'คัสตาร์ด' อร่อยนุ่มลิ้น ได้ประโยชน์จาก 'นม'

ในห้อง 'เมนูอาหารและวิธีการทำอาหาร' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 2 มิถุนายน 2012.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    'คัสตาร์ด' อร่อยนุ่มลิ้น ได้ประโยชน์จาก 'นม'
    -http://www.dailynews.co.th/article/822/117447-
    วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน 2555 เวลา 00:00 น.


    [​IMG]




    เนื่องในวันดื่มนมโลก แนะดื่มนมดีต่อสุขภาพ รู้ความโดดเด่นของนมหลากชนิด คนดื่มยากชวนลองกินคัสตาร์ด ขนมซุกคุณประโยชน์จากนม



    1 มิถุนายน ของทุกปี ขอย้ำเตือนให้ทราบว่า เป็นวันดื่มนมโลก ตามที่องค์การอาหารแห่งสหประชาชาติ หรือ The Food and Agriculture Organization หรือ FAO ได้ประกาศไว้เพื่อรณรงค์ให้ดื่มนมเป็นประจำ เพราะให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ


    สำหรับนมที่คนส่วนใหญ่นิยมดื่มกันอย่างแพร่หลายนั้น คือ นมวัว ซึ่งมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ คาร์โบไฮเดรต และไขมัน เพื่อการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ โดยเฉพาะเกลือแร่ตัวสำคัญอย่าง แคลเซียม ที่มีอยู่ในนมนั้นเป็นประโยชน์ต่อกระดูกและฟัน ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนในวัยชรา


    นอกจากนมวัวแล้ว ยังมีนมชนิดอื่นให้เลือกดื่มสำหรับคนที่อาจจะแพ้หรือไม่ชอบ นมวัวเช่น นมถั่วเหลือง โดดเด่นเรื่องบำรุงสมอง ลดอาการข้างเคียงของคนวัยทอง ขณะที่นมแพะ ร่างกายย่อยง่ายและดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้เร็ว มีกรดไขมันพิเศษ คือ คาโพรอิก คาพริลิก และคาพริก ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ HDL ช่วยลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดแดง มีเอนไซม์ที่ช่วยสลายสารก่อภูมิแพ้ก่อนเกิดอาการ


    ทั้งยังมีนมควาย ที่มีสารอาหารทั้งโปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินเอ สูงกว่านมวัว และไขมันเนยในนมควายมีมากเป็นสองเท่าของนมวัว แต่ค่าคอเลสเตอรอลต่ำกว่า มีสานต้านอนุมูลอิสระ คนแพ้แลคโตสในน้ำนมวัวสามารถดื่มนมควายได้
    เมื่อตอกย้ำประโยชน์และเผยความโดดเด่นของนมแต่ละอย่างให้ทราบ คนที่ชอบดื่มนมอยู่แล้ว คงดื่มได้หรือลองดื่มนมชนิดอื่นได้อย่างสบาย แต่คนที่ไม่ชอบดื่มนมเสีย เพราะไม่ชอบกลิ่น หรือรสชาติ 'มุมสุขภาพ' แนะลองนำนมมาดัดแปลงเป็นเมนูอื่น เพื่อลดดกลิ่น เปลี่ยนรูป เติมรสให้กินง่ายขึ้น เช่น เมนูคัสตาร์ดนมสด...


    การทำคัสตาร์ดนมสด เริ่มจากการทำคาราเมล ด้วยการนำน้ำตาลผสมกับน้ำ เคี่ยวโดยใช้ไฟอ่อน จนน้ำตาลละลาย จากนั้นเทคาราเมลที่ได้ลงในถ้วยพิมพ์แล้วพักไว้ หันไปทำคัสตาร์ด โดยใช้นมจืด วนิลา และเกลือผสมเข้าด้วยกัน ตั้งไฟอ่อนจนเดือด ดับไฟเพื่อพักส่วนผสมนี้ไว้จนเย็นก่อน


    ต่อมาตอกไข่ใส่ชามตีให้พอแหลกแล้วค่อยๆ เทใส่ไปในหม้อคัสตาร์ด เติมวนิลาอีกเล็กน้อยคนให้เข้ากันดีก่อนเทใส่พิมพ์ที่เทคาราเมลรอไว้ เสร็จแล้วนำพิมพ์ไปวางในลังถึง โดยอย่าปิดทับรูไอน้ำ ปิดฝาและนึ่งไฟอ่อนนาน 30 นาที หลังนึ่งเสร็จต้องทิ้งไว้ให้หายร้อน จากนั้นนำคัสตาร์ดแช่เย็นไว้อย่างต่ำ 3 ชั่วโมง เพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดอยู่ตัวเป็นรูปร่างตามถ้วยพิมพ์


    ก่อนกินใช้มีดกรีดตามขอบคัสตาร์ดให้แยกออกจากถ้วยพิมพ์ แล้วคว่ำถ้วยลงบนจาน ก็จะได้เนื้อคัสตาร์ด กินได้เลย หรือราดคาราเมลเพิ่มตามชอบได้เช่นกัน.


    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
    -takecareDD@gmail.com-
     

แชร์หน้านี้

Loading...