ความสามารถของวิญญาณ

จิตที่แยกออกจากร่างกายนั้นมักนิยมเรียกว่าวิญญาณ และวิญญาณนั้นอาจจะเรียกเป็นผี หรือเทวดา เทพ หรือเปรต ก็เป็นเรียกไปตามกรรม หรือระดับความทุกข์สุข ที่วิญญาณต้องได้รับ ส่วนคนที่ยังไม่ตาย ถอดจิตหรือแยกจิตออกไปดู ไปเที่ยวที่ต่างๆได้ นิยมเรียกว่าถอดวิญญาณ

วิญญาณมีความสามารถในลักษณะ ๓ ประการ คือทำเสียงต่างๆได้ ,ทำกลิ่นต่างๆได้ และทำกายหยาบได้ และมีความสามารถมากน้อยไม่เท่ากัน วิญญาณส่วนมากไม่สามารถจะทำได้ครบทั้ง ๓ อย่าง วิญญาณที่ก่อนตายมีสมาธิดี คือเป็นประเภทมีอิทธิฤทธิ์ และวิญญาณที่มีบุญดีคือ ทำบุญไว้มากเป็นประเภทมีบุญฤทธิ์ วิญญาณเหล่านี้จึงมีความสามารถครบถ้วนทั้ง ๓ อย่าง

๑.วิญญาณสามารถทำเสียงต่างๆได้ เช่นทำเสียงเคาะข้างฝา ทำเสียงหวีด ทำเสียงสัตว์ต่างๆ ทำเสียงคน พูดไปต่างๆได้ และพูดบอกเล่าหรือตอบคำถามได้ชัดเจนเหมือนคนธรรมดา หรือพูดเป็นเสียงตะโกนก็ได้ โดยมีเสียงได้เองในอากาศ ไม่ต้องอาศัยปากคนพูดเหมือนการเข้าทรง
๒.วิญญาณสามารถทำกลิ่นต่างๆได้ เช่นทำให้ทุกคนบริเวณใกล้เคียง ได้กลิ่นเหม็นเหมือนศพอยู่ใกล้ๆ ได้กลิ่นหอมเหมือนกลิ่นดอกราตรี หรือกลิ่นอื่นๆได้
๓.วิญญาณสามารถทำกายหยาบได้ หมายถึงทำให้เห็นเป็นตัวคน เห็นเป็นตัวสัตว์จริง เห็นด้วยตาธรรมดาของทุกคนที่อยู่ใกล้เคียงตามระยะที่เราจะมองเห็นได้ กายหยาบนี้ถ้าเป็นกายคนก็สามารถจับได้รู้สึกเหมือนจับคนธรรมดา และกายหยาบของวิญญาณนั้นจะมานวดมาจับคนธรรมดาเราก็ได้ ทำให้เห็นทั้งตัวหรือบางส่วนก็ได้ ถ่ายรูปติด จะยกของหยิบของโยนไป หรือเอาไปที่อื่นก็ได้ เปิดปิดประตูได้ แต่วิญญาณส่วนมากทำให้เห็นเป็นเพียงเงาๆ ไม่เป็นกายหยาบ

undefined :[ :[ :[ :[

 

ขอยอมรับว่าเป็นทฤษฎีที่ถูกต้องครับ

 

น่าสนใจอ่ะ อยากรู้เพิ่มๆ

 

คุณTemper45 อยากรู้เพิ่มเติมหรือจ้ะ สนใจใช่ไหม? เอาข้อมูลจากประสปการณ์ของเจ้าของกระทู้ไปอ่านเล่นๆพลางๆเสริมทักษะความอยากรู้อยากเห็นผี (วิญญาณ) ไปก่อนล่ะกัน (เรื่องจริงนะเจอมากะตัว)

เริ่มเลยดีก่า..... ตอนสมัยเดะๆล่ะนะพอจำความได้ว่าเคยไปหยิบเอาหัวกระโหลกของใครไม่รู้ อยู่ใกล้ๆบ้าน จะเอามาเล่นเพราะความเป็นเด็กยังไม่รู้ประสีประสา งงเหมือนกันว่ามีหัวกะโหลกคนมาตกหล่นอยู่แถวบริเวณบ้านได้ไง (ของจริง NO ของปลอม)
วันเวลาผ่านไปในตอนเด็กๆ ก็เคยเห็นผี แต่งชุดสีขาวและคลุมศีรษะด้วยผ้าสีขาวทั้งตัว สามสี่ตน
ก้มหน้าดำนาในเวลาค่ำ อยู่แถวท้องนา ขณะที่นั่งรถผ่าน ต่อมานานพอควรก็เห็น ผีที่ว่าแต่งชุดขาวคลุมศีรษะมาปรากฏอีก เดินอยู่ใกล้ๆบ้าน ๓-๔ ตนนี้จะเดินเข้ามาหา ข้าจึงวิ่งไปยืนแอบภายในบ้านเพื่อหลบผี ผีนั้นก็เลยเดินกลับเข้าไปในป่า (สมัยก่อนอยู่ต่างจังหวัด)
วันเวลาผ่านไป ยังอยู่ในวัยเด็กอยู่ ก็เจออีกละ ทีนี้เจอยักษ์ตัวสีเขียวถือกระบองสีเขียวตัวโตเท่ายักษ์จริงๆหน้าไม่เหมือนยักษ์วัดแจ้งหรอก แต่เหมือนคน หน้าตาหน้ากลัวมาก
แล้วต่อมาก็เคยเจองูยักษ์ คล้ายที่เขาเรียกว่าเป็นพญานาค เห็นเป็นเงาดำเลื้อยผ่านหน้าไป ตอนค่ำๆ ตัวใหญ่ เลื้อยคล้ายรูปปั้นพญานาคที่อยู่ตามวัด น่ากลัวเช่นกัน
ต่อมาตอนเป็นนิสิตนักศึกษาปีที่หนึ่ง ก็มีเหตุการณ์แปลกเกิดขึ้นที่หอพัก คือขณะกำลังอาบน้ำอยู่ และมีเพื่อนอีกคนอาบน้ำที่ห้องข้างๆเป็นเพื่อนกัน ที่ชวนกันอาบน้ำเวลาเดียวกัน เพราะช่วงนั้นเขาลือกันว่าเพื่อนๆที่หอพักถูกผีหลอกกันหลายคน จึงไม่กล้าอาบน้ำเพียงลำพัง แต่ก็เจอดีเข้าจนได้ คือได้ยินเสียงผู้หญิงพูดภาษาอะไรไม่รู้ คล้ายไม่ใช่ภาษาคน เพราะฟังไม่รู้เรื่องเลย ผ่านช่องลมเข้ามาในห้องอาบน้ำที่อยู่ชั้นที่ ๔ และเพื่อนที่อาบน้ำอยู่ห้องข้างๆก็ได้ยินเช่นกัน ต่อมาที่หอพักนี้ อีกแหละ ในขณะนอนหลับไปสักพัก ก็มีลมเป่าเข้าหูคล้ายคนเป่าใส่ แล้วก็เจอผีอำอยู่หลายวัน ได้ยินเสียงผู้หญิงหัวเราะอยู่ในหู เสียงหน้าต่างปิดดังเวลาดึกสงัด อีกมากมาย แล้วเรื่องของเพื่อนๆคนอื่นๆอีกที่ตื่นเช้ามาต้องมารวมกลุ่มกันเล่าเรื่อง ผีที่มารบกวน คือเจอพร้อมกันหลายคน แต่เจอสภาพต่างๆกัน เพื่อนบางคนที่เจอเขาเล่าให้ฟังแบบว่าเจออย่างน่ากลัวมากๆก็มี ช่วงนั้นใกล้สอบ นอนหลับไม่เพียงพอ เพราะบรรดาผีๆชอบมาหลอก ทำให้แต่ละคนดูโทรมๆกันไป เดือดร้อนถึงเจ้าของหอพักต้องทำบุญกันยกใหญ่ เพื่อนบางคนย้ายหอพักหนีไปหลายคน
ต่อมาเป็นนักศึกษาขึ้นปีที่ ๓-๔ อยากลองดีเอง ชวนเพื่อนไปพิสูจน์ผี ที่โรงพยาบาลตำรวจ
ขอเจ้าหน้าที่เขาเข้าไปดูห้องเก็บศพ ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธ เลยไปแอบดูที่หลังตึก ใช้สายตาส่องลอดช่องประตูเข้าไปดูที่ห้องเก็บศพจนได้ เห็นมีหมอคนหนึ่งเดินเปิดประตูห้องเข้ามา และเปิดลิ้นชักศพคล้ายมีเจตนาเปิดให้ดูอย่างไรไม่รู้ เห็นเต็มสองตาเลยมีศพถูกพันคล้ายมัมมี่อยู่ในลิ้นชัก เลื่อนสายตามองลงไปที่พื้นเห็นเลือดนองเต็มพื้นห้องไปหมด แต่ตรงที่หมอยืนกับไม่มีเลือดเลย เพื่อนบอกกลับเถอะไม่ไหวแล้วเย็นมากแล้วด้วย เป็นอันว่าคืนนั้นกลับไปถึงหอพักได้กลิ่นเลือดเต็มห้องไปหมด อยู่ไม่ได้แล้วที่ห้อง ไปนอนกลับเพื่อนดีกว่า
วันเวลาผ่านไปย้ายไปอยู่บ้านพักราชการที่จังหวัดหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นที่เก็บศพสมัยก่อน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินบ้างในเวลาดึกสงัด เสียงอะไรดัง แปลกๆบ่อยๆ
แล้วไม่นานนี้เองไปซื้อบ้านไว้หลังหนึ่งเป็นบ้านมือสองไม่รู้ประวัติมาก่อนเล้ย... ซื้อไปแล้วถึงได้มีเพื่อนบ้านแสนดีมาเล่าประวัติให้ฟัง โอ้ย............ซ.ว..ย.........เจงๆ ชาตินี้จะหนีพ้นเรื่องเผๆผีๆๆๆไม่เนี้ยะ.ๆๆๆๆๆ........ เวลาตายไปก็กลายเป็นผีอีกแหละ แล้วจะพ้นผีได้ไง?

 

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ขอให้ทุกคนทุกท่าน
เจริญในธรรมและมีดวงตาเห็นธรรมทุกคนทุกท่านเทอญ

(bb-flower (bb-flower (bb-flower

 

น่าสนใจอ่ะ เราก็เคยเจอนะ แต่ว่าในหัวเรามักชอบบอกว่า เราคิดไปเองอ่ะ อาจเป็นเพราะเรากลัวจนต่อต้นมั้งไม่รู้ดิ แต่เราก็สนใจนะเรื่องแบบนี้ อยากให้คนอื่นเจอแล้วมาเล่า มากกว่าจะเจอด้วยตัวเองอ่ะ หุหุหุ

 

ช้าก่อน ๆ จิต กับ วิญญาณ นี่คนละอันกันนะ ไปเปิดพระไตรปิฎกอ่านก่อนแล้วค่อยมาอธิบาย เดี๋ยวก็เพี้ยนไปกันหมด จิต ไม่ใช่ วิญญาณ

 

เเล้วมีอะไรที่บ้านเหรอครับ กำลังมันส์เลยยย

 

อยากรุเรื่องผีเหรียญ ผีถ้วยแก้วจัง เห็นเพื่อนๆเล่นกัน แต่มะก้าเล่นด้วย = =

 

คนที่ว่าจิตกับวิญญาณคนละอันกัน ก็ไปถามอาจารย์ชม สุคันธรัต แล้วกันเพราะคัดมาจากหนังสือวิทยาศาสตร์ทางจิตฉบับยอดคนที่อาจารย์ชม สุคันธรัตท่านเขียน เจ้าของกระทู้ไม่ได้แต่งเขียนขึ้นมาเอง บ้านอาจารย์ชม สุคันธรัตคือ บ้านเลขที่ ๑๓ ถ.ประชานฤมิตร ใกล้สามแยกเตาปูน กรุงเทพฯ โทร.584-0210 ไม่รู้ท่านอยู่หรือเปล่าอาจมีลูกหลานท่านหรือลูกศิษย์ท่านถามให้ก็ได้

 

ผมชอบเห็นเป็นเงาดำๆ เล็กๆ ลอยไปมาเต็มไปหมด

ไปไหนก็เจอ อันนี้อะไรครับ

บางทีเป็นระยิบระยับ ลอยในอากาศอันนี้เทวดาป่าวครับ