ความฝันสีรุ้ง : คนไทยบนเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 13 ธันวาคม 2005.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>กฤษณะ ศรีถนอมวงศ์ อาสาสมัครลูกเรือคนไทยบนเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เขากลายเป็นไกด์จำเป็นพาเราทัวร์เรือ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภายในห้องบังคับการเดินเรือ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>สภาพบนดาดฟ้าเรือ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>แดเนียล ริซซอตติ (Daniel Rizzotti) เขาคือกัปตันเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ คนปัจจุบัน อดีตนาวิกโยธินชาวอาร์เจนตินา</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์กำลังเดินทางเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือคลองเตย</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ความฝัน-ถ้าอนาคตข้างหน้าความฝันสามารถผลิตขายกันได้ เดาว่าน่าจะมีความเป็นไปได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งใน 2 ข้อนี้คือ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าหรือไม่ก็ขายไม่ได้เลย นั่นก็เพราะความฝันกลายเป็นสิ่งสาธารณะ ไม่ใช่เรื่องปัจเจกที่จะถือครองได้อย่างโก้เก๋เช่นเดิม

    ความฝัน-เป็นสิ่งสวยงามหมดจด ตราบใดที่มันไม่ได้ถูกหยิบใช้หรือหล่นจากริมฝีปากแบบพร่ำเพรื่อ นักเขียนบางคนกล่าวอ้างคำว่า เพ้อฝันและใฝ่ฝัน ซึ่ง 2 คำนี้แตกต่างตรงที่การเพิกเฉยและลงมือทำ คิดไปคิดมาก็เป็นข้อเท็จจริงที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า จริงมากกว่าไม่จริง

    ความฝัน-แต่ละคนผูกความฝันไว้ต่างสิ่ง ต่างที่กันไป และคนคนนี้ผูกความฝันส่วนหนึ่งในช่วงวัยหนุ่มไว้กับทะเลและเรือลำหนึ่ง เรือที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงทั่วๆ ไป และหัวใจที่อยากจะทำให้โลกดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ มันคือ-เรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ หรือนักรบสายรุ้ง สัญลักษณ์สำคัญขององค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเรียกได้ว่ามีชื่อเสียงที่สุดในโลก กรีนพีซ


    1

    เรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ เดินทางมาเยือนไทยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจรณรงค์เรื่องโลกร้อน แต่ครั้งนี้บังเอิญว่ามีอาสาสมัครลูกเรือคนหนึ่งบนเรือที่เป็นคนไทย เขามุ่งมั่นและใช้ความฝันอย่างทะนุถนอม กระทั่งได้เดินทางไปกับเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ ซึ่งอาจถือเป็นความฝันของชาวกรีนพีซอีกหลายคนที่ยังไม่มีโอกาส

    กฤษณะ ศรีถนอมวงศ์ หนุ่มผมยาว หน้าตาดุดัน (แอบอบอุ่นอยู่ในรอยยิ้ม) วัย 34 ปี เกิดที่สุราษฎร์ธานี แต่ไปเติบโตที่ชุมพร ชีวิตส่วนใหญ่จึงมักคุ้นกับทะเลในระดับคุยกันถูกคอ ลากสังขารมาเรียนต่อในกรุงเทพฯแต่ก็หอบหิ้วใบปริญญาออกมาจากรั้วมหาวิทยาลัยไม่ได้

    แต่วันเวลาในรั้วมหาวิทยาลัยที่เขาคลุกคลีอยู่กับชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การเดินป่า เที่ยวป่า จนวันหนึ่งก็จับพลัดจับผลูได้มาทำงานกับกรีนพีซ

    "ก่อนหน้านี้รับราชการอยู่ เป็นช่างเทคนิคในมหาวิทยาลัย ทำอยู่ 7-8 ปีก็เบื่อ เลยออกมาทำอะไรของตัวเอง ทำอาชีพอิสระ รับจ้างไปเรื่อยได้ แรกๆ ที่เรารับรู้การทำงานของกรีนพีซคือมันมีรูปแบบการทำงานเฉพาะตัว เป็นแบบเผชิญหน้ากับปัญหา กับผู้สร้างปัญหา แต่ว่าอยู่ในแนวทางของสันติวิธี ไม่ใช่ความรุนแรง ซึ่งสัญลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของกรีนพีซก็คือเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ และโดยส่วนตัวเป็นคนชอบเรืออยู่แล้ว เรียกว่าสนใจในพาหนะที่ไม่ใช่รถ เด็กๆ ก็ออกทะเลจับปลากับตาอยู่เรื่อยๆ แต่ตอนแรกเลยยังไม่สนใจเท่าไหร่ พอเดือนสองเดือนผ่านไปเรารับรู้ข้อมูลมากขึ้น รับรู้รูปแบบการรณรงค์มากขึ้น เลยสนใจ อยากมีส่วนร่วม อยากมาลองดู"

    เขาเล่าให้ฟังว่า ไม่ได้มีการคัดเลือกอะไรเป็นพิเศษเหมือนที่คนภายนอกเข้าใจ แต่กรีนพีซจะพิจารณาว่าใครสามารถทำอะไรได้ ซึ่งถ้าคุณสมบัติตรงกับงานก็ขึ้นมาอยู่บนเรือลำนี้ได้เลย

    "มาเป็นอาสาสมัครบนเรือได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว ไม่ใช่ในฐานะลูกเรือ ผมเป็นแค่อาสาสมัคร ซึ่งถ้าจะขยับจากอาสาสมัครขึ้นไปเป็นลูกเรือ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาเห็นว่าเราสามารถทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน มีความสามารถที่จะจัดการงานของลูกเรือได้มั้ย ถ้าเขาเห็นว่าเราทำงานดีเขาก็จะชวน"

    มีแค่เสื้อผ้ากับเงินติดตัวอีกหน่อยเท่านั้น ที่เขาหยิบติดตัวขึ้นมาบนเรือลำนี้ และอย่าคิดว่าการทำงานบนเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ เขาจะได้ค่าตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ เขาบอกว่า "ค่าตอบแทนเท่ากับศูนย์ เพราะเราเป็นอาสาสมัคร เราสนใจที่จะมามีส่วนร่วม สนใจที่จะมาทำ สนใจที่จะมารับโอกาสตรงนี้ เรื่องนี้เป็นความฝันของอาสาสมัครกรีนพีซส่วนใหญ่"

    2

    "งานแต่ละวันจะแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นส่วนของการควบคุมการเดินเรือ ก็มีกัปตัน เฟิร์สเมต เซกกันด์เมต พวกที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือ การกำหนดเส้นทางเดินเรือ เป็นต้น ส่วนนี้โดยปกติจะเป็นเวรผลัดเปลี่ยนกันทุก 4 ชั่วโมง คือคนหนึ่งจะรับผิดชอบทั้งกลางวันและกลางคืนในเวลาเดียวกัน เช่น เที่ยงวันถึง4โมงเย็นแล้วก็มาเข้าเวรอีกทีตอนเที่ยงคืนถึงตี4"

    "ส่วนที่ 2 คือส่วนของวิศวกรรม พวกระบบ เครื่องยนต์ต่างๆ บนเรือ มีอยู่ 3 คน คือชีฟเอ็นจีเนียร์คนหนึ่ง คนที่ดูแลเรื่องเครื่องกลคนหนึ่ง กับคนที่ดูแลเรื่องไฟฟ้าอีกคนหนึ่ง จะทำงานตามเวลาปกติ 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนที่ 3 คือส่วนของ...ประมาณว่าเป็นผู้ใช้แรงงานบนเรือ ส่วนนี้ก็จะมีหน้าที่ขัดสนิม ทาสี อะไรต่างๆ เหล่านี้ การผูกเชือก จัดการสมอ ซึ่งช่วงแรกผมจะอยู่ในส่วนของผู้ใช้แรงงานเหล่านี้แหละ ส่วน 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาเพิ่งได้ไปช่วยในเรื่องระบบไฟฟ้าของเรือ"

    โดยทั่วไปกิจวัตรประจำวันบนเรือจะเริ่มต้นตอน 7.30 น. ทุกคนจะมีเวลาครึ่งชั่วโมงในการจัดการธุระปะปังส่วนตัวรวมถึงการหาแหล่งพลังงานใส่ท้อง ซึ่งทางเรือจะจัดเตรียมขนมปังกาแฟไว้ให้

    "พอ 8 โมงก็จะเริ่มทำงาน เริ่มด้วยการทำความสะอาดภายในเรือ ทางเดิน ห้องน้ำ ห้องอาหาร การจัดการขยะต่างๆ ส่วนอื่นๆ ก็ไปทำงานของตัวเองตามแต่หน้าที่ เลิกงานตอน 5 โมงเย็น มีเบรก 2 ครั้งตอน 10 โมงเช้า กับบ่าย 3 เบรกละครึ่งชั่วโมง

    "หลังจากเลิกงานก็เป็นเวลาพักผ่อน ส่วนใหญ่เวลากินข้าวทุกคนก็จะไปกินข้าวร่วมกันตอน 6 โมงเย็น หลังจากนั้นใครจะทำอะไรก็ทำไป อ่านหนังสือ ดูเดือน ดูดาวก็ทำไป ถ้าอยู่ที่ฝั่งจะออกไปข้างนอกเที่ยวชมเมืองก็ไป"

    2 เดือนที่ผ่านมาบนเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ 1 เดือนแรกเขาอยู่ที่ฮ่องกง รณรงค์ให้ผู้คนรับรู้ถึงหายนะภัยของภาวะโลกร้อน ที่แม้ทุกวันนี้เราจะมีพิธีสารเกียวโตแล้วก็ตาม แต่ประเทศอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาก็ยังเมินเฉยที่จะเข้าร่วม ด้วยข้ออ้างที่ค่อนข้างจะปัดความรับผิดชอบว่า พิธีสารเกียวโตกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยมิได้คำนึงถึงความเลวร้ายที่เกิดขึ้นเลย

    อีก 1 เดือนถัดมา เขารอนแรมข้ามน้ำ ข้ามทะเล ไปยังฟิลิปปินส์เพื่อรณรงค์อีกเช่นเคย จนกระทั่งวงโคจรชีวิตพาเขากลับมาเมืองไทย

    3

    ชีวิตหลังการทำงานปกติบนเรือกลางทะเล คงไม่ได้มีอะไรให้ทำนัก ดังนั้น จึงมีทางเลือกอยู่ไม่มากไม่มาย ถ้าไม่สร้างบทสนทนากันระหว่างลูกเรือ อ่านหนังสือสักเล่ม หรือบางคนจะออกกำลังกายด้วยการเล่นเวท ก็ต้องปิดท้ายวันด้วยการนอนหลับพักผ่อน ไอ้ที่จะมานั่งดูผืนน้ำ ผืนฟ้า หรือร้องไห้กับเดือน ...ชีวิตบนเรือคงไม่อนุญาตให้คนเราเปราะบางและอ่อนไหวได้บ่อยขนาดนั้น

    "สันทนาการส่วนใหญ่ก็จะเป็นการพูดคุยกันมากกว่า บางคนก็เล่นเวท แล้วแต่ว่าแต่ละคนชอบอย่างไหน ที่นี่อนุญาตให้ดื่มเหล้าได้ แต่ว่าต้องอยู่ในขอบเขตของความปลอดภัย และอยู่ในขอบเขตของการไม่รบกวนคนอื่น พอหลังจากกินข้าวเย็นเสร็จก็จะเป็นเวลาส่วนตัวแล้ว ใครจะดูทีวีก็ดูไป โดยส่วนตัวแล้วจะชอบไปนอนอ่านหนังสือในห้อง แล้วก็หลับ"

    เมื่อเราถามเขาว่ามาแบบนี้คิดถึงบ้านบ้างหรือเปล่า เขาตอบว่า "ตั้งแต่ออกเรือมายังไม่คิดถึงบ้านแฮะ เพราะมันมีสิ่งต่างๆ ให้เราได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา มีเรื่องงานบนเรือให้คิดอยู่ตลอด เลยไม่มีเวลาว่างสักเท่าไหร่ให้มานั่งคิดเรื่องอื่นมากมายนัก"

    ความเบื่อหน่ายอาจมาทักทายบ้าง ความเหงาคงมาเป็นปกติ ความเหนื่อยล้าก็มีกันบ้างตามประสาคนทำงาน ถ้าสิ่งเหล่านี้คือต้นทุนที่ต้องใช้จ่ายระหว่างทางฝันที่เขาเลือก อะไรคือสิ่งที่เขาได้รับตอบแทน

    " ประสบการณ์ โอกาส และเพื่อน สังคมนานาชาติ ในเรื่องความเป็นอยู่ ความคิด ทัศนคติต่างๆ ตัวเรือมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรนักหนาหรอก ตัวเรือมันก็เป็นแค่เหล็ก เป็นแค่ส่วนประกอบของไม้ธรรมดา แต่สิ่งที่ทำให้เรือมันมีความสำคัญขึ้นมาคือลูกเรือ คือคน วิธีคิดในการทำงานสิ่งแวดล้อม คนเป็นสิ่งสำคัญในการทำงาน ผลักดันให้เกิดขึ้นมา"

    ฟังเขาพูดแล้วก็คล้ายๆ กับคำพูดสง่างามของเหล่าทหารเรือที่ว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...