คำสอนสมเด็จองค์ปฐม...สอนเทวดา พรหม ให้ปฏิบัติเพื่อมุ่งสู่พระนิพพาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ลุงไชย, 30 มกราคม 2012.

  1. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    [​IMG]
    (ภาพจากห้องแกลอรี่ เวปพลังจิต)


    คำสอนสมเด็จองค์ปฐม


    เทศน์ที่”เทวสภา” วันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๓๕



    ...“ดูก่อนท่านทั้งหลาย ท่านที่มาประชุมทั้งหมด จะเป็นเทวดาก็ดี นางฟ้าก็ดี พรหมก็ดี ขอทุกท่านจงอย่าลืม ความตาย นั่นหมายถึงการจุติ ลืมความเป็นทิพย์เสีย อย่าเพลิดเพลินเกินไป อย่ามีความสุขเกินไป และมันจะทุกข์ทีหลัง จงดูภาพมนุษย์ว่ามนุษย์เมืองไหนบ้างที่น่าเกิด ดินแดนไหนที่มีความสุข ไม่มีการงาน เรามองไม่เห็นความสุขของมนุษย์ เมืองมนุษย์มีแต่ความทุกข์ ต้องประกอบกิจการงานทุกอย่าง ต้องกระทบกระทั่งกับอารมณ์ มีความปรารถนาไม่ค่อยจะสมหวัง ทุกอย่างต้องใช้แรงงาน

    แต่ว่ามาเป็นเทวดา มาเป็นนางฟ้า ทุกอย่างหมดสิ้น นั่นหมายถึงความไม่ต้องทำอะไรทั้งหมด ร่างกายอิ่มเป็นปกติ ร่างกายเยือกเย็นอบอุ่นไม่ต้องห่มผ้า และมีความปรารถนาสมหวัง ก็หมายความว่าถ้าจะไปทางไหน ก็สามารถลอยไปถึงที่นั่นได้ ทันทีทันใด ความป่วยไม่มี ความแก่ไม่มี ร่างกายไม่มีการเปลี่ยนแปลง ความเป็นทิพย์อย่างนี้ท่านทั้งหลายจงอย่ามัวเมา จงอย่ามีความเข้าใจผิดว่าเราจะอยู่ที่นี่ตลอดกาลตลอดสมัย

    ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะอายุของเทวดาก็ดี นางฟ้าก็ดี พรหมก็ดี มีอายุจำกัดตามบุญวาสนาบารมี ถ้าหมดบุญวาสนาบารมีก็ต้องจุติ คือตาย แต่ว่าท่านทั้งหลายจงอย่าลืมว่า เทวดาก็ดี นางฟ้าก็ดี พรหมก็ดี ที่นั่งอยู่ที่นี่ทั้งหมด แม้แต่จะเป็นพระอริยเจ้า ที่ท่านเป็นพระอริยเจ้าก็มาก จงอย่าลืมว่าทุกท่านยังมีบาปติดตัวอยู่ และมีการสะสมบาปมาเป็นชาติๆ ยังมีมากมาย”

    (พอพระพุทธเจ้าตรัสอย่างนี้ บรรดาท่านทั้งหลาย อาตมาก็ใช้กำลังใจดูร่างกายเทวดานางฟ้ากับพรหม เห็นเงาบาปอยู่ในหนามาก เป็นอันว่าทุกองค์ต่างองค์ต่างมีบาป แต่ก็มาเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหมได้ แล้วก็ดูตัวเองเวลานั้นร่างกายตัวเองก็เป็นทิพย์ บาปมันก็ท่วมท้นเหมือนกัน ต่อไปองค์สมเด็จพระควันต์ทรงตรัสว่า)

    “ภิกขเว... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย(เวลานั้นมีพระมาด้วยหลายองค์) และท่านทั้งหลายที่นั่งอยู่ที่นี่ทั้งหมด จงอย่าลืมว่าทุกท่านมีบาปติดตัวมามากมาย อาศัยบุญเล็กน้อยก่อนจะตาย จิตใจนึกถึงบุญก่อน จึงได้มาเกิดบนสวรรค์บ้าง มาเกิดบนพรหมบ้าง ถ้าหากว่าท่านจุติเมื่อไร โน่น... นรก! (ท่านชี้มือลงเห็นนรกไฟสว่างจ้าแดงฉานไปหมด) ท่านทั้งหลายจะต้องพุ่งหลาวลงนรก เพราะใช้กฎของกรรม คือ บาป ชำระหนี้บาป กว่าจะมาเป็นคนก็นานหนักหนา และมาเป็นคนแล้วก็ไม่แน่ว่าจะได้กลับมาเป็นเทวดา นางฟ้าหรือพรหมใหม่

    ทั้งนี้เพราะอะไร ก็เพราะว่าเป็นคนอาจจะทำบาปใหม่ อาจลงนรกไปใหม่ก็ได้ ฉะนั้นเมื่อท่านทั้งหลายมาถึงที่นี่ มาอยู่สวรรค์ก็ดี พรหมโลกก็ดี เป็นทางครึ่งหนึ่งของพระนิพพาน ระหว่างมนุษย์กับนิพพาน เป็นอันว่าท่านทั้งหลายได้ครึ่งทาง การมาได้ครึ่งทางของท่าน ท่านทั้งหลายจงดูนั้น....นิพพาน!”

    (ท่านก็ยกมือชี้ให้ดูนิพพาน เวลานั้นเทวดา นางฟ้า กับพรหมทั้งหมดอาตมาก็เหมือนกัน เห็นพระนิพพานไสวสว่างจ้า มีวิมานสีเดียวกัน คือ สีแก้วแพรวพราวเป็นระยับ เป็นแก้วสีขาว พระอรหันต์ทั้งหลายที่อยู่ที่นั่นมีความสุขขนาดไหน มีความเข้าใจหมด รู้หมดเห็นหมด แล้วองค์สมเด็จพระบรมสุคต ก็ทรงกลับมาพูดกับเทวดากับนางฟ้าใหม่ว่า)

    “ท่านทั้งหลายจงหวังตั้งใจคิดว่า ถ้าการจุติมีคราวนี้ ถ้าบุญวาสนาบารมีของเรานี้สิ้นสุดลง เราจะไม่ไปเกิดเป็นมนุษย์ เราจะไม่ไปเกิดเป็นเทวดา เราจะไม่ไปเกิดเป็นนางฟ้า เราจะไม่ไปเกิดเป็นพรหม เราต้องการไปพระนิพพานจุดเดียว และการไปนิพพานนี่ ท่านทั้งหลายต้องยึด อารมณ์พระนิพพาน เป็นสำคัญ สำหรับพรหมก็ดี เทวดา นางฟ้าเก่าๆ ก็ดี อาตมาไม่หนักใจ ทั้งนี้เพราะมีความเข้าใจดีแล้ว (ก็แสดงว่าพรหม เทวดา นางฟ้าเก่าๆ เป็นพระอริยะเจ้ามาก)

    ที่มีความเป็นห่วงก็เป็นห่วงนางฟ้าใหม่ๆ ที่มาเกิดใหม่ๆ จะหลงความเป็นทิพย์ นั่นหมายความว่า จะมีความเพลิดเพลินในความเป็นทิพย์ ยังมีความเห็นที่ผิด จงคิดตามนี้เพื่อพระนิพพาน นั่นคือ จงมีความรู้สึกว่า เราจะต้องจุติวันนี้ไว้เสมอ และอาการของชีวิตนี้เป็นของที่ไม่แน่นอน เราจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ ความตายเป็นของไม่เที่ยง ความเป็นอยู่เป็นของไม่เที่ยง

    เมื่อคิดอย่างนี้แล้วทุกท่านจงอย่าประมาท จงใช้ปัญญาพิจารณาความดีของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ว่าท่านทั้งหลายควรจะเคารพไหม ถ้าจิตใจของท่านมีความเคารพในพระพุทธเจ้า ในพระธรรม ในพระอริยสงฆ์ ก็เป็นอาการขั้นที่สองที่ท่านจะไปนิพพานได้

    หลังจากนั้น ขอท่านทั้งหลายจงทรงศีลให้บริสุทธิ์ จะเป็นศีล ๕ ก็ตาม ศีล ๘ ก็ตาม กรรมบถ ๑๐ ก็ตาม ศีล ๑๐ ก็ตาม ศีล ๒๒๗ ก็ตาม” (พอท่านพูดถึงศีล ๒๒๗ ก็คิดในใจว่าเทวดาจะไปบวชที่ไหน องค์สมเด็จพระจอมไตรก็หันหน้ามาตรัสว่า)

    “ฤาษี... เทวดาเขาไม่ต้องบวช อย่างเทวดาชั้นยามาก็ดี ชั้นดุสิตก็ดี อย่างนี้เขามีศีลครบถ้วนบริบูรณ์ทั้ง ๒๒๗ เหมือนกับความเป็นพระ พรหมก็เช่นเดียวกันทุกท่านอยู่ด้วยธรรมปิติ ทุกท่านอยู่ด้วยความสุข เขาไม่อาบัติ สิ่งที่จะเป็นอาบัติไม่มี สิ่งที่จะเป็นบาปไม่มี” (แล้วท่านก็หันหน้าไปพูดกับนางฟ้ากับพรหมว่า)

    “ขอทุกท่านจงอย่าลืมคิด ว่าเราจะเป็นผู้มีศีล ให้ตั้งเฉพาะศีล ๕ ก็ดี ศีล ๘ ก็ได้ ศีล ๑๐ ก็ได้ กรรมบถ ๑๐ ก็ได้ ศีล ๒๒๗ ก็ได้ ตั้งใจไว้ว่าเราจะไม่ละเมิดศีล หลังจากนั้นจึงมีจิตใช้ปัญญาคิดว่า การเกิดเป็นเทวดาก็ดี เป็นนางฟ้าก็ดี เป็นพรหมก็ดี มีสภาพไม่เที่ยง จะต้องมีการจุติเป็นวาระสุดท้าย ในเมื่อเราจะต้องจุติ เราจะไม่ยอมลงอบายภูมิ เราจะไม่เกิดเป็นมนุษย์

    ท่านทั้งหลาย จงดูภาพของมนุษย์(แล้วพระองค์ก็ชี้มาที่เมืองมนุษย์) มนุษย์เต็มไปด้วยความวุ่นวาย มนุษย์เต็มไปด้วยความโสโครก มนุษย์มีความหิวมีความกระหาย มีความอยาก มีความต้องการไม่สิ้นสุด สิ่งทั้งหลายที่ก่อสร้างขึ้นมาแล้ว จะเป็นทรัพย์สินยังไงก็ตาม ในเมื่อเราตายจากความเป็นมนุษย์เราก็หมดสิทธิ์ ...ฯลฯ... ความไม่แน่นอนของความเป็นมนุษย์มันก็เป็นอย่างนี้ ถ้าเกิดเป็นคนก็ต้องหยุด ต้องเดินไปเดินมา ทำกิจการงานทั้งวัน เพราะมีความจำเป็นต้องหาเงิน(ในเมื่อท่านตรัสอย่างนี้แล้วก็บอกว่า)

    จงอย่าคิดเป็นมนุษย์ต่อไป ตัดความเป็นมนุษย์เสีย เลิกความหมายความเป็นมนุษย์ เห็นว่าโลกมนุษย์เป็นทุกข์ มนุษย์มีสภาพไม่เที่ยง ไม่มีการทรงตัวมีความเกิดขึ้นและมีความเปลี่ยนแปลง มีความแก่ มีความป่วย ในการพลัดพรากจากของรักของชอบใจ มีความตายในที่สุด และจงอย่าอยากเป็นเทวดา อยากเป็นนางฟ้า เป็นพรหมต่อไป เพราะเทวดา นางฟ้า พรหมก็มีสภาพไม่เที่ยงเหมือนกัน

    เมื่อมีความเกิดเป็นเบื้องต้น ก็มีความเปลี่ยนแปลงไปธรรมดา ก็มีความจุติไปในที่สุด ทุกคนหวังนิพพานเป็นที่ไป ตั้งใจไว้เสมอว่าเราจะเป็นผู้มีศีล เราจะนับถือพระไตรสรณคมณ์คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ แล้ะก็เราจะต้องจุติในวันหน้า ตถาคตมีความรู้สึกว่า ท่านทั้งหลายที่เป็นเทวดา นางฟ้า พรหมเก่าๆ มีความเข้าใจดีแล้ว (คำว่า “เข้าใจ” บรรดาท่านพุทธบริษัท หมายถึงว่า เขาปฏิบัติได้นี่คือ อารมณ์พระโสดาบันกับอารมณ์พระอรหันต์)

    สำหรับเทวดา นางฟ้า และพรหมใหม่ๆ จงตั้งใจไว้เสมอว่า จงลืมความเป็นทิพย์เสียอย่าเพลิดเพลินเกินไป อย่ามีความสุขเกินไป และมันจะทุกข์ทีหลัง ตั้งใจคิดว่า ความสุขที่ได้มานี่ เราได้มาจากบุญเล็กน้อยเท่านั้น และบาปใหญ่ที่ขังอยู่ที่ตัวของเรายังมีอยู่ ถ้าเราเผลอไม่สร้างความดี ในที่สุดเมื่อจุติความเป็นเทวดาหรือพรหมในภพนี้แล้ว ทุกคนจะต้องลงอบายภูมิ

    จงดูภาพนรก ว่ามีขุมไหนบ้างที่น่าอยู่น่ารัก มันไม่น่าอยู่ไม่น่าเกิด ดินแดนไหนที่มีความสุขไม่มีการงาน เรามองไม่เห็นความสุขของมนุษย์ และก็ดูเทวดานางฟ้า กับพรหม มนุษย์ที่เกลื่อนกล่นทุกคนอยู่ในเมืองมนุษย์ เคยเป็นเทวดา เคยเป็นนางฟ้า เคยเป็นพรหมมาแล้ว แต่ว่าท่านทั้งหลายจงตั้งใจเฉพาะนิพพาน จงดูภาพพระนิพพานให้ชัดแจนแจ่มใสว่า ดินแดนพระนิพพานไม่มีที่สิ้นสุด..” (เมื่อพระองค์ตรัสเพียงเท่านี้พระองค์ก็จบ)

    ...........................................................................................................................

    คัดลอกมาจาก หนังสือใครจะใหญ่เกินกรรม(วัดถ้ำเมืองนะ) หน้า ๓-๗
    (โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เมตตาเล่าให้ลูกหลานฟัง เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๓๕ เวลา ๒๑.๐๐ น.)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 มกราคม 2012
  2. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    กราบอนุโมทนา สาธุ ๆ
    กับท่านที่ได้นำพระธรรมที่ได้นำมาเผยแพร่ด้วย
    เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา
    เพื่อเข้าสู่พระนิพพานด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
     
  3. wainkam

    wainkam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    757
    ค่าพลัง:
    +881
    กราบอนุโมทนาสาธุครับ เกิดเป็นคนยากที่จะพอ แค่กินบอกว่าพอแล้วๆมื้อนี้ มื้อหน้าก็ต้องกินอยู่ดี T_T
     
  4. skyroad

    skyroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +259
    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ ขอบคุณค่ะ ^^ อ่านแล้วได้ข้อคิดให้ไม่ประมาทได้ดีมากเลยค่ะ
     
  5. chayapin

    chayapin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,115
    กราบ บูชา องค์สมเด็จพระปฐม

    กราบอนุโมทนาสาธุ ในพระมหาเมตตาเปี่ยมล้นที่สมเด็จองค์ปฐมทรงมี
    เมตตาต่อสรรพสัตว์ที่ยังเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฎ อย่างมิ

    รู้เหน็ดเหนี่อย ลูกขอน้อมนำคำสั่งสอน มาใช้ในชีวิตที่ยังเหลืออยู่ เพื่อ

    ทรงอารมณ์พระนิพพานค่ะ
     
  6. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่านเพื่อเป็นธรรมทาน

    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่www.tangnipparn.com<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา

    [​IMG]</O:p>
     
  7. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,040
    ฝันว่า พระพุทธเจ้าพระนามว่า สมเด็จพระสมณโคดม พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ผู้ซึ่งพระองค์บำเพ็ญบารมี มานาน 4 อสงไขยซึ่งศาสนาของพระองค์ นั้นมีกำหนดอายุพระศาสนาของพระองค์ 5,000 ปี และเมื่อสิ้นศาสนาของพระองค์แล้วพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ก็คือสมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรย ผู้ซึ่งพระองค์ทรงบำเพ็ญบารมีมานาน 8 อสงไขย บำเพ็ญบารมีมามากกว่า 2 เท่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในลำดับต่อไป แต่ในความฝันฝันไปว่า สมเด็จพระสมณโคดม พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ได้ทรงสละเวลาที่เหลือในศาสนาของพระองค์ ให้กับศาสนาของสมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรย และได้ส่งมอบศาสนาเปลี่ยนพระพุทธเจ้าเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันจึงถือได้ว่าเป็นต้นยุคของพระศรีอาริยเมตไตรย จากนั้นสะดุ้งตื่นขึ้นมา เข้าห้องพระ พบหนังสือธรรมมะ แจกฟรีเล่มหนึ่งชื่อว่าหนังสืออินตก เปิดเข้าในข้างในแทบผงะ พบข้อความหน้าที่ 14 พูดถึงคำทำนายของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี ) ดังนี้
    รัชกาลที่ 1 มหากาฬ รัชกาลที่ 2ฌานยักษ์ รัชกาลที่ 3 รักมิตร รัชกาลที่ 4 สนิทธรรม รัชกาลที่ 5 จำแขนขาด รัชกาลที่ 6 ราชโจร รัชกาลที่ 7 ชนร้อนทุกข์ รัชกาลที่ 8 ยุคทมิฬ รัชกาลที่ 9 ถิ่นกาขาว
    รัชกาลที่ 10 ชาววิไล (จะเหลือเฉพาะผู้มีบุญเท่านั้นที่รอด เป็นยุคของพระศรีอาริยเมตไตรย ) [www.marateebook.com]
     
  8. ชยากรณ์

    ชยากรณ์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +2
    กราบอนุโมทนา สาธุ
    ขอน้อมรับคำสั่งสอนเดินตามรอยเข้าถึงพระนิพพาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...