คุณเชื่อไหมว่านกแสกเป็นยมทูตมาบอกลางว่าจะมีคนตาย

ดิฉันเคยมีประสปการณ์มาเล่าค่ะ
ก่อนที่แม่ดิฉันจะเสียชีวิต มีเรื่องบังเอิ_ว่า
มีอยู่วันหนึ่ง เวลาประมาณสองทุ่ม ดิฉันยืนล้างจานอยู่หลังบ้านซึ่งเป็นที่โล่งไม่มีหลังคา เห็นนกแสกหรือนกเค้าแมว เกาะอยู่ที่รั้วบ้านใกล้กับที่ดิฉัน
ยืนล้างจาน นกตัวนั้นมองจ้องดิฉันอยู่นานจนดิฉันล้างจานเสร็จ ประมาณ สามสิบนาที ก็ยังไม่ยอมไป แปลกใจเหมือนกันนะคะ นกชนิดนี้ไม่ปรากฎให้คนเห็นง่ายๆในตัวเมืองกรุงเทพฯ แล้วก็เฝ้าดูคนนานมาก จนกระทั่งมีแมวตัวหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนรั้ว และเดินตรงไปยังนกตัวนั้นๆจึงได้บินหนีไป แล้วต่อมาดิฉันก็ได้รับข่าวร้ายว่าแม่ดิฉันล้มป่วยกระทันหัน และเสียชีวิตลงในเวลา
ต่อมา ซึ่งคล้ายกับที่คนรุ่นก่อนๆเขาเคยพูด ว่าถ้าจะมีใครตายนกแสกจะมาบอกข่าว

 

ไม่ค่อยเชื่ออะค่ะ มันเป็นประจวบเหมาะมากกว่าค่ะ

คนเราย่อมเป็นไปตามกรรมนะค่ะ
อย่าคิดมากเลย หากท่านทำกุศลทำดีไว้เยอะ
หรือท่านเตรียมตัวตายมาดี
ซ้อมการตายไว้ดีแล้ว
ย่อมมีโอกาสไปสู่ที่สุคติค่ะ

 

ผมเคยได้ยินมาว่าที่อินเดียนั้นชาวนาเค้าชอบนกแสกมากคับเพราะว่ามันกินหนูเป็นอาหาร

 

เรื่องที่เล่านี้ไม่ใช่เห็นนกแสกหรอกค่ะ แต่เห็นท่านยมฑูตพายเรือมารับคนตายไปเลย บ้านที่อยุธยาจะเป็นบ้านริมน้ำการสั_จรไปมาก็ต้องใช้เรือเป็นพาหนะ ทราบว่า_าติผู้ให_่ท่านหนึ่งจะเสียชีวิต พวกเราก็เลยพายเรือไปเยี่ยม และรอดูใจกัน ระหว่างพายเรือนั้นก็มีเรือพายสวนมามีคนนั่งอยู่ 2 คนและพายเร็วมาก พวกที่อยู่บนเรือก็ทักว่าเห็นกันไหม เรืออะไรพายนำไป แป๊ปเดียวลับตาไปเลย เร็วจัง พอพวกเราเริ่มพายเรือใกล้จะถึงท่าน้ำอีกครึ่งทาง เด็กคนหนึ่งซึ่งเป็นหลานผู้ตายพูดว่า เรื่องลำนั้นเอายายของเขาไปแล้ว เพราะเรือลำเดิมพายสวนเรากลับไปแต่มีคนนั่งในเรือ 3 คน มองเกือบไม่ทัน พายเรือสวนและหายลับตาไปเร็วมาก พอพวกเรานำเรือเทียบท่าหน้าบ้านก็พบว่าผู้ตายพึ่งเสียชีวิตเมื่อกี้นี้เอง

 

เชื่อ?

ความเชื่อหรือไม่เชื่อ เกิดจากประสบการณ์ซึ่งจะแตกต่างกันไป ผู้ที่ได้พบด้วยตนเองจะมีความเชื่อมากกว่าผู้ที่ไม่เคยพบ เสมือนเช่นการปฏิบัติธรรมผู้ที่ปฏิบัติอย่างถูกต้องก็จะรู้ได้เพียงตนเองเท่านั้น ดังคำที่ว่า "ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ"

 

จะเอาความไม่ดีไปใส่สัตว์ทำไหมล่ะค่ะ

หากเราจะบอกว่า ก่อนน้องชายเสีย เราเจอตัวต่อตัวแตนมาบินอยู่ที่บ้านเราหลายวัน บางวันก็มาตัวเดียว บางวันก็มาสองตัว
เพราะต้องขึ้นไปรดน้ำต้นบ้านบนดาดฟ้าที่บ้านเรา
แล้วเราก็เอาไม้กวาดตบมันตายไปสองตัว ++
เพราะดูเหมือนมันจะเข้ามาต่อยเรานะ
พอไม่กี่วันน้องชายเสีย
บางคนก็บอกว่าอีกามาอยู่บ้านไหนก็ไม่ดีเหมือนกัน
ข้างบ้านเรา อีกามากินข้าวที่ศาลพระภูมิเกือบทุกวัน ก็ยังไม่เห็นมีอะไร
บางวันนกแสกก็มีร้องบ้าง แต่นานๆที ก็ยังไม่เห็นมีอะไร
เพราะฉะนั้น สัตว์เค้าก็อยู่ส่วนของเค้า จะเอาความเลวความไม่ดีไปป้ายให้เค้าทำไหมล่ะค่ะ?!
หากเห็นแบบนี้ อาจแค่เป็นการเตือนสติผู้เห็นไม่ดีกว่าเหรอค่ะ
เพราะนกแสกเห็นในเมืองหลวงนี้ยากเต็มทน
หากเห็น แล้วใครเชื่อ ก็ควรรีบทำความดีทำกุศลนั่งธรรมเพิ่มขึ้น
ให้ใจใสใจสบายเยอะ ๆ ไม่ดีกว่าเหรอค่ะ?
ส่วนใครที่เห็นยมฑูตมานั้น คงเป็นวาระจิตของผู้เห็นเองนะค่ะ

 

เรื่องพวดนี้คือเกิดขึ้นมาในอดีต หลายครั้งต่อครั้งจนเป็นสถิติ
มันก็มูลอยู่บ้างน่ะครับ มันอาจจะบังเอิ_ก็ได้ ถ้าบังเอิง คงจะเกิดเหตุการณ์ นี้เพียงไม่กี่ครั้ง

แต่เหตุการ์ณอย่างนี้ มันเกิดขึ้น จน ปัจจุบันยังมีอยู่ ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง ถือว่าเป็นทั้งความแปลก ความบังเอิ_ และเป็นเรื่องจริง พิจรณากันเอาเองล่ะกันครับ

แต่เรื่องพวกนี้จัดอยู่ในหมวดเคล็ด ลาง อาถรรพ์ น่ะครับ

 

จะเป็นจริงหรือไม่ก็ยามก็อย่าไปทำร้ายนกพันธุ์นี้เลย เพราะเท่าที่รู้ก็ใก้ลสู_พันธ์แล้ว ถ้าคนเราที่เชื่อความเชื่อนี้โดยไม่ใช้ปั__าแล้วคิดว่านกนี่มาจะนำความตายมาให้ ก็อาจทำร้ายมันได้

 

คุณผู้รู้น้อยคงเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนไปหรือเปล่า....

ไม่ได้เอาความเลวความไม่ดีไปป้ายสัตว์อย่างที่คุณเข้าใจ แล้วเขียนตอบมาหรอกค่ะ
เพียงแต่เขียนเล่าสู่กันอ่านในเรื่องประสบการณ์ ซึ่งคล้ายกับสิ่งที่คนรุ่นก่อนๆเล่าบอกต่อๆกันมา เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับลางบอกเหตุ อย่างที่คุณWitt บอกนะค่ะ ว่าจัดอยู่ในหมวด เคล็ด ลาง อาถรรพ์ อะไรทำนองนี้
ไม่ได้มีเจตนาไปใส่ร้ายสัตว์อย่างที่คุณว่า คนละเรื่องกันเลย นกแสกที่ว่าก็ยังไม่แน่ใจด้วยว่าเป็นนกที่จำแลงมาจากยมทูตมาบอกเป็นลางหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน (อาจว่าบ้าไปกันให_่ ละมั๊ง...) คือเพียงอยากรู้ว่าเรื่องลางบอกเหตุอย่างนี้มีจริงไหม ก็เท่านั้นเอง
เพียงแต่อยากทราบว่าใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้างหรือมีความรู้ในเรื่องทำนองนี้บ้าง เล่าสู่กันอ่านบ้างค่ะ เป็นอะไรที่รู้ไว้ก็ไม่เสียหาย
ไม่เกี่ยวกับการใส่ร้ายป้ายสีสัตว์อะไรอย่างที่คุณผู้รู้น้อยว่านะคะขอยืนยันว่าคนละเรื่องกันค่ะ

 

บางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าอาจมีอยู่จริงได้ เช่นเชื้อโรค
ต่างๆ เชื้อไวรัส ฯลฯ ทางนักวิทยาศาสตร์จึงคิดสร้างกล้องจุลทัศน์เพื่อมาส่องหาความจริงว่ามีเชื้อโรคนั้นจริงๆหรือเปล่า ที่ทำให้คนเจ็บป่วย คนในสมัยก่อนที่เป็นหวัดแพร่กระจายติดต่อกัน แต่ไม่ทราบสาเหตุมาจากอะไร แพทย์ที่ศึกษาทางด้านนี้ได้ให้คำตอบว่าเกิดมาจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง
แต่ก็ยังมีอยู่อีกหลายๆอย่างที่นักวิทยาศาสตร์ยังค้นคว้าไม่ได้ โดยเฉพาะในสิ่งที่มองไม่เห็น
แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังพยายามค้นคว้าอยู่ เช่นกล้องจับคลื่นวิ__าณ กล้องถ่ายภาพออร่ามนุษย์ เป็นต้น และนักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงพยายามศึกษาค้นคว้าพิสูจน์ในสิ่งที่มองไม่เห็นกันต่อไปอีก ตราบเท่ายังมีเรื่องแปลกและยังพิสูจน์ไม่ได้
ส่วนนกแสกที่ว่าเห็นที่กรุงเทพฯนั้น คือสงสัยว่าใช่นกแสกจริงหรือไม่ ไม่แน่ใจ เพราะนกพวกนี้นั้นตามปกติน่าจะอาศัยอยู่ตามชนบทใกล้ป่าเขามากกว่าจะมาอาศัยหรือหากินตามตัวเมือง
ไม่ได้เอาความเลวหรือความไม่ดีไปป้ายให้นกแสกอย่างที่คุณผู้รู้น้อยเข้าใจหรอกค่ะ เพราะคนที่เขาถึงวาระที่ต้องตาย เขาก็ต้องตายอยู่ดี ทุกคนเกิดมาก็ต้องตายด้วยกันทุกคน และไม่ได้โทษนกแสกว่าทำให้คนตายด้วยค่ะ( คุณคงเข้าใจผิดข้อนี้กระมัง ) เพียงแต่แค่เคยได้ยินคนรุ่นก่อนๆเขาเล่าต่อๆกันมาว่านกแสกมาแสดงตัวนี้คล้ายๆท่านยมทูตมาจำแลงบอกลางตายของคนภายในบ้านให้ทราบ เรื่องแบบนี้เชื่อหรือ
ไม่เชื่อก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล นานาความคิด นานาจิตตัง มาบอกเล่าประสบการณ์แลกสู่กัน เท่านั้นเอง
ไม่มีเจตนาอื่นที่ไม่ดี ไม่เคยคิดจะใส่ร้ายป้ายสีสัตว์ด้วยค่ะ
คนเรามีประสบการณ์ไม่เหมือนกัน ความคิดเห็นย่อมแตกต่างกัน

 

เชื่อเพราะเคยเห็นมาแล้ว

 

จ้า โอเคค่ะ เข้าใจนะ ว่ามาเล่าให้ฟัง ไม่ได้ว่าคุณใส่ร้าย แต่คนในสมัยโบราณท่านมีเหตุผล

เช่นไร ถึงยกเอานกแสกเป็นตัวแทนของความตาย ซึ่งคนเรา หากพูดเรื่องความตาย ย่อมหมายถึง สิ่งไม่ดี มีการพลัดพราก ถึงแม้จะเป็นชาวพุทธเถอะค่ะ กว่าจะหักห้ามอกห้ามใจได้ ต้องใช้เวลามากเหลือเกิน ถึงแม้ปากจะพูดว่า คนเรามีกรรมเป็นของตัวเอง ถึงเวลาก็ต้องไป แต่ใจมันตัดไม่ได้ตามคำพูดหรอกค่ะ เพราะยังไงย่อมมีความผูกพัน ซึ่งเราผ่านมาแล้ว กับน้องชายของเรา ซึ่งทุกวันนี้ก็ได้แต่เพียง ทำบุ_ทำกุศลให้เค้าไป เพราะฉะนั้น เมื่อรักใคร จะรักใคร ไม่ว่าเค้าคนไหนเป็นใคร
หากคิดจะรักแล้วต้องรักให้ซึ้งถึงปรโลก ถึงแม้ดูมันเป็นยึด ๆ เอาไว้ยังไงไม่รู้ แต่อ้างเหตุที่น้องชายเสีย ได้มีโอกาสศึกษาธรรมะ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะศึกษา นานๆจะมีโอกาสได้นั่งธรรมะ ก็มีโอกาสแต่ตอนเรียนเท่านั้น พอจบ ม.3มาก็แทบไม่ได้นั่งเลย จนกระทั่งน้องชายเสียเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ก็ถึงมีโอกาสได้ศึกษาธรรมะนั่งธรรมะ แต่ก็เพื่อให้รักษาตัวเองรอดจากภัยจากวัฎฎะ ประมาณป้องกันการบอบช้ำจากการสู_เสียนั่นเอง เพราะเห็นภัยในวัฎฎะตั้งแต่เรียนตอน ม.3 แต่ยังไม่มีปั__าหาหนทางได้ด้วยตัวเองจนปล่อยชีวิตไปเรื่อยๆ เรียนหนังสือไปทำตามหน้าที่ก่อน ช่วยแม่ดูน้องชายคนที่เสียไปจนกระทั่งวาระสุดท้ายของเค้า จนกระทั่งน้องชายเสียแหละค่ะ ถึงได้มีโอกาส เอาความสู_เสียมาแปรเปลี่ยนเป็นพลังในการขับเคลื่อนเพื่อศึกษาธรรมะให้ค่อยๆ
ดีขึ้น เพื่ออย่างน้อยได้สั่งสอนตัวเองได้ในเบื้องต้นก่อน
เพราะฉะนั้น หากคิดให้ละเอียด เรื่องนกแสกที่เป็นตัวแทนยมฑูตหรือลางบอกเหตุ มันก็เปรียบเสมือนเอาความไม่ดีไปใส่ตัวนกมัน เราก็ไม่เข้าใจว่า ทำไหมถึงมีการกล่าวถึงเช่นนี้ คนโบราณท่านมีเหตุผลอย่างไร เราไม่ว่าคุณที่ตั้งกระทู้หรือใครๆในที่นี้ที่โพสนะค่ะ หรือคนในสมัยโบราณหรอกค่ะ เพราะคงมีเหตุผลบ้างอย่างค่ะ ที่เรายังไม่อาจทราบได้
:'(
แต่ความคิดเห็นเช่นนี้ความเชื่อแบบนี้มันสืบทอดมายาวนานหรือเกิน ว่าเป็นตัวแทนเหมือนยมฑูต เหมือนลางบอกเหตุ ฯลฯ ทำให้คนเกลียดกลัวนกแสกไปเลย ถึงขนาดบางคนเอาปืนเอาหนังกระติ๊กไปไล่ยิงมัน
เราคิดว่า มันใกล้สู_พันธุ์เต็มทนแล้วล่ะค่ะ เพราะตัวมันดำ เพราะเสียงร้องมันน่ากลัวด้วยมั่ง ฟังแล้วขนลุก บรื้อๆ ++
ก็เหมือนดอกราตรี แล้วก็ดอกไม้ที่ใช้ในงานศพประดับศพนะค่ะ โทษทีค่ะ ใช่ดอกราตรีเปล่า?ไม่แน่ใจค่ะ ทั้งๆที่ดอกมันก็สวยนะ กลิ่นก็หอม เย็นๆ แต่เวลาไปอยู่ที่วัด ใกล้ๆศพ กลิ่นของมันละมั่งทำให้มันวังเวง
ชวนขนลุกอีกเช่นกัน
เหอๆ แต่ฝรั่งเอาไปกลั่นเป็นน้ำหอมขาย รวยเละไป
ดอกลั่นทมต้องปลูกแต่ในวัด หรือที่อื่นๆ ห้ามปลูกในบ้าน ทั้งๆที่ดอกมันสวยจะแย่ ห้ามแล้วแถมไม่บอกเหตุผลที่ห้ามด้วย หรืออาจมีบางคนรู้ ซึ่งเราเพิ่งจะมารู้ไม่กี่ปีนี้เอง ++!!
แต่คนส่วนให_่ ย่อมคิดว่า มันชื่อไม่เป็นมงคล ไม่เช่นนั้น เค้าคงไม่เปลี่ยนชื่อมันเป็น ลีลาวดี หรอกค่ะ คนส่วนให_่ ไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงเค้าไม่ให้ปลูกในบ้าน เพราะป้องกันเด็กๆไปซนเด็ดใบเด็ดดอกมัน ยางมันอาจทำให้ตาบอดได้ จึงต้องตั้งชื่อไม่ให้เป็นมงคลไว้ก่อน ก็เช่นเดียวกันกับนกแสกล่ะค่ะ

 

I don't know ja.. How about in Harry Potter lah ka?? Nobody die ah..

 

:boo:

 

...เคยเจอกับตัวเองมาเหมือนกัน ตอนนั้นไปรู้จักกับผู้ห_ิงไทยให_่
..เพื่อนเขาบอกว่าเราท่าจะโดนของ.....คือช่วงนั้นจิตใจไม่ดีเอามากๆและก็ร้อนรนใจอยากแต่จะเจอผู้ห_ิงคนนั้น...
...ทุกคืนจะมีนกแสก มาเกาะที่ราวระเบียงของห้อง ขนนี่ล่วงเกลื่อนพื้นเลย เขาจะร้องวนหลังคาอยู่ 3รอบแล้วมาเกาะ....เราไม่ค่อยเชื่อ คิดว่าคงจะมารังของเขาอยู่ต้นไม้ใกล้ๆ......
....ช่วงหนึ่งเรามาพักที่โรงแรม ...เราก็แปลกใจเพราะประมาณ 5 ทุ่ม
ไอ้เจ้านกแสกก็บินมาวนหน้าต่างที่โรงแรม 3 รอบ ร้อง แสกๆๆๆๆๆ
เอ ตามมาได้ยังไง อีกคราว คราวนี้ก็เลยเชื่อสุดๆเลย คือ
เราไปนอนบ้านเพื่อน ก็นั่งดิ้งที่ข้างบน เราดูนาฬิกาเกือบจะ 5 ทุ่ม
เราเลยบอกเพื่อนว่าคอยดูว่านกแสกจะมา ร้องและก็บินวน 3รอบหรือเปล่าว พอถึงเวลา 5 ทุ่มตรง ก็บินวนมา 3 รอบ จริงๆๆ
.....ก็กลายเป็นเรื่องยาว กว่าจะหลุดมาได้เราต้องไปทำพิธีสืบชะตา.. เอาไว้ทีหลังจะเล่าให้ฟังครับ

 

ต้นไม้ที่มีดอกที่มีกลิ่นหอมในตอนกลางคืน มักเป็นพิษ สูดดมมากเป็นอันตรายต่อร่างกาย คนสมัยก่อนจึงไม่ให้ปลูกไว้ในบริเวณบ้านเพราะยามหลับนอนจะได้กลิ่น แต่ที่วัดบริเวณกว้างขวางกลิ่นคงกระจายจาง ๆ ผู้แก่ผู้เฒ่าบอกเล่ามา เท็จจริงอย่างไรรอผู้รู้จริงมาตอบอีกที อยากทราบเรื่องของคุณโคกผักหวานต่อ

 

แต่อาร์ตเชื่อ นะคะเรื่องนี้ เพราะว่าแถวบ้านอาร์ตเมื่อก่อนก็มีเหตุการ์ณแบบนี้เช่นกันค่ะ คือว่าคุณยายจะคอยบอกว่าถ้านกแสกบินผ่านบ้านใคร โบราณเค้าถือว่าเป็นลางไม่ดีค่ะ

 

สนใจเรื่องของคุณผักหวานจัง...

แล้วว่างๆมาเล่าต่อนะคะ

 

ก้อยก็เชื่อประมาณ 70 % ค่ะ แต่นกแสกก็เคยมาบินวนเวียนแถวๆหลังคาบ้านก้อยเหมือนกันค่ะ แล้วมาหยุดอยู่ประมาณครู่หนึ่ง ตอนนั้นก้อยอยู่กับแม่ แล้วแม่ก้อยก็บอกว่า " ไปก่อนเถอะ บ้านนี้ยังไม่มีใครตาย" สักพักนึง นกแสกก็บินไปบ้านอื่นน่ะค่ะ แม่ก้อยบอกว่าถ้าเจอนกแสก ให้พูดอย่างนี้ ตามที่คนโบราณพูด ก้อยก็เคยได้ยินนะคะบอกว่า เค้าจะมาดูว่าบ้านไหนมีคนตายหรือเปล่า หรือแบบมาเตือนอะไรทำนองนี้อะค่ะ ก็ยังเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้นะคะ เอาเป็นว่า ก้อยก็เชื่อ 70 % ว่าจริงน่ะค่ะ

 

เปิดเผยซาตานในตำนานคัมภีร์พระคริสต์

เปิดเผยซาตานในตำนานคัมภีร์พระคริสต์ http://www.newsworks.org/tumma8.htm(kiss)