จงระวัง อย่านําพากันให้เดินไปแบบผิดๆ.

ในการนําพาให้ปฏิบัติแบบผิดๆ โดยการอาศัยพุทธศาสนาโดยหยิบเอาความคิดเห็นของตนชูขึ้นมาแล้วติดป้ายว่านี้คือพุทธศาสนา นี่คือหนทางดับทุกข์ ฯลฯ จนเกิดการนําพา เกิดการนําเสนอแนวทางให้ปฏิบัติกันไปแบบผิดๆ นั้นเกิดมานานแล้ว ซึ่งในชั้นหลังๆ นี้ก็มีที่แนบสนิทจนแยกไม่ออกก็มี หรือเมื่อกวาดสายตาไปก็คิดว่าใช่ก็มี เธอทั้งหลายขอจงอาศัยปัญญา อาศัยการพิจารณาโดยกาลามสูตร เพื่อให้เป็นไปซึ่งการทําลายกิเลส ทําลายความยึดมั่นถือมั่น เพื่อให้เป็นไปเพื่อการไม่พอกพูนกิเลสเถิด ขอจงมีความเข้มแข็งในความคิดเห็นที่ถูกต้องอันเป็นสัมมาทิฏฐิ ไม่ใช่เอาแต่หลงงมงายในสิ่งที่ตนยังไม่เห็นแจ้ง ไม่ใช่เอาแต่พูดคําว่า "ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่" ใส่ใครต่อใครเขา ถ้าเธอยังมองไม่เห็นฝั่ง พิจารณาแล้วก็ยังไม่เห็นที่สุดแห่งทุกข์ ไม่เห็นต้นเหตุแห่งทุกข์ ยังไม่เห็นความดับไปแห่งทุกข์ หากยังไม่แตะขอบสระ หากแต่ยังเอาแต่สั่งสอนให้ปฏิบัติกันแบบผิดๆ โดยบอกว่านี้คือพุทธศาสนา ผลเสียมันไม่ได้อยู่ที่ตัวเธอเท่านั้น มันเป็นการแอบอ้างพระพุทธเจ้า เป็นการบิดเบือนคําสอนของพระพุทธเจ้า จึงขอให้จงหยุดมองและพิจารณากันสักนิด อย่าปล่อยให้ความหลงมันออกนําหน้าจนเอาคําสอนของลัทธิที่เป็นมิจฉาทิฏฐิมาสั่งสอนแล้วบอกว่านี่คือพุทธศาสนา...

อย่างที่บอกว่าการสั่งสอนแบบผิดๆ สั่งสอนให้ยึดมั่นถือมั่น โดยอาศัยการทึกทักเอาเองตามเหตุผลของฉันของเธอนั้น หากได้เผยแพร่ให้ทําตามๆ กันไปแล้ว ผลเสียมันไม่ได้เกิดแค่ที่เธอเท่านั้น อย่างถ้าเธอนั้นขับรถอยู่ข้างหน้า เธอขับนําหน้ารถบัสอีกเป็นร้อยๆ คน คนหลายๆ คนขับรถตามเธอไปยังจุดหมายที่พวกเขาคิดว่าจะถึงจุดหมายแน่นอน นั่นก็คือ นิพพาน ถ้าคนขับนําหน้าหลงทางทางหลงประเด็นเล่า มันก็วนอยู่อย่างนั้นแหล่ะ ไม่ถึงจุดหมายเสียที ผลที่ได้จากความหลง มันก็ยิ่งหลงหนักขึ้น จนกว่าวันใดวันหนึ่งจะเกิดปัญญาจนหลุดออกมาได้ แต่แล้วหมู่สัตว์ที่อยู่ในรถบัสที่ตามหลังเธอมานั้นเล่า พวกเขาปฏิบัติตามก็เพื่อหวังว่าจะได้รับฟังคําสอนที่ถูกต้องเพื่อดับทุกข์ แต่ก่อนหน้านั้นเธอสอนให้ดับทุกข์แต่ไม่ถูกจุด มาบัดนี้เธอจะทําอย่างไร จะปล่อยพวกเขาไว้อย่างไร จะอธิบายอย่างไร จะเปลี่ยนความคิดเห็นที่แน่นแฟ้นได้อย่างไร นี้อย่างไรจึงเตือนว่าจงอย่านําไปแบบผิดๆ จงอย่าหนุนนําให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นมิจฉาทิฏฐิแล้วอ้างว่านี้คือแก่นของพุทธศาสนา นี้คือสิ่งที่อยากเตือนแก่พุทธบริษัททั้งหลาย อย่างแรก จงใช้ปัญญาในการศึกษาพระพุทธศาสนา อย่างที่สอง จงปฏิบัติเพื่อความเห็นแจ้ง เพื่อทําลายความยึดมั่นถือมั่น เพื่อทําลายกิเลสเถิด

สมารถสอบถามได้โดยตรงกับ ภิกขุโย

 

ขอบคุณความคิดเห็นที่ช่วยเปิดความรู้สึก ความคิด และมุมมองใหม่ในทางพระพุทธศาสนา ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนไทย ส่วนใหญ่จึงไม่เข้าใจหรือรู้จักกาลามสูตร ทั้ง ๆ ที่เป็นสิ่งสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าผู้ที่เข้าใจได้ จะเป็นมีผู้ปัญญา หรือว่าคนไทยไม่ต้องการมีปัญญา ต้องการแค่มีเงิน ทอง ซึ่งเป็นสิ่งนอกกาย เมื่อตายก็นำพาไปไม่ได้ แต่ปัญญาที่เกิดขึ้นจะเกิดขึ้นแล้วส่งผลต่อจิตวิญญาณด้วย ด้วยการเรียนรู้สามารถสั่งสมลงเป็นรหัสพันธุกรรมก่อให้เกิดสายพันธุกรรมทางปัญญาต่อเนื่องกันไป อืมบ้างทีนะ หรือจะเป็นว่า "คนไทย เป็นคนคิดใกล้ ใจแคบ ใฝ่ต่ำ" อย่างที่ต่างชาติเขาว่าประนามกัน แล้วคุณคนไทยทั้งหลายที่ไม่ใช่คนแบบที่เขาว่า พร้อมใจกันจะแก้ต่างหรือยัง พร้อมที่จะแสดงตนว่า คนไทยที่ถูกมองว่าเป็นแบบนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น คนไทยแท้ที่จริงและเป็นคนส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย กลุ่มคนที่บอกตนเองและผู้อื่นว่าเป็นกลางอย่างแท้จริงพร้อมจะแสดงตนหรือยัง ที่ถามไม่ใช้ให้เกิดการแตกแยกหรือแตกหัก แค่อยากให้ยอมรับความจริงและแสดงความคิดเห็นของตนเองออกมาตรง ๆ ไม่ต้องอ้อมค้อมหรือชักแม่น้ำทั้งห้า ประเภทน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรงนะน่าเบื่อ ไม่ก่อให้เกิดปัญญา การวิวาทะสามารถเกิดขึ้นได้ เป็นผู้ใหญ่กันแล้วยังไม่มีความกล้ามากพอกันอีกเหรอ ที่จะแสดงความคิดเห็น ปล่อยให้คนที่ไม่เหมาะสมในการเป็นผู้นำหรือปกครองผู้คนมาเป็นผู้นำมาปกครองพวกเรานานมากพอแล้วนะ ขอโทษที่เพ้อเจอมากไปหน่อย ประมาณว่ามีผู้ถามเราจึงตอบ ว่าแต่ทำไมเราจะต้องเป็นคนตอบด้วยละเนี๋ย ทำไมพวกเขาจึงไม่แสวงหาคำตอบด้วยตัวของตนเองและปัญญาของตนเองกันบ้างละ เราเป็นนังมารร้ายอยู่นะ จริงมั้ย พวกคุณคนอ่านที่.....

 

ดัน...