ความจริงเกี่ยวกับ สวรรค์ และเทวดา

คนส่วนใหญ่ทำบุญ ทำทานเพื่อหวังไปเกิดเป็นเทวดา
เพราะในเทวโลกมีแต่ของสวยๆงามๆ มีความเป็นทิพย์
และสวยเลิศยิ่งกว่าเมืองมนุษย์มากนัก

หากเปรียบ ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก ก็เปรียบเหมือนภาชนะดินเผาที่ผุผัง
เทพธิดาที่ขี้เหร่ที่สุดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เปรียบเหมือนภาชนะทองคำเลี่ยมอัญมณ๊

เทวดา มีอายุขัยยืนยาวมาก
1 วันสำหรับโลกสวรรค์ชั้นต่ำที่สุดเท่ากับ 50 ปีของโลกมนุษย์

เทวดาไม่เจ็บป่วย ไม่เป็นโรคเหมือนกับมนุษย์

และเทวดาเวลาเกิดมาก็เป็นหนุ่มเป็นสาวทันที เพราะเกิดแบบโอปปาติกะ
และมักเที่ยวเล่นสนุกสนานไปวันๆ ไม่ต้องทำงานเหมือนกับโลกมนุษย์
เพราะคำว่า "เทวดา" แปลว่า "เล่นสนุก"

และเทวดาก็ไม่แก่ด้วย ผู้หญิงที่เป็นเทพธิดาจะมีอายุ ประมาณ 16 ถึง 17 ปี
ผู้ชาย เป็นเทพบุตร อายุ ประมาณ 17 ถึง 18 ปี
และเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่อย่างนั้นจนสิ้นอายุขัย ไม่มีแก่ ไม่มีผมหงอก ผิวหนังเหี่ยวย่น

และเทวดาก็กินอาหารทิพย์ เรียกว่า สุธาโภฃน์ ที่เลิศกว่ากว่าอาหารบน
โลกมนุษย์มากนัก

สถานที่บนสวรรค์ก้ล้วนแต่สวยงาม เลิศอลังการ เช่น
บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
มีสระโบกขรณี มีสวนจิตรลัดดา สวนมิกสักวัน
สวนสุนันทา และสวนนันทวัน โดยเฉพาะสวนนันทวัน ขึ้นว่าชื่อว่าเลิศ
ที่สุดในด้านความรื่นรมณ์
กล่าวกันว่า หากเทวดาที่มีทุกข์ใจ หากเข้าไปชมสวนนันทวัน
ความทุกข์นั้นจะมลายหายไปหมดสิ้น

(เทวดาไม่มีทุกข์กาย แต่ยังมีทุกข์ใจ เช่นยังอิจฉาริษยากัน
มีโลภอยากได้ใคร่มี )

บนสวรรค์ไม่มีการทำทาน เพราะสมบัติของเทวดาเกิดจากบุญเก่าของเขานั่นเอง

และพื้นถนนในสวรรค์นั้น ไม่ใช่เป็นอิฐ เป็นหินแข็งๆเหมือนโลกเรา แต่เป็นพื้นนุ่มๆที่ปู
ด้วยผ้าคล้ายกัมหยี่ เวลาเหยียบลงไป พื้นจะยุบตัวลงไป เมื่อชักเท้าออก จะฟูขึ้นเหมือนเดิม

นี่เป็นเหตุให้คนบนโลกอยากที่จะไปเกิดเป็นเทวดา
เพื่อจะได้เสวยสุขอันเป็นทิพย์

แต่สัจธรรมที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้ถึงความทุกข์ในสังสารวัฏฏ์นี้
ทุกสิ่งนั้นล้วนเป็นทุกข์ เพราะทุกอย่างเกิด แต่เหตุปัจจัย เป็นอนิจจัง เปลี่ยนแปลงไปไม่สิ้นสุด

เมื่อเทวดาหมดอายุขัยลง ประมาณ 80 เปอร์เซนต์ จะต้องไปเกิดในอบายภูมิ
น้อยนักที่จะกลับมาเกิดเป็นเทวดา หรือเกิดเป็นมนุษย์ใหม่

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า เทวดาที่ตายแล้วเกิดเป็นเทวดาอีกมีน้อยนัก
เทวดาที่ตายแล้วเกิดเป็นมนุษย์นั้นมีน้อยนัก
เทวดาตายแล้วไปเกิดในอบายมีมากมายนัก

เพราะเทวดายึดติดอยู่กับของทิพย์ สิ่งสวยงาม ด้วยจิตที่ยึดมั่นถือมั่น
เป็นอุปทานนี่เอง เมื่อต้องพรัดพรากจากสิ่งที่รัก ต้องจากสิ่งสวยงามไป
จิตย่อมเศร้าหมอง เมื่อจิตเศร้าหมอง เมื่อตายไป ทุกขคติจึงเป็นที่ไปนั่นเอง

ดังตัวอย่างในพระไตรปิฎก ครั้งที่ท้าวสักกะเทวราช ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ทรงทราบว่าพระองค์เองจะหมดอายุขัยลง เพราะกายมีเหงื่อออก
เป็นสัญญานเตือนว่าจะหมดอายุขัย และจิตของพระองค์เศร้าหมองมาก
พระองค์ว้าวุ้นใจ และทราบว่าหากตายไปตอนนี้ จะต้องไปเกิดในอบายภูมิแน่นอน
เพราะพระองค์ยึดติดกับสิ่งสวยงาม และสมบัติพัสฐาน บริจาริกาของพระองค์

พระองค์จึงไปพบพระพุทธองค์ที่กำลังเข้าสมาบัติอยู่
ท้าวสักกะ จึงบอกให้ปัญจสิขเทพบุตร ขับกล่อมดนตรีเพื่อให้พระพุทธองค์ทรงได้ยิน

จากนั้นพระพุทธองค์จึงได้สนทนาธรรมกับท้าวสักกะ จนท้าวสักกะซึ่งตอน
นั้นใกล้จะหมดอายุขัยอีกไม่กี่อึดใจ แต่เมื่อสนทนาธรรมเสร็จ
ผลบุญจากการฟังธรรมนั้น ทำให้ท้าวสักกะ ได้บรรลุโสดาบัน และปฏิสนธิเป็นท้าวสักกะอีกครั้ง
และได้ปกครองสวรรค์ดั่งเดิม

หากท้าวสักกะไม่ได้มาพบพระพุทธองค์ ย่อมไปเกิดในอบายแน่นอน
และจะมีเทวดากี่องค์ที่จะโชคดีเช่นนี้ นี่คือความจริงของโลกสวรรค์ที่เราๆท่านอยากไปกันนัก

เราเชื่อว่าสวรรค์ของมนุษย์ก็คือการได้เกิดเป็นเทวดา
แต่พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า สวรรค์ของเทวดา ก็คือโลกมนุษย์นั่นเอง
แม้แต่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ก็ต้องมาตรัสรู้บนโลกมนุษย์
เพราะโลกมนุษย์ได้เห็นการเกิด แก่ เจ็บตาย เห็นทุกข์ได้ง่ายกว่าบนสวรรค์

ผู้คนจึงเห็นสัจธรรมได้ง่ายกว่า และตั้งตนในความไม่ประมาท
เพราะความสุขนั้นย่อมมีรสหวานในตอนต้น แต่แฝงพิษร้ายในตอนท้าย
ผู้ที่หลงในความสุข จะอยู่ในความประมาท ไม่ฝักใฝ่ในบุญกูศล
ย่อมนำพาความทุกข์มาให้

แล้วเราๆท่านๆหละครับ ยังหลงติดสุขในโลกนี้อยู่อีกหรือไม่
เกิดเป็นคนทั้งทีเหมือนเกิดบนสวรรค์ของเทวดา

ขอให้หมั่นทำบุญ รักษาศีล และเจริญภาวนา เพื่อพ้นจากสุขและทุกข์ในสังสารวัฏฏ์นี้เถิด

 

ขอบคุณครับ

 

มีเหตุมีผลเข้าท่าดี รู้ได้ไง.....แปลกดีนะ.

 

ได้อ่านแล้วรู้สึกดีมากค่ะ
ที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ ถึงแม้จะลำบาก ก็ดีใจค่ะ

 

รู้ได้ไงหรอคับ

 

เมื่อรู้แจ้งธรรม ก็รู้เรื่องพวกนี้ได้ครับ <label for="rb_iconid_30"></label>

 

เอ่อ แล้ว บนสวรรค์ มีแร็คนาร๊อค มีดอทเอ ให้เล่นกันรึเปล่าครับ ถ้าไม่มี

เกิดเป็นมนุษย์อีกรอบมาเล่นดีกว่าครับ อยู่บนสวรรค์ ทำอะไรก็ไม่ต้องสรรค์หา

มีทุกอย่างครบครันแค่นึกก็มา เบื่อตายชัก - - ที่สำคัญ สะสมบุญไม่ได้มากเหมือนตอน

เป็นมนุษย์ด้วยนะเออ

 

เป็นมนุษย์สร้างบุญบารมีได้ เทวดาสร้างไม่ได้

 

งั้นผมก็ไม่ได้บ้าละ ที่อยากเกิดเป็นมนุษย์อยู่ตลอดไป

 

เกิดเป็นมนุษย์เพื่อสะสมบุญ แล้วไปรับผลบุญที่ได้บนสวรรค์ จะมีอยู่จริงรึเปล่าก็ไม่รู้ ผมว่าสรรค์ก็อยู่บนดินนี่แหละ ถ้าคนรู้ก็พวก กิเลศ ตัณหากันทั้งหลายนั่นแหละ แต่ผมว่าไม่ไม่ใช่สรรค์ที่แท้จริงหลอก เพราะสวรรค์ที่แท้จริงต้องเป็นอะไรที่แปลกประหลาดมากๆแน่

แล้วพวกทำความชั่วละ สะสม แล้วไปรับผลกรรมในนรกเหรอเนี่ย โอยไม่อยากคิดเลย

การเกิดเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์นี่ช่างยากจริงหนอ ขอเกิดเป็นคนธรรมดาดีกว่า มีนิยายอ่าน การ์ตูน เกมส์เล่นก็พอใจแล้ว