~.~ความโลภที่ไม่สิ้นสุด~.~

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย @^น้ำใส^@, 17 ตุลาคม 2006.

  1. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,674
    ความโลภที่ไม่สิ้นสุด



    เมื่อเราโยนก้อนหินก้อนเล็กๆ ตกกระทบผิวน้ำ จะเกิดวงเล็กๆ และค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นเช่นเดียวกับการทำความผิด เมื่อเริ่มลงมือทำก็เป็นเพียงความผิดเล็กๆน้อยๆ หากทำต่อไปเรื่อยๆความผิดจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนคุณค่อยๆดำดิ่งลงไปสู่ความมืดเช่นเดียวกันกับก้อนหินที่ดิ่งลงสู่ใต้น้ำที่สุด

    เรื่องราวนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับป้าพยอม ป้าพยอมทำงานเป็นแม่ครัวอยู่ในบ้านของคุณนายศรีนวลมานานกว่า 20 ปี ป้าพยอมรับใช้คุณนายศรีนวลด้วยความซื่อสัตย์ตลอดมา คุณนายไว้ใจป้าพยอมมาก

    คุณนายศรีนวลเป็นคนใจบุญสุนทาน จึงมักจะทำบุญตักบาตรอาหารคาวหวานรสเลิศแก่พระหลายสิบรูปเป็นประจำทุกวันไม่ได้ขาด ป้าพยอมจึงต้องถือเงินก้อนโตไปจ่ายตลาดซื้อกับข้าวเพื่อมาทำอาหารดีๆให้คุณนายตักบาตรเป็นประจำทุกวัน

    แรกๆ ป้าพยอมก็เป็นแม่ครัวที่ซื่อสัตย์ หากเงินเหลือเท่าไรก็จะนำมาคืนให้กับคุณนายเป็นประจำ ต่อมาเมื่อต้องถือเงินมากป้าพยอมก็เรื่มเกิดความโลภจึงเริ่มยักยอกเงินวันละ 20-30 บาท แกบอกกับตัวเองว่าเก็บไว้เป็นค่าขนมให้หลาน ด้วยความไว้ใจแม่ครัวที่รับใช้ด้วยความซื่อสัตย์มานาน คุณนายศรีนวลก็ไม่เคยทราบว่าเงินหายไป

    ป้าพยอมจึงเริ่มได้ใจ จากเงินไม่กี่สิบบาทก็เริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นวันละหลายร้อยบาท โดยอ้างกับคุณนายว่าข้าวของขี้นราคา ป้าพยอมเริมเกิดความโลภขึ้นในใจ คิดหาทางยักยอกทรัพย์สินของคุณนายศรีนวลให้มากยิ่งขึ้น

    ในที่สุดป้าพยอมก็เริ่มทำอาหารถูกๆ อย่างผัดถั่วงอกใส่เต้าหู้ให้คุณนายตักบาตร การห่อที่มิดชิดทำให้คุณนายศรีนวลไม่ทราบว่าอาหารที่ตัวเองตักบาตรนั้นคืออะไร ป้าพยอมจะทำอาหารดีๆ 3-4 ห่อ เพื่อให้เอาไว้บังหน้าหากคุณนายขอดู

    ป้าพยอมทำอย่างนั้นอยู่หลายปีจนเริ่มมีเงินมากขึ้นเรื่อย แต่เพื่อไม่ให้ใครสงสัย แกจึงเก็บไว้ในธนาคาร หรือซื้อทองเก็บไว้ในลิ้นชัก ที่นาที่เคยติดจำนองก่อนจะเข้ามาทำงานรับใช้คุณนายศรีนวลป้าพยอมก็นำเงินไปไถ่ถอน ลูกหลานเริ่มมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ใส่ทองเส้นโต ลูกๆของป้าพยอมลาออกจากงานหันมาเกาะแม่กิน และใช้ชีวิตราวกับคนร่ำรวย

    ป้าพยอมทำงานและยักยอกเงินของคุณนายศรีนวลจนอายุเริ่มมากขึ้นร่างกายเริ่มอ่อนล้า เงินเก็บในธนาคารที่มากพอจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายจึงทำให้แกตัดสินใจลากออก แม้ว่าคุณนายศรีนวลจะรู้สึกเสียดายคนแก่คนเฒ่าที่เคยรับใช้มานาน แต่เมื่อเห็นป้าพยอมร่างกายอ่อนแอ คุณนายจึงไม่ขัดขวางและยังให้เงินก้อนโตแก่ป้าพยอมเพื่อไว้ใช้เป็นทุนในการตั้งตัวโดยที่ไม่เคยทราบมาก่อนว่า ขณะนี้ป้าพยอมมีทรัพย์สินเงินทองมากมายจากการยักยอกทรัพย์ของคุณนายนั่นเอง

    ป้าพยอมกลับมานั่งกินนอนกินอยู่ที่บ้านได้ไม่กี่เดือนก็เริ่มเกิดอาการผิดปกติขึ้นกับแก ลิ้นของป้าพยอมเริ่มแตกเป็นแผล และบวมขึ้นมาเรื่อยๆ ป้าพยอมล้มหมอนนอนเสื่อด้วยโรคประหลาด อยากกินอะไร อยากกินใจแทบขาด แต่ก็กินไม่ได้ ของดีๆ ก็กลืนไม่ลง คอมันตีบ แม้แต่น้ำก็ยังกลืนลงคอด้วยความยากลำบาก ร่างกายที่เคยอ้วนท้วนสมบูรณ์ก็เริ่มซูบผอมลงจนเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก

    ลูกๆจึงพาป้าพยอมไปหาหมอ แต่หมอก็ไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าป้าพยอม่วยเป็นโรคอะไร เพราะผลการตรวจร่างกายก็เป็นปกติดีทุกอย่าง เมื่อเห็นว่าป้าพยอมไม่สามารถกินอาหารได้จึงจำเป็นต้องให้อาหารเหลวทางสายยาง

    ป้าพยอมนอนแบ็บอยู่บนเตียงหายใจรวยริน ร่างกายมีแต่หนังหุ้มกระดูก ป้าพยอมจึงมาคิดได้ว่า เห็นทีเคราะห์กรรมที่ต้องประสบในครั้งนี้คงเป็นเพราะการที่แกทำอาหารถูกๆ ให้พระสงฆ์ได้รับบิณฑบาตทุกวันนั่นเอง แต่กว่าที่ป้าพยอมจะคิดได้ก็สายเกินไปเสียแล้ว ป้าพยอมใช้ชีวิตบั้นปลายด้วยความทุกข์ทรมานได้เพียง ๖ เดือน ร่างกายที่อ่อนแอก็เปิดโอกาสให้มีโรคแทรกซ้อนเข้ามาในที่สุดป้าพยอมก็ไม่สามาถทนทานต่อโรคร้าย และก็สิ้นลมหายใจลงในที่สุด

    ทรัพย์สมบัติคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่ปรารถนาก็จริงอยู่ แต่ควรจะได้มาด้วยคามสุจริต การฉ้อโกงก็นับว่าเป็นบาปกรรมเช่นเดียวกับการปล้นชิงเช่นกัน ความโลภจึงเป็นกรรมที่ทำได้ง่ายดายที่สุด แต่ผลของมันก็เป็นเช่นดียวกับกรรมทั้งหลาย นั่นคือต้องชดใช้หนี้กรรมครั้งนี้ไปจนกว่าจะสิ้นกรรม

    ------------
    คัดลอกมาจาก หนังสือ กฎแห่งกรรม ชุดคนบาป โดย ปฐมฌาณ
    (f)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2006

แชร์หน้านี้

Loading...