คิดอย่างไรกับกรณีวิพากย์เชิงวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับเด็ก 10 ขวบตายแล้วฟื้น

ออกตัวก่อนว่า การถามนี้เป็นการถามเพราะความอยากรู้ และถามเพราะที่นี่เป็นบอร์ดศาสนาที่ใหญ่ที่สุด มีผู้มีความรู้มากมายหลายแบบ จึงคิดว่าน่าจะเป็นการถกปัญหากันอย่างสร้างสรรค์ได้ครับ

คือหลังจากที่ข่าวออกมาซักพัก ก็ได้มีการสัมภาษณ์หมอที่ทำการรักษา บวกกับการวิเคราะห์ของห้องหว้ากอในพันทิบ ทำให้ได้ข้อสรุปที่ส่วนใหญ่เชื่อว่า

1. เด็กยังไม่ตาย เรื่องนั้นเป็นสิ่งที่พ่อแม่เด็กเข้าใจไปเอง
2. สิ่งที่เด็กเห็น เป็นเพียงความฝันและจินตนาการของเด็กเอง บนพื้นฐานที่ว่าถูกปลูกฝังค่านิยมทางสังคมมา
3. นิ้วมือเด็กที่เน่านั่นไมใช่สัญลักษณ์ว่าเด็กตายไปแล้ว แต่เพราะเด็กเป็นโรค เลือดไม่ไปเลี้ยง อวัยวะจึงเน่า
4. ส่วนที่เด็กฟื้น เพราะร่างกายได้รับการพักผ่อน ให้ยาอย่างเพียงพอ เด็กจึงฟื้น

ข้อมูล

กระทู้ถกอันแรก - http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X10955649/X10955649.html

กระทู้ข้อสรุปที่สอง - http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X10957532/X10957532.html

กระทู้ถกอีกอันที่น่าสนใจ - http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L10954723/L10954723.html

"มีอะไรแปลก

มือเท้า เป็นแบบนั้น ก็จากขาดเลือดไปเลี้ยงนานมากๆ เกิด ischemic gangrene เดี๋ยวมันก็หลุดออกมา ไม่ก็ต้องตัดทิ้งอยู่ดี

ที่เห็นโน่น เห็นนี่ เป็น hallucination เวลามี cerebral hypoxia ธรรมดา สังเกตุได้ชัดว่า เรื่องราวที่พบจะเหมือนๆกันทุกราย และ ขึ้นกับรูปแบบความเชื่อของสังคมนั้นๆ เพราะมันเป็นความทรงจำลึกๆ

ตัวเย็น วัดความดันไม่ได้ ไม่ใดบอกว่าตายน้ะครับ ทางการแพทย์ก็ใช้เกณฑ์อื่น

แทนที่น่าดีใจ กลับน่าสงสารมากกว่า ไม่รู้รอดมาจะมี mental impairment แค่ไหน แล้วมือเท้าแบบนี้ แล้วโรคต้นตอจะมีอะไรอีกรึเปล่า "

เกณฑ์การวินิจฉัยสมองตาย - http://www.tmc.or.th/service_law03_2.php

คำสัมภาษณ์หมอผู้ทำการรักษา เกี่ยวกับการเข้าใจผิดของพ่อแม่เด็ก - http://hilight.kapook.com/view/61975

"ด้าน น.พ.วิเชาว์ กอจรัญจิตต์ นายแพทย์เชี่ยวชาญศัลยแพทย์หัวใจ ในฐานะแพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า หลังจากทำการผ่าตัดน้องจ่อยเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เด็กก็มีอาการทรุดลงอย่างมาก และระบบต่าง ๆ ของร่างกายเริ่มล้มเหลวต้องนอนในห้องไอซียูและอยู่ได้ด้วยยา และเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งตอนนั้นแพทย์ได้ แจ้งให้ญาติทำใจแล้ว แต่ขณะนั้น เด็กยังไม่เสียชีวิต ซึ่งญาติอาจจะเข้าใจผิดไป และภายหลังเด็กตอบสนองต่อยา จนอาการดีขึ้น และออกจากห้องไอซียูได้เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ก่อนจะออกจากโรงพยาบาลได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม และกลับไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ"

ประเด็นนี้ ทำให้มีข้อสงสัยเพิ่มเติมว่า

1. เพื่อน ๆ ห้องนี้ ในฐานะผู้นับถือพระพุทธศาสนา มีความคิดเห็นอย่างไรกับการถกแล้วได้ข้อสรุปที่บ่งบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่อภินิหาร เด็กไม่ได้ตาย สิ่งที่เด็กเห็นเป็นความฝัน?

2. ถ้าผลสรุปข้างบนเป็นแบบนั้น เป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้ที่เคยตายแล้วฟื้นคนอื่น ๆ โดยฟื้นแล้วเล่าถึงสิ่งที่เห็น อาจเป็นเพียงความฝันเหมือนกับบทสรุปของเด็กคนนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เค้าได้ไปมาจริง พบเห็นจริง

3. ถ้าผลสรุปข้างบนเป็นแบบนั้น เป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้ที่นั่งสมาธิแล้วเห็นอะไรที่พิศดาร อาจเป็นเพราะการทำงานของสมอง ไม่ใช่เพราะได้เห็นเช่นนั้นจริง

การถามของผมนั้น ไม่ได้มีเจตลบหลู่สิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้ เกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิด ภพภูมิ กฎแห่งกรรม ฯลฯ ผมเชือสิ่งที่พระองค์ท่านได้ตรัสรู้ แต่เป็นคำถามที่ว่า ถ้าการถกกันที่ผ่านมาได้ข้อสรุปแบบนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้วคนที่มีญาณ อภิญญาจริง ๆ นอกจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระผู้ปฏิบัติดีนั้น มีน้อยมาก และส่วนมากกลายเป็นเหมือนกรณีของเด็กคนนี้

ขอบคุณครับ

 

เรื่องของเค้า ไม่ใช่เรื่องของเรา ครับ

ใคร มีความเห็นผิด เพราะ อวิชา ก็ปล่อยไปตามกรรม พอตายไปแล้วเดี๋ยวพวกนี้ก็รู้เองครับ

 

พวกนับถือศาสนาวิทยาศาสตร์ก็ปล่อยเค้าไปเถอะค่ะ หุหุ พอหาคำอธิบายไม่ได้ก็แถไปเรื่อย เอาดีเข้าตัว ซะงั้น

 

ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่คุณปลาแมวกล่าวมาก็ถูกตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่ต้องไม่ลืมไปว่าชีพจรวัดไม่ได้นานกว่า 5 นาที หรือสมองขาดเลือดที่มีออกซิเจนไปเลี้ยงนานกว่า 5 นาที สมองจะตาย เด็กจะไม่สามารถพูดโต้ตอบหรือไปเรียนหนังสือรู้เรื่อง ผมเชื่อตามพระพุทธศาสนาครับ

.

 

ข้าน้อยเห็นด้วย...
คารวะ ๑ จอก

 

อยากรู้ต้องปฏิบัติเอง "สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลํา"

 

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล เคยกล่าวไว้ว่า....


“ที่เห็นนั้น เขาเห็นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็น ไม่จริง”

 

จากการสัมภาษณ์ของแพทย์เจ้าของไข้บอกว่า ให้พ่อแม่เตรียมใจ นั่นแสดงว่าเด็กคงจะไม่รอด แล้วจะให้พ่อแม่เข้าใจว่าอย่างไร
กรณีที่แพทย์บอกว่าพ่อแม่เข้าใจไปเองว่าเสียชีวิต แสดงว่าคำพูดของแพทย์ผู้นั้นไม่รับผิดชอบเลย