งงเรื่องกฎแห่งกรรมครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย วิชาฤทธิ์, 14 ธันวาคม 2010.

  1. วิชาฤทธิ์

    วิชาฤทธิ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +97
    ผมสงสัยว่า สมมตินะครับ วันหนึ่งนาย ก ไปตีนาย ข แต่นาย ข ไม่โต้ตอบ
    ใครทำกรรมใดไว้ย่อมได้ัรับผลของกรรมนั้นใช่ไหมครับ ดังนั้นนาย ก จึงถูกนาย ค ตี เหมือนที่นาย ก ได้ตีนาย ข แล้วนาย ค จะบาปไหมที่ไปตีนาย ก หมายถึงว่าจะมีใครว่าตีนาย ค ต่อไปอีกตามกฎของกรรมที่ว่าไปทำกรรมใดไว้ก็จะได้รับผลตามนั้น หรือว่าจะหยุดเพียงแค่นั้นคือนาย ค จะไม่ได้รับผลของกรรมจากใครต่ออีก งงครับ
    เช่นเดียวกับกรรมดี สมมติว่า นาย ก ให้ขนมนาย ข กิน ดังนั้นนาย ก จึงได้บุญและเมื่อบุญส่งผลนาย ก ได้รับของจาก นาย ค ตามผลบุญ แล้วนาย ค จะได้บุญนี้ไปเป็นทอดๆไหมครับ คือ จะมีคนให้ของแก่นาย ค อีกไหมครับ แล้วคนที่ใก้ของแก่นาย ค จะมีคนอื่นให้ของอีกหรือเปล่าครับ
    ขอความรู้ด้วยครับ
     
  2. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    กรรมจัดสรร
    จิตที่ต้องการจะก่อกรรมดึงดูดให้ได้กระทำต่อจิตผู้สมควรถูกกระทำ(ซึ่งก่อคือผู้ที่ได้กระทำไปแล้ว)
    หากต่อจากนั้นไม่มี ก็จะเป็นเรื่องของดินฟ้าอากาศ ธรรมชาติเป็นผู้กระทำต่อ จิตผู้สมควรถูกกระทำ

    ลองตอบดูครับ ผิดถูก อย่างไร แก้ไขให้กระจ่าง ก็จะเป็นตัวอย่างให้เข้าใจต่อไปได้ครับ

    จิต เจตนาเป็นตัวสำคัญ สุขทุกข์ ได้เสียก็เกิดขึ้นที่จิต
     
  3. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ก็อย่างที่ว่ามาละครับว่าทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น นาย ค ไปทำเขาก็ต้องได้รับผลกรรมครับ
     
  4. จิตปรุง

    จิตปรุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +802
    ทำกรรมใดได้กรรมนั้นค่ะ ที่นาย ข ถูกนาย ก ตี
    ก็เพราะต้องเคยทำกรรมมาเหมือนกัน ส่วนนาย ค ไปตี
    นาย ก นาย ค ก็ต้องได้รับผลตามการกระทำค่ะ
    ลองตอบดูค่ะ เห็นว่าเป็นเช่นนี้ค่ะ
    อนุโมทนา เจริญในธรรมค่ะ
     
  5. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
  6. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    ความซับซ้อนของกรรม
    สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช




    การเขียนหนังสือด้วยปากกาหรือดินสอลงบนกระดาษแผ่นเดียวนั้นเขียนลงครั้งแรกก็ย่อมอ่านออกง่าย อ่านเข้าใจง่ายแต่ยิ่งเขียนทับเขียนซ้ำลงไปบนกระดาษแผ่นเดียวนั้นตัวหนังสือยิ่งจะทับกันยิ่งขึ้นทุกที การอ่านก็ยิ่งอ่านยากขึ้นทุกทีจนถึงอ่านไม่ออกเลยไม่เห็นเลยว่าเป็นตัวหนังสือ จะเห็นแต่รอยหมึกหรือรอยดินสอทับกันไปทับกันมาให้เพียงรู้เท่านั้นว่ามีการเขียนลงบนกระดาษแผ่นนั้นอ่านไม่รู้เรื่องและไม่รู้ว่าอะไรเขียนก่อนและอะไรเขียนทีหลัง



    การทำกรรมหรือการทำดีทำชั่วก็เช่นกันต่างได้ทำกันมานับภพนับชาติไม่ถ้วนทับถมกันมายิ่งกว่าตัวหนังสือที่เขียนทับจนอ่านไม่ออกและไม่สามารถรู้ว่าอะไรเขียนก่อนอะไรเขียนทีหลังเหมือนกับการทำกรรมใดไว้ก็ไม่รู้ว่ากรรมใดทำก่อนกรรมใดทำทีหลังไม่สามารถรู้และแยกว่าทำอะไรดีมาบ้าง ทำอะไรไม่ดีมาบ้างทำดีทำไม่ดีอะไรทำก่อนอะไรทำทีหลังไม่สามารถแยกแยะได้และทำมากทำน้อยทำหนักทำเบากว่ากันอย่างไรเป็นความซับซ้อนของกรรมที่ทำไว้จนแยกไม่ออกมาหลายภพหลายชาติเช่นเดียวกับการเขียนหนังสือที่ทับกันไปเรื่อยๆจนอ่านไม่ออกและไม่รู้ว่าคำไหนเขียนก่อนเขียนทีหลัง

    ความซับซ้อนของกรรมแตกต่างจากความซับซ้อนของตัวหนังสือตรงที่ตัวหนังสือเมื่อเขียนทับกันมากๆย่อมไม่มีทางรู้ว่าเขียนเรื่องดีหรือเขียนเรื่องไม่ดีอย่างไรแต่กรรมนั้นแม้ทำซับซ้อนมากเพียงไร หรือทำกรรมไม่ดีไว้มากน้อยเพียงใดโดยผลที่ปรากฏขึ้นของกรรมนั้นเองเป็นเครื่องช่วยแสดงให้เห็น

    ชีวิตหรือชาตินี้ของทุกคนมีชาติกำเนิดไม่เหมือนกัน เป็นไทยก็มี จีนก็มีแขกก็มี ฝรั่งก็มี เป็นต้น มีชาติตระกูลไม่เหมือนกัน ตระกูลสูงก็มี ตระกูลต่ำก็มีฐานะต่างกันร่ำรวยก็มี ยากจนก็มี สติปัญญาต่างกัน โง่ก็มี ฉลาดก็มีความแตกต่างห่างกันนานาประการเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องชี้ให้ผู้เชื่อในกรรมและผลของกรรมเห็นความมีภพชาติในอดีตของแต่ละชีวิตในชาติปัจจุบันที่เกิดมาต่างกันในชาติ นี้เพราะทำกรรมที่ต่างกันไว้ในชาติอดีต

    ความแตกต่างของชีวิตที่สำคัญที่สุดที่แสดงให้เห็นอำนาจที่ใหญ่ที่สุดของกรรม คือความได้ภพชาติของมนุษย์กับความได้ภพชาติของสัตว์ เป็นต้นแม้เทวดาอาจมาเป็นมนุษย์ได้เป็นสัตว์ก็ได้มนุษย์อาจเป็นเทวดาได้เป็นสัตว์ได้ สัตว์อาจเป็นเทวดาได้เป็นมนุษย์ได้ด้วยอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของกรรมอันนำให้เกิดนั่นเอง

    ที่มา[url=http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=14517]:: <O:p></O:p>
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  7. Mantalay

    Mantalay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,065
    ขออนุโมทนาบุญกับคำตอบทุกท่านค่ะ ทำให้เข้าใจได้ดีขึ้นค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  8. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ผมสงสัยว่า สมมตินะครับ วันหนึ่งนาย ก ไปตีนาย ข แต่นาย ข ไม่โต้ตอบ
    ใครทำกรรมใดไว้ย่อมได้ัรับผลของกรรมนั้นใช่ไหมครับ

    ใช่ครับ

    ดังนั้นนาย ก จึงถูกนาย ค ตี เหมือนที่นาย ก ได้ตีนาย ข แล้วนาย ค จะบาปไหมที่ไปตีนาย ก หมายถึงว่าจะมีใครว่าตีนาย ค ต่อไปอีกตามกฎของกรรมที่ว่าไปทำกรรมใดไว้ก็จะได้รับผลตามนั้น หรือว่าจะหยุดเพียงแค่นั้นคือนาย ค จะไม่ได้รับผลของกรรมจากใครต่ออีก งงครับ

    หลักใหญ่ๆของการสร้างกรรมที่ไม่ดีนะครับ ก็จะก่อให้เกิดผล 2 ประการ คือ
    1 ถูกลงโทษโดยผู้คุมกฎ ก็คือ ถูกลงโทษในนรก ถูกลงโทษโดยนายนิริยบาล ถ้าเปรียบเทียบกับทางโลก ก็คือ ถูกศาลตัดสินจำคุก ตัดสินประหารชีวิต ไปใช้ชีวิตในคุกในตะราง
    2 มีเจ้ากรรมนายเวร หรือถ้าเปรียบเทียบกับทางโลกก็คือ มีเจ้าทุกข์ เช่น เราไปชกหน้านาย ก. นาย ก. ก็เป็นเจ้าทุกข์
    ถึงแม้นาย ก. ไม่เอาเรื่อง แต่เราก็มีความผิดตามกฎหมาย

    นี่เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างน่าจะเข้าใจง่าย

    กรณีที่คุณยกมานั้น เป็นกรณีของเจ้ากรรมนายเวรเท่านั้น ไม่ได้กล่าวถึงระบบความยุติธรรม (ข้อ 1)

    และตามตัวอย่างที่ยกมา ถ้านาย ก. ตีนาย ข. นาย ข. ไม่เอาเรื่อง พูดง่ายๆก็คือ นาย ข. มีจิตใจสูง รู้จักให้อภัย นาย ข. ไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรกับนาย ก. อีก แต่ถ้าตราบใดที่นาย ก. ยังไม่ให้อภัยนาย ข. เจอหน้านาย ข. เมื่อไหร่ ก็อาจซัดนาย ข. สักโป้ง

    เหมือนกับกรณีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับพระเทวทัต กี่ชาติที่พระเทวทัตตามจองล้างจองผลาญ แต่พระพุทธองค์สมัยเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ก็ไม่โกรธตอบ.... ทำยากนะ

    ย้อนกลับมาที่นาย ก. ดังนั้น นาย ก. ต้องอโหสิกรรมให้นาย ข. ด้วย จะได้สิ้นเวรสิ้นกรรมต่อกันอย่างแท้จริง

    ส่วนกรณีจะถูกนาย ค. ตีหัวนั้น จริงๆแล้วไม่เกี่ยวกับนาย ข. เลย ยกเว้นว่า เอ้อ นาย ค. จะเป็นญาติ เพื่อน ลูกของนาย ข. ก็อาจจะผูกใจเจ็บ มาล้างแค้นแทนนาย ข. ก็เหมือนกับญาติเจ้าทุกข์นั่นแหละ

    แต่ถ้านาย ค. ไม่เกี่ยวข้องกับนาย ข. เลย อย่างนี้ต้องถือว่า เป็นกรรมหรือเป็นเรือ่งของนาย ก. กับนาย ค. โดยเฉพาะ ส่วนจะมีสาเหตุว่าทำไมนาย ค. ต้องมาตีหัวนาย ก. นั้น เป็นความซับซ้อนของกรรม



    เช่นเดียวกับกรรมดี สมมติว่า นาย ก ให้ขนมนาย ข กิน ดังนั้นนาย ก จึงได้บุญและเมื่อบุญส่งผลนาย ก ได้รับของจาก นาย ค ตามผลบุญ แล้วนาย ค จะได้บุญนี้ไปเป็นทอดๆไหมครับ คือ จะมีคนให้ของแก่นาย ค อีกไหมครับ แล้วคนที่ใก้ของแก่นาย ค จะมีคนอื่นให้ของอีกหรือเปล่าครับ
    ขอความรู้ด้วยครับ

    กรณีของกรรมดีก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่านาย ก. ให้ขนมนาย ข. กิน แล้วจู่ๆ จะได้รับของจากนาย ค. เสมอไป คือจะต้องมีความเชื่อมโยงระหว่างเหตุและผล นาย ค. อาจจะเกิดความรู้สึกเอ็นดู หรือชอบพอ หรือมีสาเหตุอะไร่ต่อมิอะไรหลายอย่างที่ทำให้ให้ขนมกับนาย ก.

    นี่แหละคือความซับซ้อนแห่งกรรม ไม่ใช่ว่า 1+1 = 2 เสมอไป มันมีตัวแทรก และตัวแทรกนี่แหละคือสิ่งที่เกินความเข้าใจของมนุษย์
     

แชร์หน้านี้

Loading...