คนเปิดกรรม ตอน สื่อกรรมฐาน พระผู้สำเร็จสอนกรรมฐาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย baiiboom, 22 กันยายน 2009.

  1. baiiboom

    baiiboom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +2,385
    <o>:p> </o>:p>
    [FONT=&quot]คนเปิดกรรม ตอน สื่อกรรมฐาน พระผู้สำเร็จ สอนกรรม[/FONT][FONT=&quot]ฐาน<o>:p></o>:p>[/FONT]


    [FONT=&quot]คำเตือน[/FONT]
    [FONT=&quot]บทความและที่มาที่ไปต่างๆ ผู้เขียนไม่ได้ศึกษาถึงที่มาที่ไป และ[/FONT]
    [FONT=&quot]ข้ออ้างอิง และมิได้คิดจะบิดเบือน สิ่งที่ชนรุ่นก่อน ที่ได้เคยเล่าสืบ[/FONT]
    [FONT=&quot]ทอดกันมา หรือล่วงเกินท่านผู้รู้ที่รู้ต่างจากตัวข้าพระเจ้า สิ่งที่จะ[/FONT]
    [FONT=&quot]กล่าว เป็นความรู้สึกนึกคิดของผู้เขียนทั้งสิ้น[/FONT]
    [FONT=&quot]
    โปรดใช้สติของท่านผู้อ่าน ตรองถึงเหตุผลต่างๆที่จะเล่าต่อไปนี้[/FONT]

    [FONT=&quot]มาแล้วครับ คนเปิดกรรมตอน ที่หนึ่ง ในตอนนี้จะเล่าเรื่อง อภิญญา[/FONT]
    [FONT=&quot]ความเหนือธรรมชาติ ความเร้นลับ ในสิ่งมองไม่เห็น และการเปิดกรรม ด้วยตนเอง[/FONT]
    [FONT=&quot]
    อภิญญาเหนือธรรมชาติ บางท่านก็ได้มาจากการเจริญกรรมฐาน บ้าง[/FONT]

    [FONT=&quot]ติดตนมาตั่งแต่จำความได้ แล้วแต่กรณี และบุญ[/FONT]
    [FONT=&quot]ที่ท่านนั้นๆสร้างมา บ้างก็ ไขว่คว้าที่จะได้มา แต่สิ่ง[/FONT]<o>:p></o>:p>

    [FONT=&quot]ที่เป็นบรรทัดฐาน ในก้าวแรกของ ผู้ที่ค้นหาก็คือ การกรรมฐานสวดมนต์[/FONT]
    [FONT=&quot] ภาวนา ท่านทำได้ ก็จะเกิด นิมิตและอภิญญา ตามที่กล่าว[/FONT]

    [FONT=&quot]รู้อะไรก็ไม่เท่า รู้ด้วยตัวเอง[/FONT]

    [FONT=&quot]ขั้นชั้น ของอภิญญา[/FONT]
    [FONT=&quot]ขั้นชั้นอภิญญา แบ่งได้คร่าวๆ ดังนี้[/FONT]

    1. [FONT=&quot]โทรจิต[/FONT]

    2. [FONT=&quot]นิมิต[/FONT]

    3.[FONT=&quot]ถอดจิต [/FONT]
    [FONT=&quot]
    ก่อนอื่นที่ท่านที่ จะฝึกอภิญญา ให้ได้รับรู้กรรมของตน และกรรมของผู้อื่น[/FONT]
    [FONT=&quot]และสิ่งที่เหนือธรรมชาติ ก่อนอื่นต้องศึกษาเรื่องระดับจิตก่อนครับ[/FONT]

    [FONT=&quot]โทรจิต[/FONT][FONT=&quot] คือความนึกคิดที่ต่างจากบุคคลธรรมดา เปรียบเทียบโทรจิต กับ[/FONT]
    [FONT=&quot]ปัจจุบันคล้ายโทรศัพท์มือถือ ที่เราใช้พบพาสื่อสารไปได้ทุกๆที่โดย[/FONT]
    [FONT=&quot]โทรศัพท์ ใช้การกดเบอร์ปลายทางที่เราต้องการสนทนาและติดต่อ โทรจิตก็[/FONT][FONT=&quot]คล้ายกันแต่การติดต่อนั้น ติดต่อโดยใช้จิตการติดต่อ จิตต้องนิ่งสมาธิ[/FONT][FONT=&quot]กรรมฐานต้องให้ได้จะสื่อได้มิได้ ก็ขึ้นอยู่ ที่จิตจะสงบลงขนาดใด[/FONT]
    <!--[if !supportLineBreakNewLine]--><o></o>

    [FONT=&quot]นิมิตความฝัน [/FONT][FONT=&quot]บางท่านอาจจะไม่ทราบว่า นิมิต กับ ความฝัน[/FONT]
    [FONT=&quot]แตกต่างกันอย่างไร ดูแล้วมีความหมายคล้ายๆกัน นิมิต คือความฝัน ความ[/FONT][FONT=&quot]ฝัน คือนิมิตจริงหรือ เรามาตรองและเปรียบเทียบกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]นิมิต คืออาการสงบของจิต เวลาพักผ่อนนอนหลับ ท่านที่ยังไม่ได้ปฏิบัติ[/FONT]
    [FONT=&quot]กรรมฐาน จิตของท่านยังไม่นิ่งพอ หลับไปความรู้สึกนึกคิด กลับกลายเป็น[/FONT][FONT=&quot]มโนภาพที่ตนครุ่นคิดจึงเก็บมาฝัน ส่วนนิมิตกล่าวได้ว่าเป็น การสงบของจิต[/FONT][FONT=&quot]ในระดับหนึ่ง ถึงได้นิมิตถึงในสิ่งที่เป็นไป บางท่านก็ติดต่อทางโลกวิญญาณได้[/FONT][FONT=&quot]แล้วแต่จะเป็นบารมีของท่านนั้นๆ สรุปคือนิมิตแตกต่างจากความฝัน ที่จิตที่นิ่งสงบเป็นสมาธิ[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ถอดจิต[/FONT]
    [FONT=&quot] คือสมาธิจิตที่การรวมจิตที่สงบนิ่งสูง การที่จะถอดจิตได้นั้น ต้องมี[/FONT][FONT=&quot]จิตสมาธิที่สงบ ปฏิบัติกรรมฐานต้องได้ตามที่กล่าว การถอดจิตทำได้หลายวิธี[/FONT][FONT=&quot] ผู้เขียนจะกล่าวโดยสังเขปดังนี้[/FONT]

    1. [FONT=&quot]ถอดจิตโดยวิธี กรรมฐานนั่งสมา จิตสงบลงในขั้นสูง ก็จะสามารถถอด[/FONT]
    [FONT=&quot]จิตไปตามที่ตนต้องการได้[/FONT]

    2. [FONT=&quot]ถอดจิตโดย สติที่นิ่ง กำหนดลมหายใจ ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใดก็[/FONT]
    [FONT=&quot]สามารถถอดจิตไปที่ๆต้องการได้ โดยรู้ทั้งสอง คือรู้รอบกาย และรู้ในที่ๆเรา[/FONT][FONT=&quot]ถอดจิตไป[/FONT]
    [FONT=&quot]

    สรุป
    [/FONT]


    [FONT=&quot]โทรจิต เป็นการสื่อในระดับต้นของ ผู้ปฏิบัติๆ จะสามาสื่อและรับรู้ ทางเสีย[/FONT]
    [FONT=&quot]ภาพก็จะปรากฏตามความนึกคิดที่เรา ได้รับทางโทรจิต[/FONT]
    [FONT=&quot]
    นิมิต[/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นการสื่อในระดับปานกลางของ ผู้ปฏิบัติๆจะสามารถ รับรู้ได้ทางภาพ[/FONT][FONT=&quot]และเสียง โดยการที่สติสงบจิตนิ่ง ในเวลาหลับพักผ่อน คือจิตรู้ และตัวตนรู้[/FONT][FONT=&quot]ตามในเวลาตื่นถอดจิต[/FONT][FONT=&quot]เป็นการสื่อในระดับสูงของผู้ปฏิบัติๆ จะสามารับรู้ด้วยจิต สามารถ[/FONT][FONT=&quot]มองเห็นทั้งภาพและเสีย ที่ไม่ใช่การที่ได้ยินหรือสื่อทางโทรจิตก่อน แล้วค่อย[/FONT][FONT=&quot]เห็นภาพ รับรู้ได้โดยที่ตนมีสติครบถ้วน ไม่ต้องหลับก็เห็นก็สามารถสื่อได้ การ[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ถอดจิต เป็นจิตขั้นสูงของการปฏิบัติ

    [/FONT]
    " [FONT=&quot]ถือศีลสวดมนต์ภาวนา สติเกิด จิตสงบ บารมีสูงส่ง[/FONT]"
    [FONT=&quot]
    ทราบถึงระดับขั้นอภิญญาของจิตแล้ว แต่เหนือสิ่งอื่นใดของการปฏิบัติ[/FONT]
    <o></o>
    [FONT=&quot]ให้ได้แนวทาง การเปิดกรรมของตัวเองได้คือ ต้องกำหนดตัวรู้ให้เกิดก่อน[/FONT]
    [FONT=&quot]จะปฏิบัติกรรมฐาน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอิริยาบถใด นั้น ยืน เดิน นอน หิว[/FONT]<o></o>

    [FONT=&quot]อิ่ม สุข ทุกข์ ก็กำหนดให้ตนเองรู้[/FONT]<o></o>[FONT=&quot] ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการปฏิบัติ เจริญบารมี ทั้งทางโลกทางธรรมทุกท่าน[/FONT]<o></o><o></o>
    [FONT=&quot]

    เหตุการณ์พอสังเขป ของการผู้เขียน
    ก่อนจะสัมผัสญาณหลวงปู่ [/FONT]
    [FONT=&quot]อายุ[/FONT] 25 [FONT=&quot]เข้า [/FONT]26 [FONT=&quot]ปี โรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้เบียดเบียนเริ่มจาก โรคเบาหวาน ซึ่ง[/FONT][FONT=&quot]ผู้เขียนตรวจพบตั้งแต่อายุสิบกว่าปี แต่มิได้ควบคุมและติดตามการรักษา ปล่อยเลย[/FONT][FONT=&quot]จนถึงอายุที่กล่าว จากเบาหวาน ผู้เขียนได้ปล่อยให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูงตลอด จน[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ร่างกายทรุดโทรม ต้องนอนโรงพยาบาล และตามมาด้วย โรคความดันสูง ไตวาย[/FONT][FONT=&quot]เรื้อรัง ในขณะที่ผู้เขียนๆบันทึกนี้ ไตวายเรื้อรังนั้นเป็นระยะเกือบสุดท้าย หัวใจโต ตา[/FONT][FONT=&quot]ข้างซ้ายมองแทบไม่เห็น ต้องตัดขาเหนือระดับใต้เข่าทั้งสองข้าง ด้วยอาการข้างเคียงจาก[/FONT]
    [FONT=&quot]โรงเบาหวาน การรักษาในโรงพยาบาลเป็นมาอย่างต่อเนื่องจวบจนขณะนี้อายุเข้า [/FONT]30 [FONT=&quot]ปี[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ก็ยังต้องเข้านอนโรงพยาบาล เพื่อรักษาตัวบ่อยๆอย่างต่ำเดือนละครั้ง ครั้งหนึ่ง สามวัน [/FONT][FONT=&quot]หนึ่งอาทิตย์ แล้วแต่อาการ บางคราวเป็นหนักๆนอนโรงพยาบาลเป็นเดือน เลยก็มี จน[/FONT][FONT=&quot]โรงพยาบาลที่เข้ารักษาไม่ว่าหมอ หรือพยาบาลเห็นหน้าเรา ก็จะทราบถึงอาการของโรค[/FONT][FONT=&quot]ที่เราเป็นเรียกได้ว่าเห็นชื่อก็จำหน้าได้เลย จนในขณะนี้ต้องเปลี่ยนชื่อเอาเคล็ด

    เพื่อที่ไม่[/FONT][FONT=&quot]ต้องเจ็บป่วยบ่อยๆ การเขียนบันทึกนี้ก็ยังไม่วายเขียนที่ โรงพยาบาล เข้ารอบนี้เป็นโรค[/FONT][FONT=&quot]ที่กำลังระบาดทั่วบ้าน ทั่วโลกคือไข้หวัด [/FONT]2009 [FONT=&quot]รักษาตัวที่โรงพยาบาลครั้งนี้ เป็นรอบ[/FONT][FONT=&quot]ที่สี่ เข้าพรรษามาไม่ถึงหนึ่งเดือน เข้านอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสี่รอบ ขอเล่า[/FONT][FONT=&quot]ย้อนกลับไปอีกสักหน่อย

    อายุ [/FONT]25 [FONT=&quot]ถึง [/FONT]30 [FONT=&quot]ปี การรักษาตัวในโรงพยาบาล เป็นอย่าง[/FONT]
    [FONT=&quot]ต่อเนื่อง เป็นหนักๆจนต้องเข้าห้องผ่าตัด นอนห้อง [/FONT]ICU [FONT=&quot]และ [/FONT]CCU [FONT=&quot]ก็หลายครั้ง แต่[/FONT][FONT=&quot]เหตุการณ์ต่างๆก็ผ่านมาได้ อยากจะตายแต่ก็ไม่ตาย หนักๆเข้าเกิดรักตัวกลัวการจบชีวิต [/FONT][FONT=&quot]จึงหันหน้าเข้าปฏิบัติ สวดมนต์ ภาวน า เฉกเช่นดังที่เคยได้กระทำมาเมื่อครั้งแต่

    เยาว์วัย[/FONT][FONT=&quot]เรียกได้ว่า บทสวดมนต์บทไหนหรือพระสูตไดก็สวดแทบจะทุกบท สวดไปก็ ป่นขอ[/FONT][FONT=&quot]ชีวิตไป สวดได้แทบจะไม่ต้องเปิดบทสวด ปฏิบัติถึงประมาณที่กล่าว สติจึงเกิด [/FONT][FONT=&quot]พอที่จะทราบถึงโรคภัยที่เราเป็นนั้นเป็นโรคกรรม เจ้ากรรมนายเวร ตามทันและ พอจะ[/FONT]
    [FONT=&quot]ทราบว่าตัวเราเมื่ออดีตชาติ เกิดเป็นอะไร ทำกรรมใคร ไว้บ้าง และกรรมที่เกิดขึ้นกับ[/FONT]
    [FONT=&quot]
    เราทั้งหมดนั้น เป็นกรรม ที่เราทำ เป็นการกระทำของเรา จึงกลับคืนมาสนองเรา[/FONT][FONT=&quot]ทั้งหมด ได้รับรู้ถึง นิมิตดังกล่าว จึงต้องหมั่นทำความดี แผ่เมตตาเฉพาะเจาะจงให้กับ[/FONT][FONT=&quot]เจ้ากรรมนายเวรก่อนสิ่งใด เพื่อที่จะให้เขาให้อภัยอโหสิกรรม และละจากการเอาคืนเฉก[/FONT]
    [FONT=&quot]เช่นดังเราที่เคยทำเขาไว้ ภาวนามอบร่างกายทั้ง กายเนื้อ กายทิพย์ ที่เหลือต่อพระพุทธ [/FONT]
    [FONT=&quot]
    พระธรรม พระสงค์ เพื่อนเป็นเครื่องสักการะ บูชา ต่อองค์สมเด็จพระพุทธเจ้า [/FONT][FONT=&quot]ร่างกายยังไม่สิ้นก็ จะทำแต่ความดี เผยแพร่ต่อยอด พระพุทธศาสนาต่อไป จวบจนชีวิต[/FONT][FONT=&quot]จะหาไม่ กล่าวได้ว่าการปฏิบัติในครั้งนี้ คือ [/FONT]

    "
    [FONT=&quot]ไม่เห็นทุกข์ ไม้เห็นธรรม[/FONT]"

    "
    [FONT=&quot]อย่าให้ทุกข์เกิด จึงเข้าหาธรรม[/FONT]"
    [FONT=&quot]
    บทความ และที่มาที่ไปต่างๆ ผู้เขียนไม่ได้ศึกษาถึงที่มาที่ไป และข้ออ้างอิง และมิได้[/FONT][FONT=&quot]คิดจะบิดเบือนสิ่งที่ชนรุ่นก่อน ที่ได้เคยเล่าสืบทอดกันมา เป็นความรู้สึกนึกคิดของ[/FONT][FONT=&quot]ผู้เขียนทั้งสิ้น ผู้เขียนขอกล่าวถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ได้รับรู้ โดยใช้คำว่าโทรจิต โปรดใช้[/FONT]
    [FONT=&quot]สติของท่านผู้อ่าน ตรองถึงเหตุผลต่างๆที่จะเล่าต่อไปนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]ฝึกจิต กำหนดจิต ปลงขัน [/FONT]" [FONT=&quot]ชำระกรรมให้เบาบาง[/FONT]"
    [FONT=&quot]การปลงขัน ที่ผู้เขียนจะถ่ายทอดเล่าให้ท่านผู้อ่าน ได้อ่าน ผู้เขียนรับการสื่อทาง[/FONT][FONT=&quot]โทรจิตในการสอน จากหลวงปู่โดยเกิดจากความเจ็บป่วย ของผู้เขียนที่จะเล่าต่อไปนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]
    การเจ็บครั้งที่สาม ในช่วงเข้าพรรษาปี [/FONT]2552 [FONT=&quot]มีอาการหนักขึ้นตามลำดับ เจ็บป่วยทุก[/FONT][FONT=&quot]ทรมาน มีอาการเหนื่อย หายใจติดขัดหลายรอบ นอนไม่ได้กระสับกระส่าย ไข้ก็ไม่[/FONT][FONT=&quot]มี แต่มีอาการร้อนในตัว ใจหนึ่งก็อยากไปโรงพยาบาล แต่ใจหนึ่งก็เห็นว่าไปรักษา[/FONT]
    [FONT=&quot]พึ่งจะกลับมา รักษามาสามรอบแล้ว จึงแข็งใจ เอาทางธรรมรักษา วันที่สื่อโทรจิตถึง[/FONT][FONT=&quot]หลวงปู่นั้น ผู้เขียนนอนไม่หลับ ด้วยความเจ็บป่วย จนรุ่งเช้ า จิตก็ภาวนากำหนด

    ลม[/FONT][FONT=&quot]หายใจ และนึกถึงหลวงปู่ ผู้เขียนไม่เคยได้ไปกราบไหว้ ท่านเลยสักครั้งรู้จักท่านได้ [/FONT][FONT=&quot]เพราะมี ผู้ที่นำหนังสือเกี่ยวกับประวัติหลวงปู่มาให้ได้อ่าน และบอกกับผู้เขียนว่า[/FONT][FONT=&quot] หลวงปู่ท่านใจดีเรามีอะไร ให้นึกถึงท่าน เวลาทำสมาธิให้ ตั่งจิตถึงท่านๆจะมาสอน[/FONT]
    [FONT=&quot]ในจิต ผู้เขียนจึงทำสมาธิและกำหนดจิตถึงหลวงปู่ จิตนิ่งไม่ถึงห้านาที่

    หลวงปูท่าน[/FONT][FONT=&quot]มาให้รับรู้ทางเสียง หรือที่ผู้เขียนกล่าวบ่อยๆ คือ โทรจิต หลวงปู่สอนการทำ[/FONT][FONT=&quot]สมาธิตามที่กล่าว ดังผู้เขียนจะสดับให้ได้อ่าน ตามขั้นตอนต่อไปนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]
    หลวงปู่[/FONT]"[FONT=&quot] จิตอยู่ที่ลมหายใจนะลูกนะ สูดสมเข้าให้เต็มที่ แล้วค่อยๆผ่อนออกเบา[/FONT][FONT=&quot]สบาย พิจารนาลมหายใจอยู่ที่หน้าอก หรือปอด สูดสมหายใจยาวๆเข้า ผ่อนออก [/FONT][FONT=&quot]เบาสบาย จิตรวมที่ลมหายใจ อยากให้จิตออกนอกจิตนะลูก จิตไม่นิ่ง ก็ดึงจิต[/FONT]
    [FONT=&quot]
    กลับมาอยู่ที่ลมหายใจ นะลูกนะ กำหนดจิตอยู่ในอาอับอิริยา ที่ลมหายใจ หายใจเข้า[/FONT][FONT=&quot]ให้เต็มปอด ผ่อนออกเบาสบาย กำหนออยู่เช่นนั้น จนจิตนิ่งถึงระดับเบาสบายใน[/FONT][FONT=&quot]ตัวตน

    หลงปู่[/FONT]" [FONT=&quot]กำหนดต่อนะลูกนะ พิจารนาถึงดอกบัวสีขาว อยู่ด้านหน้าเราใน[/FONT][FONT=&quot]ระดับสายตา เห็นแล้วก็ เห็นหนอนะลูก นั้นคือดอกบัวที่จิตเรากำหนดขึ้นมา เห็น[/FONT][FONT=&quot]หนอน เห็นหนอ ดอกบัวนี้เป็นจิตที่เรากำหนด เป็นดอกบัวที่ขาวสะอาดเป็นตัวตน[/FONT][FONT=&quot] เป็นร่างกายของเรา ดอกบัวนี้เปรียบดังเครื่องสักการบูชา พระพุทธเจ้านะลูก เห็น[/FONT]
    [FONT=&quot]หนอ

    ดอดบัวสีขาวสะอาด พิจารนาดอกบัว กำหนดจิตเรา แพ่งจิตไปที่ดอกบัว [/FONT][FONT=&quot]นะลูก ดอกบัวที่ขาวสะอาดตอนนี้มีแสงแห่งดวงจิตของเราอยู่ด้วยแล้วนะลูก แสงสี[/FONT][FONT=&quot]ทอง ที่อยู่รอบบัวที่นั้นเป็นแสงแห่งดวงจิตของเรา ที่อยู่ในสมาธินะลูก ดอกบัวจะ[/FONT][FONT=&quot]สวยงามดูเปล่งแสงทองแห่งธรรมได้

    เกิดจากจิตเราที่มีพุทธทานุภาพแห่งพระพุทธคุณ[/FONT][FONT=&quot]นะลูก กำหนดให้ได้ดังกล่าว อยู่กับจิตดังกล่าว จนเกิดความเบาสบายอิ่มเอิบ และ [/FONT][FONT=&quot]ปิติในบุญ ดังที่กล่าวนี้เป็นขั้นตอนของการฝึกจิตให้นิ่ง ขั้นแรกเมื่อจิตนิ่งแล้วหลวงปู่[/FONT][FONT=&quot] ท่านสอนต่อในขั้นต่อไป[/FONT]

    [FONT=&quot]สมาธิกรรมฐานขั้นที่สอง

    พิจารนาร่างสังข์ขาน ปรังธาตุ ในตัวตนเพื่อคลาย อาการ[/FONT]
    [FONT=&quot]เจ็บป่วย เบาสบายอิ่มเอิบและ ปิติแล้วนะลูก ในขณะนี้ดวงจิตเป็นพลังบุญ เรากำหนด [/FONT][FONT=&quot]จึงเกิดพุทธทานุภาพนะลูก เบาสบาย พิจารนาอากับกิริยาอาการที่เป็นอยู่ พลังแห่งบุญ[/FONT][FONT=&quot]นะลูก

    ตอนนี้จิตเราอยู่ที่ดอกบัวแล้ว จิตก็พิจารนาเห็นหนอ เห็นร่างกายที่อยู่ด้านหน้า[/FONT][FONT=&quot]จิต รูปกายสังข์ขานนี้นะลูก ไม่ใช่ของเราหนอ ร่างสังข์ขานหนอ มีแต่ของเน่าเหม็น[/FONT][FONT=&quot]สกปรก ไม่เป็นท่า

    เมื่อจิตประกอบคู่กับร่างกาย จึงทำให้เกิดหนอ เกิดตัวเราหนอ [/FONT]
    [FONT=&quot]สิ่งสะอาดที่สุดคือจิตหนอ ตอนนี้จิตอยู่ที่ดอกบัว พิจารนาไปนะลูก สังข์ขานหนอ[/FONT][FONT=&quot]ประกอบด้วยธาตุทั้งสี่หนอ มีธาตุดิน คือเนื้อ หนัง ตับ ไต เครื่องในต่างๆ ใน[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ตัวเรา เห็นหนอนะลูกนะ ธาตุดินคือเนื้อหนังในร่างกายของตัวเรา ไม่เที่ยง คือดินก็[/FONT][FONT=&quot]ต้องย่อยสลายศูนย์หาย ตามกาลเวลา หมดกรรมไป ร่ายกายก็คือดินเห็น หนอ [/FONT]
    [FONT=&quot]
    ธาตุดิน คือร่างกายเนื้อหนังเราหนอ เห็นหนอร่างกายเราประกอบด้วยธาตุน้ำหนอ [/FONT][FONT=&quot]น้ำคือธาตุถัดจากดิน ที่อยู่ในร่างกายเราหนอ เราปริโภคดื่มกินน้ำนี้หนอ

    เมื่อธาตุน้ำ[/FONT][FONT=&quot]ประกอบในร่างกายเราแล้วนั้น ก็เปลี่ยนสภาพหนอ เป็นน้ำเลือด น้ำเหงื่อ น้ำ[/FONT][FONT=&quot]หนอง น้ำดี น้ำเสรส ฯลฯ หนอ เป็นของเน่าเหม็นหนอ ร่างกายดับกลับ[/FONT][FONT=&quot]กลายเป็นธาตุเดิมตามเวลาหนอ ร่างสังข์ขานหนอ ไม่เที่ยง เกิดดับศูนย์สลายตาม[/FONT][FONT=&quot]กาลเวลา

    สังข์ขานหนอประกอบด้วยธาตุลมหนอ ธาตุลมคืออากาศ ที่เราสุดลม[/FONT][FONT=&quot]หายใจเข้าไปหนอ ธาตุลมคืออากาศที่อยู่ทั่วร่างกายเราหนอ ดับสลายผ่านมาแล้วก็ดับไป[/FONT][FONT=&quot]ตามกฎธรรมชาติหนอ สังข์ขานหนอ ประกอบด้วยธาตุ ไฟหนอ ธาตุไฟ คือความ[/FONT]
    [FONT=&quot]
    อบอุ่นที่เราได้รับหนอ ความอบอุ่นนี้มาจากธรรมชาติสร้างมาหนอ ร่างกาย สังข์ขาน[/FONT][FONT=&quot]หนอประกอบด้วยธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟหนอ และมีดวงจิตหนอ ที่สะอาด[/FONT][FONT=&quot]ขับเคลื่อนให้ร่างกาย มนุษย์อยู่ได้หนอ ทุกสิ่งในร่างกายเกิดจากธรรมชาติสร้างขึ้นหนอ[/FONT][FONT=&quot]หมดเวลาก็ต้องคืนให้เขาเพราะเรายืมเขามาหนอ ทุกสิ่งในโลกล้วนเกิดดับหนอ สิ่งที่[/FONT]
    [FONT=&quot]ยังอยู่หนอ คือดวงจิต รู้หนอ หมั่นทำกรรมดี ภาวนาสวดมนต์ กำหนดกรรมฐาน[/FONT][FONT=&quot]หนอ ที่เป็นทางหลุดพ้น ร่างกายดับหนอ เหลือดวงจิตหนอ ที่สะอาด ได้ไปเกิดจุติตามกรรมที่ได้กระทำมา การ

    เข้าสมาธิกรรมฐานที่กล่าวนั้น เป็นระดับขั้นที่สองคือ ปรับธาตุในตัวตน เจ็บป่วยด้วยโรคใดก็ ปรับธาตุให้เข้าที่ ให้สมดุลต่อร่ายกาย [/FONT][FONT=&quot]จบเรื่องเล่า การสื่อถึงหลวงปู่ สาวกพระพุทธเจ้าที่สำเร็จ ขั้นนิพาน ทาง จ[/FONT].[FONT=&quot]พิจิตร[/FONT]

    "
    [FONT=&quot]ด้วยจิตผู้เขียนนี้ขอระลึกถึง[/FONT]" [FONT=&quot]คุณพระพุทธเจ้า พระธรรมคำสอน พระสงค์สาวก[/FONT][FONT=&quot]ของพระผู้มีพระภาคเจ้า และหลวงปู่ที่เปิดสติสอนสมาธิกรรมฐาน ให้กับข้าพระเจ้า[/FONT][FONT=&quot]ให้ได้มาเผยแพร่ให้ท่านผู้อ่านได้รับรู้ในครั้งนี้ ขอให้ท่านผู้อ่านมีสติปัญญาในการ[/FONT]
    [FONT=&quot] ปฏิบัติธรรม กรรมฐาน เจริญทั้งทางธรรมและทางโลก สาธ[/FONT]
    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot] เรือง ตะวัน[/FONT][FONT=&quot]<o></o>

    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2009
  2. dmnoo123

    dmnoo123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2009
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +418
    อนุโมทนา กับชีวิตที่ต่อสู้กับสังขาร ด้วยธรรมะ อันดีงามนะครับ
     
  3. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    อัชเววะ กิจจะมาตัปปัง = ควรเร่งความเพียรเสียตั้งแต่วันนี้
     
  4. กิ่งขวัญ

    กิ่งขวัญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +701
    ขออนุโมทนาสาธุการค่ะ ขอให้สุขภาพแข็งแรง อายุยืน เพื่ออยู่สร้างบุญกุศลนะคะ
     
  5. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ขอบคุณค่ะคุณบอล
    ขอให้คุณมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ
    อนุโมทนาสาธุค่ะ อ่านแล้วขนลุก ปิติมากค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...