพก่อนหรือภพนี้ เข้ามาตัดรอนให้ตายลงเสียก่อน ในสมัยที่ยังไม่ถึงเวลา เพราะอุบัติเหตุ เช่น ถูกไฟไหม้ ถูกรถชน ถูกฆาตกรรม ตลอดจนเพราะโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เบียดเบียน หรือเพราะการปฏิบัติตนไม่ถูกต้องสม่ำเสมอ เช่น ไม่รู้ประมาณในโภชนาการ กินน้อยไปจนหิวกระหาย กินมากไปจนอิ่มจัดไปอาหารไม่ย่อย การบริหารอิริยาบถไม่สม่ำเสมอ ไม่รู้วิธีบำรุงรักษาสุขภาพร่างกาย การคบคนพาล เสพติดสิ่งมีโทษ เป็นคนทุศีล การถูกเทวดาลงโทษ เป็นต้น

    ส่วนการตายของเทวดา เช่น ตายเพราะความโกรธของพวกเทวดามโนปโทสิกา เพราะมัวประมาทเล่นเพลิดเพลินจนลืมเสวยสุธาโภชน์ของพวกเทวดาขิฑฑาปโทสิกา เพราะมัวเมาในการเสพกามเกินไปของคันธัพพเทพในป่าหิมพานต์ การทำอธิมุตติกาล (ตั้งใจตายลงมาเกิดเพื่อสร้างบารมี) ของเทพหรือพรหมผู้มีบารมี เช่น พระโพธิสัตว์ ติสสพรหม เป็นต้น และการฆ่าตัวตายพร้อมกับบรรลุอาหัตของพระฉันนเถระและพระโคธิกะเถระ ก็นับเข้าในการตายเพราะกรรมตัดรอนนี้

    หรือตายด้วยอำนาจของกุศลกรรมของอบายสัตว์ เช่น การตายของสัตว์นรก เปรต อสุรกาย เพราะอาศัยการระลึกถึงบุญกรรมของตนได้ เช่น เห็นเปลวไปสีคล้ายจีวร ทำให้นึกถึงตอนที่ตนถวายจีวร จึงทำให้จุติจากนรกทันที ไปเสวยสุขในสุคติภูมิ หรือได้อนุโมทนาบุญที่ญาติมิตรอุทิศให้ตน ทำให้ตัดรอนวิบากของกรรมชั่วให้ลดน้อยลงได้ ทำให้อายุที่จะเสวยผลบาปอันเป็นทุกข์ทรมานสั้นลง

    อุปัจเฉทกรรมจึงเกิดได้เพราะอำนาจกุศลกรรม อกุศลกรรมที่ทำไว้ในอดีตภพหรือปัจจุบันภพก็ได้ หรือเกิดขึ้นเพราะความประมาทในปัจจุบันก็ได้

    สรุปการตาย 4 ประเภท

    1. สิ้นอายุ คือ กำหนดเขตอายุกรรมของสัตว์ที่จะให้ดำรงอยู่อาจเท่ากับหรือมากกว่าอายุประจำภูมินั้น แม่เมื่อถึงเขตกำหนดตามอายุภูมิ สัตว์นั้นก็ต้องตายตามอายุภูมิ

    2. สิ้นกรรม คือ อายุกรรมของสัตว์อาจน้อยหรือมากกว่า อายุกัป (ภูมิ) เล็กน้อย แล้วสัตว์นั้นจึงตายไปตามอายุของกรรม

    3. สิ้นทั้งสอง คือ อายุกรรมของสัตว์กับอายุกัป (ภูมิ) เท่ากับพอดี สัตว์นั้นจึงตาย

    4. กรรมตัดรอน คือ อายุกรรมของสัตว์และอายุกัปยังไม่สิ้นไป แต่สัตว์ตายไปก่อนเพราะกรรมอื่นมาตัดรอน

    เหตุแห่งการตายทั้ง 4 รูปแบบนั้น ดูจากภายนอก การตายลักษณะที่ 1 กับลักษณะที่ 2 แบบที่ 1 และลักษณะที่ 3 จะคล้ายกัน หากจะให้จำแนกได้ถูกต้องต้องอาศัยผู้มีรู้มีญาณทัสสนะจึงจะสามารถจำแนกได้เด็ดขาด

    ความตายทั้ง 4 อย่างนี้ ถ้าตายโดยอายุขยะมรณะ กัมมักขยะมรณะ อุภยักขยะมรณะทั้ง 3 อย่างนี้ เรียกว่า “กาลมรณะ” คือ เป็นการตายชนิดที่ถึงเวลาแล้ว ส่วนผู้ที่ตายโดยอุปัจเฉทมรณะ เรียกว่า “อกาลมรณะ” คือ เป็นการตายที่ยังไม่ถึงเวลา ความตายทั้ง 4 ประการย่อมมีได้ทั้งปุถุชน พระอริยบุคคลประเภทและพระปัจเจกพุทธเจ้า ส่วนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าย่อมได้แก่ความตายทั้ง 3 ประเภทต้น เว้น อุปัจเฉทกมรณะ เพระใครๆ ไม่อาจจะประทุษร้ายพระองค์ให้ถึงปรินิพพานได้
    http://ตายแล้วไปไหน.dmc.tv/นรกสวรรค์/การตาย-4-ประเภท-เหตุให้เกิดความตายทั้ง-4-ประการ.html

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2014
  9. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    เห็นว่ามีประโยชน์ครับ
    =================

    จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย
    อธิบายได้ว่า เหตุแห่งทุกข์ เพราะอาการที่จิตส่งออกนอก อันหมายถึงจิตเข้าไปรับสิ่งที่อยู่นอกจิต สิ่งทั้งหลายที่อยู่นอกจิตทั้งหมด แท้จริงล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ อาการที่จิตส่ายออกไปรับเอาสิ่งภายนอก จึงเป็นอาการที่เข้าไปยึดในสิ่งภายนอกที่ไม่เที่ยงที่เป็นทุกข์ อาการอย่างนี้จึงเรียกว่าเป็น สมุทัยหรือเหตุแห่งทุกข์นั่นเอง
    อาการที่จิตส่งออกนอก หมายรวมถึงสิ่งที่อยู่นอกจิต อันได้แก่ สิ่งที่อยู่ในกายและนอกกาย ทั้งฝ่ายรูปและฝ่ายนามทั้งหมด ไม่มีข้อยกเว้นครับ

    ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์
    อธิบายว่า ก็เมื่อจิตส่ายออกนอกจิตไปสู่รูปนามภายนอกอันไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ผลที่ได้รับคือย่อมเป็นทุกข์ เพราะรูปนามทั้งหมดมีความไม่เที่ยง นำมาซึ่งผลคือ ทุกข์ ที่เกิดขึ้นนั่นเองครับ

    จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค
    อธิบายว่า ก็เมื่อจิตที่ส่งออกนอก นั้นเป็นสมุทัย และมีทุกข์คือผลที่เกิด การที่เราเข้าไปเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง [สมถะ+วิปัสสนา] ขอย้ำว่า ต้องเห็นอย่างแจ่มแจ้ง คือรู้แจ้ง เมื่อจิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง แล้ว จิตย่อมทรงสภาวะธรรมเป็นกลางๆอยู่อย่างนั้น จิตจะไม่ส่าย ส่งไปไหน จิตจะอยู่กับจิตไม่ส่งออกนอก เมื่อจิตไม่ส่ายออกนอกไม่ไปรับรูปนามทั้งปวงที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เมื่อนั้นห่วงโช๋แห่งทุกข์จึงขาดจึงดับหมดสิ้น ทุกข์จึงดับลงโดยสมบูรณ์
    ฉนั้น การอาศัยจิตเข้าไปเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งจึงเป็นมรรควิธีหรือวิธีการเข้าไปดับทุกข์นั่นเอง อันหมายถึงอาการเข้าไปดับที่เหตุแห่งทุกข์ด้วยนั่นเองครับ

    ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิต เป็นนิโรธ
    อธิบายว่า ก็เมื่อสามารถฝึกตนให้สามารถเข้าไปรู้ทันจิต ฝึกให้จิตเข้าไปเห็นจิต อย่างแจ่มแจ้ง รู้แจ้งชัดในจิตตน เมื่อนั้นจิตที่รู้แจ้งชัด ย่อมหาประโยชน์อะไรไม่ได้จากการส่ายส่งออกนอก เมื่อจิตไม่ส่ายส่งออกนอกไปรับกับรูปนามทั้งปวงที่ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เมื่อนั้นผลที่ปรากฏคือ ไม่มีอะไรให้ทุกข์หรือสุข ไม่มีสภาวะอะไรใดๆภายนอกมาปรุงแต่งจิต จิตจึงคงสภาพจิตอันเป็นธรรมดาของมันเป็นอย่างนั้น ผลที่เกิดที่ได้รับจึงเป็นเช่นนี้ รวมเรียกว่า นิโรธ คือความหลุดพ้นทุกข์ ปรากฏเกิดขึ้นนั่นเองครับ สาธุ
     
  10. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ความทุกข์ ย่อมเกิดได้จากนานาปัญหา

    สิ่งหนึ่งเมื่อเกิดทุกข์ นั่นคือการระลึกรู้ ในจิตตนดูว่ามีอาการอย่างไร เหตุแห่งทุกข์มาจากที่ใด ควรแก้ไขอย่างไร ในบางเหตุการณ์หรือในบางสภานะการณ์ เราเข้าใจเหตุการดี แต่เหตุแห่งทุกข์ นั้นเกิดจากปัจจัยภายนอกที่เรา ควบคุมบังคับไม่ได้ เมื่อเราแก้ไขสิ่งภายนอกเหล่านั้นไม่ได้ จึงต้องกลับเข้ามาดูที่จิตของเรา แก้ไขที่จิตของเรา ถ้าเราแก้ไขที่จิตของเราได้ เราก็ไม่ทุกข์ ปัญหาจึงอยู่ตรงนี้

    ถามว่าแล้วเราจะแก้ไขที่จิตของเราอย่างไร ตรงนี้ตอบได้ยากแบบละเอียดแต่ตอบได้กว้างๆว่า ควรรู้ว่าจิตของตนเป็นอย่างไรมีข้อเสียอะไร ควรปรับเปลี่ยนหรือควบคุมกำลังใจของตนอย่างไร วางจิตใจเราให้ดีงามถูกต้องอย่างไร สิ่งภายนอกเราควบคุมไม่ได้ แต่จิตเรา หากเราควบคุมอย่างจริงใจ เรียนรู้กับมันอย่างจริงจัง ให้เห็นสภาพความจริงจนรู้แจ้ง ปัญญาเราจะเจริญขึ้นมาก เราจะพ้นทุกข์ไปได้ ในที่สุด

    กรรมในอดีต หรือเจ้ากรรม หรืออำนาจแห่งเทพพรหม หรือวิบากกรรมใดๆ ก็ไม่สามารถทำร้ายทำลายจิตที่ฝึกมาดีแล้ว จิตที่ไม่ส่งออกนอก ย่อมได้ชื่อว่าพ้นแล้วจากทุกข์ทั้งปวง
    หากท่านทำอย่างนี้ได้ ก็ไม่มีอะไรให้วิตก หรือเป็นทุกข์อีก จิตท่านต้องเริ่มจากการยอมรับความจริงก่อนและเข้าไปรู้ความจริงอย่างแจ่มชัดของจิตท่านให้ได้ครับ สาธุ
     
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    สิ่งที่ล่วงมาแล้ว กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้

    สิ่งที่ทำได้คือปัจจุบันเท่านั้น

    เมื่อเราได้ขอขมากรรมต่อกันแล้ว และได้ยึดถือในปัจจุบันในการทำความดี ตลอดจนการชำระจิต คือการเข้าไปรู้แจ้งในจิตตนแล้ว นั่นคือถือว่าเราทำถูกต้องแล้ว ขอให้มีความตั้งใจจริงและหมั่นเพียร ผลแห่งความดีจะปรากฏผลให้เรามีความสุข สมปราถนา ห่างไกลทุกข์ได้ในที่สุดครับ

    ผลจากความดีที่เราทำทุกวัน ให้แผ่อุทิศให้สรรพสัตว์ไม่มีประมาณ ด้วย เพราะอันนี้ก็เป็นหน้าที่ทีเหล่าสรรพสัตว์ต้องแผ่อุทิศช่วยเหลือซึ่งกันและกันครับ สาธุ
     
  12. mujjalin

    mujjalin สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +22
    แต่งขันธ์ 5 (ดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่) จุดธูป 16 ดอก ขอบารมีพระรัตนตรัย ขอบารมีพระเจ้าจักรพรรดิ์ ให้ช่วยเหลือ....(หากดีแล้วให้ไปทำบุญสังฆทานที่วัดไหนก็ได้อุทิศบุญให้พระเจ้าจักรพรรดิ์ และเจ้ากรรมนายเวร) ***** ครูบาอาจารย์ผมบอกมาครับ ทำต่อหน้าพระพุทธรูป ลองดูครับไม่เสียหาย ผมแก้ไขได้จากประสบการณ์ ผมช่วยได้เพียงแนะนำแค่นี้ครับ
     
  13. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ไม่ถึงฆาตปาดคอตัวเองก็ตายได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...