คนทำความดีมี ๒ ประเภท

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 16 กันยายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,485
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    E31D9A28-6305-4529-911E-1F1EC5AD0635.jpeg

    บุคคลที่ทำความดีนั้น สามารถแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ประเภทแรกคือ ทำความดีเพราะอยากทำ ท่านทั้งหลายเหล่านี้จะทำได้ทน ทำได้นาน ไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถากถางเยาะเย้ยของคนอื่น อีกประเภทหนึ่ง คือ บุคคลที่ทำความดีเพราะอยากดี ประเภทนี้ถ้าผลความดีไม่ตอบแทนในระยะใกล้ ก็อาจจะหมดกำลังใจไปเลย

    รางวัลคนคู่คุณธรรมของสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมินั้น ตั้งใจที่จะให้กับบุคคลทั้ง ๒ ประเภท คือประเภทที่ทำความดีเพราะอยากทำ ก็จะได้มีเครื่องยืนยันว่า สิ่งที่เขาทำนั้น บุคคลอื่นมองเห็นและยกย่องในสิ่งที่เขาได้กระทำต่อเนื่องมายาวนาน ส่วนประเภททำความดีเพราะอยากดี ก็จะได้เห็นว่ามีผลของความดีตอบ คือได้รับใบประกาศเกียรติคุณ ได้รับเงินรางวัล ได้ออกสื่อ มีชื่อเสียง ยืนยันว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้อง เป็นสิ่งที่สังคมยกย่อง

    แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าท่านทำความดีเพราะอยากทำ ท่านก็จะทำได้ทน ทำได้นาน ไม่ท้อถอย ถ้าทำความดีเพราะอยากดี แล้วผลความดีไม่ตอบแทน ก็อาจจะหมดกำลังใจ เลิกทำความดีไปเลยก็ได้

    ดังนั้น..ในเรื่องของการกระทำความดี จึงเป็นเหมือนอย่างกับการว่ายทวนกระแสโลก การทำความชั่วนั้น ถ้านับไปแล้ว เหมือนกับน้ำที่ไหลลงที่ต่ำ สามารถที่ทำไปได้โดยสะดวก การทำความดีเหมือนกับการทวนน้ำขึ้นสู่ที่สูง ทั้งหนัก ทั้งเหนื่อย ต้องทนกับการเยาะเย้ยถากถางจากคนอื่น

    แม้แต่กระผม/อาตมภาพเอง ในระยะแรกที่เริ่มทำความดี แล้วเจอการเสียดสีทุกรูปแบบ ยังได้แต่งกลอนเอาไว้เตือนใจตัวเองว่า

    เมื่อแรกทำ ความดี สิ่งที่พบ
    คือประสบ ความเจ็บปวด รวดร้าวแสน
    ถูกเยาะเย้ย ถากถาง ทั้งดินแดน
    ซ้ำหมิ่นแคลน ดังเราไซร้ ไร้ฝีมือ

    คนทำดี มีเท่าใด ในหล้าโลก
    คิดว่าโชค จะเข้า ข้างเจ้าหรือ ?
    อยากจะเป็น คนดี ที่โลกลือ
    ช่างซื้อบื้อ น่าทุเรศ สังเวชใจ

    เอาเถิดท่าน ตัวฉัน นั้นย่อมรู้
    ว่าฉันทำ อะไรอยู่ ไหวไม่ไหว
    เมื่อท่านติ ก็เป็นครู ดูต่อไป
    ถ้าไม่ดี เชิญติใหม่ ไม่ว่ากัน

    ไม่ย่อท้อ ต่อคำใคร ในโลกหล้า
    ปณิธาน หาญกล้า ยังคงมั่น
    จะทำดี ให้เลิศฟ้า กว่าไกวัล
    ตราบจนถึง ซึ่งนิพพาน ฉันจึงพอ

    ตอนนั้นต้องเรียกว่าเป็นการแต่งกลอนระบายอารมณ์ของตนเอง มาถึงตอนนี้ก็ยังนึกขำว่า ถ้าเราไม่ไปแบกสิ่งที่คนอื่นเขาทำเอาไว้ ก็ไม่ต้องมาเสียเวลาแต่งกลอนแบบนี้อีก

    ฝากกลอนนี้เอาไว้สำหรับท่านทั้งหลายที่ทำความดี แล้วมีแรงเสียดทาน มีแรงกระทบสูงมาก นำเอาบทกลอนนี้ไปเป็นเครื่องเตือนใจตนเอง ว่าสิ่งที่คนอื่นเขากล่าวมาว่ามานั้น ก็คือสิ่งที่เป็นมุมมองของเขา ส่วนตัวเราทำอะไร เพื่ออะไรนั้น ตัวเราเองจะเป็นผู้ที่รู้ดีที่สุด

    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๕
    https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=8910

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com

    #พระครูวิลาศกาญจนธรรม #หลวงพ่อเล็ก
    #ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
    #พระพุทธศาสนา #watthakhanun
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...