จากพลทหารถึงพลเอก (พลเอกชูเกียรติ มุ่งมิตร)

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย pongio, 28 สิงหาคม 2013.

  1. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    มีการกล่าวขวัญกันว่า การสวด ชินบัญชร จะทำให้ชีวิตมีความสุข และรุ่งเรือง หรืออะไรๆ ทำนองนั้น ผมก็ปฏิบัติตามเขาบ้าง การเริ่มต้นก็ได้รับคำแนะนำจากผู้ที่ปฏิบัติแล้ว ว่าจะต้องบูชาคาถานี้อย่างไรบ้าง แล้วผมก็เริ่มสวดตามหนังสือสวดมนต์ และขยันมากขึ้น พยายามท่องจำให้ได้ ผมจำได้ว่า เพราะว่าคาถานี้ค่อนข้างยาว จำยาก ก็พยายามท่องอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็ท่องได้แบบไม่ต้องเปิดหนังสือ แต่ผมเองรู้สึกว่า การสวดของผมคงจะไม่ถูกต้องด้วยวิธีที่ควรจะเป็น กล่าวคือ ผมไม่ได้ฝึกกับผู้รู้หรือผู้ปฏิบัติแม้แต่คนเดียว แต่ผมก็พยายามสวดให้ได้ทุกวัน วันละหลายๆเที่ยว เท่าที่จะทำได้

    ในฤดูลิ้นจี่ปีหนึ่ง ผมอยากรับประทานลิ้นจี่จักรพรรดิมาก แต่ยังไม่อยากซื้อเพราะราคายังแพงอยู่ แต่คงจะด้วย อานิสงส์ของการสวด คาถาชินบัญชร เช้าวันหนึ่งที่เอแบค ขณะที่ผมเข้าห้องเรียนไปสอนหนังสือ ผมพบว่ามีลิ้นจี่จักรพรรดิ หนึ่งพวงใหญ่ๆ วางอยู่ที่แท่นบรรยาย สอบถามนักศึกษาก็รู้ว่า ลูกศิษย์ที่เรียนกับผมเมื่อเทอมก่อนนำมาให้ เธอเป็นคนเมืองเหนือที่กลับไปเยี่ยมบ้านมา ผมดีใจมาก แต่ก็ไม่ได้คิดถึงว่าเป็นเพราะคาถาชินบัญชร

    ในระยะใกล้ๆกัน ยุคนั้นเครื่องเล่นวีดิโอ ยังเป็นของราคาแพง ที่ผมอยากได้ ผมมีโอกาสไปช่วยงานกองพลทหารปืนใหญ่ แปลคู่มือการใช้คอมพิวเตอร์กระเป๋า และยังได้ใช้กราฟฟิกของเครื่องนั้นแสดงผลเป็นภาษาไทยด้วย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยทีเดียว ผลการช่วยงานครั้งนั้น ผู้บัญชาการกองพล ได้ให้รางวัลแก่ผมเป็นเครื่องเล่นวีดิโอ ๑ เครื่อง ผมดีใจมาก แต่ก็ยังไม่ได้คิดถึงว่าเป็นเพราะคาถาชินบัญชร

    วันที่กองทัพบกจัดงานเลี้ยงส่งบรรดาผู้ช่วยทูตและรองผู้ช่วยทูตไปประจำการในต่างประเทศ ผมเป็นหนึ่งในคณะที่ได้รับเกียรตินั้น ผมไปรับภรรยาจากร้านสหกรณ์กรุงเทพ สาขาวงเวียนใหญ่ ข้ามสะพานประปกเกล้า เจอรถติดหนึบ ใช้เวลาเดินทางกว่า ๒ ชั่วโมงก็ยังไปไม่ถึงหอประชุมกองทัพบกที่เป็นสถานที่จัดงาน ผมไม่รู้จะทำอย่างไร ก็นึกถึงคาถาชินบัญชร ผมก็ท่องก็สวดอยู่ในรถ และยังได้พยายามสวมเสื้อเครื่องแบบขาวให้เรียบร้อยในรถ ผมสวดคาถาชินบัญชรไปหลายจบ ก็พบว่า มีช่องจราจรช่องหนึ่งเปิดให้ผมขับรถผ่านไปได้ ผ่านเข้าไปในวัดสระเกศ ออกถนนจักรพรรดิพงศ์ รถยังติดที่แยก จปร. ผมเห็นช่องจราจรสำหรับรถทางเดียวจากวัดโสมนัสวิหารว่างอยู่ ผมย้อนศรเข้าไป ออกที่เชิงสะพานมัฆวาน ถึงหอประชุมกองทัพบกข้างโรงเรียนราชวินิตประถม ก่อนเวลานัด ๕ นาที ผมนึกถึงผลบุญที่ผมสวดคาถาชินบัญชร วิงวอนให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเป็นผลสำเร็จ ไม่เสียการเสียงานในที่สุด

    ผมยังคงสวดคาถาชินบัญชรต่อมาอย่างต่อเนื่อง วันละมากเที่ยวที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมก็ไม่ทราบว่า การที่ผมได้เรียนหลักสูตรเสนาธิการ และการได้ไปเป็นทูตทหารระดับรองที่โตเกียวนั้น เป็นอานิสงส์จากคาถาชินบัญชรหรือไม่ แต่ระยะที่ผมต้องผจญความหม่นหมองของชีวิตที่โตเกียว ผมมีความรู้สึกว่าการดำรงการสวดคาถานั้น ไม่ได้ส่งเสริมความราบรื่นแก่ชีวิตของผมเลย กลับพบกับความยุ่งยากแก่ชีวิตไม่น้อย จนผมเลิกสวดชินบัญชร และไม่สามารถกลับไปสวดใหม่ได้อีกเลย

    จาก ๓ เหตุการณ์ที่กล่าวมาข้างต้น ผมยังเคลือบแคลงว่าเป็น อานิสงส์ ของการสวดคาถาชินบัญชร หรือ เป็นเรื่องบังเอิญ กันแน่

    เมื่อผมกลับจากโตเกียว ผมได้ปรับปรุงบ้าน เสร็จแล้วได้ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ มีผู้ใหญ่ที่ไปอวยพร ได้นำหน่อต้นวาสนาไปมอบเป็นของขวัญ พร้อมคำอวยพรว่า ปลูกและดูแลดีๆ วันไหนต้นวาสนาออกดอกจะโชคดี ผ่านไป ๘ ปี ถึงฤดูหนาว วาสนาออกดอกจริงๆ พร้อมๆกับอีกต้นหนึ่งของบ้านข้างๆ ผมดีใจกับดอกวาสนาช่อเดียวที่สวย และหอมมากในเวลากลางคืน เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นดอกวาสนาที่สมบูรณ์เป็นของตัวเอง ปีนั้น ผมได้เป็นรองเจ้ากรมข่าวทหารบกอย่างที่ไม่น่าจะทำได้ ผมชื่นชมผลที่เกิดจากอิทธิพลของดอกวาสนามาก

    ฤดูหนาวปีต่อๆมา วาสนาที่บ้านของผม ออกดอกอย่างสม่ำเสมอ และมี ๒ ช่อบ้าง ๓ ช่อบ้าง ผมได้เป็นพลตรี เป็นพลโท และเป็นพลเอก ผมคิดว่าน่าจะมาจากวาสนาที่ต้นวาสนาส่งให้แน่ๆ แต่ไม่ได้มองกลับกัน จากคำพูดของคนโบราณที่ว่า คนที่มีวาสนาเท่านั้น ปลูกต้นวาสนาแล้วจะได้ดอก ทำให้ผมคิดว่า ชีวิตยังมีวาสนาดีต่อไป แม้ว่าจะขอลาออกจากราชการก่อนกำหนดแล้วก็ตาม ผมได้สมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภาประเภทสรรหา แต่ ดอกวาสนา ไม่ได้เสริมวาสนาแก่ผม ผมจึงไม่ได้รับการสรรหา

    ผมจึงเห็นแล้วว่า ดอกวาสนา กับการได้ตำแหน่งรองเจ้ากรมข่าวทหารบก และการได้เลื่อนยศที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นเรื่องเดียวกับ การสวดชินบัญชรแล้วได้รับสิ่งโน้นสิ่งนี้ คือ ความบังเอิญ ที่มาเกิดสัมพันธ์กันพอดี ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Coincidence นั่นเอง

    มีความเป็นไปของชีวิตที่น่าพิจารณาว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น คือการเลื่อนยศของผมของผมเอง ที่เกี่ยวข้องจากกับพิธีที่มี ๒ แบบ คือ พิธีใหญ่ ที่มีผมเข้าร่วมการประดับยศพร้อมๆกับนายทหารคนอื่นๆ เป็นแถว กับพิธีเล็กที่มีผมเข้ารับการประดับยศเพียงคนเดียว ผมพบว่า จากพิธีใหญ่ ผมจะครองยศนั้นเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่จากพิธีเล็ก ผมจะครองยศนั้นค่อนข้างนาน

    ผมครองยศร้อยตรีเพียง ๑ ปี จากพิธีใหญ่ ร้อยโท ๕ปีเศษ จากพิธีเล็ก ร้อยเอก ๕ ปีจากพิธีเล็ก พันตรี ๓ ปีจากพิธีใหญ่ พันโท ๕ปี จากพิธีเล็ก พันเอก ๓ ปี จากไม่มีพิธี พันเอกพิเศษ ๗ ปีจากพิธีเล็ก พลตรี ๒ปี ๗ เดือน จากพิธีใหญ่ และ พลโท ๑ ปี ๕ เดือน จากพิธีใหญ่

    มีความบังเอิญอย่างอื่นเกิดขึ้นหลังเกษียณ เมื่อผมเดินออกกำลังกายไปตามถนนพระรามที่ ๒ ช่วงหนึ่งประมาณ ๔๐๐ เมตร พื้นฟุตบาทมีส่วนที่ต่างระดับเยอะมาก เพื่อให้รถยนต์เข้าอาคารข้างถนนได้ ทำให้เดินไม่สะดวกที่ต้องขึ้นลงพื้นต่างระดับเหล่านั้น แต่เดินผ่านไปมาประมาณ ๒ เดือน มีการปรับระดับให้ขอบฟุตบาทลาดลงพื้นทุกช่วง ทำให้ผมเดินได้สะดวกมาก แต่เชื่อได้ว่าการปรับระดับดังกล่าวไม่ได้ถูกกระทำเพื่อผม แต่แท้จริงแล้วเป็นการอำนวยความสะดวกให้จักรยานกับจักรยานยนต์ที่นิยมย้อนศรบนถนนพระราม ๒ ส่วนนี้ ต่างหาก

    ผมจบปริญญาทางวิทยาศาสตร์ทั้งปริญญาตรี และปริญญาโท ที่มีเหตุและมีผล ให้อ้างอิงในการนำเสนออย่างเป็นหลักเป็นการที่แน่นอน แต่การนำเสนอของผม มักจะไม่ถูกใจผู้ฟัง อาจจะเป็นเพราะว่าผมนำเสนอตามหลักวิชาที่ผมเรียนมาเป็นเวลานานกว่า ๒ ปี แล้วยังได้ทำวิเคราะห์ กับเขียนเป็นตำราเรียน และใช้งานจริง อีกหลายปี จึงไม่อาจนำเสนอแบบให้ผู้ฟังเข้าใจง่ายๆในเวลาสั้นๆ ได้ แต่การเล่าเรื่องประสบการณ์ ที่ไม่มีหลักวิชาให้จับ กลับทำให้ผู้ฟังเข้าใจง่ายกว่า แม้ว่าจะไม่เชื่อ ทั้งยังอาจจะคิดว่าผมเป็นคนงมงาย ก็ตาม

    ผมเชื่อว่า ทุกสิ่ง ที่เกิดขึ้นต่อผม เป็นไปตาม ฟ้าลิขิต ซึ่ง ฟ้า ใช้ บุญกรรม ที่ผมทำมาแต่ชาติปางก่อน เป็นแนวทาง ลิขิต ให้ผมต้องเป็นไป ความเชื่อตามแบบของผม ไม่มีหลักวิชาใดๆอ้างอิง ให้ผู้อื่นต้องเชื่อตาม นะ
    http://www.rta.mi.th/chukiat/SKY/home_sky-1.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...