ความคิดดีๆคติดีๆอยู่ที่นี่ เชิญมาร่วมอ่านกันเถอะ...ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ราชันลาง, 9 เมษายน 2013.

  1. ราชันลาง

    ราชันลาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +431
    21-10-2008, 09:27 AM #585
    nan042
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Oct 2008
    ข้อความ: 1
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 0
    ได้รับอนุโมทนาบุญ 6 ครั้ง ใน [ARG:2 UNDEFINED] โพส
    พลังการให้คะแนน: 0

    พระคาถา ธัมมะจักร
    พระคาถา ธัมมะจักร



    ธัมมะจักร ท่านใดได้สวด จะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ไม่ว่าจะเป็นกิจการงานแขนงไหนที่ได้ทำอยู่ จะได้เจริญก้าวหน้า เพราะธัมมะจักรเป็นพระธรรมเทศนา กัณฑ์แรก ทีพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงโปรดนักบวช ปัญจวัคคีย์ และเป็นวงล้อที่หมุน เป็นครั้ง แรกของพระพุทธศาสนา จึงนับว่า เป็นการลำบากที่ผู้คนทั้งหลาย จะได้สวด และยังจะเป็นบทที่เปลื้องทุกข์ภัยต่างๆ นานาได้อีกด้วย สิ่งเลวร้ายจะกลายมาเป็นแก้วสารพัดนึกขึ้นมาได้ และยังจะทำให้ผู้นั้นมีอายุยืน มีความสุขกาย สุขใจ ปราศจากทุกข์โศก โรคภัย เมื่อได้สวดประจำทุกคืน ทั้งตื่นและหลับ จะกลับกลายเป็นมิ่งมงคลแก่ตัว เมื่อยังมีชีวิตอยู่ก็ได้มีความก้าวหน้า สถาพร ทรัพย์สมบัติข้าวของ บริบูรณ์ เมื่อละไปจากโลกจะได้ไปอยู่เป็นสุขในสรวงสวรรค์ชั้นใด ชั้นหนึ่ง ดังที่จิตใจของเรา ได้เคยสวดสาธยายมา

    ภุมมานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา

    จาตุมมะหาราชิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ จาตุมมะหาราชิกานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    ตาวะติงสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ ตาวะติงสานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวาๆ
    ยามา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ ยามานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    ตุสิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ ตุสิตานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    นิมมะนะระตี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ นิมมานะระตีนัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ ปะระนิมมิตะวะสะวัตตีนัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    พรหมมะกายิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ พรหมมะกายิกานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    พรหมมะปาริสัชชา เทวานัง สัททะมะนุสสาเวสุงๆ พรหมมะปาริสัชชานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    พรหมมะปุโรหิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ พรหมมะปุโรหิตานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    มะหาพรหมมา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ มะหาพรหมมานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    ปะริตตะภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ ปะริตตาภานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    อัปปะมาณาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ อัปปะมาณานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    อาภัสสะรา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ อาภัสสะรานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    ปะริตตะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ ปะริตตะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    อัปปะมาณะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ อัปปะมาณะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    สุภะกิณหะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ สุภะกิณหะกานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    เวหัปผะลา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ เวหัปผะลานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    อะสัญญะสัตตา เทวา สัททะทะนุสสาเวสุงๆ อะสัญญะสัตตานัง เทวานัง สัททัง สุตตตะวา
    อะวิหา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ อะวิหานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    อะตัปปา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ อะตัปปานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    สุทัสสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ สุทัสสานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    สุทัสสี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ สุทัสสีนัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา
    อะกะนิฏฐะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุงๆ อะกะนิฏฐะกานัง เทวานัง สัททัง สุตตะวา


    เอตัมภะคะวาตา พาราณะสิยัง อิสิปะตะเน มิคะทาเย อะนุตตะรัง ธัมมะจักกัง ปะวัตติยัง อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พรหมมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรหมมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสสะมินติๆ





    ปัตตานุโมทนามัย... อนุโมทนากับคนที่ทำบุญ เราก็ได้บุญด้วย
















     




















    ผู้ถาม มีคนฝากให้มาถามหลวงพ่อว่า พ่อแม่ไม่ค่อยทำบุญแต่เป็นคนดี คนซื่อ ถ้าบุตรหลานทำให้แล้วจะใส่ชื่อเขาด้วย อยากทราบว่า ท่านจะได้หรือไม่ครับ




    หลวงพ่อ เขาโมทนาด้วยหรือเปล่า ถ้าลูกไปบอกว่า "พ่อ(หรือแม่) ฉันทำบุญให้แล้ว ถ้าท่านยินดีด้วย ท่านได้แน่นอน ถ้าบอก กูไม่รู้โว้ย ด่าตะเพิด อันนี้ไม่ได้แน่








    ผู้ถาม อย่างเวลาเลิกพระกรรมฐานแล้ว ก็มีคนไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อ แต่หนูไม่มีของก็ยกมืออนุโมทนาด้วย อย่างนี้จะมีอานิสงส์ไหมคะ...? 




    หลวงพ่อ อานิสงส์ที่จะพึงได้ก็คือ ปัตตานุโมทนามัย เป็นผลกำไรจากการเจริญพระกรรมฐานไม่ต้องลงทุน ถ้าตั้งใจจริงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เจ้าของได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เราได้ครั้งละ 90 ผ่านไป 10 คนเราได้ 900 มากกว่าเจ้าของ เอ้า! เยอะจริงๆ มันทำบารมีให้เต็มเร็ว เร็วมาก 




    การโมทนา เขาแปลว่า ยินดีด้วย ต้องยินดีด้วยความจริงใจนะ สักแต่ว่า สาธุ มันไม่ได้อะไร คำว่า "สาธุ" ไม่จำเป็นต้องออกเสียง ไม่จำเป็นต้องยกมือไหว้ก็ได้ เอาใจยินดีใช้ได้เลย
    และการแสดงความยินดีมันก็คือ มุทิตา เป็นตัวหนึ่งใน พรหมวิหาร 4 นี่บุญตัวใหญ่ ที่พระพุทธเจ้าบอกว่า "จิตเต อสังกิลิฏเฐ สุคติ ปาฏิกังขา" ถ้าก่อนตายจิตผ่องใส ก็ไปสู่สุคติ หมายถึง สวรรค์ ก็ได้ พรหมก็ได้ นิพพานก็ได้ สุดแล้วแต่กำลังใจเรา




    และการโมทนานี่ทำให้ชุ่มชื่นใจ ใช่ไหม....เขาทำดีเรายินดีด้วย ยินดีกับความดีของเขา ไม่ช้าเราก็ดีตามเขา เพราะเราเห็นเขาดี เราก็ชอบดีใช่ไหม... แต่อย่าไปชอบดีเฉยๆ นะ ต้องทำดีด้วยนะ ทำบุญด้วยตนเองบ้าง








    ผู้ถาม หลวงพ่อครับ ปัตตานุโมทนามัย กับ ไวยาวัจจมัย นี่เหมือนกันไหมครับ 




    หลวงพ่อ ไวยาวัจจมัย เขาแปลว่า ขวนขวายในกิจการงาน เช่น เขาส่งสตางค์มาทำบุญ เราช่วยส่งต่อ หรือพวกที่ช่วยขนสังฆทานนี่ ก็พลอยได้บุญไปด้วย มีอานิสงส์ต่ำกว่าบวรเณรนิดหนึ่ง ไม่เบานะ 
    แต่ ปัตตานุโมทนามัย ไม่ต้องลงทุน แต่พวกถือมานี่ ยังต้องออกแรงนะ พวกโมทนานี่ไม่ต้องออกแรงเลย แต่อย่าลืมนะเอาแค่โมทนาอย่างเดียวไม่ดีนะ ต้องอาศัยคนต้นตลอด ถ้าไม่ได้อาศัยคนต้นจริงๆ จะสำเร็จมรรคผลไม่ได้ เช่นเดียวกับ พระนางพิมพา ต้องอาศัยพระพุทธเจ้าตลอด








    ---------------------------------------------------------------








    อ่านต่อ
    คนร่ำรวยมีโอกาสสร้างกุศลผลบุญได้มากกว่าคนจนจริงหรือไม่?








    --------------------------------------------------------




    ข้อความด้านล่าง เขียนเพิ่มเติม โดย WebSnow




    สำหรับใครที่ตั้งกระทู้แล้วมีคนมา กดปุ่มอนุโมทนา
    ผู้ตั้งจะได้คะแนนชื่อเสียง 2 คะแนน
    ถ้า 2 คนกดใน1กระทู้ ผุ้ตั้งจะได้ 4 คะแนน
    ผล้วผู้ตั้งกระทู้สามารถรู้ว่าใครกดให้คะแนนบ้าง
    Reputation = ชื่อเสียง 




    คะแนนชื่อเสียงคืออะไร ?
    อ่านต่อ
    เว็บบอร์ด พลังจิต ดอทคอม




    20-04-2009, 07:02 PM #677
    phatmouy
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Apr 2009
    ข้อความ: 36
    Groans: 1
    Groaned at 17 Times in 12 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 41
    ได้รับอนุโมทนา 125 ครั้ง ใน 42 โพส
    พลังการให้คะแนน: 0


    จงทำแต่ความดี เนื้อหาที่อ่านสามารถสามารถนำไปใช้ที่ทำงานได้อย่างดี
    ถ้าทำได้ก็สามารถอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข สาธุ สาธุ สาธุ
    > 1. อย่าเป็นนักจับผิด
    คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง '< /FONT>กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก' คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส 'จิตประภัสสร' ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี'แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข'

    > 2. อย่ามัวแต่คิดริษยา
    > 'แข่งกันดี ไม่ดีสักคนผลัดกันดี ได้ดีทุกคน'
    > คนเราต้องมีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
    > คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า 'เจ้ากรรมนายเวร' ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ฉะนั้น เราต้องถอดถอน
    > ความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น 'ไฟสุมขอน' (ไฟเย็น) เราริษยา 1 คน เราก็มีทุกข์ 1 ก้อน
    > เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี 'แผ่เมตตา' หรือ ซ! ื้อโคมมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล ่อยให้ลอยไป


    > 3. อย่าเสียเวลากับความหลัง
    > 90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ 'ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น'
    > มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องเคราต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย
    > ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ 'อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน'
    > 'อยู่กับปัจจุบันให้เป็น' ให้กายอยู่กับจิตจิตอยู่กับกาย คือมี 'สติ' กำกับตลอดเวลา


    > 4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ
    > 'ตัณหา' ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ ธรรมชาติของตัณหา คือ 'ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม'
    > ทุกอย่! างต้องดูคุณค่าที่แท้ ไม่ใช่ คุณค่าเทียม เ ช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกา คืออะไร คือ ไว้ดูเวลาไม่ใช่มีไว้ใส่เพื่อความโก้หรู
    > คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือ คืออะไร คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์
    > เราต้องถามตัวเองว่า 'เิกิดมาทำไม' 'คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน 'ตามหา 'แก่น' ของชีวิตให้เจอ
    > ' คำว่า 'พอดี' คือ ถ้า 'พอ' แล้วจะ 'ดี' รู้จัก 'พอ' จะมีชีวิตอย่างมีความสุข'







    20-04-2009, 10:55 PM #678
    phatmouy
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Apr 2009
    ข้อความ: 36
    Groans: 1
    Groaned at 17 Times in 12 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 41
    ได้รับอนุโมทนา 125 ครั้ง ใน 42 โพส
    พลังการให้คะแนน: 0


    ขอมอบให้ทุกท่านครับ
    ๑. ละเว้นความชั่ว อะไรก็ตามที่ทำไปทางกาย พูดทางวาจา หรือคิดทางใจแล้วจะยังผล
    (๑) ทำให้ตนเองเดือดร้อน
    (๒) ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
    (๓) ทำให้ทั้งตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน
    (๔) ไม่เป็นประโยชน์แก่ตนเองและคนอื่น
    สิ่งเหล่านั้นจัดว่าเป็นความชั่ว จะต้องงด ลด ละ สละ เว้น หลีกเลี่ยง ห่างไกลให้ได้

    ๒. หลักประพฤติความดี อะไรก็ตามที่ทำไปทางกาย พูดทางวาจา หรือคิดทางใจแล้วจะยังผลดี
    (๑) ไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน
    (๒) ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
    (๓) ไม่ทำให้ตนเองและทั้งผู้อื่นเดือดร้อน
    (๔) เป็นประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น
    สิ่งเหล่านั้นจัดว่า เป็นความดี ใครประพฤติปฏิบัติเข้าก็เรียกว่า ประพฤติดี ทุกคนควรประพฤติแต่ความดี

    ๓. หลักชำระใจให้สะอาด อะไรก็ตามที่ทำให้สิ่งที่ทำ คำที่พูด อารมณ์ที่คิด แล้วทำให้จิตใจสะอาด ประณีตสูงส่ง ด้วยคุณธรรม มโนธรรม เช่น ทาน สันโดษ เมตตากรุณา ปัญญา ซึ่งเป็นเครื่องขจัดความโลภ ความโกรธ และความหลง อันเป็นเครื่องเศร้าหมองใจให้บรรเทาเบาบาง จางหาย สูญสิ้นไปจากจิตใจ วิธีการมีหลายวิธ๊ เช่น ด้วยการรักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา ฝึกสมาธิ และวิปัสสนาภาวนา เป็นต้น อย่าลืมว่า จิตใจเป็นใหญ่เป็นสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น หลักการชำระจิตใจให้สะอาดประณีตจึงเป็นหลักการที่สำคัญที่สุด เจ้าชายสิทธัตถะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ก็เพราะสามารถชำระจิตใจให้สะอาดประณีตถึงขั้นสูงสุด คือ หมดจดจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งมวล เป็นผู้มีภาวะจิตบริสุทธิ์โดยแท้ เรียกว่า พระวิสุทธิคุณ แม้คนธรรมดาสามัญจะได้นามว่าเป็นพระอริยะสงฆ์ จบกิจพระศาสนาก็เพราะเข้าถึงหลักทั่วไปที่ ๓ คือ สามารถทำตนให้บรรลุภาวะจิตบริสุทธิ์นี้เอง




    02-02-2009, 06:28 PM #633
    ฟลัฟฟี้
    สมาชิก



    วันที่สมัคร: Jan 2009
    ข้อความ: 169
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 229
    ได้รับอนุโมทนา 700 ครั้ง ใน 108 โพส
    พลังการให้คะแนน: 84


    สาธุ อนุโมทนาค่ะ ดิฉันก็ชอบอนุโมทนาแต่ไม่ทราบว่าเพียงทำจิตให้ยินดีเท่านั้นก็พอได้ เพราะดิฉันจะยกมือใส่ศีรษะทุกครั้งที่ทำ แต่บางทีมีคนทำหลาย ๆคนยกมือบ่อย ๆบางคนก็ขำหัวเราะเรา ก็คิด ๆอยู่เช่นกันอยากทราบวิธีอื่น ๆด้วยที่ทำแล้วเรายินดีจริง ๆ และไม่ต้องเป็นภาพให้คนที่เขายังไม่เข้าใจหัวเราะเยาะให้เป็นกรรมของเค้าไปด้วย สาธุ อนุโมทนาค่ะ




    19-10-2008, 11:16 PM #584
    cinderella2517
    สมาชิก



    วันที่สมัคร: Jul 2008
    สถานที่: ที่นี่ ประเทศไทย
    ข้อความ: 807
    Groans: 9
    Groaned at 5 Times in 5 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 5,726
    ได้รับอนุโมทนา 3,934 ครั้ง ใน 665 โพส
    พลังการให้คะแนน: 272


    สาธุ ขออนุโมทนาด้วยค่ะ บุญที่ท่านใด้ให้ความกระจ่างชัดทางศัพท์พระธรรม คำว่าอนุโมทนา บางคนไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าอนุโมทนานี่คืออะไร ขอให้บุญนี้จงส่องสว่างแก่ผู้ให้ปัญญาเทอญ







    21-08-2005, 08:37 PM #8
    ลูกแก้ว
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2005
    อายุ: 47
    ข้อความ: 33
    Groans: 0
    Groaned at 1 Time in 1 Post
    ได้ให้อนุโมทนา: 0
    ได้รับอนุโมทนา 939 ครั้ง ใน 14 โพส
    พลังการให้คะแนน: 0


    การชักชวนให้คนอื่นร่วมทำบุญก็มีอานิสงส์นะครับ ถ้าเราทำบุญของเราคนเดียวไม่บอกกล่าวใคร ชาติหน้ารวยครับแต่เหงาไร้บริวารเพื่อนฝูงญาติมิตรที่เป็นกัลยาณมิตร แต่ถ้าเราทำบุญด้วย บอกบุญให้ผู้อื่นร่วมทำบุญหรือร่วมอนุโมทนาด้วย ชาติหน้าก็จะทั้งรวยทั้งมั่งคั่งด้วยบริวารญาติมิตรกัลยาณมิตร ถ้าในกรณีที่ตัวเองไม่ยอมทำบุญเองแต่มีแก่ใจบอกบุญชาวบ้านให้เขาทำบุญแบบนี้ชาติหน้า ไม่ร่ำรวยแต่มีเพื่อนฝูงญาติมิตรร่ำรวยมั่งคั่งให้พึ่งพาได้ครับ แต่ถ้าตัวเองก็ไม่ยอมทำบุญแล้วยังไม่บอกหรือขัดขวางคนอื่นทำบุญแบบนี้ชาติหน้าจน แถมญาติมิตรก็ไม่ค่อยมีที่มีก็แย่กว่าเราอีกมาเกาะเป็นเตี้ยอุ้มค่อมซะอีก นี่แหละครับเพราะฉะนั้นเมื่อเราทำบุญทำดีก็อย่าบอกเพื่อนฝูงญาติมิตรให้เขาได้ร่วมบุญหรือโมทนา หรือมัวเกรงใจหรืออายเลยครับ ก็ชวนทำดีนี่ไม่ได้ชวนไปกินเหล้าเมายาเล่นการพนันซะหน่อย บอกเขาเถอะครับส่วนตัวผู้รับข่าวเขาจะทำหรือไม่ก็แล้วแต่บุญวาสนา แต่เราน่ะถือว่าสร้างวาสนาแล้วคร้าบ




    22-08-2005, 08:46 AM #10
    WebSnow
    ผู้ก่อตั้งและเว็บมาสเตอร์ (วีระชัย)



    วันที่สมัคร: Apr 2003
    สถานที่: London, England
    ข้อความ: 8,034
    Groans: 20
    Groaned at 122 Times in 53 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 2,573
    ได้รับอนุโมทนา 92,484 ครั้ง ใน 6,319 โพส
    พลังการให้คะแนน: 50000


    วิธีทำบุญง่ายๆ เราไปอนุโมทนาคนทำบุญที่ห้อง

    ศูนย์ ประชาสัมพันธ์

    ลงประชาสัมพันธ์ฟรี, แจก CD, แจกหนังสือ,โฆษณาเว็ป, โฆษณาสินค้า, ประกาศข่าวการทำบุญหรืองานต่างๆและอื่นๆ

    หรือคอยเขียนตามอนุโมทนาบุญตามกระทู้ต่างๆ



    เช่น....

    ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่าน
    ที่ได้ทำบุญในทุกกระทู้เข้ามาเข้าประชาสัมพันธ์ ในหมวดประชาสัมพันธ์

    และข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่าน ที่เอาธรรมะที่เป็นสัมมาทิฐิมามาโพสเผยแผ่ในเว็ปพลังจิต







    23-08-2005, 06:16 PM #13
    nokthai
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Aug 2005
    อายุ: 49
    ข้อความ: 4
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 7
    ได้รับอนุโมทนา 359 ครั้ง ใน 2 โพส
    พลังการให้คะแนน: 0


    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ..ขอสรรพสิ่งทั้งหลายที่เวียนว่ายตายเกิดในจักรวาลนี้จงอย่าได้มีเวรกรรมซึ่งกันและกันเลย..ขอให้หลุดพ้นเข้าสู่นิพพานโดยเร็วด้วยเถิด...สาธุ..สาธุ..สาธุ




    24-08-2005, 11:30 AM #14
    ปราณยาม
    สมาชิก



    วันที่สมัคร: Feb 2005
    อายุ: 34
    ข้อความ: 462
    Groans: 0
    Groaned at 1 Time in 1 Post
    ได้ให้อนุโมทนา: 2,922
    ได้รับอนุโมทนา 4,226 ครั้ง ใน 415 โพส
    พลังการให้คะแนน: 379


    อนุโมทนาด้วยครับ ตรงนี้มีครูเคยสอนด้วยครับว่าเวลาเราไปทำบุญที่ไหนมา เมื่อกลับถึงบ้านแล้วให้เราบอกกล่าวที่บ้านด้วย เทวดาหรือเจ้าที่จะได้ร่วมอนุโมทนากับเรา บ้านเราก็จะได้สงบสุขครับ
    __________________
    ขอภพหน้าเป็นชาติสุดท้ายให้ได้เกิดและสำเร็จมรรคผลอรหันต์ต่อเบื้องหน้าพระพักต์แห่งพระศรีอาริยเมตไตรพุทธเจ้าในสมัยที่พระองค์ยังทรงพระชนชีพด้วยเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2013
  2. Snow

    Snow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    704
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เมื่อก่อนไม่เคยทราบว่าบทธรรมจักรนั้นสวดเพื่ออะไร แต่แปลกที่อยู่ดีๆก็อยากสวดขึ้นมา พอได้ฟัง ก็รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก อาการเหมือนคนที่ได้ฟังเพลงที่ซึ้งกินใจจนหัวใจมันพองโต หลังเวลาไม่สบายใจหรือมีทุกก็มักจะนำมาสวดอยู่บ่อยครั้งจนรู้สึกว่า สถานการณ์ต่างๆในชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้นำมาสวดเป็นประจำ อาจเว้นแค่บางวันที่ไม่มีเวลาจริงถึงจะงดจากการสวด
     
  3. ราชันลาง

    ราชันลาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +431
    13-03-2006, 10:53 AM #86
    สุริยทรงศีล
    สมาชิก



    วันที่สมัคร: Feb 2006
    ข้อความ: 118
    Groans: 1
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 66
    ได้รับอนุโมทนา 1,977 ครั้ง ใน 122 โพส
    พลังการให้คะแนน: 280

    การเกิดเป็นของน่ากลัวอย่างยิ่ง

    ทุกท่านคงเคยได้ยินประโยคที่ว่าพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เพราะมีโอกาสซ่อนอยู่ในการเกิดของเรา คือเกิดเป็นมนุษย์มีโอกาสเรียนรู้และเข้าใจในพระธรรม ได้มีโอกาสรู้จักพระรัตนตรัย รู้จักบุญ โมทนาบุญได้ ที่สำคัญที่สุดมีโอกาสได้ยินคำว่าพระนิพพาน อันเป็นของยากมากแม้ว่าแค่ได้ยินไม่ต้องพูดถึงว่ารู้จัก

    การปรารถนาพระนิพพานต้องบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม ดังนั้นการโมทนาบุญจึงเป็นสิ่งที่วิเศษ เพราะบุญเป็นเครื่องช่วยในการสำเร็จธรรมนำไปสู่

    พระนิพพานอันเป็นสุขอย่างยิ่ง

    __________________
    ขอโมทนาในบุญทั้งหลายทั้งหมดที่เกิดในพระพุทธศาสนาร่วมกับพระฯ ทุกพระองค์และท่านทั้งหลาย ขออานิสงฆ์จงสำเร็จแก่เราและดวงจิตทั้งหลายให้สมปรารถนาทุกประการตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ

    ( ตั้งนโม 3 จบ, ขอขมาพระ, อุทิศส่วนกุศล)

    สาธุ สาธุ สาธุ

    [b-wai]
     
  4. ราชันลาง

    ราชันลาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +431

    ดีครับขออนุโมทนาบุญด้วยครับช่วยกันแชร์บทสวดมนต์หรืออานิสงค์ของการทำความดีกันเยอะๆครับ
     
  5. ราชันลาง

    ราชันลาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +431
    ทันทีที่คนเราเริ่มเชื่อว่ากรรมเป็นตัวลิขิตชะตานี่นะ ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นทันที อย่างน้อยเรามีเหตุผลอธิบายตัวเองว่าทำไมต้องเป็นเราและเจออะไรอย่างที่เคยเจอ จิตศรัทธาแบบพุทธจะคล้อยไปในเส้นทางของเหตุผลและปัญญา ซึ่งทำให้เกิดความสว่างและอบอุ่นและความไม่หลงงมงายด้วยความเชื่อสืบๆกันมา




    จากน้องอัมในเฟส
     
  6. ราชันลาง

    ราชันลาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +431
    การทำบุญอธิฐานหวังผลให้คุ้มค่าที่สุดจึงไม่ใช่เพื่อไปเกิดเป็นอะไรแต่เพื่อให้มีสิทธิ์ได้เลิกไปเกิดเป็นอะไรๆทั้งหมดมากกว่า


    จากน้องอัมในเฟส
     
  7. ราชันลาง

    ราชันลาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +431
    ถ้าเคยคิดว่ากรรมที่ทำไว้กับพ่อแม่ไม่เท่าไหร่ รีบเปลี่ยนความคิดเถอะครับ เพราะตอนรับผลตรงๆเป็นความเดือดเนื้อร้อนใจเกี่ยวกับลูกหลาน แล้วจำได้เป็นฉากๆว่าไอ้ที่ประสบอยู่นั้น เป็นสิ่งที่เคยทำไว้กับพ่อแม่อย่างไร บางทีอาจสายเกินกว่าจะแก้อะไรแล้ว ต้องแบกวิบากอ่วมอรทัยกันยืดเยื้อยาวนาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...