คนเปิดกรรม ตอน " การเปิดกรรมด้วยตนเอง "

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย baiiboom, 2 กันยายน 2009.

  1. baiiboom

    baiiboom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +2,385
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 10"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 10"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:35.4pt; mso-footer-margin:35.4pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} </style> <![endif]--> <o:p> </o:p>
    [FONT=&quot]คนเปิดกรรม ตอน สื่อกรรมฐาน พระผู้สำเร็จ สอนกรรม[/FONT][FONT=&quot]ฐาน<o:p></o:p>[/FONT]


    [FONT=&quot]คำเตือน[/FONT]
    [FONT=&quot]บทความและที่มาที่ไปต่างๆ ผู้เขียนไม่ได้ศึกษาถึงที่มาที่ไป และ[/FONT]
    [FONT=&quot]ข้ออ้างอิง และมิได้คิดจะบิดเบือน สิ่งที่ชนรุ่นก่อน ที่ได้เคยเล่าสืบ[/FONT]
    [FONT=&quot]ทอดกันมา หรือล่วงเกินท่านผู้รู้ที่รู้ต่างจากตัวข้าพระเจ้า สิ่งที่จะ[/FONT]
    [FONT=&quot]กล่าว เป็นความรู้สึกนึกคิดของผู้เขียนทั้งสิ้น[/FONT]
    [FONT=&quot]โปรดใช้สติของท่านผู้อ่าน ตรองถึงเหตุผลต่างๆที่จะเล่าต่อไปนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]มาแล้วครับ คนเปิดกรรมตอน ที่หนึ่ง ในตอนนี้จะเล่าเรื่อง อภิญญา[/FONT]
    [FONT=&quot]ความเหนือธรรมชาติ ความเร้นลับ ในสิ่งมองไม่เห็น และการเปิดกรรม ด้วยตนเอง[/FONT]
    [FONT=&quot]อภิญญาเหนือธรรมชาติ บางท่านก็ได้มาจากการเจริญกรรมฐาน บ้าง[/FONT]
    [FONT=&quot]ติดตนมาตั่งแต่จำความได้ แล้วแต่กรณี และบุญ[/FONT]
    [FONT=&quot]ที่ท่านนั้นๆสร้างมา บ้างก็ ไขว่คว้าที่จะได้มา แต่สิ่ง[/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT=&quot]ที่เป็นบรรทัดฐาน ในก้าวแรกของ ผู้ที่ค้นหาก็คือ การกรรมฐานสวดมนต์[/FONT]
    [FONT=&quot] ภาวนา ท่านทำได้ ก็จะเกิด นิมิตและอภิญญา ตามที่กล่าว[/FONT]

    [FONT=&quot]รู้อะไรก็ไม่เท่า รู้ด้วยตัวเอง[/FONT]

    [FONT=&quot]ขั้นชั้น ของอภิญญา[/FONT]
    [FONT=&quot]ขั้นชั้นอภิญญา แบ่งได้คร่าวๆ ดังนี้[/FONT]

    1. [FONT=&quot]โทรจิต[/FONT]
    2. [FONT=&quot]นิมิต[/FONT]
    3. [FONT=&quot]ถอดจิต[/FONT]
    [FONT=&quot]ก่อนอื่นที่ท่านที่ จะฝึกอภิญญา ให้ได้รับรู้กรรมของตน และกรรมของผู้อื่น[/FONT]

    [FONT=&quot]และสิ่งที่เหนือธรรมชาติ ก่อนอื่นต้องศึกษาเรื่องระดับจิตก่อนครับ[/FONT]

    [FONT=&quot]โทรจิต[/FONT] [FONT=&quot]คือความนึกคิดที่ต่างจากบุคคลธรรมดา เปรียบเทียบโทรจิต กับ[/FONT]
    [FONT=&quot]ปัจจุบันคล้ายโทรศัพท์มือถือ ที่เราใช้พบพาสื่อสารไปได้ทุกๆที่โดย[/FONT]
    [FONT=&quot]โทรศัพท์ ใช้การกดเบอร์ปลายทางที่เราต้องการสนทนาและติดต่อ โทรจิตก็[/FONT]
    [FONT=&quot]คล้ายกันแต่การติดต่อนั้น ติดต่อโดยใช้จิตการติดต่อ จิตต้องนิ่งสมาธิ[/FONT]
    [FONT=&quot]กรรมฐานต้องให้ได้จะสื่อได้มิได้ ก็ขึ้นอยู่ ที่จิตจะสงบลงขนาดใด[/FONT]
    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]--><o:p></o:p>
    [FONT=&quot]นิมิตความฝัน[/FONT] [FONT=&quot]บางท่านอาจจะไม่ทราบว่า นิมิต กับ ความฝัน[/FONT]
    [FONT=&quot]แตกต่างกันอย่างไร ดูแล้วมีความหมายคล้ายๆกัน นิมิต คือความฝัน ความ[/FONT]
    [FONT=&quot]ฝัน คือนิมิตจริงหรือ เรามาตรองและเปรียบเทียบกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]นิมิต คืออาการสงบของจิต เวลาพักผ่อนนอนหลับ ท่านที่ยังไม่ได้ปฏิบัติ[/FONT]
    [FONT=&quot]กรรมฐาน จิตของท่านยังไม่นิ่งพอ หลับไปความรู้สึกนึกคิด กลับกลายเป็น[/FONT]
    [FONT=&quot]มโนภาพที่ตนครุ่นคิดจึงเก็บมาฝัน ส่วนนิมิตกล่าวได้ว่าเป็น การสงบของจิต[/FONT]
    [FONT=&quot]ในระดับหนึ่ง ถึงได้นิมิตถึงในสิ่งที่เป็นไป บางท่านก็ติดต่อทางโลกวิญญาณได้[/FONT]
    [FONT=&quot]แล้วแต่จะเป็นบารมีของท่านนั้นๆ สรุปคือนิมิตแตกต่างจากความฝัน ที่จิตที่นิ่งสงบเป็นสมาธิ[/FONT]
    [FONT=&quot]ถอดจิต[/FONT] [FONT=&quot]คือสมาธิจิตที่การรวมจิตที่สงบนิ่งสูง การที่จะถอดจิตได้นั้น ต้องมี[/FONT]
    [FONT=&quot]จิตสมาธิที่สงบ ปฏิบัติกรรมฐานต้องได้ตามที่กล่าว การถอดจิตทำได้หลายวิธี[/FONT]
    [FONT=&quot]ผู้เขียนจะกล่าวโดยสังเขปดังนี้[/FONT]
    1. [FONT=&quot]ถอดจิตโดยวิธี กรรมฐานนั่งสมา จิตสงบลงในขั้นสูง ก็จะสามารถถอด[/FONT]
    [FONT=&quot]จิตไปตามที่ตนต้องการได้[/FONT]
    2. [FONT=&quot]ถอดจิตโดย สติที่นิ่ง กำหนดลมหายใจ ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใดก็[/FONT]
    [FONT=&quot]สามารถถอดจิตไปที่ๆต้องการได้ โดยรู้ทั้งสอง คือรู้รอบกาย และรู้ในที่ๆเรา[/FONT]
    [FONT=&quot]ถอดจิตไป[/FONT]
    [FONT=&quot]สรุป[/FONT]

    [FONT=&quot]โทรจิต เป็นการสื่อในระดับต้นของ ผู้ปฏิบัติๆ จะสามาสื่อและรับรู้ ทางเสีย[/FONT]
    [FONT=&quot]ภาพก็จะปรากฏตามความนึกคิดที่เรา ได้รับทางโทรจิต[/FONT]
    [FONT=&quot]นิมิต[/FONT] [FONT=&quot]เป็นการสื่อในระดับปานกลางของ ผู้ปฏิบัติๆจะสามารถ รับรู้ได้ทางภาพ[/FONT]
    [FONT=&quot]และเสียง โดยการที่สติสงบจิตนิ่ง ในเวลาหลับพักผ่อน คือจิตรู้ และตัวตนรู้[/FONT]
    [FONT=&quot]ตามในเวลาตื่นถอดจิต[/FONT] [FONT=&quot]เป็นการสื่อในระดับสูงของผู้ปฏิบัติๆ จะสามารับรู้ด้วยจิต สามารถ[/FONT]
    [FONT=&quot]มองเห็นทั้งภาพและเสีย ที่ไม่ใช่การที่ได้ยินหรือสื่อทางโทรจิตก่อน แล้วค่อย[/FONT]
    [FONT=&quot]เห็นภาพ รับรู้ได้โดยที่ตนมีสติครบถ้วน ไม่ต้องหลับก็เห็นก็สามารถสื่อได้ การ[/FONT]
    [FONT=&quot]ถอดจิตเป็น จิตขั้นสูงของการปฏิบัติ[/FONT]
    " [FONT=&quot]ถือศีลสวดมนต์ภาวนา สติเกิด จิตสงบ บารมีสูงส่ง[/FONT] "
    [FONT=&quot]ทราบถึงระดับขั้นอภิญญาของจิตแล้ว แต่เหนือสิ่งอื่นใดของการปฏิบัติ[/FONT] <o:p></o:p>
    [FONT=&quot]ให้ได้แนวทาง การเปิดกรรมของตัวเองได้คือ ต้องกำหนดตัวรู้ให้เกิดก่อน[/FONT]
    [FONT=&quot]จะปฏิบัติกรรมฐาน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอิริยาบถใด นั้น ยืน เดิน นอน หิว[/FONT] <o:p></o:p>
    [FONT=&quot]อิ่ม สุข ทุกข์ ก็กำหนดให้ตนเองรู้[/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT=&quot]ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการปฏิบัติ เจริญบารมี ทั้งทางโลกทางธรรมทุกท่าน[/FONT]<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    [FONT=&quot]เหตุการณ์พอสังเขป ของการผู้เขียน ก่อนจะสัมผัสญาณหลวงปู่ [/FONT]
    [FONT=&quot]อายุ[/FONT] 25 [FONT=&quot]เข้า [/FONT]26 [FONT=&quot]ปี โรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้เบียดเบียนเริ่มจาก โรคเบาหวาน ซึ่ง[/FONT]
    [FONT=&quot]ผู้เขียนตรวจพบตั้งแต่อายุสิบกว่าปี แต่มิได้ควบคุมและติดตามการรักษา ปล่อยเลย[/FONT]
    [FONT=&quot]จนถึงอายุที่กล่าว จากเบาหวาน ผู้เขียนได้ปล่อยให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูงตลอด จน[/FONT]
    [FONT=&quot]ร่างกายทรุดโทรม ต้องนอนโรงพยาบาล และตามมาด้วย โรคความดันสูง ไตวาย[/FONT]
    [FONT=&quot]เรื้อรัง ในขณะที่ผู้เขียนๆบันทึกนี้ ไตวายเรื้อรังนั้นเป็นระยะเกือบสุดท้าย หัวใจโต ตา[/FONT]
    [FONT=&quot]ข้างซ้ายมองแทบไม่เห็น ต้องตัดขาเหนือระดับใต้เข่าทั้งสองข้าง ด้วยอาการข้างเคียงจาก[/FONT]
    [FONT=&quot]โรงเบาหวาน การรักษาในโรงพยาบาลเป็นมาอย่างต่อเนื่องจวบจนขณะนี้อายุเข้า [/FONT]30 [FONT=&quot]ปี[/FONT]
    [FONT=&quot]ก็ยังต้องเข้านอนโรงพยาบาล เพื่อรักษาตัวบ่อยๆอย่างต่ำเดือนละครั้ง ครั้งหนึ่ง สามวัน [/FONT]
    [FONT=&quot]หนึ่งอาทิตย์ แล้วแต่อาการ บางคราวเป็นหนักๆนอนโรงพยาบาลเป็นเดือน เลยก็มี จน[/FONT]
    [FONT=&quot]โรงพยาบาลที่เข้ารักษาไม่ว่าหมอ หรือพยาบาลเห็นหน้าเรา ก็จะทราบถึงอาการของโรค[/FONT]
    [FONT=&quot]ที่เราเป็นเรียกได้ว่าเห็นชื่อก็จำหน้าได้เลย จนในขณะนี้ต้องเปลี่ยนชื่อเอาเคล็ดเพื่อที่ไม่[/FONT]
    [FONT=&quot]ต้องเจ็บป่วยบ่อยๆ การเขียนบันทึกนี้ก็ยังไม่วายเขียนที่ โรงพยาบาล เข้ารอบนี้เป็นโรค[/FONT]
    [FONT=&quot]ที่กำลังระบาดทั่วบ้าน ทั่วโลกคือไข้หวัด [/FONT]2009 [FONT=&quot]รักษาตัวที่โรงพยาบาลครั้งนี้ เป็นรอบ[/FONT]
    [FONT=&quot]ที่สี่ เข้าพรรษามาไม่ถึงหนึ่งเดือน เข้านอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสี่รอบ ขอเล่า[/FONT]
    [FONT=&quot]ย้อนกลับไปอีกสักหน่อย อายุ [/FONT]25 [FONT=&quot]ถึง [/FONT]30 [FONT=&quot]ปี การรักษาตัวในโรงพยาบาล เป็นอย่าง[/FONT]
    [FONT=&quot]ต่อเนื่อง เป็นหนักๆจนต้องเข้าห้องผ่าตัด นอนห้อง [/FONT]ICU [FONT=&quot]และ [/FONT]CCU [FONT=&quot]ก็หลายครั้ง แต่[/FONT]
    [FONT=&quot]เหตุการณ์ต่างๆก็ผ่านมาได้ อยากจะตายแต่ก็ไม่ตาย หนักๆเข้าเกิดรักตัวกลัวการจบชีวิต [/FONT]
    [FONT=&quot]จึงหันหน้าเข้าปฏิบัติ สวดมนต์ ภาวน า เฉกเช่นดังที่เคยได้กระทำมาเมื่อครั้งแต่เยาว์วัย[/FONT]
    [FONT=&quot]เรียกได้ว่า บทสวดมนต์บทไหนหรือพระสูตไดก็สวดแทบจะทุกบท สวดไปก็ ป่นขอ[/FONT]
    [FONT=&quot]ชีวิตไป สวดได้แทบจะไม่ต้องเปิดบทสวด ปฏิบัติถึงประมาณที่กล่าว สติจึงเกิด [/FONT]
    [FONT=&quot]พอที่จะทราบถึงโรคภัยที่เราเป็นนั้นเป็นโรคกรรม เจ้ากรรมนายเวร ตามทันและ พอจะ[/FONT]
    [FONT=&quot]ทราบว่าตัวเราเมื่ออดีตชาติ เกิดเป็นอะไร ทำกรรมใคร ไว้บ้าง และกรรมที่เกิดขึ้นกับ[/FONT]
    [FONT=&quot]เราทั้งหมดนั้น เป็นกรรม ที่เราทำ เป็นการกระทำของเรา จึงกลับคืนมาสนองเรา[/FONT]
    [FONT=&quot]ทั้งหมด ได้รับรู้ถึง นิมิตดังกล่าว จึงต้องหมั่นทำความดี แผ่เมตตาเฉพาะเจาะจงให้กับ[/FONT]
    [FONT=&quot]เจ้ากรรมนายเวรก่อนสิ่งใด เพื่อที่จะให้เขาให้อภัยอโหสิกรรม และละจากการเอาคืนเฉก[/FONT]
    [FONT=&quot]เช่นดังเราที่เคยทำเขาไว้ ภาวนามอบร่างกายทั้ง กายเนื้อ กายทิพย์ ที่เหลือต่อพระพุทธ [/FONT]
    [FONT=&quot]พระธรรม พระสงค์ เพื่อนเป็นเครื่องสักการะ บูชา ต่อองค์สมเด็จพระพุทธเจ้า [/FONT]
    [FONT=&quot]ร่างกายยังไม่สิ้นก็ จะทำแต่ความดี เผยแพร่ต่อยอด พระพุทธศาสนาต่อไป จวบจนชีวิต[/FONT]
    [FONT=&quot]จะหาไม่ กล่าวได้ว่าการปฏิบัติในครั้งนี้ คือ [/FONT]
    "[FONT=&quot]ไม่เห็นทุกข์ ไม้เห็นธรรม[/FONT]"
    "[FONT=&quot]อย่าให้ทุกข์เกิด จึงเข้าหาธรรม[/FONT]"
    [FONT=&quot]บทความ และที่มาที่ไปต่างๆ ผู้เขียนไม่ได้ศึกษาถึงที่มาที่ไป และข้ออ้างอิง และมิได้[/FONT]
    [FONT=&quot]คิดจะบิดเบือนสิ่งที่ชนรุ่นก่อน ที่ได้เคยเล่าสืบทอดกันมา เป็นความรู้สึกนึกคิดของ[/FONT]
    [FONT=&quot]ผู้เขียนทั้งสิ้น ผู้เขียนขอกล่าวถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ได้รับรู้ โดยใช้คำว่าโทรจิต โปรดใช้[/FONT]
    [FONT=&quot]สติของท่านผู้อ่าน ตรองถึงเหตุผลต่างๆที่จะเล่าต่อไปนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]ฝึกจิต กำหนดจิต ปลงขัน [/FONT]" [FONT=&quot]ชำระกรรมให้เบาบาง[/FONT]"
    [FONT=&quot]การปลงขัน ที่ผู้เขียนจะถ่ายทอดเล่าให้ท่านผู้อ่าน ได้อ่าน ผู้เขียนรับการสื่อทาง[/FONT]
    [FONT=&quot]โทรจิตในการสอน จากหลวงปู่โดยเกิดจากความเจ็บป่วย ของผู้เขียนที่จะเล่าต่อไปนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]การเจ็บครั้งที่สาม ในช่วงเข้าพรรษาปี [/FONT]2552 [FONT=&quot]มีอาการหนักขึ้นตามลำดับ เจ็บป่วยทุก[/FONT]
    [FONT=&quot]ทรมาน มีอาการเหนื่อย หายใจติดขัดหลายรอบ นอนไม่ได้กระสับกระส่าย ไข้ก็ไม่[/FONT]
    [FONT=&quot]มี แต่มีอาการร้อนในตัว ใจหนึ่งก็อยากไปโรงพยาบาล แต่ใจหนึ่งก็เห็นว่าไปรักษา[/FONT]
    [FONT=&quot]พึ่งจะกลับมา รักษามาสามรอบแล้ว จึงแข็งใจ เอาทางธรรมรักษา วันที่สื่อโทรจิตถึง[/FONT]
    [FONT=&quot]หลวงปู่นั้น ผู้เขียนนอนไม่หลับ ด้วยความเจ็บป่วย จนรุ่งเช้ า จิตก็ภาวนากำหนดลม[/FONT]
    [FONT=&quot]หายใจ และนึกถึงหลวงปู่ ผู้เขียนไม่เคยได้ไปกราบไหว้ ท่านเลยสักครั้งรู้จักท่านได้ [/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะมี ผู้ที่นำหนังสือเกี่ยวกับประวัติหลวงปู่มาให้ได้อ่าน และบอกกับผู้เขียนว่า[/FONT]
    [FONT=&quot]หลวงปู่ท่านใจดีเรามีอะไร ให้นึกถึงท่าน เวลาทำสมาธิให้ ตั่งจิตถึงท่านๆจะมาสอน[/FONT]
    [FONT=&quot]ในจิต ผู้เขียนจึงทำสมาธิและกำหนดจิตถึงหลวงปู่ จิตนิ่งไม่ถึงห้านาที่ หลวงปูท่าน[/FONT]
    [FONT=&quot]มาให้รับรู้ทางเสียง หรือที่ผู้เขียนกล่าวบ่อยๆ คือ โทรจิต หลวงปู่สอนการทำ[/FONT]
    [FONT=&quot]สมาธิตามที่กล่าว ดังผู้เขียนจะสดับให้ได้อ่าน ตามขั้นตอนต่อไปนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]หลวงปู่[/FONT]"[FONT=&quot] จิตอยู่ที่ลมหายใจนะลูกนะ สูดสมเข้าให้เต็มที่ แล้วค่อยๆผ่อนออกเบา[/FONT]
    [FONT=&quot]สบาย พิจารนาลมหายใจอยู่ที่หน้าอก หรือปอด สูดสมหายใจยาวๆเข้า ผ่อนออก [/FONT]
    [FONT=&quot]เบาสบาย จิตรวมที่ลมหายใจ อยากให้จิตออกนอกจิตนะลูก จิตไม่นิ่ง ก็ดึงจิต[/FONT]
    [FONT=&quot]กลับมาอยู่ที่ลมหายใจ นะลูกนะ กำหนดจิตอยู่ในอาอับอิริยา ที่ลมหายใจ หายใจเข้า[/FONT]
    [FONT=&quot]ให้เต็มปอด ผ่อนออกเบาสบาย กำหนออยู่เช่นนั้น จนจิตนิ่งถึงระดับเบาสบายใน[/FONT]
    [FONT=&quot]ตัวตน หลงปู่[/FONT]" [FONT=&quot]กำหนดต่อนะลูกนะ พิจารนาถึงดอกบัวสีขาว อยู่ด้านหน้าเราใน[/FONT]
    [FONT=&quot]ระดับสายตา เห็นแล้วก็ เห็นหนอนะลูก นั้นคือดอกบัวที่จิตเรากำหนดขึ้นมา เห็น[/FONT]
    [FONT=&quot]หนอน เห็นหนอ ดอกบัวนี้เป็นจิตที่เรากำหนด เป็นดอกบัวที่ขาวสะอาดเป็นตัวตน[/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นร่างกายของเรา ดอกบัวนี้เปรียบดังเครื่องสักการบูชา พระพุทธเจ้านะลูก เห็น[/FONT]
    [FONT=&quot]หนอ ดอดบัวสีขาวสะอาด พิจารนาดอกบัว กำหนดจิตเรา แพ่งจิตไปที่ดอกบัว [/FONT]
    [FONT=&quot]นะลูก ดอกบัวที่ขาวสะอาดตอนนี้มีแสงแห่งดวงจิตของเราอยู่ด้วยแล้วนะลูก แสงสี[/FONT]
    [FONT=&quot]ทอง ที่อยู่รอบบัวที่นั้นเป็นแสงแห่งดวงจิตของเรา ที่อยู่ในสมาธินะลูก ดอกบัวจะ[/FONT]
    [FONT=&quot]สวยงามดูเปล่งแสงทองแห่งธรรมได้ ก็เกิดจากจิตเราที่มีพุทธทานุภาพแห่งพระพุทธคุณ[/FONT]
    [FONT=&quot]นะลูก กำหนดให้ได้ดังกล่าว อยู่กับจิตดังกล่าว จนเกิดความเบาสบายอิ่มเอิบ และ [/FONT]
    [FONT=&quot]ปิติในบุญ ดังที่กล่าวนี้เป็นขั้นตอนของการฝึกจิตให้นิ่ง ขั้นแรกเมื่อจิตนิ่งแล้วหลวงปู่[/FONT]
    [FONT=&quot]ท่านสอนต่อในขั้นต่อไป[/FONT]

    [FONT=&quot]สมาธิกรรมฐานขั้นที่สอง พิจารนาร่างสังข์ขาน ปรังธาตุ ในตัวตนเพื่อคลาย อาการ[/FONT]
    [FONT=&quot]เจ็บป่วย เบาสบายอิ่มเอิบและ ปิติแล้วนะลูก ในขณะนี้ดวงจิตเป็นพลังบุญ เรากำหนด [/FONT]
    [FONT=&quot]จึงเกิดพุทธทานุภาพนะลูก เบาสบาย พิจารนาอากับกิริยาอาการที่เป็นอยู่ พลังแห่งบุญ[/FONT]
    [FONT=&quot]นะลูก ตอนนี้จิตเราอยู่ที่ดอกบัวแล้ว จิตก็พิจารนาเห็นหนอ เห็นร่างกายที่อยู่ด้านหน้า[/FONT]
    [FONT=&quot]จิต รูปกายสังข์ขานนี้นะลูก ไม่ใช่ของเราหนอ ร่างสังข์ขานหนอ มีแต่ของเน่าเหม็น[/FONT]
    [FONT=&quot]สกปรก ไม่เป็นท่า เมื่อจิตประกอบคู่กับร่างกาย จึงทำให้เกิดหนอ เกิดตัวเราหนอ [/FONT]
    [FONT=&quot]สิ่งสะอาดที่สุดคือจิตหนอ ตอนนี้จิตอยู่ที่ดอกบัว พิจารนาไปนะลูก สังข์ขานหนอ[/FONT]
    [FONT=&quot]ประกอบด้วยธาตุทั้งสี่หนอ มีธาตุดิน คือเนื้อ หนัง ตับ ไต เครื่องในต่างๆ ใน[/FONT]
    [FONT=&quot]ตัวเรา เห็นหนอนะลูกนะ ธาตุดินคือเนื้อหนังในร่างกายของตัวเรา ไม่เที่ยง คือดินก็[/FONT]
    [FONT=&quot]ต้องย่อยสลายศูนย์หาย ตามกาลเวลา หมดกรรมไป ร่ายกายก็คือดินเห็น หนอ [/FONT]
    [FONT=&quot]ธาตุดิน คือร่างกายเนื้อหนังเราหนอ เห็นหนอร่างกายเราประกอบด้วยธาตุน้ำหนอ [/FONT]
    [FONT=&quot]น้ำคือธาตุถัดจากดิน ที่อยู่ในร่างกายเราหนอ เราปริโภคดื่มกินน้ำนี้หนอ เมื่อธาตุน้ำ[/FONT]
    [FONT=&quot]ประกอบในร่างกายเราแล้วนั้น ก็เปลี่ยนสภาพหนอ เป็นน้ำเลือด น้ำเหงื่อ น้ำ[/FONT]
    [FONT=&quot]หนอง น้ำดี น้ำเสรส ฯลฯ หนอ เป็นของเน่าเหม็นหนอ ร่างกายดับกลับ[/FONT]
    [FONT=&quot]กลายเป็นธาตุเดิมตามเวลาหนอ ร่างสังข์ขานหนอ ไม่เที่ยง เกิดดับศูนย์สลายตาม[/FONT]
    [FONT=&quot]กาลเวลา สังข์ขานหนอประกอบด้วยธาตุลมหนอ ธาตุลมคืออากาศ ที่เราสุดลม[/FONT]
    [FONT=&quot]หายใจเข้าไปหนอ ธาตุลมคืออากาศที่อยู่ทั่วร่างกายเราหนอ ดับสลายผ่านมาแล้วก็ดับไป[/FONT]
    [FONT=&quot]ตามกฎธรรมชาติหนอ สังข์ขานหนอ ประกอบด้วยธาตุ ไฟหนอ ธาตุไฟ คือความ[/FONT]
    [FONT=&quot]อบอุ่นที่เราได้รับหนอ ความอบอุ่นนี้มาจากธรรมชาติสร้างมาหนอ ร่างกาย สังข์ขาน[/FONT]
    [FONT=&quot]หนอประกอบด้วยธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟหนอ และมีดวงจิตหนอ ที่สะอาด[/FONT]
    [FONT=&quot]ขับเคลื่อนให้ร่างกาย มนุษย์อยู่ได้หนอ ทุกสิ่งในร่างกายเกิดจากธรรมชาติสร้างขึ้นหนอ[/FONT]
    [FONT=&quot]หมดเวลาก็ต้องคืนให้เขาเพราะเรายืมเขามาหนอ ทุกสิ่งในโลกล้วนเกิดดับหนอ สิ่งที่[/FONT]
    [FONT=&quot]ยังอยู่หนอ คือดวงจิต รู้หนอ หมั่นทำกรรมดี ภาวนาสวดมนต์ กำหนดกรรมฐาน[/FONT]
    [FONT=&quot]หนอ ที่เป็นทางหลุดพ้น ร่างกายดับหนอ เหลือดวงจิตหนอ ที่สะอาด ได้ไปเกิดจุติตามกรรมที่ได้กระทำมา การเข้าสมาธิกรรมฐานที่กล่าวนั้น เป็นระดับขั้นที่สองคือ ปรับธาตุในตัวตน เจ็บป่วยด้วยโรคใดก็ ปรับธาตุให้เข้าที่ ให้สมดุลต่อร่ายกาย [/FONT]
    [FONT=&quot]จบเรื่องเล่า การสื่อถึงหลวงปู่ สาวกพระพุทธเจ้าที่สำเร็จ ขั้นนิพาน ทาง จ[/FONT].[FONT=&quot]พิจิตร[/FONT]
    " [FONT=&quot]ด้วยจิตผู้เขียนนี้ขอระลึกถึง[/FONT]" [FONT=&quot]คุณพระพุทธเจ้า พระธรรมคำสอน พระสงค์สาวก[/FONT]
    [FONT=&quot]ของพระผู้มีพระภาคเจ้า และหลวงปู่ที่เปิดสติสอนสมาธิกรรมฐาน ให้กับข้าพระเจ้า[/FONT]
    [FONT=&quot]ให้ได้มาเผยแพร่ให้ท่านผู้อ่านได้รับรู้ในครั้งนี้ ขอให้ท่านผู้อ่านมีสติปัญญาในการ[/FONT]
    [FONT=&quot] ปฏิบัติธรรม กรรมฐาน เจริญทั้งทางธรรมและทางโลก สาธ[/FONT]
    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->[FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot] เรือง ตะวัน[/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2009
  2. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
    คนเปิดกรรม ตอน " การเปิดกรรมด้วยตนเอง
    <o></o>
    คำเตือน<o></o>
    <o></o>
    บทความและที่มาที่ไปต่างๆ ผู้เขียนไม่ได้ศึกษาถึงที่มาที่ไป และ<o></o>
    <o></o>
    ข้ออ้างอิง และมิได้คิดจะบิดเบือน สิ่งที่ชนรุ่นก่อน ที่ได้เคยเล่าสืบ<o></o>
    <o></o>
    ทอดกันมา หรือล่วงเกินท่านผู้รู้ที่รู้ต่างจากตัวข้าพระเจ้า สิ่งที่จะ<o></o>
    <o></o>
    กล่าว เป็นความรู้สึกนึกคิดของผู้เขียนทั้งสิ้น <o></o>
    <o></o>
    โปรดใช้สติของท่านผู้อ่าน ตรองถึงเหตุผลต่างๆที่จะเล่าต่อไปนี้<o></o>
    <o></o>
    มาแล้วครับ คนเปิดกรรมตอน ที่หนึ่ง ในตอนนี้จะเล่าเรื่อง อภิญญา <o></o>

    <o></o>
    ความเหนือธรรมชาติ ความเร้นลับ ในสิ่งมองไม่เห็น และการเปิดกรรม ด้วย<o></o>
    <o></o>ตนเอง <o></o>
    <o></o>
    อภิญญาเหนือธรรมชาติ บางท่านก็ได้มาจากการเจริญกรรมฐาน บ้าง <o></o>
    <o></o>
    ติดตนมาตั่งแต่จำความได้ แล้วแต่กรณี และบุญ<o></o>
    <o></o>
    ที่ท่านนั้นๆสร้างมา บ้างก็ ไขว่คว้าที่จะได้มา แต่สิ่ง<o></o>
    <o></o>
    ที่เป็นบรรทัดฐาน ในก้าวแรกของ ผู้ที่ค้นหาก็คือ การกรรมฐานสวดมนต์<o></o>
    <o></o>
    ภาวนา ท่านทำได้ ก็จะเกิด นิมิตและอภิญญา ตามที่กล่าว<o></o>
    <o></o>
    รู้อะไรก็ไม่เท่า รู้ด้วยตัวเอง<o></o>
    <o></o>
    ขั้นชั้น ของอภิญญา<o></o>
    <o></o>
    ขั้นชั้นอภิญญา แบ่งได้คร่าวๆ ดังนี้ <o></o>
    <o></o>
    1. โทรจิต<o></o>
    <o></o>
    2. นิมิต<o></o>
    <o></o>
    3. ถอดจิต<o></o>
    <o></o>
    ก่อนอื่นที่ท่านที่ จะฝึกอภิญญา ให้ได้รับรู้กรรมของตน และกรรมของผู้อื่น <o></o>
    <o></o>
    และสิ่งที่เหนือธรรมชาติ ก่อนอื่นต้องศึกษาเรื่องระดับจิตก่อนครับ<o></o>
    <o></o>
    โทรจิต คือความนึกคิดที่ต่างจากบุคคลธรรมดา เปรียบเทียบโทรจิต กับ<o></o>
    <o></o>
    ปัจจุบันคล้ายโทรศัพท์มือถือ ที่เราใช้พบพาสื่อสารไปได้ทุกๆที่โดย<o></o>
    โทรศัพท์ ใช้การกดเบอร์ปลายทางที่เราต้องการสนทนาและติดต่อ โทรจิตก็<o></o>
    คล้ายกันแต่การติดต่อนั้น ติดต่อโดยใช้จิตการติดต่อ จิตต้องนิ่งสมาธิ
    กรรมฐานต้องให้ได้จะสื่อได้มิได้ ก็ขึ้นอยู่ ที่จิตจะสงบลงขนาดใด

    นิมิตความฝัน บางท่านอาจจะไม่ทราบว่า นิมิต กับ ความฝัน <o></o>
    แตกต่างกันอย่างไร ดูแล้วมีความหมายคล้ายๆกัน นิมิต คือความฝัน

    ความ
    ฝัน คือนิมิตจริงหรือ เรามาตรองและเปรียบเทียบกัน
    <o></o>

    นิมิต คืออาการสงบของจิต เวลาพักผ่อนนอนหลับ ท่านที่ยังไม่ได้ปฏิบัติ
    <o></o>

    กรรมฐาน จิตของท่านยังไม่นิ่งพอ หลับไปความรู้สึกนึกคิด กลับกลายเป็น

    มโนภาพที่ตนครุ่นคิดจึงเก็บมาฝัน ส่วนนิมิตกล่าวได้ว่าเป็น การสงบของจิต
    ในระดับหนึ่ง ถึงได้นิมิตถึงในสิ่งที่เป็นไป บางท่านก็ติดต่อทางโลกวิญญาณได้ <o>

    </o>
    แล้วแต่จะเป็นบารมีของท่านนั้นๆ สรุปคือนิมิตแตกต่างจากความฝัน ที่จิตที่นิ่ง<o>

    </o>
    สงบเป็นสมาธิ<o></o>
    <o></o>

    ถอดจิต คือสมาธิจิตที่การรวมจิตที่สงบนิ่งสูง การที่จะถอดจิตได้นั้น ต้องมี<o></o>
    <o></o>
    จิตสมาธิที่สงบ ปฏิบัติกรรมฐานต้องได้ตามที่กล่าว การถอดจิตทำได้หลายวิธี <o></o>
    <o></o>
    ผู้เขียนจะกล่าวโดยสังเขปดังนี้<o></o>
    <o></o>
    1. ถอดจิตโดยวิธี กรรมฐานนั่งสมา จิตสงบลงในขั้นสูง ก็จะสามารถถอด<o></o>
    จิตไปตามที่ตนต้องการได้<o></o>
    <o></o>
    2. ถอดจิตโดย สติที่นิ่ง กำหนดลมหายใจ ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใดก็<o></o>
    สามารถถอดจิตไปที่ๆต้องการได้ โดยรู้ทั้งสอง คือรู้รอบกาย และรู้ในที่ๆเรา<o></o>
    ถอดจิตไป <o></o>
    <o></o>
    สรุป <o></o>
    <o></o>
    โทรจิต เป็นการสื่อในระดับต้นของ ผู้ปฏิบัติๆ จะสามาสื่อและรับรู้ ทางเสีย <o></o>
    <o></o>
    ภาพก็จะปรากฏตามความนึกคิดที่เรา ได้รับทางโทรจิต<o></o>
    <o></o>
    นิมิต เป็นการสื่อในระดับปานกลางของ ผู้ปฏิบัติๆจะสามารถ รับรู้ได้ทางภาพ
    และเสียง โดยการที่สติสงบจิตนิ่ง ในเวลาหลับพักผ่อน คือจิตรู้ และตัวตนรู้
    ตามในเวลาตื่น<o></o>
    <o></o>
    ถอดจิต เป็นการสื่อในระดับสูงของผู้ปฏิบัติๆ จะสามารับรู้ด้วยจิต สามารถ<o></o>
    <o></o>
    มองเห็นทั้งภาพและเสีย ที่ไม่ใช่การที่ได้ยินหรือสื่อทางโทรจิตก่อน แล้วค่อย<o></o>
    <o></o>
    เห็นภาพ รับรู้ได้โดยที่ตนมีสติครบถ้วน ไม่ต้องหลับก็เห็นก็สามารถสื่อได้ การ<o></o>
    <o></o>
    ถอดจิตเป็น จิตขั้นสูงของการปฏิบัติ <o></o>
    <o></o>
    " ถือศีลสวดมนต์ภาวนา สติเกิด จิตสงบ บารมีสูงส่ง "
    <o></o>
    ทราบถึงระดับขั้นอภิญญาของจิตแล้ว แต่เหนือสิ่งอื่นใดของการปฏิบัติ <o></o>
    ให้ได้แนวทาง การเปิดกรรมของตัวเองได้คือ ต้องกำหนดตัวรู้ให้เกิดก่อน<o></o>
    จะปฏิบัติกรรมฐาน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอิริยาบถใด นั้น ยืน เดิน นอน หิว <o></o>
    อิ่ม สุข ทุกข์ ก็กำหนดให้ตนเอง
    ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการปฏิบัติ เจริญบารมี ทั้งทางโลกทางธรรมทุกท่าน<o></o>
    <o></o>
    ติดตามอ่านคนเปิดกรรม ตอนที่สองได้ ในตอน สื่อนิมิตกรรมฐาน<o></o>
    <o></o>

    เรืองตะวัน//ย่อตัวอักษรให้นะครับ จะได้อ่านสะดวกๆหน่อย<o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2009
  3. Prompiriya

    Prompiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +1,081
    มาแล้ว ๆ เปิดกรรมด้วยตนเอง...
    ขอบคุณครับจารย์... ติดตามตอนต่อไป..^-^
     
  4. noolegza

    noolegza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +3,844
    เป็นบทความที่ดีครับ ตอนนี้ก็ฝึกตัวรู้อยู่ แต่มันขาดๆหายๆ ฝึกยากจริงๆ
     
  5. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    ถ้าคุณได้รู้จักชีวิตของ จขกท นี้ แล้วคุณจะทึ่งมาก
     
  6. watwa-aram

    watwa-aram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +974
    จริงรึ คุณรักไร้พ่าย เล่าสู่ฟังบ้างดิ PM ก็ได้นะ
     
  7. จักรราศี

    จักรราศี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,086
    คุณรักไร้พ่ายจะไม่เล่าเป็นวิทยาทาน+ ธรรมทานหน่อยเหรอครับ PM ก็ได้ครับ
     
  8. 8377

    8377 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +101
    อยากรับรู้ด้วยคนค่ะ คุณรักไร้พ่าย....

    ถ้าคุณ baiiboom ช่วยเล่าให้ฟังบ้างจะได้ไหมคะ
     
  9. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    ผมได้เขียนเรื่องของ ท่านผู้นี้ ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่พอจะเสร็จคอมดันแฮงค์
    แล้วผมก็ไม่ได้ เซฟ ไว้ ต้องมาเขียนใหม่ (กรำ จริงๆ เจ้าเตรื่องคอม )

    เด๊ยวพรุ่งนี้จะเอามาให้อ่านนะครับ

    ขอเตือนว่า อ่านจบแล้วอย่าร้องไห้กันนะ
     
  10. noolegza

    noolegza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +3,844
    ปูหนังสือพิมพ์รออ่านแล้วคับ . . .
     
  11. คนดีคนนี้

    คนดีคนนี้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +269
    แฟนพันธุ์แท้ มานั่งรอคะ คุณรักไร้พ่าย อิอิ
    เตรียมผ้าเช็ดน้ำตามาเรียบร้อยpity_pig
     
  12. chanchai_50

    chanchai_50 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +12
    อนุโมทนาครับ ขอให้ข้าพเจ้ามีส่วนความสามารถที่ท่านได้ด้วยเด้อ
     
  13. โอมธนกฤต

    โอมธนกฤต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2009
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ขออนุญาตินำลิงค์ตอนที่ 2 มาลงไว้ให้อ่านต่อ
    http://palungjit.org/threads/คนเปิดกรรม-ตอนที่สอง-สื่อ-กรรมฐาน-พระเถระผู้สำเร็จ-สอน-กรรมฐาน.203857/

    ในบอร์ด เล่าเรื่องผี-ผี
    สวดมนต์ ปลดปล่อยวิญญาณ โดย เรืองตะวัน
    ความฝันควบคู่นิมิต
    http://palungjit.org/threads/สวดมนต์-ปลดปล่อยวิญญาณ-โดย-เรืองตะวัน.203525/
     
  14. poonjoss

    poonjoss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +114
    ขออนุโมทนา คุณรักไร่พ่าย คุณบอล มากครับ
    ขอบคุณครับ ผมนายสรวิชญ์ จ.เลย ผมติดต่อกลับคุณบอลทุกทางมาก่อนออกพรรษา

    เมื่อวาน วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม คุณบอลโทรมาครับ ผมดีใจมากครับ ตอนที่พูดสายผมรู้สึกตัวสั่นครับเหมือนคนไม่ได้กินข้าว1วัน ท่านเปิดกรรมให้ผม ทำให้ผมเชื่อเรื่องกรรม ปาบ
    บุณ มากครับ โดยเฉพาะเชื่อเรื่อง สิ่งศักสิทธิ์มากครับ ได้แนวทางไก้ไขปฏิบัติที่ดีมากครับ
    ที่ผ่านมานั้นชีวิตผมแย่มาตลอด มาทุกด้าน ตอนนี้ผมรู้ทางแล้วจะปฏิบัติเชื่อมั้นว่าผมจะดีขึ้นครับ ขอบพระคุณครับ
     
  15. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    แม่นมากๆครับ

    :cool::cool::cool::cool:

    ผมก็ได้รับการเปิดกรรม จากคุณบอล

    ผมขออนุโมทนาบุญแก่ คุณบอล

    chearrchearrchearrchearrchearr
    qsquqsquqsquqsquqsqu
    :VO;aa41;aa44
     
  16. chonnipa

    chonnipa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +533
    อนุโมทนาค่ะ คุณบอล
    เป็นคนหนึ่งที่ติดตามคุณบอลและคุณรักไร้พ่ายมาตลอดเลยค่ะ ตอนนี้ตัวเองกำลังพยายามนั่งสมาธิอยู่ค่ะ ที่คุณบอลเคยบอกว่าให้กำหนดตัวรู้ก่อนน่ะค่ะ แล้วถึงจะนั่งสมาธิให้ได้ผล แต่ว่าปัญหาคือกำหนดไม่เป็นน่ะค่ะ รบกวนคุณบอลช่วยหน่อยนะคะ เพื่อสงเคราะห์คนเขลาเบาปัญญาน่ะค่ะ
    ขอบพระคุณมากค่ะ
     
  17. baiiboom

    baiiboom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +2,385
    ตอบ ญาติธรรมเรื่องการกำหนดตัวรู้

    การกำหนดตัวรู้ก็คือการมีสติตลอดเวลา นั่ง ยืน เดิน นอน หิว อิ่ม สุข ทุกข์ ทุกๆอริยาบทตัวรู้ต้องเกิด สติของมนุษย์มีวอกแวกครับนึกได้ก็ให้รู้เหมือนเดิม

    อนุโมทนา

    บอล เรืองตะวัน คนเปิดกรรม
     
  18. baiiboom

    baiiboom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +2,385
    ขอบคุณมากมาย สำหรับคุณ"รักไร้พ่าย"ที่ทำให้ผมได้สร้างบุญกับญาติธรรมในเวปบอร์พลังจิต(เป็นผู้ตั้งกระทู้เรื่องราวผม) และของคุณกำลังใจจากญาติธรรมทุกๆท่านครับ

    " เจริญบารมีทั้งทางธรรม และทางโลกครับ"

    อนุโมทนา

    บอล เรืองตะวัน คนเปืดกรรม<!-- google_ad_section_end -->
     
  19. chonnipa

    chonnipa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +533
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากค่ะคุณบอล จะนำไปปฏิบัตินะคะ
    ขอให้คุณบอลมีสุขภาพแข็งแรง และปราศจากโรคภัยไข้เจ็บนะคะ
     
  20. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    แม้ร่างจะล่วงลับดับสูรย์ แต่ดวงจิตใสสว่างนั้น พร้อมเคลื่อนย้ายไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้า บุญกุศลที่ได้สร้างไว้กับมนุษย์นั้น ประทับอยู่ในจิตมิรู้ลืม กุศลใดที่ทำไว้ ส่งมอบให้ด้วยใจที่ ..จงรักและภักดี...
     

แชร์หน้านี้

Loading...