เรื่องเด่น คนมีตาทิพย์ มีจริง...ทุกท่านก็ทำได้

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 16 ตุลาคม 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    มูลเหตุที่อุบาสิกาพิมพา เริ่มสอนกรรมฐานแนวของสมถกรรมฐานนี้ เนื่องจากเห็นว่า ปัจจุบันมีคนทำชั่วกันมาก ส่วนใหญ่เขาไม่เชื่อว่า นรก สวรรค์ นั้นมีจริง

    คนส่วนน้อยเชื่อว่า มีจริง แต่ก็พิสูจน์ไม่ได้ ที่เชื่อเพราะได้ฟังพระสงฆ์เทศน์บอกและด้วยเชื่อว่าพระสงฆ์ย่อมไม่พูดปดแน่ ก็ไม่กล้าจะทำชั่วกัน และหันมาสร้างทานกุศลตามที่พระสงฆ์ท่านชักชวน เพื่อหวังว่าตายแล้ว ตนเองจะได้ไปเกิดบนสรวงสวรรค์ จึงเอาเงินมาทุ่มเทสร้างวัด สร้างโบสถ์ สร้างวิหารการเปรียญ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่าสร้างพระพุทธรูป จิปาถะต่าง ๆ ที่พระสงฆ์ท่านชักชวน เพื่อหวังความสุขในภพสวรรค์

    แต่ว่าคนส่วนใหญ่นั้นสมัยนี้ต้องการเหตุผล ถ้าพิสูจน์ไม่ได้เขาก็ไม่เชื่อ พระสงฆ์ก็อาจมิได้สอนให้ญาติโยม ได้เห็นว่า ภูมินรก ภูมิสวรรค์ นั้นมีสภาพความเป็นจริงอย่างไรหรือแนะแนวการปฏิบัติให้ญาติโยมได้รู้ และเข้าใจถึงเรื่องเหล่านี้เท่าใดนัก ส่วนใหญ่แนะนำให้ปฏิบัติแนววิปัสสนากรรมฐาน ปล่อยวาง เมื่อคนส่วนใหญ่ไม่รู้ และเชื่อว่าภูมินรก ภูมิสวรรค์ นั้นมีอยู่จริงตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้แล้ว ก็คิดเสียว่าการพูดเรื่อง ภูมินรก ภูมิสวรรค์นั้น เป็นเรื่องล้าสมัย (เป็นเรื่องของนิยายโบราณ) กล้าทำผิดกันมากมาย ก็เพราะว่าเขาพิสูจน์ไม่ได้นั่นเอง

    ด้วยว่าอุบาสิกาพิมพา ได้ศึกษาเรียนพระอภิธรรม และพบว่าในพระอภิธรรมปิฎกนี้ พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนเรื่องของสมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐานไว้อย่างมั่นคง ละเอียด อุบาสิกาพิมพา มีความสงสารญาติโยม หรือเด็กวัยรุ่นที่กระทำชั่วกันมาก จึงตัดสินใจแนะแนวสอนสมถกรรมฐาน เพื่อให้ญาติโยมและวัยรุ่นได้รู้แจ้งในคำสอนเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนว่าภูมินรก ภูมิสวรรค์ นั้นมีอยู่จริง เพื่อให้เขาได้พิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ ตามแนวหลักการปฏิบัติที่ถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อญาติโยมได้มาปฏิบัติอย่างถูกต้องตามพระอภิธรรมปิฎก ย่อมได้อภิญญา ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้พระอภิธรรมปิฎกจริง

    ด้วยการปฏิบัติสมถกรรมฐานแนววิธี กสิณ 10 นี้ เป็นขั้นโลกียะ เป็นธรรมะกลาง ๆ เมื่อบุคคลปฏิบัติตามนี้แล้ว จะได้สำเร็จ โลกียอภิญญา 5 อันได้แก่

    1. ทิพพจักขุอภิญญา (ได้ตาทิพย์)
    2. ทิพพโสตอภิญญา (ได้หูทิพย์)
    3. ปุพเพนิวาสานุสติอภิญญา (ระลึกชาติได้)
    4. ปรจิตตวิชานนอภิญญา (รู้วาระจิตของผู้อื่นได้)
    5. อิทธิวิธอภิญญา (ทำฤทธิ์ปาฏิหาริย์ได้ต่าง ๆ)

    (ที่มา - "อภิญญา 5" หนังสือชื่อ "ปรมัตถโชติกะ สมถกรรมฐานทีปนี" ในปริจเฉทที่ 9 ของพระสัทธัมมโชติกะธัมมาจริยะ รวบรวมโดย พระมหาถวัลย์ ญาณจารี ป.ธ.9 อภิธรรมบัณฑิต ,สำนักวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร)

    ในการแนะแนวการปฏิบัติสมถกรรมฐาน แนววิธี กสิณ 10 แก่ญาติโยม และวัยรุ่นที่สนใจ เมื่อพวกเขาปฏิบัติจนได้ "ทิพพจักขุอภิญญา" (ได้ตาทิพย์) ก็ย่อมไปสู่สวรรค์ภูมิ หรือลงไปสู่นรกภูมิได้ และได้สัมภาษณ์พวกเทพ และพวกฝูงผี ฝูงเปรตเหล่านั้น เขาก็จะรู้แจ้งเรื่องบุญ เรื่องบาปเองเมื่อญาติโยม และวัยรุ่นได้พิสูจน์กับตัวเองอย่างนี้แล้ว เขาก็จะพากันละทำความชั่ว หันมาสร้างแต่กรรมดี เพราะเขาได้พิสูจน์ด้วยตนเองแล้ว ย่อมมีความเชื่อมั่น และทำให้เขาไม่ต้องตกไปสู่อบายภูมิ และได้สูงส่งเป็นเทพ หรือเป็นพรหม หรือจะทำวิปัสสนากรรมฐานต่อ เพื่อหวังมรรคผล นิพพาน ได้ง่ายมาก

    ด้วยเหตุนี้ อุบาสิกาพิมพา จังตัดสินใจสอนกรรมฐานแนวนี้ให้แก่ญาติโยม และวัยรุ่น ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2519มาจนถึงปัจจุบันนี้ ได้ผลดีมาก

    อุบาสิกาพิมพา ได้ทำการสอนกรรมฐานให้แก่ วัยรุ่นที่หลงติดยาเสพติด เด็กวัยรุ่นเหล่านี้ก็ปฏิบัติได้ผลดี และมีความเกรงกลัวต่อไป เลิกทำความชั่ว

    เพราะพวกเขาเห็นการทรมานในนรก แล้วเกิดความกลัวอย่างยิ่งและอุบาสิกาพิมพา ได้มีโอกาสแนะแนะการปฏิบัติกรรมฐานให้แก่ผู้ต้องขัง ในเรือนจำกลาง คลองเปรม โดยการเชิญไปเป็นอนุศาสนาจารย์ของเรือนจำ ในขณะนั้น ซึ่งมีผู้ต้องขังเข้าร่วมปฏิบัติประมาณสองร้อยกว่าคน โดยสอนเฉพาะวันพฤหัสบดี ผลคือ ผู้ต้องขังที่มาปฏิบัติ ได้ทิพพจักขุอภิญญา (ได้ตาทิพย์)เกือบหมดทุกคน

    (หมายความถึงว่า ผู้ต้องขัง ได้ไปสู่นรกภูมิ ไปสวรรค์ภูมิได้ดูหลักฐานภาพถ่ายจากบัญชีกรรมชั่วของตนเองได้ ซึ่งจะมีหลักฐานภาพถ่ายปรากฏอย่างถูกต้อง ชัดเจน)

    เมื่อพวกเขาได้ดูหลักฐานการกระทำชั่วของพวกเขา จากการบันทึกของยมฑูตแล้ว ทุกคนยอมรับ บ้างก็ร้องไห้โศกศัลย์ และปฏิญาณตัวว่าจะไม่ทำชั่วอีกแล้ว

    ผู้ต้องขังที่ได้เคยฝึกปฏิบัติกรรมฐานกับอุบาสิกาพิมพา ได้มีจดหมายมาถึง และบอกว่า

    "ตอนตีสี่ (เวลา 04.00 นาฬิกา)เขาลุกขึ้นนั่งกรรมฐานในห้องขังทุกคืน เขานั่งทีไรก็เห็นไฟนรกลุกแดงฉานไปหมด ร้อนมาก และเกิดความกลัว" และมีผู้ต้องขังหลายคนได้ฝึกสอนแทนอุบาสิกาพิมพาอยู่ในเรือนจำกลาง คลองเปรม และมีผู้ต้องขังหลาย ๆ คน เมื่อหลุดพ้นโทษออกจากเรือนจำแล้ว ก็ได้มาเยี่ยมอุบาสิกาพิมพา ที่กุฏิที่พำนัก และมาฝึกปฏิบัติกรรมฐานต่อที่กุฏิก็มี บางคนก็กลับไปภูมิลำเนาเดิมของตนได้สอนกรรมฐานให้แก่ลูก ๆ ของเขา และได้พาลูกมาหาอุบาสิกาพิมพา เพื่อให้ตรวจสอบกรรมฐานอีกครั้งหนึ่งว่าเป็นของจริง หรือของลวง สาเหตุที่ผู้ต้องขังสามารถสอนกรรมฐานแทนอุบาสิกาพิมพาได้หลายคนนั้น เพราะว่า เมื่ออุบาสิกาพิมพา ฝึกกรรมฐานให้ใครได้อภิญญาแล้ว จะฝึกวิชาครูให้ทุกคน เพื่อให้ไปช่วยกันสอนกรรมฐานกันต่อ ๆ ไป เพื่อให้ชนทั้งหลายได้รู้ความจริงในเรื่องคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ตรัสว่า ภูมินรก ภูมิสวรรค์นั้น มีจริง ผลของบุญ ผลของบาป นั้นมีจริง และอีกอย่างหนึ่งเพื่อช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนา หรือช่วยกันเผยแผ่คำสอนของพระพุทธเจ้าด้านคำสอนในด้านการปฏิบัติสมถกรรมฐาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นธรรมะระดับกลาง ๆ ซึ่งเมื่อผู้ใดได้ปฏิบัติจนได้โลกียอภิญญาห้าแล้ว อุบาสิกาพิมพาก็จะให้ปฏิบัติไปเรื่อยๆอีกประมาณปีหนึ่ง เพื่อให้พระกรรมฐานแนวนี้มั่นคงไม่เสื่อมคลาย ต่อจากนั้นก็จะให้พักปฏิบัติกรรมฐานแนวสมถะนี้ และให้ปฏิบัติแนววิปัสสนากรรมฐาน ขั้นสูงขึ้นต่อไป (ขั้นโลกุตระ) เพื่อให้ผู้ปฏิบัติเห็นกิเลส รูปนามขันธ์ห้า เพื่อให้เห็นไตรลักษณ์ เพื่อให้หมดอุปทานยึดมั่นในอารมณ์ทั้งมวล เพื่อให้สำเร็จคำสอนขั้นสุดท้ายของพระพุทธเจ้าที่พระองค์ มุ่งหวังเพื่อจะช่วยให้สัตว์โลกพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด สิ่งนั้นคือ พระนิพพาน ความดับ เป็นจุดสุดท้ายที่เรียกว่า

    "นิพพานัง ปรมัง สุญญัง หรือ นิพพานนัง ปรมัง สุขขัง"นั่นเอง

    (คัดลอกมาจาก เว็บ.พุทธธรรมกรรมฐาน) <!--IBF.ATTACHMENT_2205-->
     
  2. twojit

    twojit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2010
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +239
    ถ้าผมสนใจปฏิบัติบ้างจะทำอย่างไรครับ เพราะผมก็ทำอยากสมาธิให้เป็นชิ้นเป็นอันมีหลักยึดปฏิบัติเพียงอย่างเดียวครับ
     
  3. ตายแน่!

    ตายแน่! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +509
    อุบาสิกาอยู่ที่ไหนครับ
     
  4. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    ประวัติ อุบาสิกา พิมพา ทองเกลา


    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ภูมิกำเนิด[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]อุบาสิกา พิมพา ทองเกลา มีชื่อเดิมว่า เฟื่องฟ้า ทองเกลา พื้นเพดั้งเดิม เป็นชาวจังหวัดเพชรบุรี [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เกิดเมื่อวันที่ 16 เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช 2478 ที่ หมู่บ้านระหานบ่อภู ตำบลท่าเสน อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เป็นบุตรคนที่เจ็ด ในสิบคน ของ นายวาด ผู้เป็นบิดา และนางดี ทองเกลา ผู้เป็นมารดา ซึ่งมีอาชีพทำน้ำตาลโตนด [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เมื่ออายุได้ห้าขวบ มีนายทหารบกยศร้อยเอก อยู่กรมวังบ้านปืน จังหวัดเพชรบุรี ได้มาขออุบาสิกาพิมพา เป็นบุตรบุตรธรรม เพราะว่าท่านไม่มีลูก[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ประวัติการศึกษา [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ในวัยเด็ก ได้เข้ารับการศึกษาชั้นอนุบาล ที่โรงเรียนอรุณประดิษฐ์ ที่จังหวัดเพชรบุรี ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]และได้ย้ายติดตามผู้ปกครองไปเรื่อย ๆ เมื่อมีคำสั่งโยกย้ายจนสงครามโลกครั้งที่สองยุติ เมื่อปีที่พุทธศักราช 2489 [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]นายทหารบกร้อยเอกผู้นี้ ก็ได้เลื่อนยศเป็น พันโท ชื่อว่า พันโท ศุภชัย สุรวรรธนะ (สละ สุริพันธุ์) [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]มาประจำอยู่ที่กรมจเรทหารสื่อสาร สะพานแดง บางซื่อ พระนคร รับตำแหน่งหัวหน้าแผนกเทคนิคอยู่ในกรม [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ต่อมาอุบาสิกาพิมพา ก็ได้เข้าไปศึกษาต่อที่โรงเรียนสตรีวรนารถ ซึ่งตั้งอยู่หน้าบ้านพระยาวิฑูรย์ วังเทเวศร์ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ในปัจจุบันโรงเรียนสตรีวรนารถ ได้ย้ายไปอยู่บางเขน บิดาบุญธรรมนั้น ต่อมาภายหลังก็ได้เลื่อนยศเป็น พลตรี [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]และรับราชการในตำแหน่งเจ้ากรมการทหารสื่อสาร (พ.ศ.2504-2509) จนปลดเกษียณ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]และได้เสียชีวิตไปประมาณสิบกว่าปีแล้ว พร้อมด้วยภรรยาก็ได้เสียชีวิตไปแล้วเช่นกัน[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ศรัทธาเลื่อมใสพระพุทธศาสนา[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ย้อนไปเมื่อสมัยอายุได้เจ็ดขวบ อุบาสิกาพิมพา เริ่มมีรายได้ค่าขนมไปโรงเรียนวันละสามสตางค์ ท่านได้เล่าว่า [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ท่านได้เริ่มเก็บหอม รอบริบเงินไว้วันละครึ่งสตางค์ บางวันก็หนึ่งสตางค์บ้าง ใส่กระปุกออมสินสะสมไว้เพื่อจะได้บวชชี และเก็บมาเรื่อย ๆ [/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เมื่ออายุได้ สิบแปดปี ก็มีเงินได้สองพันบาท ก็เริ่มถือบวชที่วัดประชาระบือธรรม ตรงข้ามซอยระนอง 1 ซึ่งอยู่ติดกับกรมสื่อสาร [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]และเมื่อปี 2500 ก็ได้กลับไปบ้านเกิดที่จังหวัดเพชรบุรี และได้บวชเป็นอุบาสิกา (แม่ชี) อยู่ที่วัดสนามพราหมณ์ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]และได้ย้ายมาอยู่ที่สำนักวิปัสสนา วัดเทพปราสาทศิลาแลง (วัดกำแพงแลง) ซึ่งสำนักวิปัสนากรรมฐานนี้ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]วัดมหาธาตุที่กรุงเทพมหานคร ได้ไปเปิดไว้ ในระหว่างที่ถือบวชอยู่ที่วัดกำแพงแลง ได้มีสตรีชาวอังกฤษสองคน [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ซึ่งถือบวชเป็นแม่ชีอยู่ที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ได้ติดตามมาอยู่ด้วย และปฏิบัติวิปัสสนาร่วมกัน[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เริ่มศึกษาพระอภิธรรม [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ต่อมาอาจารย์อาสภะเถระ ซึ่งเป็นชาวพม่า และเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนาของวัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ได้ไปสอบอารมณ์กรรมฐานของ อุบาสิกา (แม่ชี) และคณะโยคีทั้งหลายที่เข้าปฏิบัติอยู่ที่วัดเทพปราสาทศิลาแลง จังหวัดเพชรบุรี [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]นำจำนวนโยคีผู้ปฏิบัติทั้งหมดของวัดเทพปราสาทศิลาแลง ปรากฏว่าอาจารย์อาสภะเถระพูดว่า "ญานของอุบาสิกาพิมพา เกิดดีกว่าเพื่อนในกลุ่ม" [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เมื่อท่านจะกลับกรุงเทพฯ ท่านบอกว่า ท่านจะเอาลูกสาวไปด้วย (หมายถึงอุบาสิกาพิมพา) (ผู้รวบรวม - อุบาสิกาพิมพา ได้รับความเมตตา[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]จากท่านอาจารย์ ฉันท์ครูและศิษย์ ที่มุ่งมั่นปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์) [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]และสมัยที่อุบาสิกาพิมพา ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่โรงเรียนสตรีวรนารถ วังเทเวศร์ ได้เคยสอบชิงทุนของรัฐบาลได้ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]แต่มีอุปสรรคทางครอบครัว ไม่มีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนในขั้นสูงต่อไป และเมื่ออาจารย์อาสภะเถระ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ท่านก็ได้นำอุบาสิกาพิมพา เดินทางเข้ากรุงเทพมหานครด้วย [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เพราะท่านหวังจะให้อุบาสิกาพิมพาศึกษาเล่าเรียนด้านอภิธรรมปิฎกเพิ่มเติม [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]และได้มาพำนักปฏิบัติที่วัดมหาธาตุ เมื่อปีพุทธศักราช 2501 ปฏิบัติอยู่ในห้องกรรมฐาน 5 เดือน 6 วัน [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]และก็ได้ฟังเทศน์ลำดับญาน ต่อจากนั้น อุบาสิกาพิมพา ก็ได้ศึกษาเล่าเรียนอภิธรรมปิฎกต่อ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เมื่อปีพุทธศักราช 2502 ที่อภิธรรมมหาวิทยาลัย วัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ในปีที่แรกที่เรียนชั้นจูฬตรี มีนักศึกษาทั้งพระภิกษุ สามเณร อุบาสิกา(แม่ชี) ทั่วประเทศเข้าสอบ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]อุบาสิกาพิมพา สอบได้ที่ 5 เมื่อสอบชั้นจูฬโท อุบาสิกาพิมพา สอบได้ที่ 4 [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เมื่อสอบชั้นจูฬอาภิธรรมมิกะ เอก อุบาสิกาพิมพา สอบได้ที่ 3 [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]แม้ว่าอุบาสิกาพิมพา ไม่มีความรู้ด้านวินัยปิฎก และสุตตันตปิฎก แต่ก็สนใจในเรื่องการปฏิบัติมาแต่เยาว์วัย [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เพราะมุ่งหวังความพ้นทุกข์ แต่คุณยายชี (มารดาของอาจารย์อรุณ พาสบุตร)[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ซึ่งพำนักปฏิบัติอยู่ที่วัดอาวุธวิสิตตาราม (วัดบางพลัดนอก) ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ซึ่งตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับโรงไฟฟ้าสามเสน ต้องการให้อุบาสิกาพิมพาศึกษาเล่าเรียนอภิธรรมปิฎก [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เพราะท่านอยากให้มีความรู้ด้านปริยัติด้วย อุบาสิกาพิมพา จึงเริ่มศึกษาอภิธรรมปิฎก เมื่อปีพุทธศักราช 2502 [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ที่อภิธรรมมหาวิทยาลัย วัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี เมื่อได้เรียนอภิธรรมปิฎกแล้ว ทำให้เข้าใจในเรื่องของกรรมฐานมากขึ้น [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]และได้นำความรู้ที่ค้นคว้าในอภิธรรมปิฎกนี้ มาสาธิตการสอนให้ปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้องของอภิธรรมปิฎก [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ซึ่งพระพุทธองค์ทรงไห้ไว้ละเอียดละออ ทั้งสองนัย(หมายความถึง นัยสมถกรรมฐาน และนัยวิปัสสนากรรมฐาน) [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เพื่อให้มนุษย์ได้พิสูจน์ความจริง และให้ทุกคนได้รู้ว่า นรก สวรรค์นั้นมีจริง ผลของบุญ ของบาปนั้น ให้ผล มีจริง [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]และพระนิพพานก็มีจริง ดังกล่าวแล้ว อุบาสิกาพิมพาก็ได้ชี้แนะสั่งสอนกรรมฐานให้แก่ผู้สนใจ ด้วยความมุ่งมั่น และจนถึงปัจจุบัน [/FONT]


    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p

    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา </O:p>
    *
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2010
  5. ปกาสัย

    ปกาสัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +257
    อุบาสิกาพิมพาท่านอยู่ที่วัดกำแพงบางจากครับ

    ท่านใดสนใจปฏิบัติกรรมฐานก็สามารถเดินทางไปขอฝึกได้ที่วัดตามแผนที่ในไฟล์แนบด้านล่าง

    [​IMG]

    เส้นทางการเดินทางไปสู่ วัดกำแพงบางจาก มี 3 เส้นทาง คือ

    1.เข้าทางถนนจรัญสนิทวงศ์ 3
    ให้ขึ้น รถโดยสารประจำทาง จาก สนามหลวง สาย 91, 80 ฝั่งด้านสนามหลวง ลงป้ายหน้าวัดท่าพระ แล้วข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้าม และเข้าไปในซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 จากนั้นให้โดยสารรถบริการ รับ-ส่ง สองแถวประจำซอย หรือรถจักรยานยนต์รับจ้าง ไปสุดซอย และให้ข้ามสะพานข้ามคลองบางกอกใหญ่ และเดินตรงไปเล็กน้อย ให้เลี้ยวซ้าย และเดินตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะถึงกุฏิฝึกกรรมฐานประชาชื่น (จุดสังเกต หน้ากุฏิจะมีต้นไม้ใหญ่น้อย ปลูกอยู่หน้ากุฏิมากมาย)
    (สายรถโดยสารประจำทางที่ผ่านเส้นทางนี้ คือ 42, 175, 91, 80, 81, 580, 157, 68, 108, 510, 509, 189, 103)

    2.เข้าทาง ถนนเพชรเกษม 20
    เข้าทางเชิงสะพานบางไผ่ ปากทางเข้า จะมีป้ายชื่อวัดทองศาลางาม อยู่ริมถนน ให้ผ่านมาตามเส้นทางนี้ ผ่านโรงเรียน ผ่านวัดทองศาลางาม และจะถึงวัดกำแพงบางจาก กุฏิฝึกกรรมฐานประชาชื่น จะอยู่หลังศาลาวัดหลังใหญ่ (เส้นทางนี้ เหมาะสำหรับผู้ใช้รถยนต์) (สายรถประจำทางที่ผ่าน 80, 81, 84, 91, 15, ปอ.84, ปอ.90, ปอ.91)

    3.โดยสารเรือ จากบริเวณท่า ใกล้ ๆ สะพานพระพุทธยอดฟ้า
    ปากคลองตลาด กรุงเทพมหานคร (แถวสะพานพุทธฯ) เดินทางมาตามเส้นทาง เมื่อผ่านวัดประดู่ฉิมพลี ผ่านวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และลอดใต้สะพานบางไผ่ ผ่านโป๊ะขึ้นลง ของวัดทองศาลางาม ก็จะถึงโป๊ะขึ้นลงของวัดกำแพงบางจาก เดินขึ้นมองเห็นเส้นทางสัญจร ให้เลี้ยวขวา เดินตรงไป กุฏิกรรมฐานประชาชื่น จะอยู่ด้านหลังศาลาหลังใหญ่ มีต้นไม้ร่มครึ้มหน้ากุฏิฯ

    ข้อมูลจากเว็บ oocities.com/visit_hell/ และ Kammatan.com
    ----------------------------------------
    โดย ศิษย์คนหนึ่ง
     
  6. mngo

    mngo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,335
    สาธุๆๆ ท่านแม่ชีช่างน่าเลื่อมใส อยากพบเจอท่านบ้าง แต่อยู่ใกลกันเยอะเลย คงไปเจอท่านได้ยากเต็มที
     
  7. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637


    อนุโมทนาครับ ที่นำธรรมะดีๆ มาเผยแพร่ เป็นธรรมทาน สาธุๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 ตุลาคม 2010
  8. teedej

    teedej Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +61
    อนุโมทนาครับ

    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
    ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์
    และความเบิกบานใจนะครับ
     
  9. WindowsA2M

    WindowsA2M เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +116
    ขออนุโมทนาบุญด้วยคนค่ะ อยากฝึกบ้างจริงๆค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
     
  10. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    เคยไปพบท่านมาแล้วค่ะ ท่านสงบน่าเลื่อมใสมากเลยค่ะ
     
  11. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    อีกอย่างนะค่ะ ของพวกนี้อย่าอยากมากค่ะ ถ้าอยากมักจะไม่ได้ค่ะ มันเป็นกิเลส ค่อยฝึกไปเรื่อยๆค่ะ สม่ำเสมอ ทำใจสบายๆค่ะ โมทนาค่ะ
     
  12. Santajitto

    Santajitto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +455
    ขอร่วมอนุโมทนาในผลบุญของแม่ชีครับ .... แก่ให้ธรรมะ แค่เพื่อนมนุษย์ มีอานิสงส์เหลือประมาณ
     
  13. poomdunn

    poomdunn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +380
    ขออนุโมทนาบุญด้วยคนค่ะ อยากฝึกบ้างจริงๆค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  14. Puthapower

    Puthapower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +1,001
    ท่านใดพอทราบรายละเอียดเรื่องวัน เวลาในการอบรมกรรมฐานของท่านแม่ชีบ้างครับ ขออนุโมทนา
     
  15. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ น่าเลื่อมใสมากค่ะ ถ้ามีโอกาสและมีบุญมากพอคงจะได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของแม่ชีด้วยค่า _/\_
     
  16. badjoize

    badjoize เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +293
    ลองดูวัดไกล้ๆบ้านดูก่อนก็ได้ครับ หากที่จะไปนั้นไกลเกิน บางทีเพชรสวยๆแท้ๆอาจอยู่ไกล้ตัวเราก็ได้ครับ
     
  17. numtalsod

    numtalsod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +173
    ถ้าท่านใดสนใจ จะสนทนากับท่านก็ได้ ตามเบอร์โทรศัพท์ ข้างล่างนี้ ว่าจะไปกราบท่านอยู่เหมือนกัน แต๋โอกาศยังไม่อำนวย ลองดูนะคะ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ
    โทรศัพท์ติดต่ออาจารย์คุณแม่ชีพิมพา ทองเกลา โทร. 02-457-0958
    (ติดต่อหลังเวลา 21.00 น.) นะคะ ตอนกลางวันท่านจะแนะแนวพระกรรมฐานที่
    ศาลาไม้ของวัดกำแพง ค่ะ
     
  18. mmie

    mmie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +1,986
    ติดต่อหลังเวลา 21.00 น. จะเป็นการรบกวนท่านหรือเปล่านะ !!! จริง ๆ อยากจะสนทนากับท่าน เพื่อให้ท่านแนะนำการปฏิบัติพระกรรมฐานทางโทรศัพท์จะได้หรือเปล่านะ ???
     
  19. paylu

    paylu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +114
  20. tumpopo

    tumpopo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +143
    อนุโมทนาครับ กำลังฝึกสมาธิอยู๋ ตอนนี้แค่พยายามประคองให้นิ่งก่อนครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...