คนนี้ "ผี" กลัว !!!

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Lukhgai, 4 พฤษภาคม 2009.

  1. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,240
    ตอนที่ผมยังเป็นเด็กอยู่นั้น คุณปู่ผมท่านมักจะเล่าเรื่องผีๆ สางๆ ให้ผมฟังเป็นประจำ แรกๆ ยอมรับว่ากลัวผีจนไม่กล้าไปไหนมาไหน กลายเป็นคนขี้ขลาดไปเลย พอคุณปู่เล่าบ่อยๆ เข้า จากความกลัวก็กลายเป็นเรื่องสนุก และชักจะไม่เชื่อว่าเรื่องที่คุณปู่เล่ามาทั้งหมด มันเป็นเรื่องจริง !!!
    วันหนึ่งพี่นวยซึ่งเป็นญาติได้มาที่บ้าน พร้อมกับบอกคุณปู่ฟังว่า น้องชายของพี่นวย ชื่อว่าพี่นัทถูกยิงตายเมื่อเดือนที่แล้ว ผมกับคุณปู่ต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จริงอยู่นิสัยของพี่นัทอาจจะออกนักเลง ชอบมีเรื่องกับชาวบ้านเป็นประจำ แต่ในฐานะญาติพี่น้อง มันก็ต้องรู้สึกตกใจเป็นเรื่องธรรมดา
    "ที่ไม่ได้มาบอกตอนนั้นเพราะผมเกรงใจปู่ ได้ข่าวว่าเพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล"
    "ใช้ไม่ได้เลย ปู่จะไปได้หรือไปไม่ได้มันก็เรื่องของปู่ นวยทำแบบนี้ใช้ไม่ได้นะ ปู่ขอตำหนิ แล้วใครเป็นคนยิง ตำรวจจับตัวได้หรือเปล่า?"
    "เป็นพวกขี้ยาแถวท่าเรือเมล์ นัทมันเคยไปมีเรื่องกับพวกมัน พวกมันก็เลยดักยิงตอนนัทขี่รถกลับบ้าน ตำรวจจับตัวได้แล้วครับ"
    "นัทไม่ได้ห้อยพระเครื่องที่ปู่ให้ไปหรอกรึ?"
    "เรื่องนี้ผมไม่ทราบ แต่ที่ผมเห็นตอนสัปเหร่อเอาศพมันใส่ลง ที่คอของนัทมีสร้อยอยู่ด้วย เป็นสร้อยที่นัทรักมาก"
    "แสดงว่าศพของนัทมีพระเครื่องติดไปด้วยอย่างนั้นใช่มั้ย"
    "ไม่แน่ใจครับ อาจจะเป็นสร้อยเปล่าๆ ไม่มีพระก็ได้ ปกตินัทไม่ชอบห้อยพระ แต่ชอบเอาอะไรแปลกๆ มาแขวนคอ"


    สีหน้าของคุณปู่เริ่มเครียดขึ้นมาทันที
    "นวย ปู่มีเรื่องจะขอร้องหน่อยนะ พระเครื่องที่ปู่ให้นัทไป มันหายากมาก นวยช่วยไปเอามาคืนปู่ได้มั้ย?"
    พี่นวยถึงกับสะดุ้งที่ได้ยินคุณปู่พูดเช่นนั้น
    "พูดเป็นน่าปู่ ใครจะกล้าไปขุดศพ ผมไม่เอาด้วยหรอก ตอนที่มันเป็นคนมันเฮี้ยวขนาดไหนใครๆ ก็รู้ นี่มันตายเป็นผีมันมิเฮี้ยวทะลุฟ้าเลยรึปู่ ผมไม่เอาด้วยหรอก ผมมาบอกข่าวเท่านั้นแหละครับ"
    พี่นวยคุยกับปู่อยู่ครู่หนึ่งก็ลากลับ พอพี่นวยกลับไปแล้วปู่ก็ให้ผมไปตามลุงมี ซึ่งเป็นสัปเหร่อวัดทุ่งให้มาพบ
    "เป็นไงบ้างวะมี สบายดีรึ"
    "ครับ พี่หยดมีเรื่องอะไรจะใช้ผมหรือครับ?"
    "นัทหลานของข้าถูกยิงตายเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนี้ศพของมันถูกฝังอยู่ที่ป่าช้าวัดทุ่ง เอ็งไปขุดศพของมันขึ้นมา แล้วเอาพระเครื่องที่คอของมันมาให้ข้า พระองค์นั้นข้าให้มันเอง เป็นพระที่หายาก ราคาแพง ข้าจะให้หลานของข้าไปกับเอ็งด้วย"
    พูดจบคุณปู่ก็หันมาทางผม
    "เอ็งไปด้วย"
    ...........คำสั่งของคุณปู่คือประกาศิต ไม่มีทางแม้แต่จะคิดปฏิเสธด้วยซ้ำไป
    ในจังหวัดสุพรรณบุรี เห็นจะมีวัดทุ่งนี่แหละที่สภาพของป่าช้า "น่ากลัว" ที่สุด ผมทราบมาว่าลุงมีแกมี "วิชา-อาคม" พอตัว โดยเฉพาะมีดหมอที่แกพกติดตัวเป็นประจำ เป็นมีดหมอของ หลวงพ่อปาน แห่งวัดบางนมโค จังหวัดอยุธยา ซึ่งคนในวงการ ฯ ต่างยกให้เป็น "สุดยอด" ของมีดหมอเลยทีเดียว
    "แมนโว้ย คืนนี้มันชักจะอย่างไงๆ อยู่นา"
    "มันเป็นยังไงหรือลุงมี" ผมเริ่มใจไม่ดีที่ได้ยินลุงมีพูดออกมาแบบนั้น
    "มันเหมือนมีคนกำลังมองเราอยู่ ข้าเริ่มมีลางสังหรณ์ขึ้นมาเสียแล้ว"
    พูดจบลุงมีก็หยิบขวดเหล้าออกมาจากถุง แล้วจัดการเปิดจุกออก จากนั้นก็ยกขึ้นดื่มแบบเพียวๆ เหมือนต้องการจะเรียกความเชื่อมั่นอะไรสักอย่าง
    เมื่อถึงหลุมที่ฝังศพหลุมหนึ่ง ลุงมีได้นั่งลงบนพื้นหญ้าแล้วพูดขึ้นว่า
    "เจอแล้ว ลุงจะลงมือขุดเลยนะ ขืนชักช้าเกิดมีคนผ่านมาเห็นจะเป็นเรื่อง"
    ..........ศพของพี่นัทฝังไม่ลึกนัก ราวๆ เมตรกว่าๆ เท่านั้นเอง ลุงมีเซาะดินรอบๆ โลงศพ จนกระทั่งเหลือแต่ขอบของฝาโลง จากนั้นแกก็ใช้ชะแลงงัดฝาโลงขึ้นมาทันที กลิ่นเหม็นของศพลอยพุ่งขึ้นมาทันที มันเหม็นจมผมต้องปิดปากปิดจมูก เกือบจะอ้วกออกมาด้วยความคลื่นไส้ แต่ลุงมีกลับไม่มีท่าทีใดๆ แกคงจะชินกับเรื่องกลิ่นศพ หรือสภาพของศพนั่นเอง
    ลุงมีคลำไปที่บริเวณคอของศพพี่นัท จากนั้นก็กระตุกสร้อยจนขาดออกจากคอ จากนั้นก็ส่งสร้อยมาให้ผม
    "ได้สร้อยของพี่หยดแล้ว"
    ..........ผมไม่กล้าจะรับสร้อยเส้นนั้น เนื่องจากมีน้ำเหลืองของศพติดเต็มไปหมด ลุงมีหัวเราะชอบใจ แล้วแกก็เอาสร้อยใส่กระเป๋ากางเกง จากนั้นก็ปิดฝาโลงเอาดินกลบไว้ตามเดิม
    "ตอนแรกผมคิดว่าพี่นัทจะเฮี้ยนเสียอีก ที่ไหนได้นอนนิ่งหมดสภาพ อันที่จริงคนเราเวลาตายไปแล้ว มันก็เหมือนขอนไม้ดีๆ นี่เอง"
    ลุงมีมองหน้าผมแล้วหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะล้วงสร้อยออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วแกก็เทเหล้าลงบนสร้อยคอ เพื่อล้างคราบและกลิ่นของน้ำเหลืองศพ
    "ผิดแล้วละ ผีตัวนี้มันร้ายไม่ใช่เล่น ถ้าลุงไม่เอามีดหมอของหลวงพ่อปานติดตัวมาด้วย ป่านนี้มันเล่นเราตายไปแล้ว ผีตัวนี้มันร้ายกาจและน่ากลัวมาก ตลอดเวลาที่ลุงเปิดฝาโลง มันพยายามจะเล่นงานเรา แต่ลุงเอาถาคาสะกดมันเอาไว้ ตั้งแต่เป็นสัปเหร่อมา 40 ปี ก็เพิ่งจะเจอผีตัวนี้แหละที่เฮี้ยนที่สุด"
    ..........ลุงเผือกเป็นสัปเหร่ออีกคนหนึ่ง ซึ่งคนทั่วไปยอมรับว่า แกมีวิชาอาคมพอตัวทีเดียว ผมเคยถามแกว่า ตั้งแต่เป็นสัปเหร่อมาเคยถูกผีหลอกบ้างหรือเปล่า ลุงเผือกตอบผมว่า ในชีวิตแกไม่เคยถูกผีหลอกแม้แต่ครั้งเดียว แต่แกก็ยืนยันว่า ผีและวิญญาณ "มีจริง"
    "สิ่งเหล่านี้เราสัมผัสได้จาก สัมผัส ที่ 6 คือ มันมีอยู่จริง แต่เรามองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ บางเวลาเรามีความรู้สึกเหมือนมีคนมองเราอยู่ นั่นคือพวกเจ้ากรรมนายเวร รอบๆ ตัวเราก็มีดวงวิญญาณล่องลอยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เรามองไม่เห็น จับต้องสัมผัสไม่ได้"
    คุณเผือกเล่าอีกว่า คนที่เป็น "สัปเหร่อ" คลุกคลีกับศพคนตาย จะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า "เครื่องราง-ของขลัง" ติดตัวอยู่เป็นประจำ
    "ของลุงมีรูปของท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านท้าวเวสสุวรรณถือว่าเป็นเจ้าผู้ควบคุมดูแลภูตผีปีศาจทั้งปวง ท่านใหญ่และมีอำนาจมากที่สุด ผีทุกตัวจะต้องกลัวท่าน สัปเหร่ออาจจะไม่ทุกคนที่นับถือท่าน แต่โดยส่วนมากล้วนนับถือท่าน"
    ..........เกี่ยวกับเรื่องของความเชื่อที่ว่า คนที่ตายไปแล้ว 3 วัน 7 วัน วิญญาณจะกลับบ้าน ความเชื่อนี้มีความเป็นได้มากน้อยเพียงใด
    "เป็นเรื่องจริง คนทุกคนต่างก็มีความห่วงใย ซึ่งเราเรียกว่าความห่วงใยนี้ว่า นิวรณ์ เพราะการมีนิวรณ์ของมนุษย์นี่เอง จึงทำให้ดวงวิญญาณมีพลังที่แข็งกล้า สามารถก่อเป็นรูปร่างได้ พอตายไปแล้วแต่จิตมีนิวรณ์ ทันทีที่ตายตัวเขายังไม่รู้ตัวว่าอะไรเกิดขึ้นกับเขา ตอนนี้สภาพวะความเป็นคนมันได้สิ้นสุดลงแล้ว พอ 3 วันวิญญาณออกจากร่างได้ สิ่งแรกที่วิญญาณจะไปนั่นก็คือ บ้าน"
    ดังนั้นหากคนที่ท่านรู้จักเสียชีวิต ในช่วงระยะเวลา 3 วัน 7 วัน จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องคอยดูว่า ช่วงเวลาดังกล่าว


    ที่มาgeocities.com/tongdan
     
  2. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    ...เรื่องดีๆ แบบนี้ สมควร เชิญชวนท่านทั้งหลาย ที่ไม่เชื่อ ในเรื่องภพเรื่องชาติ มาอ่าน แล้ว ทดลองพิสูจน์ ด้วยตนเอง....
    อนุโมทนา...
     

แชร์หน้านี้

Loading...