คาถาป้องกันภัยพิบัติ

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 14 กรกฎาคม 2016.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172
    [​IMG]คาถาป้องกันภัยพิบัติ
    .......................
    ✨ พระอาจารย์กล่าวว่า "ในการพุทธาภิเษกช่วงเช้าที่ผ่านมา กับการเป่ายันต์เกราะเพชรรอบเช้าตอนสิบโมง อาตมาเองก็ยังหนักใจอยู่ว่า พระท่านบอกว่าภัยธรรมชาติที่หนักๆ นั้นจะเริ่มเข้ามาในประเทศไทยของเรา โดยเฉพาะปีนี้เรื่องน้ำจะมาหนัก ส่วนที่จะโดนมากก็จะเป็นปักษ์ใต้

    งานพุทธาภิเษกพระขุนแผนเกราะเพชรและเหรียญพุทธบารมีงวดนี้ ปกติในการพุทธาภิเษกแต่ละครั้งก็จะมีคาถาเฉพาะที่ท่านให้ภาวนา อาตมาศึกษาคาถาการทำขุนแผนมาจากสายหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ปรากฏว่าพอเริ่มภาวนาท่านบอกว่าไม่ต้อง ให้ภาวนาพระคาถาบารมี ๓๐ ทัศ ต่อด้วยนะโมพุทธายะ อธิษฐานภาพพระครอบตัวเราไว้ทุกวัน หรือว่าครอบบ้านของเราเอาไว้ทุกวัน ครอบคนที่เรารักเอาไว้ทุกวัน เพื่อป้องกันอันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอันตรายจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม เป็นต้น ดังนั้น ใครที่ใช้วัตถุมงคลทางสายวัดท่าซุง หรือสายวัดท่าขนุนนี้ก็ตาม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ให้ภาวนาพระคาถาบารมี ๓๐ ทัศ ต่อด้วยนะโมพุทธายะให้เป็นปกติ

    ✨ เรื่องของกองกรรมฐานต่างๆ เราทำตามปกติของเรา พออารมณ์ใจทรงตัวแล้วก็มาจับภาวนาคาถาทั้งสองบทนี้ต่อเนื่องกันไป เพื่อที่จะได้บรรเทากรรมใหญ่ของประเทศชาติและตัวเอง สิ่งที่โดนหนักก็จะได้เป็นเบา สิ่งที่เบาจะได้เป็นหาย โดยเฉพาะบ้านเราเมืองเราซึ่งอยู่ได้ด้วยบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันพระองค์ท่านก็ทรงพระประชวร รักษาพระองค์อยู่ในโรงพยาบาลมาโดยตลอด แล้วพระองค์ท่านก็อายุกาลผ่านวัยถึง ๘๙ พรรษาแล้ว ซึ่งถ้าหากว่า ว่ากันตามแบบของโบราณหรือพูดกันแบบคนทั่วไปก็คือไม่รู้จะตายวันตายพรุ่งเมื่อไร

    ปัจจุบันนี้หลายสิ่งหลายอย่างที่ดีอยู่คงอยู่ เป็นไปด้วยบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ถ้าหากว่าสิ้นพระองค์ท่านเมื่อไร เขาไม่มีอะไรต้องเกรงใจ สิ่งที่เคยโดนกดเอาไว้อย่างเช่นภัยธรรมชาติต่างๆ ก็ดี ภัยสงครามก็ตาม อาจจะประดังหนักมาทีเดียว จึงเป็นเรื่องที่น่าหนักใจมาก อาตมาเองก็กล่าวเตือนญาติโยมได้แค่นี้ ไม่สามารถจะบอกอะไรชัดเจนไปกว่านี้ได้ จึงเป็นเรื่องที่ญาติโยมจะต้องรักษาตัวเอง ด้วยการภาวนารักษากำลังใจของเราให้ดี เพื่อได้ผ่อนกรรมของตัวเราและคนในครอบครัวของเราให้เบาลง เพราะว่าเรื่องของกรรมนั้นเราไม่สามารถที่จะสะเดาะเคราะห์แก้ไขได้ แต่ว่ากรรมนั้นเหมือนอย่างกับน้ำเค็ม ถ้าหากว่ามีน้ำเค็มอยู่แก้วหนึ่ง เราไม่สามารถจะดื่มได้เพราะน้ำนั้นเค็มมาก แต่ถ้าเราสร้างความดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เคราะห์กรรมนั้นก็เหมือนกับถูกเติมด้วยน้ำจืดไปเรื่อย ท้ายสุดเมื่อเติมน้ำจืดมากๆ เข้า น้ำเค็มไม่ได้ไปไหนแต่รสชาติไม่มี ดังนั้น ในเรื่องของการแก้ไขกรรมจึงจำเป็นต้องปฏิบัติในทาน ศีล ภาวนาให้เข้มข้น โดยเฉพาะตัวภาวนาที่เป็นบุญใหญ่สุดในพระพุทธศาสนาของเรา จะได้ผ่อนคลายบรรเทากรรมของประเทศชาติและตัวเรา ตลอดจนครอบครัวให้เบาลง

    ✨ ถามว่าทำไมถึงต้องเป็นกรรมของคนส่วนรวมทั้งประเทศ ก็เพราะว่าในอดีตชาติ หลายๆ ชาติ ในสมัยที่ยังนิยมการเผยแผ่พระราชอำนาจด้วยการทำศึก ทำสงครามกับประเทศอื่น พวกเราก็เคยไปปล้นบ้านตีเมืองคนอื่นเขามา เมื่อถึงเวลากรรมส่วนนี้มาทัน ทรัพย์สินตลอดชีวิตของเราก็จะโดนทำลายด้วยภัยธรรมชาติพร้อมๆ กัน เนื่องจากรวมหัวไปทำเป็นจำนวนมากก็โดนด้วยกันพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เป็นต้น

    เพียงแต่ว่าถ้าผู้ใดมีความมั่นคงอยู่ในพระพุทธศาสนา มีการภาวนาไว้เป็นปกติ ก็ต้องเอาคำพูดของครูบาอาจารย์ที่อาตมาเคารพรักยิ่งมาตั้งแต่เด็กองค์หนึ่ง ก็คือหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อเงินท่านบอกว่า ถ้ากำลังใจเราภาวนาได้สูงสุด ปืนยิงไม่ออก ถ้ากำลังใจลดต่ำลงมานิดนึง ปืนยิงออกก็ไม่ถูก ถ้ากำลังใจต่ำลงมาอีกนิดนึง ปืนยิงถูกก็ไม่เข้า ก็แปลว่าการอยู่ยงคงกระพันนั้นความจริงแล้วเป็นกำลังใจที่ใช้ไม่ได้ซะด้วยซ้ำไป ถ้าหากว่ากำลังใจแย่กว่านั้นโดนยิงเข้าก็ไม่ตาย เพราะบุญยังรักษาเราอยู่ ท้ายที่สุดถ้าเคราะห์กรรมหนักหลีกเลี่ยงไม่ได้ถึงโดนยิงตาย ก็ยังไปสุคติ มีโลกสวรรค์เป็นต้น เพราะกำลังใจของเราเกาะความดีในการภาวนา

    ✨ ดังนั้น ในเรื่องภัยธรรมชาติต่างๆ ที่พระท่านกล่าวเตือนมาก็ดี อาตมานำมาบอกเล่าเพิ่มเติมก็ดี จำเป็นที่ท่านทั้งหลายต้องช่วยตัวเองและครอบครัวตลอดจนประเทศชาติ ด้วยการภาวนาไว้ให้เป็นปกติ ถ้าใครไม่รู้จักพระคาถาบารมี ๓๐ ทัศ ให้ลูกหลานที่เข้าอินเตอร์เน็ตเป็นไปเสิร์ซดู จะได้ตัวพระคาถามาเอง อาตมาจะบอกตรงนี้ให้ฟัง แต่คาดว่าคงจะจดจำไม่ได้ถ้าไม่เคยภาวนามาก่อน คาถามีว่า อิติปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา อิติโพธิมะนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม แล้วต่อด้วยนะโมพุทธายะ ภาวนาติดเป็นบทเดียวกันไป ทำอย่างนี้ไว้ทุกวัน อธิษฐานภาพพระให้ครอบตัวของเราหรือครอบครัวของเราหรือบ้านของเราเอาไว้ จะได้ผ่อนกรรมหนักให้เป็นกรรมเบาลง ก็แปลว่าท่านทั้งหลายจะต้องใช้อัตตาหิ อัตโนนาโถ คือ ตนเป็นที่พึ่งของตน

    ในเรื่องของกรรมนั้น ไม่ว่าพระ หรือพรหม หรือเทวดาก็ตาม ท่านจะช่วยได้ไม่เกินกฎของกรรมเท่านั้น ถ้าดูตัวอย่างพระโมคคัลลานะ อัครสาวกเบื้องซ้ายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอดีตเคยทุบตีพ่อแม่ตนเองจนถึงแก่ความตาย พอมาในชาติปัจจุบันแม้พระองค์ท่านเป็นพระอรหันต์แล้ว ก็ยังโดนโจรที่พวกเดียรถีย์จ้างมาฆ่า ทุบจนกระดูกป่นเท่าเม็ดข้าวสาร ในตำราว่าถ้าหากว่าจับปลายเท้ายกขึ้นกระดูกทั้งหมดจะไหลไปรวมกันที่ศีรษะ ถ้าจับด้านศีรษะยกขึ้นกระดูกทั้งหมดจะไหลไปรวมกันทางปลายเท้า แสดงว่าหนังเหนียวเป็นพิเศษแต่ว่าไม่สามารถจะทนความหนักได้จึงโดนเขาทุบตาย นั่นระดับพระอรหันต์ผู้เลิศด้วยอภิญญาก็หนีกรรมไม่พ้น

    ✨ ดังนั้น ในส่วนของพวกเราจำเป็นต้องพึ่งบารมีพระ เกาะพระไว้ทุกวันให้เป็นปกติ ถ้าสามารถเกาะได้ทุกลมหายใจเข้าออกทั้งวันทั้งคืนยิ่งดี เพราะภัยธรรมชาติทั้งหลายเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าจะมาถึงตัวเราเมื่อไร ถ้าเราช่วยกันบำเพ็ญภาวนา กระแสความดีมีมากพอก็ต้านให้มาช้าลง หรือไม่ก็ผ่อนหนักเป็นเบา แต่ถ้าหากว่ากำลังไม่พอโดนไปเต็มๆ ตามเวรตามกรรมที่เราสร้างเอาไว้ ถ้าเป็นท่านที่ไม่มีการบำเพ็ญภาวนาเลยก็อาจจะถึงแก่ชีวิต ทรัพย์สินสูญหายหมด คนในครอบครัวอาจจะเสียชีวิตทั้งหมด เป็นต้น ดังนั้น เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราต้องทำเพื่อตัวเราเอง ถ้าเราทำเพื่อตัวเราเองคือเราทำเพื่อครอบครัว ถ้าทุกครอบครัวช่วยกันทำก็จะเป็นการทำเพื่อประเทศชาติ"
    ⭐️ งานบวงสรวงพุทธาภิเษก เป่ายันต์เกราะเพชร ณ วัดท่าขนุน วันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ช่วงบ่าย นาที่ที่ ๕๖.๐๕
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...