คาถาชินบัญชร ....ความศักดิ์สิทธิ์ของคาถานั้น ขึ้นอยู่กับสมาธิจิตของผู้ท่องบ่น ๕. คาถาชินบัญชร รากศัพท์ของคำว่า "คาถา" มาจากภาษาบาลีว่า ”กถา” แปลว่า ”วาจาเป็นเครื่องกล่าว” ดังนั้น...คำพูดของคนเราทุกคำก็คือคาถาทั้งสิ้น แต่คาถาในความเข้าใจของทุกคน ไม่ใช่ความหมายเช่นนั้น... คาถาที่เรารู้จัก คือถ้อยคำอันศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถแสดงผลอันวิเศษแก่ผู้ที่ยึดถือท่องบ่น ในบรรดาคาถาที่ท่านผู้รู้ผูกขึ้นมานั้น คาถาชินบัญชร ของ สมเด็จพุฒาจารย์ หรือ หลวงพ่อโต วัดระฆัง นับว่าแพร่หลายที่สุด... คาถา ชินบัญชรนี้เพียบพร้อมไปด้วยอรรถและฉันทลักษณ์ ทั้งยังคงความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ยิ่ง พระเครื่องสมเด็จวัดระฆังที่ลือลั่นสนั่นเมือง ก็ปลุกเสกด้วยคาถานี้เอง... แต่ว่า...คาถาชินบัญชรนี้ ก็ยังมีแปลกแตกต่างไปหลายฉบับ บางฉบับก็เพิ่มมาหนึ่งบทบางฉบับก็หดหายไปสองบรรทัด คาถาบางตัวก็ผิดเพี้ยนกันไป แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร... ความ ศักดิ์สิทธิ์ของคาถานั้น ขึ้นอยู่กับสมาธิจิตของผู้ท่องบ่น ต่อให้คาถาผิดพลาดเพียงไรก็ตาม หากจิตเป็นสมาธิแนบแน่นมั่นคงเสียแล้ว ผลก็เป็นไปตามการอธิษฐานทุกประการ... หาก ท่านผู้อ่านตัดความตะขิดตะขวงใจในตัวคาถาเสีย ตั้งใจท่องบ่นอย่างจริงจัง ผลดีย่อมบังเกิดแก่ท่านอย่างไม่ต้องสงสัย และต้องอัศจรรย์ใจในคาถาอันวิจิตรไพเราะ ที่เป็นผลผลิตจากอัจฉริยภาพของเจ้าประคุณสมเด็จท่านเป็นแน่แท้... อาตมาได้คาถานี้จาก "หนังสือลานโพธิ์" อ่านแล้วชอบใจตรงที่ว่าหากใครท่องบ่นด้วยความเลื่อมใสอย่างแท้จริง พระสมเด็จวัดระฆังที่หายากเป็นนักหนา จะเสด็จมาอยู่กับผู้ท่องบ่นเอง.... ด้วย ความอยากได้พระสมเด็จวัดระฆัง อาตมาจึงพยายามหัดท่องคาถา วันแรกก็ตะกุกตะกักไม่เป็นท่า เหนื่อยขึ้นมาเลยเอาคาถาหนุนหัวหลับไป เกิดฝันว่าท่องคาถาได้บรื๋อเลยล่ะ...! ตื่น ขึ้นมาก็ท่องได้จริง ๆ ....! นับว่าอัศจรรย์มาก เพราะความฝันกลายเป็นความจริงไปได้ อาตมาก็เลยท่องคาถาทุกวัน ท่องไปก็อธิษฐานไป ขอให้สมเด็จวัดระฆังเสด็จมาทีเถอะ...เจ้าประคุ้ณ...! เวลา ผ่านไป...ผ่านไป ไม่เห็นมีวี่แววว่า สมเด็จวัดระฆังจะมาซักที จนอาตมาท่องคาถาจนชิน วันไหนไม่ได้ท่องเหมือนขาดอะไรไป ความอยากได้พระหายไปจากใจ กลายเป็นหน้าที่ประจำที่จะต้องท่องอย่างน้อยวันละ ๑ จบ... ปี แล้ว...ปีเล่า...อาตมายังคงท่องคาถาโดยไม่เบื่อไม่หน่าย จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้วในปีที่ ๑๑ ของการท่องคาถาติดต่อกันนั่นเอง สมเด็จวัดระฆังที่อยากได้เป็นนักหนาก็ได้มาสมใจนึก... ผู้ มอบให้ เป็นนักสะสมพระเครื่องตัวยง ทั้งบ้านมีแต่ของเก่าแทบไม่มีที่จะเก็บ เขาติดหนี้บุญคุณอาตมาไม่ทราบจะทดแทนอย่างไร เลยมอบพระเครื่องสุดรักสุดหวงของตนให้อาตมา ๑ องค์... นี่แหละ...ท่านผู้อ่านทั้งหลาย ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ของทุกอย่างเขาดีจริงอยู่แล้ว ขอเพียงเราทำให้จริงเท่านั้น ผลสำเร็จย่อมเกิดขึ้นกับเราอย่างแน่นอน... ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓ พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ เว็บบอร์ด พลังจิต ดอทคอม ขอขอบคุณ เว็ป กระโถนข้างธรรมาสน์ www.buddhism-online.org/board/index.php?topic=427.0
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ<!-- google_ad_section_end --> การฟังธรรมเป็นการชำระล้างจิตใจ ที่เศร้าหมองให้หมดไปเพื่อสำเร็จสู่มรรคผลพระนิพพาน><O></O> การสวดมนต์นับเป็นการดีพร้อมซึ่งประกอบไปด้วยองค์ทั้ง 3 นั่น คือ • กายมีอาการสงบเรียบร้อยและสำรวม • ใจ มีความเคารพนบนอบต่อคุณพระรัตนตรัย • วาจา เป็นการกล่าวถ้อยคำสรรเสริญถึงพระคุณอันประเสริฐ ในพระคุณทั้ง 3 พร้อมเป็นการขอขมา ในการผิดพลาดหากมีและกล่าวสักการะเทิดทูนสิ่งสูงยิ่งซึ่งเราเรียกได้ว่าเป็นการสร้างกุศล ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุดที่เดียว<O></O><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->
อนุโมทนา สาธุครับ ผมว่าเราท่องคาถาชินบัญชร ด้วยความศรัทธาเลื่อมใส จิตใจ ที่แน่วแน่มั่นคงในพระรัตนตรัย ก็เปรียบดั่งมี พระสมเด็จวัดระฆัง คุ้มครอง แหละครับ...:VO
อนุโมทนาครับ ผมไม่มีพระสมเด็จหรอกครับ มีแต่องค์พระสมเด็จโต สำหรับห้อยคอครับ เวลาสวดคาถาชินบัญชร จะนำพระ แล้วมาสวดด้วยครับ
ผมศรัทธาในพระพุทธศาสนาคนหนึ่ง เรื่องทำทานก็ทำมาพอสมควรโดยเฉพาะสายพระป่า จะเคารพเป็นพิเศษ เรื่องการอุปฐาก ครูบาอาจารย์ ก็ทำมาพอสมควรจนทุกวันนี้ และจะทำไปเรื่อยๆๆ แต่ผมก็มีหนี้สินค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่เคยท้อใจก็ยังคงมุ่งมั่นในธรรมตลอด ในที่นี้ใครพอมีวิธีการปลดหนี้หรือ อุบาย ช่วยแนะนำด้วยเผื่อจะได้ให้แฟนสบายใจบ้างเพราะเขารู้ว่าผมมีหนี้มากครับ ขอบคุณ