จริตทั้ง ๖ อย่างที่มีอยู่ในตัวมนุษย์

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 18 สิงหาคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172
    <TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ถาม: ในตำราท่านว่าไว้ จริตมี ๖ อย่าง อย่างตัวกระผมเองถือว่าเป็นการดัดจริต คือไม่รู้แล้วแกล้งทำเป็นรู้แต่ก็ไม่สำคัญ ท่านสรรเสริญในจริต ๒ อย่าง คือ พุทธจริต และศรัทธาจริต พุทธจริตท่านว่า เช้าฉลาดบ่ายโง่ เช้าฉลาดเย็นโง่ อันนี้เป็นอย่างไรครับ ?

    ตอบ: จริงทั้ง ๖ อย่างก็คือ ศรัทธาจริต โทสะจริต ราคะจริต วิตกจริต พุทธจริต โมหะจริต พวกจริตทั้งหลายเหล่านี้ จริงๆ แล้วมีอยู่กับเราทุกคนครบทั้ง ๖ ตัว แต่ที่ระบุไปว่าจริตใดจริตหนึ่งเพราะว่าอย่างนั้นมันนำหน้ามา จริตชนิดนั้นมันนำหน้ามา ถ้าขี้โมโหก็เป็นโทสะจริต ถึงโมโหแต่มีความฉลาดก็เป็นพุทธจริต ประกอบไปด้วยศรัทธาอย่างเดียวก็เป็นศรัทธาจริตอย่างนี้

    พวกจริตเหล่านี้อันใดอันหนึ่งมันอยู่กับเราตลอดเวลาอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าท่านก็ได้กำหนดกองกรรมฐานไว้ว่าแต่ละคนๆ ควรทำอย่างไร แต่ว่าท่านสรรเสริญพุทธจริตคือผู้มีความฉลาดกับศรัทธาจริต ต้องระวังตัวศรัทธาจริตนิดหนึ่ง เพราะศรัทธาจริตนี่จะมีตัวอยู่ตัวหนึ่งก็คือว่ามันเป็นอธิโมกขศรัทธา เชื่อตามอย่างเดียวโดยไม่มีปัญญาประกอบเลย โอกาสพลาดมีเยอะ

    เพราะฉะนั้นถ้าเป็นศรัทธาจริตนี่ต้องพยายามย้ำคิดก่อน ไม่ใช่เชื่อใดฝ่ายเดียว ไม่ใช่เขาบอกว่าอะไรดีที่ไหนไม่ทันจะพิสูจน์เลยก็ไปซะแล้ว ลักษณะนั้นจริงๆ ถ้ากำลังใจทรงตัวก็ไม่มีปัญหา รู้ว่าพลาดก็เริ่มต้นใหม่ แต่ถ้ากำลังใจไม่ทรงตัวมันมีในลักษณะจิตตก กำลังใจตก...(ไม่ชัด)

    ถาม: ๑) เหตุใดท่านจึงสรรเสริญใน ๒ จริตที่ว่านี้ ? ๒) สมมติว่าเราไม่มี ๒ จริต มี ๔ จริต เราจะทำอย่างไร ? ๓) เมื่อเรารู้จริตของตนเองว่ามีทั้งหมด ๖ จริต เราจะทำอย่างไรต่อ ?

    ตอบ: ลักษณะที่เมื่อกี้ตอบไป ๒ ข้อแล้ว ก็คือจะ ๔ หรือ ๖ ก็ตาม มันมีกับเราครบทุกจริต แต่เพียงแต่ว่าอันไหนมันจะเด่นออกมาเท่านั้น ที่เขาสรรเสริญศรัทธาจริตเพราะว่านักปฏิบัติทุกขั้นตอนถ้าไม่มีศรัทธานำหน้ามา มันก็จะไม่เชื่ออะไรเลย แล้วโอกาสที่จะได้ดีมันหายาก ก็ถึงได้บอกว่าให้มีศรัทธา แต่ว่าต้องเป็นศรัทธาที่มีปัญญาประกอบ ส่วนพุทธจริตที่ท่านฉลาดมาก แค่เห็นหัวข้อธรรมเท่านั้นบางทีเข้าใจรู้แจ้งแทงตลอดตั้งแต่ต้นยันปลายเลย ดังนั้น ๒ จริตนี้จะมีคนที่เรียกว่าสรรเสริญเอาไว้คือ โอกาสจะได้ดีมันมีสูง

    แต่ว่าพวกโทสะจริตเอาแต่มักโกรธ ราคะจริตมักรักสวยรักงาม วิตกจริตคิดไม่ตกอยู่เสมอ โมหะจริตประกอบไปด้วยความเขลาเป็นปกติ พวกนี้โอกาสจะได้ดีมันมีน้อย เขาก็เลยสรรเสริญว่า ศรัทธาจริต กับพุทธจริตเป็นของดีกว่า แต่จริงๆ แล้วเรามีทั้งหมดนั่นแหละ ประเภทที่เช้าฉลาดบ่ายโง่หรือเย็นฉลาดเช้าโง่มันเป็นเรื่องปกติ



    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมกราคม ๒๕๔๗(ต่อ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ



    .
     
  2. อู๋ซิน

    อู๋ซิน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +45
    การฝึกวิปัสนา ต้องอาศัยการฝึกสมถะ เพราะว่าตอนระหว่างฝึกวิปัสสนาแล้วยังไม่บรรลุธรรม กิเลสก็ยังอยู่ ยังพอได้ใช้สมถะข่มกิเลส ที่ยังมีอยู่ได้หน่อย ส่วนใครเหมาะกับสมถะใดก็ต้องศึกษาเรื่องจริต นี่ล่ะ อนุโมทนาครับ
     
  3. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    โมทนาสาธุ กับธรรมทานเป็นอย่างสูงค่ะ
     
  4. ต้นไทร

    ต้นไทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +666
    ขอบคุณ คับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...