คุณทำได้

อ่านบทความจากหนังสือ "แก้กรรม ทำเองได้" และบทความธรรมะ​

เรียบเรียงโดย จิตศรัทธา พุทธานุภาพ​

http://Misfortune-Relief.webs.com​

​

บทความและเนื้อหาหลักใน Shapter 1 - 6 (บทที่ ๑ - ๖) นั้น ได้คัดลอกเนื้อหามาจากหนังสือ "แก้กรรม! ทำเองได้"​

โดยผู้จัดทำ ได้เพิ่มเติมเนื้อหาในส่วนที่เกี่ยวข้อง ลงไปเล็กน้อย ​

ซึ่งทั้งหมดนี้ ผู้จัดทำ ไม่ได้หวังผลตอบแทน หรือหาผลประโยชน์เป็นทรัพย์สินเงินทอง จากผู้ใดทั้งสิ้น ​

หากแต่ต้องการเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน ให้ผู้ที่สนใจศึกษา การแก้กรรม สะเดาะเคราะห์ สวดมนต์ และปฏิบัติธรรมด้วยตนเอง นำไปปฏิบัติเพื่อชีวิตที่ดีต่อไป ​

โดยเนื้อหาที่คัดลอกมา จะแบ่งออกเป็น Shapter ต่าง ๆ ใน แถบเมนูด้านซ้ายบน ดังต่อไปนี้​

Shapter 1
กรรมฐาน วิธีแก้กรรม ลดกรรมให้ตนเอง, วิธีแก้กรรมให้ตนเองได้ผลดีเร็วขึ้น, วิธีแก้กรรมด้วยการใส่บาตรให้เกิดผล, วิธีแก้กรรมดวงวิญญาณ​

คลิ๊กเพื่ออ่านhttp://misfortune-relief.webs.com/shapter1.htm​

Shapter 2
วิธีแก้กรรมตามเคราะห์กรรมที่ได้รับ กรรมปวดศรีษะ กรรมปวดหลัง กรรมทำให้เป็นโรคหัวใจ ต้องเสียเงินตลอด ครอบครัวมีแต่ปัญหา กรรมที่ต้องสะเดาะเคราะห์ กรรมคู่ไม่ดี กรรมต้องเป็นเมียน้อย กรรทุกข์ใจเพราะญาติพี่น้อง สามี - ภรรยา กรรมเป็นอัมพฤกษ์ ​

กรรมเป็นมะเร็ง สามีเจ้าชู้ กรรมลูกดื้อ ขี้ยา ติดยา ติดพนัน กรรมลูกไม่ดี เกเร ไม่เชื่อฟัง กรรมเกิดมาโง่ กรรมมีกลิ่นตัวเหม็นตลอด กรรมมีบริวารไม่ดี การแก้กรรมให้พ้นจากอันตรายทั้งปวง กรรมเจอแต่คนเอาเปรียบ กรรมไม่มีลาภลอย ฯลฯ เข้าไปอ่านดูครับ​

คลิ๊กเพื่ออ่าน http://misfortune-relief.webs.com/shapter2.htm​

Shapter 3​

ปัตติทานะคาถา, กรณียะเมตตะสุตตัง, ผลบุญ - กรรมของหญิงทำแท้ง (โดย พระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ) , อารมณ์ก่อนตาย, บุคคลที่ เปลี่ยนแปลงชะตากรรมได้เวลาตาย คือ ​

คลิ๊กเพื่ออ่าน http://misfortune-relief.webs.com/shapter3.htm​

Shapter 4 ​

การปล่อยสัตว์แก้เคล็ดปรับดวง, คำอธิษฐานในการปล่อยสัตว์, คาถาปล่อยสัตว์, วิธีสะเดาะเคราะห์ การทำบุญรับอายุ, พิธีสะเดาะเคราะห์ และรับ - ส่ง พระเคราะห์ด้วยตนเอง, คาถาชุมนุมเทวดา, คำอัญเชิญเทพยดากลับสู่วิมาน, คำลาเครื่องสักการะ, คาถาบูชาพระเคราะห์เสวยอายุ, คำอธิษฐานขอพร, คำขอขมาโทษ (กรรมชั่ว) , คำอธิษฐานอโหสิกรรม ​

คลิ๊กเพื่ออ่าน http://misfortune-relief.webs.com/shapter4.htm​

Shapter 5
การทำบุญเสริมดวง, เมื่อตกทุกข์ได้ยากให้ปฏิบัติ ดังนี้, สิ่งของที่สามารถทำบุญถวายพระได้, มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ, บุญกุศลคืออริยทรัพย์, เลือกของใส่บาตร และบทสวดมนต์ตามวันเกิด, เสริมมงคลประจำวันเกิด, หลักการทำสังฆทาน สด (ของ พระราชสิงห์โห)​

คลิ๊กเพื่ออ่าน http://misfortune-relief.webs.com/shapter5.htm​

Shapter 6
การใช้ธูปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ถูกสี ถูกจำนวน และถูกกาลเทศะ, ปลูกต้นไม้มงคลเสริมดวงในทิศต่าง ๆ​

คลิ๊กเพื่ออ่าน http://misfortune-relief.webs.com/shapter6.htm​

จบบทความในหนังสือ "แก้กรรม ทำเองได้" ​

Shapter 7 ​

​

อานิสงส์ของการสวดพระพุทธคุณ บทสวดพาหุง - มหากาฯ ​

โดย .. พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ จิตธัมฺโม)​

คลิกเพื่ออ่าน http://misfortune-relief.webs.com/shapter7.htm​

ในการนี้ ข้าพเจ้าขอตั้งจิต ถึงบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลโลก รวมถึงองค์เทพ องค์พรหม ที่ปกปักรักษากายสังขาร และวิญญาณข้าพเจ้าอยู่ ​

วันนี้ ข้าพเจ้าตั้งจิตถวาย บทความในหนังสือ "แก้กรรม ทำเองได้" เป็นธรรมทานแก่เพื่อนมนุษย์ ​

ข้าพเจ้าขอถวายบุญกุศลนี้ แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ รวมถึงองค์เทพ องค์พรหมทั้งหลาย ให้มีพระบารมีมากขึ้น ​

ขอให้ทุก ๆ พระองค์ นำส่งบุญให้ข้าพเจ้าเจริญขึ้น ทั้งการงาน การเงิน และสมหวังในความรัก ขอให้ข้าพเจ้ามีเดช ปัญญา โภคะ ทุกภพทุกชาติ ​

และขออุทิศบุญกุศลนี้ ให้กับเจ้ากรรมนายเวรทุกภพทุกชาติ รวมถึง วิญญาณที่ตามมาทุกผู้ทุกคน ศัตรู หมู่มาร หรือหมู่พาล ทุกภพทุกชาติ ขอให้ได้รับมหากุศลนี้ ​

รับแล้ว ขอให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ให้ขาดจากกัน ณ บัดเดี๋ยวนี้ ​

บัดนี้ ขอให้ข้าพเจ้า มีบุญบารมีสูงขึ้น ๆ เต็มขึ้น เพื่อช่วยสังคมให้สูงขึ้น และสร้างคนให้เป็นพระต่อไป และให้เกิดปัญญาทางธรรม สมบูรณ์พูนผลทุกอย่าง ด้วยบุญที่ทำนี้เทอญ สาธุ .... ​

​

 

ขอบคุณครับ.....ที่นำความรู้ดีๆมาบอก ขอให้ท่านพนมกุเลนและครอบครัวมีความสุขความเจริญตลอดไปนะครับ

 

*** แก่นสารการกระทำ ****

เรื่อง สัจจะ...ปลดกิเลสนิสัยตนเอง
สัก ๑ ข้อ ท่านทำได้ไหม !!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ทำได้ฮะ..เอาข้อสำคัญเลยนะฮะ..กำจัดสันดานเดิมๆ(ที่ไม่ดี)

 

ทางสายผิด ออกแก่นธรรม

 

*** หลัก ๓ ประการ ในพุทธศาสนา ****

ศาสนาพุทธ มุ่งหลุดพ้นกิเลสตัณหาทั้งปวง
จึงมีแต่ตัด ไม่มีเพิ่ม

พระพุทธเจ้า ใช้ความจริง
ใช้สัจจะทำ ทำคำพยากรณ์ที่พูดไปให้เป็นความจริง...จึงไม่ใช้ความเห็น

พระพุทธเจ้า ไม่ใช้วัตถุ
เพราะกลัวที่จะต้องกลับมาเกิดเพื่อครอบครองวัตถุอีก
พระองค์จึง ไม่ใช้พิธีกรรม

ศาสนาพุทธ จึงมีหลักอยู่ ๓ ประการ
๑. ใช้ความจริง
๒. ไม่ใช้วัตถุ
๓. เป็นเรื่องกระทำกับจิตวิญญาณ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->

http://palungjit.org/threads/***-%E0%B8%9E-%E0%B8%A8-%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%95%E0%B9%94-%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B0-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%9D%E0%B9%88%E0%B8%9D%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%94-****.106457/page-7

 

***การปฏิบัติธรรม****

มีมากมายหลากหลายวิธี หลายอาจารย์
แต่สุดท้ายจะจบลงที่จิตใจตนเอง

เพราะหลักของศาสนาพุทธที่พระพุทธเจ้านำมา มี ๓ ประการ คือ
๑.ไม่ใช่วัตถุ พิธีการ
๒.ไม่ใช้ความเห็น (ใช้ความจริง สัจจะธรรม)
๓.ปฏิบัติด้านจิตใจ

ดังนั้น สถานที่ จึงไม่ใช่สิ่งสำคัญ พิธีการก็เช่นเดียวกัน
ความสำคัญจึงอยู่ที่ "ใจตนเอง" ว่าจะตั้งใจทำสิ่งที่ดีอะไรบ้าง ให้กับตนเอง ในแต่ละวัน
ซึ่งก็คือ "สัจจะ" สัญญากับใจตนเอง
เมื่อเกิดการกระทำขึ้นมา สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกัน คือ "ตัวกระทำ"
เป็นเหมือนถ่ายรูป ถ่ายภาพยนตร์ไว้ เก็บในกระเป๋าใบหนึ่งของตนเองที่เราจะต้องแบกติดตัวไปตลอดชั่วกัปชั่วกัลป์
และผลของตัวกระทำนี้ก็จะต้องตอบแทนตัวเราในอนาคต

สิ่งนี้ก็คือ "หลักสัจจะธรรม" ที่พระพุทธเจ้าค้นคว้าจนพบ
และนำมาสอนถ่ายทอดให้กับสาวกที่เชื่อและศรัทธา
สรุปเป็นหลักสัจจะธรรมสั้นๆ ว่า
"ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน"

จึงเป็นคำตอบของกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
พระองค์ท่านจึงมุ่งสอนให้ทุกคนเกิด "การกระทำใหม่"
หมายถึง การกระทำที่เกิดจากการตั้งใจหยุดนิสัยที่ไม่ดีของตนเอง
โดยตั้งใจทำให้ได้จริงในช่วงเวลากำหนดที่ชัดเจน
เพราะจะเกิด "ตัวกระทำ" ขึ้นมา ซึ่งจะเกิดผลตอบแทนที่ดีอย่างแน่นอนในอนาคต

ทั้งหมดนี้พระไตรปิฎกได้ "ย่อการปฏิบัติ" จนเหลือเพียง "สัจจะ"
ซึ่งคือพื้นฐานของการปฏิบัติทั้งมวล ทุกศาสนา
เพราะหัวข้อธรรม การให้ทำดี ละเว้นชั่วมีอย่างมากมาย
แต่ถ้าไม่มี "สัจจะ" ก็จะไม่สำเร็จ
หลอกคนอื่นได้ แต่หลอกตนเองไม่ได้

การปฏิบัติธรรมด้วย "สัจจะ" ไม่ใช่สิ่งใหม่
แต่อยู่คู่กับโลกมานานแล้ว เพียงแต่ปัจจุบันเวลาผ่านไปนานมาก
แก่นสารสำคัญนี้ จึงถูกบดบังด้วยความเชื่อ ความเห็นต่างๆ มากมาย
ให้สังเกตว่าพระที่ปฏิบัติได้จนบรรลุอรหันต์จะทราบเรื่องนี้ดี
แต่ด้วยเป็นสิ่งที่ขัดกับคำสั่งสอนในตำราปัจจุบันอย่างมาก
จึงไม่สามารถนำมาถ่ายทอดสอนใครได้
เพราะจะทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่สงฆ์ และประชาชนที่ศรัทธาในพุทธศาสนา
แต่ที่ข้าพระพุทธเจ้านำมาบอกเพราะเห็นว่าใกล้ถึงเวลาที่ "หลักสัจจะธรรม" จะถูกเปิดเผยต่อชาวโลก
และเห็นว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่สถานการณ์บ้านเมืองวิกฤติที่สุด และภัยพิบัติกึ่งพุทธกาลก็กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป
หาก "หลักสัจจะธรรม" ถูกเปิดเผย...
จะทำให้ "สัจจะ" ที่เป็นทางตรงในการปฏิบัติของการหลุดพ้น สามารถเข้าถึงจิตใจของคนไทยและชาวพุทธทั่วโลกได้ทันการณ์
ก่อนที่ "กรรม"...ใหญ่หลวงกำลังปรากฏขึ้นในอนาคต

- "หนุมาน ผู้นำสาร"
14-11-2006, 08:51 AM <!-- google_ad_section_end -->

 

ตามเข้าไปอ่านตามลิ้งค์แล้วครับ... ขอบคุณและขออนุโมทนา..
(อยากให้อ่านกันเยอะๆนะครับ อ่านด้วยใจ ..ไม่ต้องยึดว่าเป็นธรรมจากใคร? ยึดความจริงในธรรมนะครับ)

 

*** สัจจะ พบแล้วทำ ****

การปลดกิเลสนิสัยตนเอง
ไม่เสียชาติเกิด...

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ผมไม่มีวันยอมเสีย.. ชาติเกิด แน่นอน ครับ..กว่าจะได้เกิดอีก..
และไม่รู้ว่า จะได้เกิดเป็นอะไร? 55+

 

*** การดำเนินชีวิต ****

- ด้วย ตามใจ ตามนิสัย คามความคิด ตามความเห็น ตามความเชื่อ ตามอารมณ์ตนเอง...ไปวันๆ
- ด้วย สัจจะ เป็นผู้นำให้ทำ....วันละอย่าง วันละข้อ ทุกวัน

จะเอาแบบไหน ก็อยู่ที่ตนเองตัดสินใจ
เลือกทางเดินด้วยตนเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เลือกเรียบร้อยแล้วครับบ..55+ ขอบคุณท่านมาก.. ได้อะไรจากท่านเยอะทีเดียว
ท่านก็"ครู"คนนึงของผมในบอร์ดนี้..

 

น่าคิด เรื่องปล่อยเต่า

www.dhamma4u.com/index.php/2011-01-07-08-29-00/42-2010-03-12-06-41-35/434-2009-08-06-03-42-47.html

การปล่อยเต่านั้น

1 ท่านต้องรู้ว่าเต่าที่ท่านจะปล่อยนั้นคือ เต่าบกหรือเต่าน้ำ เพราะเต่าไม่ใช่สัตว์น้ำแต่เต่าเป็นสัตว์เลื้อยคลาน

เต่าบก ที่เท้าจะคล้ายๆเท้าช้าง ขายาว กระดองรูปร่างนูนขึ้นมากกว่าเต่าน้ำ

เต่าน้ำ เท้าจะแบน ขาสั้น เอาไว้ว่ายน้ำ

ถ้าปล่อยเต่าบกลงน้ำ เต่าจะจมน้ำตายได้ เพราะเต่าหายใจด้วยปอดเหมือนมนุษย์

2 สถานที่ปล่อย จะต้องเป็นบริเวณที่มีตลิ่ง เพื่อให้เต่าขึ้นมาพักผึ่งแดดได้ และน้ำไม่ไหลเชี่ยวจนเกินไป

การที่เต่าต้องขึ้นมาพักบนตลิ่ง เพราะเต่าต้องการพักหายใจ และพักเหนื่อย เพราะเต่าเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ไม่ใช้สัตว์น้ำจึงว่ายน้ำตลอดเวลาเหมือนปลาไม่ได้

เต่าต้องการผึ่งแดด เพื่อให้ปลิงที่ติดอยู่ตามตัวหลุดออก มิฉะนั้นเต่าอาจป่วยได้ และเต่าต้องอาศัยแสงแดด ในการสร้างวิตามินที่จำเป็นสำหรับร่างกาย

ดังนั้น การปล่อยเต่าน้ำ ลงในบริเวณที่ๆ ไม่มีตลิ่ง ให้เต่าขึ้นมาผึ่งแดด เช่น ตามคลองประปา ,บ่อน้ำในวัดที่มีการก่อคอนกรีดเป็นบล็อกสูงๆ คือการทำร้ายเต่าอย่างทารุนโหดร้ายมากๆ

แม้ว่าบางวัด หรือบางสถานที่จะมีการต่อแพ ให้เต่าขึ้นมาผึ่งแดดได้แต่นั่นไม่ใช่สถานที่อยู่ตามสภาพธรรมชาติที่แท้จริงของเต่า เปรียบเหมือนเราถูกจับไปขังคุก เขามีข้าวให้กินมี ที่ให้นอน แล้วเราชอบหรือไม่ ถ้าเราไม่ชอบเต่าก็เช่นเดียวกับเรา

3 สภาพน้ำบริเวณที่จะปล่อยต้อง ไม่สกปรก ถ่ายเทยาก และแออัด เช่น บ่อน้ำในวัดบวรฯ กทม. มีเต่าหลายตัวที่ชมรมรักษ์เต่า ได้ช่วยชีวิตขึ้นมาจากในวัดบวรฯ สถานที่ทำบุญของเรานี่แหละ

หลายตัวติดเชื้ออย่างรุนแรง กระดองแตก กระดองเปื่อยยุ่ยจนลึกเข้าไปถึงกระดูกเต่าชั้นใน หลายตัวมีเลือดจางมากต้องให้วิตามีนเพื่อการบำบัดฟื้นฟู บางตัวอาการโคม่าต้องให้น้ำเกลือกันเลย

หลายตัวสุขภาพอ่อนแอเพราะ มีปลิงเกาะอยู่ตามร่างกายเป็นจำนวนมาก สมาชิกชมรมรักษ์เต่า ต้องช่วยกันนำไปแช่น้ำเกลือ แล้งใช้ผ้าเช็ดออก

เต่าทุกตัวที่ชมรมรักษ์เต่า ช่วยมาได้นั้น จะนำไปบำบัดฟื้นฟูอีกที่ในสถาน
อนุบาลสัตว์น้ำที่ ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โดยมี รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ เป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อเต่าหายดี แล้วจะมีการนำไปปล่อย ยังที่ๆ เหมาะสมกับชนิดของเต่า เพราะเต่ามีแยกออกไปมากมายหลายชนิด

เช่น เต่านาต้องการอาศัยในที่ชื้นแฉะแบบในนาข้าว เป็นต้น ดังนั้น ถ้าคิดจะปล่อยเต่าต้องแน่ใจว่าเราปล่อยเต่าในสภาพที่เหมาะกับเค้าหรือไม่

โครงการคืนชีวิตเต่าสู่ธรรมชาติ


หากผู้มีจิตศรัทธาท่านใด อยากเข้ามามีส่วนช่วยทำบุญ สามารถติดต่อได้ที่
ชมรมรักษ์เต่า 02-699-3110-1

 

กรรมสามารถแก้ไขได้ด้วยเหรอครับ แม้แต่พระโมคคลานะ อัครสาวกท่านยังต้องชดใช้กรรม