ครูบาผาผ่า ตนบุญแห่งอำเภอแม่สะเรียง ผู้มีสมาธิจิตแก่กล้าแต่เยาว์วัย

​

ประวัติของ พระครูบาผาผ่า ( พระครูปัญญาวรวัตร )​

· ตนบุญแห่งอำเภอแม่สะเรียง ผู้มีสมาธิจิตแก่กล้าแต่เยาว์วัย

· สามารถหยั่งรู้จิตใจของคนอื่นและเหตุการณ์ล่วงหน้าได้

· ผู้ถือมังสะวิรัติเคร่งครัดในพระกัมมัฎฐาน เปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรม

· เป็นพระภิกษุรูปเดียวที่ครูบาเจ้าศรีวิไชย ยกย่องประกาศเกียรติคุณว่า มีบุญญาธิการบารมีแก่กล้า แต่ไม่ชอบแสดงตนและยอมรับว่าเป็น “ ตุ๊น้อง ”

· วัตถุมงคลของท่านครูบา เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า มีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ ให้ผลทางเมตตามหานิยม แคล้วความจากอุบัติเหตุเภทภัยอันตรายต่างๆ นานา




“ แม่สะเรียง ” ในอดีตมีชื่อเรียกว่า “ เมืองยวม ” คู่กับอำเภอขุนยวม เพราะคำว่า “ ยวม ” ก็คือ แม่น้ำยวม เมืองยวมอยู่ปลายแม่น้ำยวม เคยเป็นเมืองหน้าด่านเพื่อปกป้องอาณาจักรลานนาไทย มีอยู่หลายครั้งพม่าเคยยกกองทัพผ่านเมืองยวมไปตีเมืองเชียงใหม่ และกองทัพลานนาไทยส่วนหน้าก็ได้เคยมาสะสมกำลัง และเสบียงอาหารไว้ ณ ดินแดนแห่งแคว้นนี้ ก่อนที่จะยกกองทัพลานนาบุกตลุยข้ามแม่น้ำสาละวิน ไปฟากตะวันตกโดยได้มาพักที่ริมแม่น้ำสะเรียง และได้มาที่ วัดกิตติวงศ์ ซึ่งในอดีตเรียกว่า “ วัดชัยสงคราม ” เพื่อทำพิธีทางไสยศาสตร์ อาทิ อาบขาง สักยา ในทางคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดตามวิชาการสู้รบในครั้งกระโน้น ปรากฏว่าได้ผล และได้รับชัยชนะในการรบมาทุกครั้ง


บรรดาบรรพบุรุษเราคือ ทหารหรือคนหาญ ก็ได้ไปเดินขวักไขว่ อยู่ในกรุงหงสาวดี และเด็ดดอกฟ้าเอาข้ามแม่น้ำสาละวินมาเชยชม แต่ก็มีอยู่หลายครั้งเหมือนกันที่บรรพบุรุษของเราได้วิ่งหนีจนป่าราบมาแล้วในสมัย หยิ่นหน่อง มหาราชเจ้ากรุงหงสาวดี ที่คนไทยเราเรียกว่า “ บุเรงนองมหาราช ” แต่ทั้งหมดนี้มันก็เป็นเรื่องอนิจจังในอดีต ปัจจุบันไทยกับพม่าเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทสนม มีสัมพันธไมตรีอันดีต่อกัน

ครูบาผาผ่าคือใคร​

จากเมืองยวมสู่ลุ่มน้ำสาละวิน เขตแดนพม่า ในบรรดาพระอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ เปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี มีศีลาจารวัตรยึดมั่น ในสัมมาปฏิบัติ ถือมังสาวิรัติเคร่งครัดในพระกัมมัฏฐาน มีสมาธิแก่กล้า มีเจโตปริญาณสามารถหยั่งรู้จิตใจของคนอื่น และเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ ในถิ่นแคว้นลานนาไทย หรือภาคเหนือก่อนโน่น เห็นมีครูบาผาผ่า หรือพระครูปัญญาวรวัตร สำนักวัดผาผ่า อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ครูบาเจ้าศรีวิไชย ได้ยกย่องประกาศเกียรติคุณ ทั้งนี้จากการกล่าวขานของชาวพุทธ ทั้งชาวเรา ชาวเขา


ในสมัยที่ครูบาเจ้าศรีวิไชยยังมีชีวิตอยู่ ชาวเรา – ชาวเขา แม่สะเรียงจำนวนมากได้หลั่งไหลกันไปทำบุญขอศีลขอพรกับท่านครูบาเจ้าศรีวิไชย ที่เชียงใหม่ และช่วยทำงาน เช่น สร้างทางขึ้นดอยสุเทพเป็นต้น และการคมนาคมในสมัยนั้นแสนทุระกันดาร ไม่มีถนนให้รถราวิ่งสะดวกอย่างปัจจุบันนี้ จากอำเภอแม่สะเรียงไปเชียงใหม่ ต้องเดินเท้า ใช้เวลาเดิน ๕ - ๗ วัน เดินขึ้นเขาลงห้วย ได้รับความลำบากยากเข็ญเป็นที่สุด


ครูบาเจ้าศรีวิไชยได้เห็นความลำบากของพี่น้องชาวพุทธ อำเภอแม่สะเรียง ที่ต้องเดินทางไกลมาด้วยความลำบากเช่นนั้น จึงได้บอกว่า ต่อไปไม่จำเป็นจะต้องมาทำบุญขอศีลขอพรกับอาตมาถึงที่นี่ก็ได้ มีอะไรก็ให้ไปหา “ ตุ๊น้อง ” ที่ วัดดอยล้อม ที่เมืองยวม โน้นก็ได้ เพราะท่านก็มีบุญบารมีแก่กล้าทุกอย่างเหมือนกัน เพียงแม่ตุ๊น้องไม่ชอบแสดงตนเท่านั้น คำว่า “ ตุ๊น้อง ” หมายถึงท่านครูบาผาผ่าฯนั่นเอง นับแต่นั้นมา บรรดาชาวพุทธ ทั้งชาวเรา – ชาวเขา อำเภอแม่สะเรียง ต่างพากันไปทำบุญให้ทานขอศีลขอพรกับท่านครูบาผาผ่ามากขึ้น


สมัยเมื่อ ๒๐ ปีก่อนโน้น การคมนาคมจากอำเภอแม่สะเรียงไปยังหมู่บ้านผาผ่า แสนทุระกันการ ไม่มีทางรถยนต์ไปถึงเหมือนปัจจุบันนี้ เราจะต้องเดินทางไปอีกด้วยเท้าเปล่าประมาณ ๑๕ กิโลเมตรเศษ แต่ประชาชนทั้งใกล้และไกล ทั้งชาวเรา – ชาวเขา ต่างก็มีอุตสาหะเดินทางไปทำบุญ ขอศีลพรจากท่านครูบาฯโดยมิได้ขาด มีบางคนบางพวกก็ไปขอยารักษาโรค ขอน้ำมนต์ ขอวัตถุอันเป็นมงคลเพื่อความสุขความสวัสดีแก่ตนและครอบครัว


ชาติกำเนิด ครูบาผาผ่าฯ นามเดิมชื่อ สวน นามสกุล คำภีระ เกิดที่หมู่บ้านผาผ่า ตำบลแม่คะตวน อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๓๒ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๒ ปีฉลู บิดาชื่อนายปั่น มารดาชื่อนางธิ มีพี่น้องร่วมบิดามารดารวม ๔ คน


อันธรรมดาผู้มีบุญญาธิการมักจะมีอุบัติเกิดผิดแผกกว่าคนอื่น ๆ เราจะไม่ขอเปรียบเทียบเช่น พระพุทธเจ้า ซึ่งประสูติที่สารวโนยานไม้รังคู่ โดยพระมารดาประทับยืนประสูติ จึงขอเปรียบเทียบกับนักบุญแห่งล้านนาไทย คือท่านครูบาเจ้าศรีวิไชย ขณะคลอดมีเสียงฟ้าร้องอึกคนึงไปทั่วทิศ ทั้งๆ ที่ไม่มีเค้าฝน ท่านจึงได้นามเมื่อเป็นเด็กว่า “ อ้ายฟ้าฮ้อง ” ท่านครูบาผาผ่าก็เช่นเดียวกัน ท่านเกิดในขณะที่มารดาอุ้มท้องแก่ไปเก็บผักในสวนตอนเช้าเพื่อนำมาปรุงอาหาร ท่านก็คลอดจากครรภ์มาโดยง่ายดายไม่มีอาการทุรนทุราย จึงได้ชื่อว่า “ เด็กชายสวน ”


เด็กชายสวน เป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อเกเร มีเมตตาธรรมแต่เยาวัย ไม่ทานเนื้อสัตว์ตัดชีวิต อายุ 17 ปี จึงได้รับการบรรพชาเป็นสามเณรโดยมี ครูบาเต๋ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบรรพชาแล้วได้ศึกษาคำภีร์มูลกัจจายน์พระสูตรและพุทธมนต์คาถา และพระกัมมัฏฐาน จนมีความรู้ความสามารถและมีจิตเป็นสมาธิแก่กล้าแต่เยาวัย


สามเณรสวน ได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 21 ปี ณ พัทธสีมาวัดผาผ่า ครูบาตุ้ย วัดห้วยสิงห์เป็นพระอุปัชณาย์ พระอธิการอินต๊ะวัดบ้านใหม่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้นามฉายาว่า “ ปัญญาวโร ” แปลว่าผู้มีปัญญาอันประเสริฐ เมื่ออุปสมบทแล้วก็ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดผาผ่า สืบแทนท่านครูบาเต๋จ๊ะมาจนสิ้นอายุขัย


เมื่อท่านครูบาฯได้ถึงแก่มรณภาพไปแล้ว ปรากฎว่ามีธนบัตรใบละหนึ่งบาทเก่า ๆ อยู่เพียง ๑๐๐ บาทเศษ


ท่านครูบาฯได้รักษาศีล วินัย อย่างเคร่งครัดมิได้ด่างพร้อย มีอยู่บ่อยครั้งท่านครูบาฯได้หลบความวุ่นวายในวัดที่มีคนไปกวนใจ หนีขึ้นเขาเข้าป่าจำศีลภาวนาปฏิบัติพระกัมมัฏฐาน ไม่ฉันอาหารเป็นเวลา ๓ - ๗ วัน จนเป็นที่ร่ำรือกันว่า ท่านครูบาฯได้สำเร็จญานสมาบัติมีเมตตาเปี่ยมล้น ท่านจึงเปรียบเสมือนสังฆราชสุข วัดพลับ หรือหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน แห่งโพทะเล


ด้านการปกครองสงฆ์ ท่านครูบาฯก็ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบล และเป็นพระอุปัชฌาย์ในเขตตำบลแม่คะตวนมาเป็นเวลาอันยาวนานและได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่ “ พระครูปัญญาวรวัตร ” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๐๑ และท่านได้ถึงแก่มรณะภาพเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๐๔ รวมอายุได้ ๗๒ ปี


แม้ว่าท่านครูบาฯจะได้ถึงแก่มรณภาพไปแล้วก็ตาม แต่คุณความดีและบารมีอภินิหารยังปรากฏเป็นที่อัศจรรย์ยิ่งจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ มีสาธุชนเป็นจำนวนมาก เมื่อทราบประวัติเกียรติคุณแล้ว ต่างก็แสวงหาวัตถุอันเป็นมงคลที่เกี่ยวเนื่องกับท่านครูบาฯ


ในขณะที่ท่านครูบาฯยังมีชีวิตอยู่ ไม่เคยมีการสร้างพระผง หรือเหรียญของท่านเลย นอกจากผ้ายันต์ที่มีคนขอท่านก็ทำให้เป็นรายบุคคลไป หลังจากท่านถึงแก่มรณภาพแล้วจึงมีคณะศิษย์ได้จัดสร้างรูปเหมือน พระผง และเหรียญของท่านออกเผยแพร่ เพื่อเป็นอนุสรณ์น้อมรำลึกถึงคุณความดีและประกาศเกียรติคุณของท่านดังนี้

ครั้งที่ ๑ พ.ศ.๒๕๐๗ คณะศิษย์และกรรมการวัดผาผ่าได้รวบรวมเอาอัฐิขี้เถ้าของท่านมาผสมกับว่าน เกษรดอกไม้นาๆ ชนิด ผง คำภีร์ใบลานสร้างเป็นพระผงรุ่นแรกมีจำนวน ๙๐๐๐ องค์


ครั้งที่ ๒ พ.ศ.๒๕๑๓ วัดกิตติวงค์สร้างพระผงครูบารุ่นสอง เพื่อแจกจ่ายในงานเทศกาลต่างๆ จำนวน 2513 องค์


ครั้งที่ ๓ พ.ศ.๒๕๑๗ สร้างรูปเหมือนปั้นด้วยปูน และเหรียญโดยมีนายทุนจัดทำในนามของวัดกิตติวงศ์ นับเป็นเหรียญรุ่นแรกมีจำนวนดังนี้

๑. รูปเหมือนครูบาทำด้วยปูน ขนาด 5 นิ้ว จำนวน ๔๕๐ องค์

๒. เหรียญพิมพ์กลม เนื้อเงินบริสุทธิ์ จำนวน ๘๘๕ เหรียญ

๓. เหรียญพิมพ์กลม เนื้อทองคำบริสุทธิ์ จำนวน ๑๙ เหรียญ

๔. เหรียญพิมพ์รูปไข่ ด้านหลังแผงยันต์ เนื้อทองแดง จำนวน ๑๐,๐๐๐ เหรียญ

๕. เหรียญรูปไข่ด้านหลังแผงยันต์ เนื้อนวโลหะ จำนวน ๘๘๕ เหรียญ

๖. เหรียญรูปไข่ด้านหลังรูปพระธาตุ เนื้อทองแดง จำนวน ๕,๐๐๐ เหรียญ

๗. เหรียญรูปไข่ด้านหลังรูปพระธาตุ เนื้อทองคำ จำนวน ๒ เหรียญ

๘. เหรียญรูปไข่ด้านหลังรูปพระธาตุ เนื้อชินลองพิมพ์ จำนวน ๕๔ เหรียญ

๙. เหรียญรูปไข่ด้านหลังรูปพระธาตุ เนื้อเงิน จำนวน ๒๒๗ เหรียญ

๑๐. เหรียญรูปไข่ด้านหลังรูปพระธาตุ เนื้อนวโลหะ จำนวน ๙ เหรียญ

๑๑. เหรียญรูปไข่ด้านหลังแผงยันต์ เนื้อทองแดง เพื่อแจกในงานเทศกาลทอดกฐินผ้าป่า จำนวน ๒๕๑๗ เหรียญ



ขอขอบคุณ......คุณ veevar <SHAPETYPE class=inlineimg id=_x0000_t75 title="Tongue out" border="0" alt="" src="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" oreferrelative="t" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" filled="f" stroked="f" /><STROKE joinstyle="miter" /><FORMULAS /><F eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0" /><F eqn="sum @0 1 0" /><F eqn="sum 0 0 @1" /><F eqn="prod @2 1 2" /><F eqn="prod @3 21600 pixelWidth" /><F eqn="prod @3 21600 pixelHeight" /><F eqn="sum @0 0 1" /><F eqn="prod @6 1 2" /><F eqn="prod @7 21600 pixelWidth" /><F eqn="sum @8 21600 0" /><F eqn="prod @7 21600 pixelHeight" /><F eqn="sum @10 21600 0" /></FORMULAS />
<LOCK v:ext="edit" aspectratio="t" /></SHAPETYPE /><SHAPE id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 18pt; HEIGHT: 18pt" type="#_x0000_t75" /><IMAGEDATA src="file:///C:\DOCUME~1\Com\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://www.uamulet.com/images/VIP_Icon.gif" /></SHAPE />ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลครับ


ที่มา http://www.uamulet.com/showsoBoardDetail.asp?qid=11960&sort=DESC

 

ครูบาผาผ่า ปัญญาวโร
​

<TABLE width="50%" align=center><TBODY><TR><TD>พระครูปัญญาวรวัตร ครูบาผาผ่า (ปัญญา) ปัญญาวโร

นักบุญแห่งเมืองยวม แม่ฮ่องสอนที่ ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย กล่าวยกย่องเกียรติคุณว่าเป็น "ตุ๊น้อง" หรือ "ครูบาน้อง" ด้วยท่านมีบุญบารมีแก่กล้า มีเจโตปริยญาณ สามารถหยั่งรู้วาระจิตและรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ วันพระราชทานเพลิงศพ วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๕ ได้เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์คือ นอกจากจะเกิดสุริยคราสแล้วได้เกิดเป็นรูปวงกลมคล้ายดวงจันทร์-
ดวงอาทิตย์ เต็มดวงอยู่กลางจีวร ซึ่งใช้ขึงเป็นเพดานที่เผาศพ เป็นสิ่งที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง

พระธาตุครูบาผาผ่า ได้รับจากโยมคนขับรถวัดทุ่งเมืองปอน อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งโยมคนนั้นได้รับจากญาติผู้ใหญ่ที่อำเภอแม่สะเรียงมาอีกต่อหนึ่ง ​

<TABLE width=500 align=center><TBODY><TR><TD>พระธาตุครูบาผาผ่า มีลักษณ์งดงามคล้ายพระบรมสารีริกธาตุ

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก : http://www.santidham.com​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เพ่งจนรถหยุด

ผมได้อ่านบทความเรื่องครูบาผาผ่า ปัญญาวโร วัดผาผ่า อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เขียนโดยคุณธงดำ ok nation
จึงได้ติดต่อสอบถามไปยังผู้เขียน ทำให้ทราบข้อมูลว่า ครูบาผาผ่าท่านเกิดยุคเดียวกันกับครูบาศรีวิไชย จังหวัดเชียงใหม่
ครูบาทั้งสององค์ต่างรู้จักกันดี โดยครูบาศรีวิไชยมีอายุและพรรษามากกว่าครูบาผาผ่า สมัยก่อนจังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัด
เชียงใหม่ห่างไกลกันมาก เขาว่าต้องใช้เดินทางด้วยเท้านานร่วมเดือน คนจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนเวลาที่ไปกราบครูบาศรีวิไชย
ท่านมักจะกล่าวว่า

"ไม่ต้องมาถึงนี่หรอก ที่สบเมยก็มีพระดีให้กราบ"

นี่คือเรื่องราวอภินิหารบางส่วนของครูบาผาผ่าครับ...

"เพ่งจนรถหยุด"

เรื่องมีอยู่ว่า เป็นเรื่องที่เล่าต่อกันมาแต่ได้หลักฐานไม่ชัดนักว่าเกิดขึ้นกับใคร
เขาเล่าว่า ขณะที่หลวงปู่พระครูบาผาผ่านั่งอยู่ท่ามกลางญาติโยมในที่แห่งหนึ่ง
ก็มีรถยนต์วิ่งผ่านมาอย่างรวดเร็วจนฝุ่นตลบ ท่านก็พูดกับญาติโยมว่า จะให้รถยนต์
คันนั้นหยุดวิ่ง ฝุ่นมันฟุ้งนัก แล้วท่านก็มองไปที่รถยนต์ ปรากฎว่ารถคันนั้นหยุดวิ่งกึกลงอย่าง
กะทันหัน มันหยุดเอง โดยเจ้าของไม่ได้เบรคหรือบังคับให้หยุดเอง ทำเอาเจ้าของตกใจและแปลกใจ
ลงเปิดกระโปรงรถหน้าดูเครื่อง ก็ไม่เห็นเสีนหาย แต่อย่างไร สายไฟก็ยังปกติ น้ำมันและน้ำในหม้อน้ำก็ยังมีอยู่อย่างเพียงพอ
แต่สตาร์ทไม่ติด จนใจอ่อน

เขาจึงเดินไปที่หลวงปู่ครูบาผาผ่าและญาติโยมนั่งอยู่ก็ยกมือนมัสการพร้อมกับบ่นไปที่นั้นว่าไม่รู้ว่ารถของเขาเป็นอะไร
อยู่ ๆ ก็หยุดลงเฉย ๆ เครื่องเคราก็ยังดี แต่สตาร์ทไม่ติด
หลวงปู่ท่านก็ยิ้ม บอกว่า "มันไม่เป็นไรแล้ว ไปติดเครื่องดูใหม่เถอะ"
เมื่อเจ้าของกลับไปติดเครื่องไหม่มันก็ติดและวิ่งได้ตามปกติ ญาติโยมจึงเชื่อว่าท่านทำให้รถยนต์หยุดได้
พวกเราชาวสบเมย และชาวแม่ฮ่องสอนจึงมีความเคารพท่านเป็นอย่างมากและเป็นที่หน้าประหลาดใจ
ผู้คนผ่านไปผ่านมาก็ต้องมาแวะที่อนุสาวรีย์ครูบาผาผ่ากันทุกคน

ขอบคุณข้อมูลจาก คุณ ศิษย์กวง : http://www.navaraht.com/

 

เหตุเกิดที่ข้างศาลา

บนเขาหลังวัด ท่านมีศาลาหลังเล็กหลังหนึ่งสำหรับเป็นที่สบายของท่านครูบาผาผ่า ใช้เป็นสถานที่ทำสมาธิ บางครั้งท่านก็จะเอาใบลานขึ้นไปจารเขียนข้อธรรมต่างๆหรือบันทึกวิชาต่างๆที่ท่านได้ร่ำเรียนมา

วันหนึ่งชาวบ้าน ชายผู้หนึ่ง ควายไถนาของเขาเกิดหายไปสองตัว เขาจึงออกตามรอยควาดั้นด้นเข้าไปในป่า รอยเท้าควายผ่านไปทางศาลาบนเขา เขาก็ตามรอยเท้าขึ้นไปจนถึงศาลาหลังเล็กของท่าน ตอนนั้นกำลังเที่ยงชักจะหิวน้ำ เขามองเห็นข้างศาลามีบ่อน้ำเล็กๆน้ำใสแจ๋วเต็มบ่อ ข้างๆบ่อน้ำมีไม้ปักและมีกะลาตักน้ำครอบอยู่บนหัวไม้ เมื่อหิวน้ำก็ควรจะกินน้ำนั้นได้ แต่จะเป็นเพราะเขาเป็นห่วงควายที่มีรอยเดินไปข้างหน้าหรืออย่างไรไม่ทราบ เขากลับไม่เอากะลาตักน้ำกิน เขาบอกว่าเขาไม่นึกอยากกินทั้งที่หิวน้ำ

ตกตอนเย็นเขาพบควายแล้ว พอมีเวลาว่างเขาก็เดินไปหาหลวงปู่ในวัด พอไปถึงเขาก็เรียนท่านว่าเขาไปเห็นบ่อน้ำหินข้างศาลาแต่ไม่ได้กิน

หลวงปู่ท่านก็พูดยิ้มๆว่า "ทำไมเห็นน้ำจึงไม่กินเสีย เป็นบ่อน้ำวิเศษรู้ไหม"

ชายคนนั้นได้ยินก็รู้สึกเสียดายที่ตนไม่ได้กินน้ำวิเศษนั้น พอวันรุ่งขึ้นเขาก็เข้าไปที่ศาลาหลังนั้น

แต่ก็แปลก! ที่เขาได้พบศาลา ส่วนบ่อน้ำหินและกะลาตักน้ำไม่มี มันเป็นไปได้อย่างไร ?

ขอบคุณข้อมูลจาก คุณ ศิษย์กวง : http://www.navaraht.com/

 

รู้ได้อย่างไร

วันหนึ่ง ขณะที่มึผู้มานมัสการให้ท่านครูบาผาผ่าช่วยเหลือในด้านต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งบางคนก็มารักษาโรค บางคนก็มารดน้ำมนต์ บางคนก็มาเล่าอาการต่างๆ ให้ฟังเพราะไม่รู้ว่าเป็นอะไร เรียกว่าขนทุกข์มาให้หลวงปู่แก้หลายชนิดด้วยกัน

ซึ่งเป็นแบบเดียวกันไม่ว่าที่ไหนมีปัญหาอะไร ก็ต้องเข้าวัดปรึกษาพระก่อน เพราะอย่างน้อยพระก็เป็นที่พึ่งทางใจได้ดีที่สุด โดยเฉพาะคนไทยเรา

ชายคนหนึ่งเดินถือเชือกล่ามควายขาดท่อน พร้อมกับพานใส่ดอกไม้ธูปเทียนเดินเข้ามา
เขาเดินยังไม่ทันถึง หลวงปู่พระครูบาผาผ่าก็เงยหน้าขึ้นจากการสนทนากับผู้อื่น พร้อมกับยกมือโบกบอกว่า

"ไป ไป รีบไป ควายของเจ้า เชือกไปพันต้นไม้อยู่ตรงโน้น"

ทำเอาชายผู้นั้นและคนอื่นๆงงงันไปตามๆกัน เพราะยังไม่ทันบอกความประสงค์ ท่านก็รู้เสียแล้ว เมื่อเขาไปตามคำบอกของท่าน ก็พบว่า"ควายของเขาเชือกล่ามพันกิ่งไม้ ดิ้นจะให้หลุดอยู่จริง"

ขอบคุณข้อมูลจาก คุณ ศิษย์กวง : http://www.navaraht.com/

 

พระผงครูบาผาผ่า รุ่น ๑

พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๑ ( ด้านหน้า )
เอื้อเฟื้อภาพโดย ช่างเจี๊บย รับเลี่ยมพระคิวรถเมล์แม่สะเรียง

รูปพระผงครูบาผาผ่า รุ่น ๑ ( ด้านหลัง )
เอื้อเฟื้อภาพโดย ช่างเจี๊บย รับเลี่ยมพระคิวรถเมล์แม่สะเรียง

พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๑ ( ด้านหน้า ) ​

พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๑ ( ด้านหน้า ) ​

​

รูปพระผงครูบาผาผ่า รุ่น ๑ ( ด้านหลัง )​

( ๓ ภาพนี้นำมาจากเว็บไซด์อื่น ขออภัยที่ไม่ได้ลงที่มา เนื่องจากจำไม่ได้ว่าเอามาจากไหนครับ เพราะกล้องของผู้เขียนถ่ายได้ไม่คมชัด ) ​

​

รุ่น ๑ ยันต์ "อรหัง" หางยาว เอื้อเฟื้อภาพโดย ช่างเจี๊บย รับเลี่ยมพระคิวรถเมล์แม่สะเรียง​

​

รุ่น ๑ ยันต์ "อรหัง" หางสั้น เอื้อเฟื้อภาพโดย ช่างเจี๊บย รับเลี่ยมพระคิวรถเมล์แม่สะเรียง

​

​

รุ่น ๑ ด้านหน้า

รุ่น ๑ ยันต์อรหังกลับขึ้นด้านบน
(สองภาพนี้เป็นพระที่ผู้เขียนสะสมไว้เองครับขออภัยที่ภาพไม่คมชัดจะพยายามปรับปรุงครับ)​

ประวัติการจัดสร้าง หลังงานพระราชทานเพลิงศพแล้ว ๒ ปี ดือ พ.ศ. ๒๕๐๗คณะศิษย์ได้ร่วมกันรวบรวมเอาอัฐิ ขี้เถ้าของท่านครูบาผาผ่า ที่เก็บไว้จากเชิงตะกอน ( ที่ด้านข้างเยื้องด้านหน้าอนุสาวรีย์ปัจจุบัน ) มาผสมกับว่านและเกสรดอกไม้นานาชนิด มาสร้างเป็นพระผงรูปของท่านครูบาผาผ่า เป็นจำนวน ๙,๐๐๐ องค์ บล็อกพระเป็นแบบพิมพ์มือ ยันต์ด้านหลังใว้ขดลวดกดด้วยมือเอาคือ "อรหัง" มีบางองค์จะเป็นสีเทาเหมือนขี้เถ้าเนื้อจะไม่ค่อยแน่นเพราะน้ำรักใกล้จะหมดเลยผสมน้ำรักในมวลสารน้อยลงครับไม่ใช่พิฌศษอะไร มีบางองค์หนาคือแรกๆที่พิมพ์ใส่มวลสารเยอะหน่อย ต่อๆมามวลสารเหลือน้อยก็เลยลดปริมาณ ลงเลยองค์พระจะบางกว่า ดังนั้นพระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๑ นี้จึงไม่เท่ากันครับผม ปัจจุบันนี้ราคาอยู่ในหลักพัน แล้วแต่จะพอใจกันระหว่างเจ้าของกับผู้เช่าบูชา ตอนที่สร้างเสร็จใหม่ๆ ชาวบ้านเล่ากันว่า ตามแต่จิตศรัทธาบริจาคแล้วหยิบเอาตามใจชอบ บางท่านก็เล่าว่า องค์ละ ๕๐ สตางค์ แล้วแต่ประสบการณ์ของใคร แต่ในวงการพระท้องถิ่น จะนิยมกันว่า อรหังหางสั้น หรือ หางยาวคือดูที่หางคำว่า อะ ของผู้เขียนมีทั้งหางสั้น หางยาว อรหังกลับห้ว และไม่มียันต์อรหัง ( พระมีจำนวนมากอาจจะหลงหูหลงตา หรือยังไงไม่ทราบ ) ส่วนปาฎิหาริย์ของพระผงรุ่นแรกนี้จะนำมาเสนอในโอกาสต่อไป ครับ หากมีข้อมูลนอกเหนือจากนี้โปรดชี้แนะครับ เกือบลืมไปครับว่ารุ่น ๑ เชาดูที่เนื้อพระซึ่งจะละเอียดกว่ารุ่น ๒ ปัจจุบันมีการนำพระผงรุ่น ๒ มาแกะฐานปลอมเป็นรุ่น ๑ กันมาก และปลอมรุ่น ๑ จริงๆก็เยอะ ผู้เขียนเคยเจอมาแล้วหลายองค์ครับและดูลักษณะอีกที่คือรูปครูบานั่งฐานที่เป็นหยัก หยัก บางคนว่ากลีบบ้ว แต่อันที่จริงเป็นอาสนะของคนสมัยก่อนที่เย็บแบบฟูกในพระนั่งครับ ​

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.oknation.net/blog/doipui ​

 

พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๒

(๑) พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๒ ด้านหน้า

(๒) พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๒ ด้านหลัง​

(๓) พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๒ ด้านหน้า​

(๔) พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๒ ด้านหลัง​

(๕) พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๒ ด้านหน้า​

(๖) พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๒ ด้านหลัง​

ขออภัยมือใหม่เขียนไปแล้วไม่ขึ้นบล็อกไม่เป็นไรแรงใจยังมี วันนี้นำเสนอพระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๒ ครับ ประวัติการจัดสร้างยังไม่ละเอียดดีพอ แต่พอรู้ว่าสร้างที่วัดผาผ่าโดยพระและคณะศรัทธาญาติโยมจัดสร้างเพื่อหาเงินสมทบทุนสร้างโบส์ถและวิหารวัดผาผ่า โดยขุดเอาดินที่เผาศพครูบาผาผ่า (ขอใช้ศัพท์ชาวบ้านนะครับ) มาเป็นมวลสารหลักผสมผงคัมภีร์โบราณ เกสรดอกไม้และผงพระครูบาผาผ่ารุ่น ๑ จัดสร้างเป็นจำนวนเท่าได้นั้นผู้เขียนยังไม่ได้ข้อมูลแน่ชัอเพราะรีบเขียนจะพยามยามสอบถามมานำเสนอให้อีกภายหลังครับ ยันต์ด้านหลังคือ "อรหัง" เรียนแบบรุ่น ๑ ใช้มือกด ลืมบอกไปครับว่าเป็นบล็อกพิทพ์มือครับผม พิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้นที่วัดผาผ่า ออกให้เช่าบูชาองค์ละ ๒๐ บาท ผู้เขียนเองบูชาครั้งแรก ๒๐ องค์ แจกเขาหมดเลย และไปบูชาเพิ่มอีดภายหลังรวมรวมประมาณเกือบร้อยองค์ ก็แจกเขาเกือบหมดเหลือองค์เดียวใส่กรอบใส่สายสร้อยเอาไว้ให้ลูกสาวห้อยคออยู่(โตขึ้นค่อยเอารุ่น ๑ จ้า) พระรุ่นนี้ไม่สวยเนื้อหยาบรูปครูบาไม่คมชัด ยันต์บุ๋มลึกไม่คมชัด ดังภาพที่ ๑ - ๔ ผู้เขียนนำมาจากเว็บอื่นขออภัยเจ้าของเว็บที่ไม่ได้เอ่ยนามเพราะโหลดมาเก็บไว้ดูนานหลายเดือนแล้วครับ เพราะผู้เขียนพึ่งจะคิดรวบรวมครูบาผาผ่าทุกรุ่นเมื่อต้นปีนี้เองครับ ถ้าองค์ไหนเนื้อไม่หยาบยันต์พอดูได้แบบของผู้เขียน ภาพที่ ๖ - ๗ รับประกันว่าพวกมารพระเครื่องเอาไปแกะฐานเป็นหยักแบบรุ่นหนึ่งปลอมชัวร์ ราคาเช่าบูชานะปัจจุบันนี้ก็อยู่ที่ความพอใจคือ ประมาณ ๒๐๐ - ๕๐๐ บาท เอาสวยไม่สวยว่า แต่หาสวยๆยากหน่อยเพราะรุ่นนี้ส่วนมากไม่สวยครับ ถ้าไม่แน่ใจโปรดสอบถามเซียนพระที่น่าไว้ใจครับ ส่วนปาฎิหาริย์รุ่นนี้ไม่แพ้รุ่นหนึ่ง เคยมีรถขนของพุ่งตกสะพานเขตติดต่อแม่สะเรียงเชียงใหม่ เด็กท้ายแขวนครูบาผาผ่ารุ่น ๒ เอาอมไว้ในปาก รอดตายแต่ขาหักส่วนเพื่อนเสียชีวิต มีเรื่องเล่าอีกว่าคนงานสร้างทางสายแม่สอดแม่สะเรียงจะเดินทางกลับไปที่จ.ตาก แวะกินอาหารบ้านเพื่อน เพื่อนเอาครูบาผาผ่ารุ่น ๒ แจกให้ไป ๒ คน ก่อนเดินทางกลับและรถประสบอุบัติเหตุระหว่างทางมีคนเสียชีวิตไป ๙ คน รอดตายเพียง ๒ คน ที่ได้ครูบาผาผ่ารุ่น ๒ นี้ไป เอาละวันข้างหน้าจะนำประสบการณ์ของครูบาผาผ่าแต่ละรุ่นมานำเสนอล้วนๆ รอบนี้เอาน้ำจิ้มไปก่อนครับ ขออนุโมทนากับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องครับ....สาธุ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.oknation.net/blog/doipui ​

 

พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๓

พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๓ (ด้านหน้า) ตัดต่อภาพโดยภู่กันดอย​

พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๓ (ด้านหลัง) ถ่ายภาพโดย เสือดำ

พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๓ ....ช่างเจี๊ยบ คิวรถเมล์แม่สะเรียง..เอื้อเฟื้อภาพ​

วันนี้ขอนำเสนอพระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๓ ซึ่งผู้เขียนพยายามหาองค์ที่สวยกว่านี้ยังไม่ได้สายงานยังไม่มีมาเสนอ จำเป็นต้องลงรูปองค์ที่สภาพถูกใช้งานมาแล้วแต่เจ้าของไม่ค่อยรักษาองค์พระเท่าไหร่ เท่าที่ทราบมาประวัติการสร้างเป็นทางวัดผาผ่าจัดสร้างโดยยังใช้มวลสารหลักคือดินจากที่เผาศพของครูบาผาผ่า ผสมกับเกสรดอกไม้และอื่นๆ ( จะพยายามหาข้อมูลมาแก้ไขเพิ่มเติมในภายหลัง ขออภัยถ้าข้อมูลคลาดเคลื่อนไปบ้าง) ว่ากันว่ารุ่นนี้มีเกจิชื่อดังมาร่วมพิธีปลุกเสกคือ ครูบาสร้อย ขันติสาโ ร วัดมงคลคีรีเขต อ.ท่าสองยาง จังหวัดตาก ยันต์ด้านหลัง คือ อรหัง แต่เป็นยันต์จากบล็อกเลย รุ่นนี้มีประสบการณ์เหมือนกัน จะพยายามนำมาลงให้ต่อไปครับ มาว่ากันถึงราคา ในปัจจุบัน ก็ประมาณ ๒๐๐ - ๓๐๐ บาท แต่ในแผงพระท้องถิ่นค่อนช้างหายากหน่อย ผู้ที่ศรัทธาเก็บแล้วไม่ปล่อยมีเยอะครับ ( รวมทั้งผู้เขียนด้วย)วันนี้ภู่กันดอย(มือชวา ชอง ...ธงดำ )ได้พัฒนาฝีมือด้านการตัดต่อภาพจึงมีภาพที่คมชัดหน่อยมานำเสนอครับผม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.oknation.net/blog/doipui ​

 

พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๔

พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๔ ...ฃ่างเจี๊ยบ คิวรถเมล์แท่สะเรียง...เอื้อเฟื้อภาพ

พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๔ ...ฃ่างเจี๊ยบ คิวรถเมล์แท่สะเรียง...เอื้อเฟื้อภาพ​

วันนี้นำเสนอช้าไปนิดเนื่องจากผิดพลาดทางเทคนิคไปลบไฟล์รูป รูปเลยหายหมดต้องมาไล่แก้ ส่วนที่เหลือมอบให้ภู่กันดอยจัดการเพิ่มใหม่ สำหรับประวัติการสร้างรุ่น ๔นั้นผู้เขียนได้ไปสอบถามตุ๊บุญ ที่อนุสาวรีย์ครูบาผาผ่าแล้ว ได้ความว่า มวลสารหลักยังใช้ดินที่เผาศพครูบา นำมาผสมผงคัมภีร์ใบลานหรือทางเหนือเรียกว่าธรรมใบลาน และเขียนยันต์ครูบาผาผ่าลงในกระดาษสาเอาใส่บาตรเผาเอาขี้เถ้ามาผสม ร่วมกับพระเณรและกรรมการจัดสร้าง จำนวน ประมาณ ๙ พันกว่าองค์ เพราะไม่มีการจดนับไว้ว่าได้กี่องค์ และได้ใช้บล็อกของรุ่น ๓ มาพิมพ์ ดังนั้นพระผงรุ่น ๓ รุ่น ๔ จึงเหมือนกันมากแต่รู้สึกว่าเนื้อรุ่น ๓ จะละเอียดกว่าประกอบกับบล็อกพระยังใหม่อยู่ดังนั้นพระผงรุ่น ๓ จะ คมชัดกว่ารุ่น ๔ และบางกว่าเล็กน้อย ส่วนรุ่น ๔ นี้ทางร้านแม่สะเรียงคัลเล่อร์แลป ซึ่งเป็นร้านถ่ายรูปในอำเภอแม่สะเรียงได้ทำการอัดภาพมาถวายทำบุญ โดยเอาภาพถ่ายมาสอดใส่ไว้ด้านหลังในซองพลาสตกแบบรูดซิปทุกองค์ ว่ากันว่ารุ่น ๔ ของแท้ต้องมีรูปครูบาอยู่ด้วย ยันต์ด้านหลังเป็นยันต์จากบล็อก คือ อรหัง ราคาในขณะนี้ไม่เกิน ๓๐๐ บาท สำหรีบองค์สวยๆครับผม
บทความและตัดต่อภาพโดย..ธงดำ และ ภู่กันดอย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.oknation.net/blog/doipui ​

 

พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๕

​

รวมรุ่น ๕ หน้า - หลัง เอื้อเฟื้อภาพโดย ช่างเจี๊ยบ กรอบพระ คิวรถเมล์แม่สะเรียง
วันนี้นำเสนอรุ่น ๕ รุ่นนี้ไม่มีดินจาก บริเวณที่เผาศพของครูบา เนื่องจากศรัทธาญาติโยมมีมติไม่เห็นด้วยที่จะใช้ดินตรงบริเวณนี้มาเป็นมวลสารต่อไป โดยมีเหตูผลว่าถ้าขุดดินตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆก็จะไม่มีความศักดิ์ศิทธิ์หรือหลงเหลือบคราบแห่งความทรงจำในบริเวณพื้นดินที่เป็นที่รองรับเถ้าอังคารของหลวงปู่ครูบาผาผ่าต่อไป ดังนั้นมวลสารหลักของรุ่นนี้ได้แก่ อิฐอุโบสถเก่าของครูบาผาผ่า และกระเบื้องโบสถ์เก่าหลังนี้เช่นกัน จัดสร้างที่อนุสาวรีน์ครูบาผาผ่า จำนวน ๑๓,๙๐๐ องค์ ปัจจุบัยที่อนุสาวรีย์ไม่มีแล้วครับผม ออกจากวัดไม่นาปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับตำรวจภูธรสบเมย ไปถวายผ้าป่าได้รับแจกมา ซิ่งรถยนต์เก๋งพลิกคว่ำบริเวณทางโค้งก่อนถึงโรงเรียนสบเมยวิทยาคม รถพลิหงายท้องตกร่องข้างทางด้านขวา คือพลิกข้ามไปอีกฝั่งสภาพยับเยิน แต่คนขับไม่เป็นอะไร ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ มีคำพูดติดปากกันอยูประโยคหนึ่งคือ" ครูบาผาผ่าดีทุกรุ่น"

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.oknation.net/blog/doipui ​

 

พระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๖ และรุ่นอัฐิ

รุ่น ๖ เอื้อเฟื้อภาพโดย..ช่างเจี๊ยบ กรอบพระท่ารถเมล์แม่สะเรียง

รุ่น ๖ เอื้อเฟื้อภาพโดย..ช่างเจี๊ยบ กรอบพระคิวรถแม่สะเรียง​

บล็อกถูกใช้พิมพ์พระมาสามรุ่นแล้วคือรุ่น ๓ - รุ่น ๕ จึงสึก สังเกตุจากขอบที่เกินออกมาขององค์พระ รุ่น ๖ นี้ใช้มวลสาร คืออิฐจากกู่ครูบา(สถูปที่เก็บเถ้าอังคารอัฐิครูบาผาผ่านั่นเอง) ผสมกระเบื้องพระอุโบสถเก่าของครูบา ดอกไม้ที่เข้าอุโบสถในพรรษา สร้างจำนวน ๙,๐๐๐ กว่าองค์ และยังใช้เนื้อผงรุ่นนี้สร้างรุ่นอัฐิที่เสนอในตอนต่อไปครับ ราคา ณ ปัจจุบัน ก็ประมาณ ๑๐๐ บาท รุ่นนี้ที่ว่าการอำเภอสบเมยบูชาไปแล้วจัดทำกล่องมอบให้เป็นที่ระลึกในวันทำบุญเปิดที่ว่าการอำเภอหลังใหม่ หากสนใจติดต่อสอบถามได้ที่ ปลัดอาวุโสอำเภอสบเมยครับผม ​

รุ่นอัฐินี้ใช้มวลสารเดียวกับรุ่น ๖ แต่จะเพิ่มผสมผงอัฐิหรือชาวบ้านเรียกกระดูกครูบาผาผ่า ลงไปอีก และใช้บล็อกเดียวกันพิมพ์องค์พระทางวัดและศรัทธามีความคิดที่จะสร้างเจดีย์องค์ใหม่ แต่บริเวณที่สร้างเจดีย์หรือพระธาตุ คับแคบเป็นสันดอยไม่เหมาะแก่การขยาย ประกอบกับทางทิศตะวันออกเยื้องไปทางทิศใต้นิดหน่อย มีกู่หรือสถูปครูบาผาผ่าตั้งอยู่อีก ๑ องค์ จึงจำเป็นต้องรื้อถอนออกให้หมด
คืนก่อนวันที่จะถึงกำหนดรื้อถอนกู่ครูบาผาผ่านั้นได้เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้นคือ ชาวบ้านได้ยินเสียงดังเหมือนระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วหมู่บ้าน เสียงนั้นดังมาจากที่บนดอยที่ตั้งกู่ครูบาผาผ่า พอออกมาดูหรือบางคนอยู่ในที่โล่งแหงนหน้าขึ้นดูก็เห็นลำแสงขนาดใหญ่ประมาณสองคนโอบ พุ่งเป็นลำแสงขึ้นสู่ท้องฟ้า สักพักก็หายไป เหตูการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นที่เล่าขานโจษจันกันไปทั่ว แต่การรื้อถอนก็ต้องดำเนินไปตามกำหนดเพราะทางวัดได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรสบเมยมารักษาความปลอดภัยด้วย เมื่อการรื้อถอนอิฐจากกู่เก่าครูบาดำเนินไปก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก แต่เป็นเรื่องที่ผิดคลาดกันเพราะไม่พบอะไรในกู่นั้น เนื่องจากคนที่เอาสิ่งของบรรจุในกู่ตอนสร้างสมัยก่อนนั้นได้ล้มหายตายจากกันไปหมด เลยไม่มีข้อมูลในเรื่องการบรรจุของในกู่ครูบาเหลืออยู่ มีเรื่องเล่ากันมาว่าทางวัดได้บรรจุพระผงครูบาผาผ่ารุ่น ๑ จำนวน ๓ บาตรพระไว้ในกู่นี้แต่มีคนมาแอบขโมยเอาไปขายที่อื่น คือคนที่รู้ว่ามีการบรรจุพระเครื่องไว้ในกู่นี้อดีตเป็นพระลูกวัดผาผ่าแห่งนี้ ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว ก่อนที่จะสิ้นชีวิตเขาเล่ากันว่าชายคนนี้ป่วยและปวดหัวมากเวลาปวดหัวถ้าเห็นตะปูที่ตอกติดต้นเสาไว้มีหัวโผล่ออกมา แกจะวิ่งเอาหัวชนตะปูอย่างนี้ทุกครั้ง ​

หลังจากนั้นอีกต่อมาทางกรรมการได้นำรถไถ ไปไถปรับดินบริเวณกู่เดิม ปรากฎว่ารถได้ไถดินพลิกเอาขวดโหลแก้วขนาดย่อมกลิ้งออกมาตามดิน ผู้คนหลายคนได้แย่งกันแบ่งเอาอัฐิที่บรรจุในแก้วน้ำก้นดาวมีแก้วหรืออัญมณีอยู่จำนวนหนึ่ง แล้วเอาใส่ในโหลแก้วอีกที เอาฝังดินไว้ใต้ฐานกู่ก่อนที่จะก่อสร้างทับ นับว่าเป็นวิธีการอันชาญฉลาดของคนรุ่นก่อนทีเดียว หลังจากนั้นทางวัดและกรรมการได้ขอคืนกระดูกครูบาหริออัฐิ เพื่อนำมาจัดสร้างพระผงรุ่นนี้ จึงเรียกว่ารุ่น อัฐิ มีจำนวน ๑,๒๓๔ องค์ เอาออกให้เข่าบูชา จำนวน ๑,๒๐๐ องค์ นอกนั้นแจกกรรมการและผู้เกี่ยวข้อง ราคาเช่าบูชาองค์ละ ๕๐๐ บาท ปัจจุบันยังเหลืออยู่บ้างประมาณร้อยกว่าองค์ที่อนุสาวรีย์ครูบาผาผ่า มีเหตุการณ์อักอย่างเกิดขึ้นคือหลังจากที่มีคนแบ่งเอาอัฐิครูบาไปครอบครองไว้บูชาส่วนตัว ปรากฎว่าพอนอนหลับก็จะฝันเห็นคนแก่นุ่งขาวห่มขาวมาตามทวงคืน จึงต้องนำอัฐิมาคืนให้ตุ๊บุญ หรือพระเฉลิมชัย ที่ดูแลอนุสาวรีย์อยู่ในปัจจุบันและเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างพระผงครูบาผาผ่าตั้งแต่รุ่น ๔ จนถึงรุ่นอัฐิ นี้​

ทั้งหมดนี้เป็นพระผงรูปแบบมาตรฐานของทางวัดที่จัดสร้างมา แต่ยังมีพระผงรุ่นพิเศษ ทรงกลม ที่จัดสร้าง ณ อนุสาวรีย์ครูบาผาผ่าอีก ๑ รุ่น โปรดติดตามอ่านนะครับผม ขอขอบคุณผู้ที่ให้ข้อมูลในการเขียนทุกท่านแม้ไม่ได้เอ่ยนาม ครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.oknation.net/blog/doipui ​

 

พระผงครูบาผาผ่าเนื้อว่านปี ๑๓ วัดกิตติวงศ์

พรผงครูบาผาผ่าเนื้อว่าน ปี ๑๓ (ด้านหน้า)
ช่างเจี๊ยบ.......ท่ารถเมล์แม่สะเรียง เอื้อเฟื้อภาพ

พรผงครูบาผาผ่าเนื้อว่าน ปี ๑๓ (ด้านหลัง)
ช่างเจี๊ยบ.........ท่ารถเมล์แม่สะเรียง เอื้อเฟื้อภาพ​

วันนี้นำเสนอพระผงครูบาผาผ่าเนื้อว่าน ปี ๑๓ เนื้อว่าน สร้างจากวัดกิตติวงศ์ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นพระผงครูบาผาผ่าที่มีลักษณะแปลกไปจากเดิม จะเห็นส่วนหัวโตกว่าปกติรูปทรงต่อนข้างเรียวแหลม รุ้นนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในสนามพระเท่าไหร่แต่ก็หายากพอสมควร ส่วนมากแล้วจะมีเก็บไม่ค่อยมีคนใช้ ราคาเช่าบูชาก็อยู่ในหลักพันกว่าๆ ณ ปัจจุบันนี้ ส่วนการจัดสร้างยังไม่มีข้อมูลมากกว่านี้จะพยายามเสาะหาจากผู้รู้เพิ่มเติมภายหลังครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.oknation.net/blog/doipui ​

 

เหรียญรุ่น ๑ ครูบาผาผ่า ปี ๑๗ หลังธาตุ วัดกิตติวงศ์

​

รายละเอียดการตอกโค๊ด “กว” ของเหรียญครูบาผาผ่า ปี2517

1.เหรียญรูปไข่ด้านหลังรูปพระธาตุ รุ่นพิเศษ
1.1เนื้อทองคำ จะตอกโค๊ด “กว” ที่ด้านบนของเหรียญ เหนือศรีษะ (จำนวน ๒ เหรียญ)
1.2เนื้อเงิน จะตอกโค๊ด “กว” ที่เหนือไหล่ ด้านซ้ายขององค์พระ (จำนวน ๒๒๗ เหรียญ)
1.3เนื้อทองเหลือง จะตอกโค๊ด “กว” ที่เหนือไหล่ ด้านซ้ายขององค์พระ เหมือนกับเนื้อเงิน
(เนื้อทองเหลือง จะทำพิเศษ เพียง 1องค์เท่านั้น เจ้าของโรงงาน ทำให้เป็นพิเศษ สำหรับผู้ที่ไปสั่งปั้มเหรียญ ที่โรงงาน) (จำนวน ๑ เหรียญ)
1.4เนื้อชินตะกั่ว จะตอกโค๊ด “กว” ที่เหนือไหล่ ด้านขวาองค์พระ (จำนวน ๕๔ เหรียญ)
1.5เนื้อตะกั่ว จะตอกโค๊ด “กว” ที่ข้อศอก ด้านขวาขององค์พระ (จำนวน ๕ เหรียญ)
1.6เนื้อนวะโลหะ จะตอกโค๊ด “กว” ที่ใต้แขน ด้านซ้ายขององค์พระ (จำนวน ๙ เหรียญ)
1.7เนื้อทองแดง จะตอกโค๊ด “กว” ที่กลางผ้าพาดไหล่ ด้านซ้ายขององค์พระ (๕,๐๐๐ เหรียญ)
1.8เนื้อทองแดง (หมดห่วง) ช่างจะเจียห่วงทิ้ง จะตอกโค๊ด “กว” กลับหัว ที่กลางผ้าพาดไหล่ ด้านซ้ายขององค์พระ (จำนวน ๕๐ เหรียญ)
(เหรียญพิมพ์นี้ ใช้โลหะทั้งหมด 7ชนิด)
ลืมบอกไปครับว่าประชาชนคนเล่นพระ เขานิยมเล่นกันพิมพ์นี้มาก เมื่อตอนออกจากวัดราคาแค่ไม่กี่บาท ก็เป็นเพราะว่าเหรียญรุ่นนี้สภาพสวยรูปครูบาผาผ่าคมชัดเหมือนจริงและอีกอย่างหนึ่งคือเป็นพิมพ์พิเศษ สร้างเพียง ๕,๐๐๐ องค์ จึงค่อนข้างหายากนิดหนึ่ง ราคาอยู่ในหลักพันต้นๆ สำหรับเนื้อทองแดง เนื้อเงินหลายพันหน่อย เนื้อทองคำยังหาไม่เจอแต่พอรู้ว่าอยู่ไหน จะตามมาลงให้ครับผม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.oknation.net/blog/doipui

 

เหรียญรุ่น ๑ ครูบาผาผ่า ปี ๑๗ หลังยันต์ ( สี่เหลี่ยม )วัดกิตติวงศ์

เหรียญเงินกลมรุ่น ๑ ปี ๑๗ หลังยันต์ (ด้านหน้า )
ช่างเจี๊ยบ......ท่ารถเมล์แม่สะเรียงเอิ้อเฟื้อภาพ

เหรียญเงินกลมรุ่น ๑ ปี ๑๗ หลังยันต์ (ด้านหลัง) )
ช่างเจี๊ยบ......ท่ารถเมล์แม่สะเรียงเอิ้อเฟื้อภาพ

เหรียญเงินกลมรุ่น ๑ ปี ๑๗ หลังยันต์ (ด้านหน้า )
ช่างเจี๊ยบ.....ท่ารถเมล์แม่สะเรียงเอิ้อเฟื้อภาพ

เหรียญเงินกลมรุ่น ๑ ปี ๑๗ หลังยันต์ (ด้านหลัง)
ช่างเจี๊ยบ......ท่ารถเมล์แม่สะเรียงเอิ้อเฟื้อภาพ

เหรียญเงินกลมรุ่น ๑ ปี ๑๗ หลังยันต์ (ด้านหน้า )ไม่มีรูใส่ห่วง
ของผู้เขียน ถ่ายภาพโดย...เสือดำ

เหรียญเงินกลมรุ่น ๑ ปี ๑๗ หลังยันต์ (ด้านหน้า )ไม่มีรูใส่ห่วง
ของผู้เขียน ถ่ายภาพโดย.........เสือดำ
การตอกโค๊ดเหรียญกลม หลังยันต์สี่เหลี่ยม​

1เนื้อทองคำ จะตอกโค๊ด “กว” ที่ด้าน................... (จำนวน ๑๙ เหรียญ)
2เนื้อเงิน จะตอกโค๊ด “กว” ที่ข้างหู ด้านขวามือขององค์พระ (จำนวน ๘๘๕ เหรียญ)​

<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR align=right><TD>จากคุณ นริศ สมะบุณยะ เมื่อวันที่ 6/5/2551 15:11:57 </TD></TR></TBODY></TABLE>

เหรียญรูปไข่เนื้อทองแดง รุ่น ๑ ปี ๑๗ หลังยันต์ (ด้านหน้า ) ย หางยาว
ช่างเจี๊ยบ......ท่ารถเมล์แม่สะเรียงเอิ้อเฟื้อภาพ

เหรียญรูปไข่เนื้อทองแดง รุ่น ๑ ปี ๑๗ หลังยันต์ (ด้านหลัง ) ย หางยาว​

ช่างเจี๊ยบ......ท่ารถเมล์แม่สะเรียงเอิ้อเฟื้อภาพ
​

เหรียญรูปไข่เนื้อทองแดง รุ่น ๑ ปี ๑๗ หลังยันต์ (ด้านหน้า ) ย หางสั้น
ดู ย ที่คำว่าแม่สะเรียง ของผู้เขียน ถ่ายภาพโดย...............เสือดำ​

​

เหรียญรูปไข่เนื้อทองแดง รุ่น ๑ ปี ๑๗ หลังยันต์ (ด้านหลัง ) ย หางสั้น
ของผู้เขียน ถ่ายภาพโดย...............เสือดำ
​

เหรียญรูปไข่เนื้อทองแดง รุ่น ๑ ปี ๑๗ หลังยันต์ (ด้านหน้า ) ย หางยาว
ดู ย ที่คำว่าแม่สะเรียง ของผู้เขียน ถ่ายภาพโดย...............เสือดำ
​

เหรียญรูปไข่เนื้อทองแดง รุ่น ๑ ปี ๑๗ หลังยันต์ (ด้านหลัง ) ย หางยาว
ของผู้เขียน ถ่ายภาพโดย...............เสือดำ
เหรียญรูปไข่ พิมพ์ใหญ่ หลังยันต์สี่เหลี่ยม
เนื้อทองแดง จะตอกโค๊ด “กว” ที่เหนือไหล่ ด้านขวาขององค์พระ (จำนวน ๑๐,๐๐๐ เหรียญ)​

​

​

เหรียญรูปไข่ พิมพ์ใหญ่ หลังยันต์สี่เหลี่ยม
เนื้อนวะโลหะ จะตอกโค๊ด “กว” ที่ใต้ฐาน ด้านซ้ายขององค์พระ (จำนวน ๘๘๕ เหรียญ)

เหรียญรุ่น ๑ ปี ๒๕๑๗ หลังยันต์เนื้อนวะโลหะ ตอกโค๊ด ใต้ฐานข้างซ้าย
ที่มา http://www.oknation.net/blog/smaboonya/gallery​

๑.เหรียญพิมพ์รูปไข่ ด้านหลังแผงยันต์ เนื้อทองแดง โค๊ดเหนือไหล่ขวา
จำนวน ๑๐,๐๐๐ เหรียญ

๒. เหรียญรูปไข่ด้านหลังแผงยันต์ เนื้อนวโลหะ โค๊ดใต้ฐานซ้าย
จำนวน ๘๘๕ เหรียญ

เหรียญรูปไข่พิมพ์ใหญ่นี้ ตามประวัติ ทราบมาเพียงว่าทำมา 2 เนื้อ มีเนื้อทองแดง กับเนื้อ นวะโลหะ แต่ที่ผู้เขียนยังมีเหรียญเนื้อตะกั่ว อีกชนิดหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเหรียญตะกั่วลองพิมพ์หรือเปล่าถ้าถ่ายรูปเสร็จจะนำมาลงให้ดูตรับ ของแท้แน่นอนแต่ประวัติการสร้างไม่ได้ระบุไว้ ส่วนที่นิยมเล่นกันว่าหางสั้นหางยาวนั้น ข้อสังเกตุเขาให้ดูที่ใต้ฐานครูบาจะมีเส้นนูนออกมาคล้ายตะขอเบ็ดคว่ำ และดูกันที่ดัว ย ยักษ์ ของคำว่าแม่สะเรียงด้านซ้ายองค์พระ ข่าวลือกันมาว่า มีพระจำนวนหนึ่งที่มาไม่ทันพิธีปลุกเสก ลือกันว่า เป็นรุ่น ย หางยาว แต่สอบถามข้อมูลมาว่า ทีแรกเขาจะเอาพิมพ์ ย หางยาว พืมพ์เนื้อ นวะโลหะ แต่ ได้นำมาพิมพ์เนื้อทองแดงด้วย เลยร่ำลือกันไปใหญ่แต่ที่แน่ๆผู้เขียนว่า ดีเหมือนกันถ้าไม่ใช่ของปลอม แถมยังมียันต์ด้านหลังอักด้วยแต่รูปหน้าครูบาผาผ่า ไม่ค่อยสวยแค่นั้นคนถึงไม่นิยมเล่นกัน และมีจำนวนมากพอสมควร( ๑๐,๐๐๐ เหรียญ)มาดูอีกพิมพ์หนึ่งต่อนะครับ​

เหรียญรูปไข่ พิมพ์เล็ก หลังยันต์สี่เหลี่ยม เรียกกันว่าพิมพ์กรรมการ

พิมพ์กรรมการ หลังยันต์เล็ก เนิ้อเงิน (ด้านหน้า)
ของผู้เขียน ถ่ายภาพโดย...............เสือดำ

พิมพ์กรรมการ หลังยันต์เล็ก เนิ้อเงิน (ด้านหลัง)
ของผู้เขียน ถ่ายภาพโดย...............เสือดำ

พิมพ์กรรมการ หลังยันต์เล็ก เนิ้อทองแดง (ด้านหน้า)
ช่างเจี๊ยบ......ท่ารถเมล์แม่สะเรียงเอิ้อเฟื้อภาพ

พิมพ์กรรมการ หลังยันต์เล็ก เนิ้อทองแดง (ด้านหลัง)
ช่างเจี๊ยบ......ท่ารถเมล์แม่สะเรียงเอิ้อเฟื้อภาพ

พิมพ์กรรมการ หลังยันต์เล็ก เนิ้อทองแดง (ด้านหน้า)
ของผู้เขียน ถ่ายภาพโดย...............เสือดำ

พิมพ์กรรมการ หลังยันต์เล็ก เนิ้อทองแดง (ด้านหลัง)
ของผู้เขียน ถ่ายภาพโดย...............เสือดำ​

การตอกโค๊ดเหรียญรูปไข่ พิมพ์เล็ก หลังยันต์สี่เหลี่ยม
1. เนื้อเงิน จะตอกโค๊ด “กว” ที่ใต้ฐาน (เหนือ พ.ศ.2517) (จำนวน ……. เหรียญ)
2. เนื้อทองแดง จะตอกโค๊ด “กว” ไว้ 2แห่ง **ที่ใต้ฐาน (เหมือนเนื้อเงิน) และ**ข้างข้อศอก ด้านขวาขององค์พระ (จำนวน ๒๕๑๗ เหรียญ)
(เหรียญพิมพ์นี้ ใช้โลหะทั้งหมด 2ชนิด)

วันนี้ขอนำเสนอเหรียญรุ่น ๑ ครูบาผาผ่า ปี ๑๗ วัดกิตติวงศ์จัดสร้างร่วมกับวัดผาผ่า พิธีพุทธาภิเษกที่วัดกิตติวงศ์ หรือชื่อเดิม วัดชัยสงคราม และจะเป็นที่มาของกริ่งขัยสงครามและกริ่งหงสาวดี ในครั้งต่อไป โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.oknation.net/blog/doipui

 

เหรียญครูบาผาผ่า รุ่น ๒ วัดกิตติวงศ์ ปี ๒๕๒๐

​

<TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD>

เหรียญรุ่น ๒ วัดกิตติวงศ์เนื้อกะไหล่เงิน(ด้านหน้า)​

​

เหรียญรุ่น ๒ วัดกิตติวงศ์เนื้อกะไหล่เงิน(ด้านหลัง)

​

เหรียญรุ่น ๒ วัดกิตติวงศ์ เนื้อทองแดง (ด้านหน้า)​

​

เหรียญรุ่น ๒ วัดกิตติวงศ์ เนื้อทองแดง (ด้านหลัง)​

​

รุ่น ๒ ใบโพธิ์ ลงยาสีเขียว ยัง มีสีแดง สีทอง อีก​

​

ใบโพธิ์ลงยา ด้านหลัง​

​

เหรียญรูปดอกจิก เนื้อทองแดง ด้านหน้า

เหรียญรูปดอกจิก เนื้อทองแดง ด้านหลัง​

เหรียญดอกจิกลงยา ล๊อกเก็ต สำหรับแจกกรรมการ (ด้านหน้า)

เหรียญดอกจิกลงยา ล๊อกเก็ต สำหรับแจกกรรมการ (ด้านหลัง)
เหรียญทั้งหมดเป็นของผู้เขียน .......ถ่ายภาพโดย.......เสือดำ

เหรียญดอกจิกลงยา ล๊อกเก็ต แบบมีห่วง สำหรับแจกกรรมการ (ด้านหน้า)
ฃ่างเจี๊ยบ ท่ารถเมล์แม่สะเรียง เอื้อเฟื้อภาพ

เหรียญดอกจิกลงยา ล๊อกเก็ต แบบติดโบว์ สำหรับแจกกรรมการ (ด้านหน้า)
ฃ่างเจี๊ยบ ท่ารถเมล์แม่สะเรียง เอื้อเฟื้อภาพ

เหรียญดอกจิกลงยา ล๊อกเก็ต แบบติดโบว์ สำหรับแจกกรรมการ (ด้านหลัง)
ฃ่างเจี๊ยบ ท่ารถเมล์แม่สะเรียง เอื้อเฟื้อภาพ
ขออภัยที่ห่างหายหน้าจอไปหลายวันเนื่องจากเดินทางไปต่างจังหวัดเลยไม่ได้เขียนต่อ วันนี้ขอนำเสนอเหรียญครูบาผาผ่า รุ่น ๒ จากวัดกิตติวงศ์ อ.แม่สะเรียง เนื่องด้วยเหรียญครูบาผาผ่า รุ่น ๑ วัดกิตติวงศ์ ออกเมื่อปี ๑๗ ได้รับความนิยมและมีประสบการณ์ต่างๆมากมาย ได้จำหน่ายหมดจากวัดและประชาชนเรียกร้องให้สร้างอีกรุ่นทางวัดกิตติวงศ์จึงร่วมกับวัดผาผ่าจัดสร้างเหรียญครูบาผาผ่ารุ่น ๒ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ขึ้นอีกครั้ง โดยจัดสร้างออกเป็นสามแบบตามที่เสนอมาให้เห็นดังข้างต้นส่วนรายละเอียดการจัดสร้างนั้นยังไม่มีข้อมูลจะนำมาเสนอในโอกาสต่อไป ครับผม ประสบการณ์รุ่นนี้นั้น พี่แป๊ะ เมื่อก้อนได้ย้ายมาอยู่แม่สะเรียง โดยมาขายของในตลาดสดแม่สะเรียง เล่าให้ฟังว่าได้มาเช่าบ้านอยู่ ตอนที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่นั้น ได้เช็ดที่เคร่าไม้ข้างฝา มือไปลูบเจอเหรียญครูบาผาผ่าเนื้อทองแดงเข้าเหรียญหนึ่ง แกก็หยิบเอาใส่กระเป๋าเสื้อไว้ และได้เดินทางไปเชียงใหม่ระหว่างทางหม้อน้ำรถเดือดเป็นไอเต็มหน้ารถ แกจอดรถเปิดฝากระโปรงรถดู น้ำในหม้อน้ำรถที่กำลังร้อนพุ่งใส่ตัวแก่ต็มหัวเต็มหน้าหมด และพอไปหาหมอกลับไม่เป็นอะไรเลย พูดเสร็จพี่แป๊ะ ก็โชว์เหรียญครูบาผาผ่าให้ดู แล้วพูดว่า พั่ก็เลยกรอบทองขึ้นคอเลยตั้งแต่นั้นมา นี่คือประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้พบมาจากคำบอกเล่าของเจ้าของพระเหรียญครูบาผาผ่ารุ่น ๒ นี้ ครับ ดังคำที่ว่า ครูบาผาผ่าดีทุกรุ่น
สำหรับเหรียญวูปดอกจิกลงยานั้นได้จัดสร้างเป็น ๒ แบบ คือมีโบว์โลหะชุบทองติดอยู่ด้วยกับเหรียญ และแบบมีเฉพาะ ห่วง เท่านั้น ถ้าใส่กล่อง หน้ากล่อง จะเป็นเดือน กุมภาพันธ๋ ๒๕๒๑ แต่เป็นเหรียญรุ่น ๒ เหมือนกัน มีลงยาสีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สัชมพู เหมาะสำหรับผู้หญิงเป็นอย่างยิ่ง​

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.oknation.net/blog/doipui ​

​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

กราบครูบาผาผ่า ครับ อนุโมทนา สาธุด้วยครับ ขอบคุณที่นำประวัติท่านมาให้อ่าน

 

กราบครูบาด้วยเศียรเกล้า

 

ข้อมูลแน่นมากครับพี่ออย กราบครูบาผาผ่า ของบางอย่างก็หาไม่ได้ละครับ

 

นอกจากนี้ครูบาเจ้าท่านยังใช้น้ำทิพย์บ่อนี้อาบทุกๆวันด้วยครับ....ศิษย์เอกของครูบาผาผ่าที่ยังมีชีวิตอยู่ คือ"ครูบาเจ้าอินสม" วัดพระธาตุจอมทอง อ.แม่สะเรียง ท่านจะมาพักที่บ้านของข้าพเจ้าทุกครั้งที่ลงมากรุงเทพ เมื่อวานคุยกับครูบาท่านบอกว่า...."ตอนนี้เตียมที่เก็บ(ตัวท่าน)ไว้เสร็จแล้ว หุ่นขี้ผึ้งพร้อมแล้ว..." รีบๆไปกราบท่าน....

 

อนุโมทนาครับ
ถ้าจำไม่ผิดครูบาผาผ่า วันที่มีการเผาสังขารท่าน เกิดพระอาทิตย์ทรงกลด เหนือเมรุที่เผาครับ วัตถุมงคลท่านน่าจะเด่นทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาด ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ