คนที่ชอบพูดว่า ทำบุญแล้วทำไมบุญไม่ช่วย ลองตั้งใจอ่านค่ะ แล้วจะเข้าใจ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย กะละมัง, 13 สิงหาคม 2008.

  1. กะละมัง

    กะละมัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +150
    คนที่ชอบพูดว่า ทำบุญแล้วทำไมบุญไม่ช่วย ลองตั้งใจอ่านค่ะ แล้วจะเข้าใจ
    (หนูฟังมาจาก CD ธรรมะ ของพระสมบัติ นันทิโก เรื่อง "จูฬนิสเทสปรายนวรรคและอุทาน") พอสรุปได้ดังนี้ค่ะ


    ที่พี่ๆชอบบอกว่า ทำบุญแล้วทำไมบุญไม่ช่วยน่ะค่ะ หนูขอถามย้อนพี่ๆสัก 3 ข้อนะคะ

    1. ที่ว่าทำบุญมา พี่ๆทำทุกวันหรือไม่ แล้วทำตลอดเวลาหรือไม่ หรือว่า นานๆทีจะทำสักทีหนึ่ง ?

    2. ที่ว่าทำบุญมา ลองเทียบกับ บาปหรืออกุศลจิตในแต่ละวันของพี่ๆดู ว่ามันสมดุลกันหรือไม่ พิจารณาดูข้างล่าง

    - วันหนึ่งๆ พี่ๆโลภกี่ครั้ง
    - วันหนึ่งๆ พี่ๆโกรธที่ครั้ง
    - วันหนึ่งๆ พี่ๆหลงกี่ครั้ง
    - วันหนึ่งๆ พี่ๆดื่มสุรา เมรัย แอลกอฮอล์ มากี่ครั้ง
    - วันหนึ่งๆ พี่ๆลักทรัพย์มากี่ครั้ง
    - วันหนึ่งๆ พี่ๆผิดกาเมมากี่ครั้ง
    - วันหนึ่งๆ พี่ๆพูดเท็จ ส่อเสียด เพ้อเจ้อ มากี่ครั้ง
    - วันหนึ่งๆ พี่ๆฆ่าสัตว์มากี่ตัว

    *การทำบาปแต่ละครั้ง แม้ทำด้วยใจคิด (มะโน) ก็ถือเป็น บาปหรืออกุศลทั้งหมด สามารถให้ผลใน "อบายภูม" ได้ทั้งสิ้น
    พี่ๆสร้างแต่บาปมาทั้งวัน ทั้งเดือน ทั้งปี นานๆทีจะมาทำบุญสักครั้งหนึ่ง แล้วมาเรียกร้องผลบุญ โดยไม่ได้พิจารณาบาปที่ตัวเองได้สร้างไว้เลย

    3. ขณะที่พี่ๆทำบุญ ใจพี่ๆคิดอย่างไร เช่น การให้ทาน พี่ๆให้ด้วยความต้องการสละด้วยใจจริงหรือไม่ หรือว่าให้ด้วยความต้องการผลตอบแทน ...

    ถ้าเป็นให้ด้วยความต้องการผลตอบแทน นั่นไม่ใช่บุญค่ะ แต่เป็นความโลภ เป็นอุศลกรรมอย่างหนึ่ง ไม่ใช่บุญอะไรเลย ไม่มีอนิสงค์ค่ะ เป็นความโลภ เป็นความต้องการอยากได้ ไม่ใช่บุญ นะคะ
    เพราะความหมายของบุญที่แท้จริงคือ "การขัดเกลากิเลส ละความตระหนี่ให้เบาบางลง" ไม่ใช่ให้ทานเพราะอยากได้นั่นอยากได้นี่ อยากรวย อยากสบาย อันนี้ไม่ใช่บุญ เป็นความโลภ ไม่มีอนิสงค์อะไรเลย การอยากได้ผลตอบแทน หนูถามหน่อยว่า "มันขัดเกลากิเลสตรงไหน" มันคล้ายๆกับการลงทุนเพื่อหวังกำไร อะไรประมาณนั้นอ่ะค่ะ เพราะฉนั้น อย่ามาเรียกร้องผลอะไรกันนักเลยค่ะ เพราะทำบุญกันไม่ถูกวิธีต่างหาก


    *ถ้าอยากได้บุญแบบทั้งวันทั้งคืน ก็มีวิธีค่ะ แต่จะมีใครทำรึเปล่า

    1. ใส่บาตรเสร็จ ก็กลับมาคิดทั้งวันทั้งคืน
    2. ให้สมาทานศีล5 แล้วนึกถึงศีลที่รักษานั้นทั้งวันทั้งคืน
    3. ทำจิตให้เป็นสมาธิ ว่างแบบสุญตา (เพื่อระงับ โลภะ โทสะ โมหะ) ทั้งวันทั้งคืน

    *จะมีกี่คนที่ทำแบบนี้ คนส่วนมาก เกือบทั้งหมด
    สร้างแต่บาปมาทั้งวัน ทั้งเดือน ทั้งปี ทั้งชาติ นานๆทีจะมาทำบุญสักครั้งหนึ่ง แล้วมาเรียกร้องผลบุญ โดยไม่ได้พิจารณาบาปที่ตัวเองได้สร้างไว้เลย จริงมั้ยคะ ลองชั่งน้ำหนัก บุญ กับ บาป ในแต่ละวันดูค่้ะ


    **สรุป คนที่ชอบพูดว่า ทำบุญแล้วทำไมบุญไม่ช่วย ก็เพราะว่า สิ่งที่เราคิดว่าเป็นบุญ แต่ในความเป็นจริงมันคือ โลภะ นั่นเอง มันไม่ใช่บุญนะคะ

    ย้ำอีกครั้ง ความหมายของบุญที่แท้จริงคือ "การขัดเกลากิเลส ละความตระหนี่ให้เบาบางลง" ยิ่งสละความหนี่ออกมาก ยิ่งได้บุญมากค่ะ (และห้ามอธิฐานขอเด็ดขาด) เพราะอนิสงค์แห่งบุญจะลดลงไปมากค่ะ


    มนุษย์เกือบทั้งหมด จะอธิษฐานในลักษณะ "ขอ, อ้อนวอน, บนบาน"
    แต่ถ้าจะ "อธิษฐาน" ให้เป็นเหตุปัจจัยให้เข้าถึง "โลกุตร นิพพาน" อย่างนี้เป็นสิ่งดีงาม ควรอนุโมทนาค่ะ


    บุญกิริยาวัตถุ 10
    1.ทานมัย บุญที่สำเร็จด้วยการบริจากทาน
    2.สีลมัย บุญที่สำเร็จด้วยการรักษาศีล
    3.ภาวนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
    4.อปจายนมัย บุญที่สำเร็จด้วยการแสดงตนเป็นคนอ่อนน้อม
    5.ไวยยาวัจจมัย บุญที่สำเร็จด้วยการขวานขวายช่วยในกิจการที่ชอบ
    6.ปัตติทานมัย บุญที่สำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ
    7.ปัตตานุโมทนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ
    8.ธัมมสวนมัย บุญที่สำเร็จด้วยการฟังพระสัทธรรม
    9.ธัมมเทสนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการแสดงพระธรรมเทศนา
    10.ทิฏฐุชุกรรม การกระทำความรู้ความเห็นแห่งตนให้ตรง
    (เชื่อว่า บาป-บุญมี ,นรก-สวรรค์มี ,ชาตินี้-ชาติหน้ามี , เชื่อหลักไตรลักษณ์ อนิจจัง-ทุกข์ขัง-อนัตตา)
    .
    .
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2009
  2. ธนานุวัตร

    ธนานุวัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +968
    อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ครับ ทุกวันนี้มีคนที่เป็นแบบนั้นอยู่ ส่วนผมเองก็ไม่ได้หวังให้ผลบุญช่วยให้ผมต้องมีต้องรวย แต่ขอให้ผลบุญช่วยผมพ้นนรกแค่นั้นพอ
     
  3. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1> <!-- / icon and title --><!-- message -->
    [​IMG]ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...
     
  4. - เงาะป่า -

    - เงาะป่า - เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +565
    ทำบุญแล้วก็ต้องละบาปด้วยครับ จะได้ผลบุญมากยิ่งขึ้น

    อนุโมทนาสาธุครับ
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------
    "จงจำไว้นะ เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดินเมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครไหนมาช่วยเจ้า"
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ร่วมสร้าง " อุโบสถเงิน" วิหารทานที่ในครั้งนึงในชีวิตไม่ควรพลาดครับ
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=140433
    ทดแทนค่าน้ำนม
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=142495
    อานิสงส์การสร้างส้วม (หลวงพ่อจรัญ) อ่านแล้วสนุกดีครับ
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1413869#post1413869
    มาเที่ยว วัดเกตการาม จ.เชียงใหม่ วัดประจำปีจอกัน
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=136821
     
  5. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    ตรงนี้ผมว่ามีอานิสงค์นะ แต่อานิสงค์นั้นมีไม่มาก
    ซึ่งลำดับขั้นของการพัฒนาจิตในเรื่องของการให้ทานนั้นมีปรากฏอยู่ในทานสูตร อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต ข้อ ๔๙

    ทานสูตร - อานิสงส์
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mummy&month=05-2006&date=16&group=11&gblog=25
    และทั้งนี้ในเรื่องของทานก็ขึ้นอยู่กับ
    ของที่นำมาบริสุทธิ์หรือไม่ เจตตนาตั้งไว้อย่างไร และเนื้อนาบุญระดับขั้นของความบริสุทธิ์
    อานิสงค์ที่ได้รับย่อมแตกต่างกันไป




    การตั้งจิตไว้ดีของการให้ทานชนิดนี้เป็นทานที่มีผลมาก และมีอานิสงค์มาก
    อามิสทานที่ประกอบด้วยปัญญาธรรม มากกว่าศรัทธาธรรมย่อมเข้าถึงความบริสุทธิ์ที่แตกต่างกัน

    แต่ทานที่เลิศที่สุด คือ ธรรมทาน
    และยังมีชื่อเรียกทานอีกชนิดหนึ่งคือ อภัยทาน อาจผนวกเข้ากับ ธรรมทาน
    ด้วยจิตที่ตั้งอยู่ใน อภัยทาน ต่อโทสะ ที่ขุ่นเคือง ที่ขุ้นแค้น ที่ครอบงำจิตใจ
    ย่อมเข้าถึงการระงับด้วย พรหมวิหารธรรม ตามความบริสุทธิ์ของจิตมากน้อยแตกต่างกันไป
    "สติ สมาธิ ปัญญา" จากการอบรมภาวนาจิตใจของแต่ละบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ต่อ "ทาน ศีล ภาวนา"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2009
  6. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    หากเริ่มต้นด้วยใจที่บริสุทธิ์ ทุกอย่างก็จะเป็นกุศล
    ทำบุญอยากได้กุศลก็จะไม่ได้กุศลใดๆ ทั้งสิ้น
     
  7. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    ได้ แต่ได้ไม่มาก
    วิบากกรรมที่ได้รับ ย่อมมีแตกต่างกันทั้งกุศล และอกุศล ที่ประกอบกับจิตในขณะนั้น

    ศรัทธากับปัญญาต้องคู่กันไป (ในเรื่องของทาน)
    แต่ถ้าศรัทธานำหน้าแล้วอกุศลมูลย่อมเกิดขึ้นได้มาก คือมีทั้งขาวและดำประกอบกับจิตในขณะนั้น

    แต่ทั้งนี้ศรัทธาของผู้แสวงบุญอานิสงค์ ก็คือตัณหา ซึ่งยังหนีไม่พ้นอุปาทานในบุญ ตัวก่อภพชาติ

    แต่เราท่านในฐานะปุถุชน ก็ต้องอาศัยตัณหานั้น เพื่อละตัณหาให้พ้นจากอุปาทานในบุญและบาป ตัดภพชาติ
    ด้วยการให้ทานที่ประกอบด้วยปัญญานำศรัทธา
    ด้วยการรักษาศีล จนเป็นศีลที่รักษาเรา เป็นอินทรียสังวรศีล
    เจริญสมถะ-วิปัสนาภาวนา

    สติจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะประคับประคองสนับสนุนองค์ธรรมต่างๆ
    สติจึงเป็นเหมือนพี่เลี้ยง

    พูดง่ายแต่ทำยากนะ แต่ต้องทำถ้าไม่ทำมันก็ยากอยู่อย่างนั้น เมื่อไม่ลงมือปฏิบัติจนเป็นข้อวัตร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2009
  8. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ทำบุญต้องหวังได้ที่บุญ หวังได้ แต่อย่าไปอยากได้บุญ

    อยากได้จะไม่ได้ ถึงเวลาเมื่อไรก็ได้เอง

    .

     
  9. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    อดีตกรรม ถ้ากรรมดี เสวยอยู่
    ปัจจุบันกรรม สร้างกรรมชั่ว ย่อมลบล้าง
    อดีตกรรม กรรมแห่งอกุศล วิบากตน
    ปัจจุบัน สร้างกรรมดี ย่อมผดุง


    การทำบุญให้ทานเพียงแต่เรียกว่า ทานบารมี หากบำเพ็ญสมาธิจิตจนได้ญาณบารมี และโดยเฉพาะการบำเพ็ญทุกอย่างนั้น ถ้าท่านให้โดยไม่มีเจตนาแห่งการให้ ให้สักแต่ว่าให้เขา ท่านก็ย่อมได้กุศลเรียกว่าไม่มากและทัศนคติของอาตมาว่าการบำเพ็ญเมตตาบารมีในภาวนาบารมีนั้นได้กุศลกรรมกว่าการให้ทาน

    คัดลอกจากหนังสือ เรียนธรรมะบูชาพระสุปฏิปันโน เล่มของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี )<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
     
  10. nopam

    nopam สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +1
    เคยได้ทำบุญ ทานแบบนี้หรือเปล่า

    เมื่อให้ทานอย่างถูกต้อง ผลของทานย่อมเป็นเช่นนี้

    พระไตรปิฎกฉบับชุด 91เล่ม ของ มมร เล่ม 37 หน้า 379

    ชื่อว่าทานนี้เป็นเหตุแห่งความสุข เป็นมูลแห่งสมบัติ เป็นที่ตั้งแห่งโภคะทั้งหลาย เป็นที่ ต้านทาน เป็นที่เร้น
    เป็นคติ (ทางดำเนินไป) เป็นที่พำนักของบุคคลผู้เดินทางไม่เรียบ เป็นที่พึ่งอาศัย ที่พึ่ง ที่ยึดหน่วง
    ที่ต้านทาน ที่เร้น ที่ไป ที่พำนักเช่นกันทาน ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ไม่มี.

    จริงอยู่ ทานนี้เป็นเช่นกับอาสนะทองคำอันสำเร็จด้วยรัตนะ เพราะอรรถว่า เป็นที่พึ่งอาศัย
    เป็นเช่นกับมหาปฐวี เพราะอรรถว่า เป็นที่ตั้งอาศัย
    เป็นเช่นกับเชือกสำหรับยึดเหนี่ยว เพราะอรรถว่า เป็นที่ยึดหน่วง
    และทานนี้เป็นดุจนาวา เพราะอรรถว่า เป็นที่ช่วยทุกข์
    เป็นดุจนักรบผู้แกล้วกล้าในสงคราม เพราะอรรถว่า เป็นที่โล่งใจ
    เป็นดุจนครที่จัดแต่งไว้ดีแล้ว เพราะอรรถว่า เป็นที่ต้านภัย
    เป็นดุจดอกปทุม เพราะอรรถว่า ไม่ถูกมลทินคือ ความตระหนี่เป็นต้น ซึมซาบ
    เป็นดุจเพลิง เพราะอรรถว่า เผามลทินคือ ความตระหนี่ เป็นต้นเหล่านั้น
    เป็นดุจอสรพิษ เพราะอรรถว่า เข้าใกล้ได้ยาก
    เป็นดุจสีหะ (สิงโต) เพราะอรรถว่า ไม่หวาดสะดุ้ง
    เป็นดุจช้าง เพราะอรรถว่า มีกำลัง
    เป็นดุจโคอุสภะขาว เพราะอรรถว่า อันโลกสมมติว่าเป็นมงคลยิ่ง
    เป็นดุจพระยาม้าวลาหก เพราะอรรถว่า ทำบุคคลให้ถึงถิ่นอันเกษมปลอดภัย.

    ธรรมดาว่าทานนี้เป็นหนทางที่เราไป นั่นเป็นวงศ์ของเรา เราเมื่อบำเพ็ญบารมี ๑๐
    ได้ปฏิบัติมหายัญ (การให้ทานอย่างยิ่งใหญ่) เป็นอเนกคือ มหายัญครั้งเป็นเวลามพราหมณ์
    มหายัญครั้งเป็นมหาโควินทพราหมณ์ มหายัญครั้งเป็นพระเจ้าจักรพรรดินามว่ามหาสุทัศนะ
    มหายัญครั้งเป็นเวสสันดร

    เราเมื่อครั้งเป็นกระต่ายได้มอบตนในกองเพลิงที่ลุกโชนแล้วประคับประคองจิตของยาจกที่มาถึงไว้ได้
    ด้วยว่าทานในโลกย่อมให้สักกสมบัติ มารสมบัติ พรหมสมบัติ จักรพรรดิสมบัติ สาวกบารมีญาณ ปัจเจกโพธิญาณ ให้อภิสัมโพธิญาณ.



    อุทิศบุญให้ผู้ล่วงลับ....ทันที เล่ม 39 หน้า 284

    ....เปรตพวกนั้น พากันไปยืนที่นอกฝาเรือนเป็นต้น ด้วยหวังว่า
    วันนี้พวกเราคงได้อะไรกันบ้าง. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงทำโดยอาการที่เปรตพวกนั้น
    จะปรากฏแก่พระราชาหมดทุกตน.

    พระราชาถวายน้ำทักษิโณทก (ถวายน้ำเป็นทาน) ทรงอุทิศว่า ขอทานนี้จงมีแก่พวกญาติของเรา.
    ทันใดนั้นเอง สระโบกขรณีดารดาษด้วยปทุม ก็บังเกิดแก่เปรต พวกนั้น.
    เปรตพวกนั้นก็อาบและดื่มในสระโบกขรณีนั้น
    ระงับความกระวนกระวายความลำบากและหิวกระหายได้แล้ว มีผิวพรรณดุจทอง.

    ลำดับนั้น พระราชาถวายข้าวยาคู ของเคี้ยว ของกินเป็นต้น แล้วทรงอุทิศ.
    ในทันใดนั้นเอง ข้าวยาคูของเคี้ยวและของกินอันเป็นทิพย์ ก็บังเกิดแก่เปรตพวกนั้น.
    เปรตพวกนั้น ก็พากินบริโภคของทิพย์เหล่านั้น มีอินทรีย์เอิบอิ่ม.

    ลำดับนั้น พระราชาถวายผ้าและเสนาสนะ (ที่อาศัย) เป็นต้น ทรงอุทิศให้
    เครื่องอลังการต่าง ๆ มีผ้าทิพย์ ยานทิพย์ ปราสาททิพย์ เครื่องปูลาดและที่นอนเป็นต้น
    ก็บังเกิดแก่เปรตพวกนั้น. สมบัติแม้นั้นของเปรตพวกนั้น ปรากฏทุกอย่างโดยประการใด
    พระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ทรงอธิษฐาน (ให้พระราชาทรงเห็น) โดยประการนั้น.
    พระราชาทรงดีพระทัยยิ่ง.....


    ญาติทั้งหลายรออยู่แต่ กรวดน้ำกันเท่าไหร่ก็ไม่ถึงซะทีใครจะมีแรงมาช่วยดูพระสูตรนี้นะ

    อุทิศบุญไม่พอ...เทวดาไม่ช่วย เล่ม 37 หน้า 50

    บทว่า โน ปริหาเปสฺสนฺติ ได้แก่
    เจ้าวัชชีทั้งหลาย จักไม่ลด คงกระทำตามที่เป็นอยู่แล้วนั้นแล.
    จริงอยู่ เมื่อเจ้าวัชชีทั้งหลายลดพลีกรรมที่เป็นธรรม (การอุทิศบุญให้)
    เทวดาทั้งหลายก็ไม่กระทำการอารักขา ที่จัดไว้เป็นอย่างดี
    แม้เมื่อไม่อาจจะให้เกิดสุขที่ยังไม่เกิด ย่อมทำโรคไอ โรคศีรษะ เป็นต้น
    ที่เกิดแล้วให้กำเริบ เมื่อเกิดสงครามก็ไม่เป็นพรรคพวกด้วย
    แต่เมื่อพวกเจ้าวัชชีไม่ลดพลีกรรม เทวดาทั้งหลายก็กระทำการอารักขาที่จัดแจงเป็นอย่างดี
    แม้เมื่อไม่สามารถจะให้เกิดสุขที่ยังไม่เกิดได้ ทั้งยังเป็นพรรคพวกคราวมีสงคราม....



    ถ้าชาวพุทธทำบุญทานและอุทิศบุญอย่างถูกต้องรับรองได้ว่าชีวิตเจริญแน่นอน ก็มัวแต่จะไปอ้อนวอนหาสิ่งเลอะเทอะเข้าบ้านเข้าตัว ไม่ยอมศึกษาเล่าเรียนอ่านพระไตรปิฎกให้เข้าใจ อะไร ๆ ก็จะไปหาให้อันโน้น นี้ บันดาลให้ชีวิตเจริญร่ำรวยกัน ถ้าอะไร ๆ ที่ไปกราบไหว้อ้อนวอนช่วยเสกเป่าให้เจริญร่ำรวยได้ ป่านนี้พระพุทธเจ้าก็คงจะเสกเป่าให้สารพัดสัตว์อย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ในสังสารวัฎนี้บรรลุธรรมกันหมดแล้ว คงไม่เหลือสัตว์ตกค้างในจักรวาลนี้ไว้หรอกนะ .... จงทำใจยอมรับในผลบาปที่ได้เคยทำไว้แต่ชาติก่อนๆๆๆๆๆๆๆโน้นเถิดเมื่อมันมาเจอวิบากร้ายก็ แก้ไขไปตามเหตุปัจจัย แล้วสักวันจะพบว่า ....ธรรมชาตินี้ไม่มีอะไรจริง ๆ มีแต่สิ่งปรุงแต่งให้จิตมันหวีดหวิว ตลอด หาความสงบไม่ได้แม้แต่จะนอนอยู่บนกองสมบัติก็ตาม วัตถุ..ให้เราอิ่มเอมใจเพียงแว๊บเดียวจริงม๊า ....






     
  11. Solotel

    Solotel Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +38
    ขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่เห็นดีแล้ว ชอบแล้วครับ สาธุ...
     
  12. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    การทำบุญเป็นเรื่องการสั่งสมให้มาก ๆ บารมีค่อย ๆ เกิด ทำกันเป็นปี ๆ เริ่มจากใจที่บริสุทธิ แล้วค่อยทำไป ถ้าคิดว่าทำแล้วไม่ได้อะไรคิดให้ดี ๆ ครับ
     
  13. สิตามน

    สิตามน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +369
    เขียนเก่งจังเลย
    ทำให้เข้าใจง่ายขึ้นอ่ะ
    ขอบคุงค่ะ
     
  14. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    <style>.wysiwyg { FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BACKGROUND: #f5f5ff; COLOR: #000000 } P { MARGIN: 0px } .inlineimg { VERTICAL-ALIGN: middle } </style>

    แล้วถ้าเป็นการอธิษฐานเพื่อเป็นบารมีล่ะ

    หากไม่มีการอธิษฐานก็เหมือนกับคนเดินทางไม่มีจุดหมายสิ


    ต้องแยกสภาวะให้ออกนะ ระหว่างการอธิษฐาน กับการขอที่เจือด้วยโลภะ
     
  15. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    น้องมังครับ เรื่องอธิษฐานจิตหลังทำบุญสมารถทำได้และควรทำนะ แต่ควรเป็นไปเพื่อการพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดอย่างถาวร นั่นคืออธิษฐานขอผลบุญเป็นปัจจัยให้เข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันควรทำนะ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯวัดท่าซุงท่านก็สอนลูกศิษย์ไว้แบบนี้ตลอด เพราอธิษฐานบารมีเป็นหนึ่งในบารมีสิบทัศน์ที่พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ ถ้าเราอบรมไม่เต็มหลวงพ่อเคยบอกว่าไม่มีทางเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าได้นะ

    โดยส่วนตัว พี่อ่านบทความของน้องมังพี่ชอบมากนะ เห็นความตั้งใจของหนูในการให้ธรรมทานกับเพื่อนๆ น้องมีใจเมตตาซึ่งประเสริฐและหายากมากนะ แต่พี่ขออภัยที่ต้องทักท้วงในข้อธรรมบางจุดเพราะไม่อยากให้น้องมังเผยแพร่ธรรมะที่เสี่ยงต่อการเข้าใจผิดของผู้อ่านจำนวนมาก เดี๋ยวจะเกิดวิบากกรรมกับน้องมังทำให้น้องบรรลุมรรคผลช้าได้นะจ้ะ

    พี่เองก็ยังไม่ได้ดีอะไรเท่าไหร่หรอกนะ จิตพี่ยังเลวอยู่มากก็ต้องปฏิบัติขัดเกลากันต่อไป
     
  16. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    น้องมังครับ เรื่องอธิษฐานจิตหลังทำบุญสมารถทำได้และควรทำนะ แต่ควรเป็นไปเพื่อการพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดอย่างถาวร นั่นคืออธิษฐานขอผลบุญเป็นปัจจัยให้เข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันควรทำนะ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯวัดท่าซุงท่านก็สอนลูกศิษย์ไว้แบบนี้ตลอด เพราอธิษฐานบารมีเป็นหนึ่งในบารมีสิบทัศน์ที่พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ ถ้าเราอบรมไม่เต็มหลวงพ่อเคยบอกว่าไม่มีทางเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าได้นะ

    โดยส่วนตัว พี่อ่านบทความของน้องมังพี่ชอบมากนะ เห็นความตั้งใจของหนูในการให้ธรรมทานกับเพื่อนๆ น้องมีใจเมตตาซึ่งประเสริฐและหายากมากนะ แต่พี่ขออภัยที่ต้องทักท้วงในข้อธรรมบางจุดเพราะไม่อยากให้น้องมังเผยแพร่ธรรมะที่เสี่ยงต่อการเข้าใจผิดของผู้อ่านจำนวนมาก เดี๋ยวจะเกิดวิบากกรรมกับน้องมังทำให้น้องบรรลุมรรคผลช้าได้นะจ้ะ

    พี่เองก็ยังไม่ได้ดีอะไรเท่าไหร่หรอกนะ จิตพี่ยังเลวอยู่มากก็ต้องปฏิบัติขัดเกลากันต่อไป
     
  17. กะละมัง

    กะละมัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +150
    มนุษย์เกือบทั้งหมด จะอธิษฐานในลักษณะ "ขอ, อ้อนวอน, บนบาน" ค่ะ
    แต่ถ้าขอให้เป็นปัจจัยให้เข้าถึง "โลกุตร นิพพาน" อย่างนี้เป็นสิ่งดีงาม ควรอนุโมทนาค่ะ...สาธุ
     
  18. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โมทนาครับ อธิษฐานทางธรรม เป็นปัจจัยให้เข้าถึงพระนิพพาน

    น้องกะละมังตอบได้ถูกต้องแล้วครับ
     
  19. อ่อนหัดธรรม

    อ่อนหัดธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    488
    ค่าพลัง:
    +968
    เจ้าของกะทู้น่ารัก จิตใจดีอีกด้วย
     
  20. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    การทำดีย่อมได้ดีตามกฏแห่งกรรม เหมือนปลูกต้นไม้ย่อมต้องได้ผลและดอกมาเชยชม แต่อย่าลืมปัจจัยในเรื่องของเวลา ต้นไม้ย่อมต้องใช้เวลาในการให้ดอกผลฉันใดบุญบาปก็ย่อมต้องใช้เวลาเช่นเดียวกันในการให้ผล การทำดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนดีที่สุด ในเบื้องต้นจิตเราเป็นสุข ส่วนเรื่องของการสนองผลคิดเสียว่าเป็นโบนัสได้หรือไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ( แต่ตามกฏแห่งกรรมย่อมต้องได้ ) หลวงปู่โตกล่าวว่าถ้ายังไม่ถึงเวลาของเจ้าเทพยดาฟ้าดินก็ไม่สามารถช่วยเจ้าได้ แต่เมื่อถึงเวลาของเจ้าต่อให้ฟ้าดินก็ต้านเจ้าไม่ได้ ชาวพุทธทำบุญด้วยความศรัทธาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...