คำว่า "ตัดกรรม" ผิดถูกอย่างไร

คำว่า "ตัดกรรม" ผิดถูกอย่างไร

ถ้าเราใช้วิธีตัดกรรม จะเป็นวิธีของมาร เพราะว่าเราไม่ใช่การตัดกรรม เราเจรจากรรม แล้วจะถามว่ามีวิธีตัดกรรมใหม? มี นั่นเราเจรจาเสร็จแล้ว เขายินยอม จึงจะเป็นการตัดกรรม

สรุปเลย เราต้องเจรจา เราไม่พลการ ยินยอมแล้วจะเอาวิธีไหนก็สุดแล้วแต่จะตกลง เช่น เอาละ กูยอมรับกุศล ถ้ามึงทำกุศลให้กูตรงนี้แล้วกูจะอโหสิให้ อโหสิก็คือไปตัดกรรม เพราะว่าฟังแล้วเข้าใจง่าย แต่ถ้าหากว่า ตามหลักการแล้ว เรียกว่า เขาอโหสิแล้ว คืินสู่ธรรมทั้งหมด

ที่เราไปตัดกรรม เราตัดกรรมก็คืนสู่ธรรม ที่ว่าตัดกรรม นั่นคือ เขาอโหสิกรรมแล้ว คือเจรจาแล้วเขายอม สมมติว่า เจรจาติดเงินเขา ๕๐๐ บาท เวลานี้เราไม่มีเราให้ข้าวสารเขาสองถุง เขายินดีล่ะ อย่างนี้เคลียร์แล้ว นี่แหละตัดกรรมล่ะ คืออโหสิกรรมต่อกัน ไม่ต้องมีวิบากต่อกัน

เราจะเคลียร์กรรมได้ เราต้องรู้จักจาคะ ถ้าไม่จาคะก็ไม่อโหสิกรรมต่อกันได้

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=prommasit&month=05-2019&date=22&group=15&gblog=2

^_^ ..._/_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา

อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต

 

ถ้าว่าตามกฏฟิสิกส์(ฟิสิกส์ หมายถึง ธรรมชาติ) พลังงาน จะไม่เพิ่ม ไม่สลาย มีเพียงเปลี่ยนปลงรูปแบบ และที่อยู่เท่านั้น
สมมติ เขาค้างเรา ห้าร้อย เขาไม่มีคืน แต่ให้ข้าวสาร สองถุง ราคารวม สามร้อย
เรารับไว้ แล้วอโหสิให้เขา (การให้อภัย,อโหสิ คือ การให้เซ็น ให้ติด ไว้ก่อน/ยืดเวลาชำระ)
เราได้กลับ สามร้อย เขายังค้างอีกสองร้อยตามความจริง และ การ อโหสิกรรม สามารถแปลงสองร้อยนั้นได้เช่นกัน เหมือนการที่เขาจ่ายคืนเป็นข้าวสาร โดยที่ส่วนต่างสองร้อยนั้น เขาอาจจ่ายกับคนอื่นได้ หรือ แม้แต่การซื้อของ รวมถึงอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล (บุญกุศล คือ พลังงานบวกสะสม ของใครของมัน) ซึ่งเราสามารถรับคืน ทั้งรับจากจ่ายสด/ผ่อน ได้ ตามจังหวะและโอกาส อาจจะผ่านมือผู้มาถึงเรา และรูปแบบอื่นๆอย่างหลากหลายรูปแบบ บ่อยไปที่คนเราได้รับคืนโดยไม่รู้ตัว เช่นมาในรูปแบบ โชค ลาภ ก็ได้เช่นกัน
#กฏฟิสิกส์(กฏธรรมชาติ) พลังงานไม่ เพิ่ม/ลด หากมีเพียงการแปลงสภาพ(รูปแบบ)/เปลี่ยนถ่ายที่อยู่เท่านั้น

 

ถาม : การนั่งกรรมฐานนี้ตัดกรรมได้จริงไหมครับ ?
ตอบ : ตัดได้จริง แต่ไม่ใช่ว่ากระแสกรรมนั้นขาดสิ้นไปเลย

เกิดจากเราได้สร้างสิ่งที่เป็นบุญกุศลในภาวนามัยอย่างแรงกล้าขึ้นมา ทำให้เราหนีห่างจากกรรมนั้นได้ชั่วคราว ถ้าหากว่าตัวบุญนั้นขาดช่วงลง กรรมก็ตามทันอีก

ดังนั้น..ถ้าจะตัดกันจริง ๆ ก็ต้องปฏิบัติให้ต่อเนื่อง อย่าหยุด..!


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔

 

"เกิดจากเราได้สร้างสิ่งที่เป็นบุญกุศลในภาวนามัยอย่างแรงกล้าขึ้นมา ทำให้เราหนีห่างจากกรรมนั้นได้ชั่วคราว ถ้าหากว่าตัวบุญนั้นขาดช่วงลง กรรมก็ตามทันอีก"

จริงๆ ถ้าจ่ายแก่เจ้าหนี้อย่างเหมาะสม ก็คือตัดกรรมเลยนะ
ไม่ใช่การหนีห่างจากกรรมได้ชั่วคราว กรณีดังกล่าว มันเท่ากับเราจ่ายแต่ดอก
ถ้าเคลียร์ต้นกับดอกหมด ก็คือจบ เพราะงั้นภาวนามันไม่พอ
อย่างที่ผมบอกไว้ข้างบน ว่าสามารถแลกเปลี่ยนถ่ายโอนได้หลายกรณี เหมือนเงินตราค่าเงินที่มีเยอะเแยะ ไหนจะเงินดิจิตอลอีก ก็แค่เพียงเลือกจ่ายให้เหมาะสม หรือไม่ก็ให้เกินที่ติดตามความเป็นจริง ก็จะเปลี่ยนให้เจ้าหนี้ กลายเป็นลูกหนี้ได้เช่นกันครับ แต่บางทีอย่างที่ว่ามันหยาบไป และต้องลงทุนลงแรงสร้างพอสมควร(สำหรับบางกลุ่ม) ใช้ความจริงใจ รำลึก สำนึก ขอขมาลาโทษ+อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล+ภาวนาอย่างเหมาะสมก็พอแล้ว