ข้าพเจ้าฝันอย่างมีสติ หรือเป็นการถอดจิตแบบควบคุมได้หรืออย่างไร.....?

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย The-matrix, 13 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. The-matrix

    The-matrix Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +79
    เมื่อคืนวาน....หลังจากข้าพเจ้าอ่านหนังสือเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเข้านอน ก่อนนอนข้าพเจ้ามักจะนั่งสมาธิ เป้นกิจวัตร ช่วงหลังปีใหม่มานี้ข้าพเจ้ารู้สึกได้ว่า ตนเองนั้นมีความสงบขึ้นมาก พอนั่งไปได้สักประมาณ 10 นาที ข้าพเจ้าก็ได้เข้าถึงสมาธิอันสงบนิ่ง คำบริกรรมได้หายไป ลมหายใจแผ่วเบาเหมือนหยุดนิ่ง มีแต่ความรู้สึกว่าขณะนี้กำลังทำสมาธิอยู่ความรู้สึกต่างๆๆได้มารวมอยู่กลางแผ่นอก และก็เข้าสมาธิรู้สึกตัวไปอย่างนี้เกือบประมาณ 2 ชั่วโมง และข้าพเจ้า ก็ได้เอนตัวลงนอนราบกับที่นอนโดยที่ยังมีความรู้สึกตัวอยู่ทุกขณะจิต และเมื่อนอนไปได้สักพักข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนกับตัวเองนอนไม่หลับ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกระวนกระวายแต่อย่างใด แต่กลับรู้สึกตัวเบาสบายๆ และข้าพเจ้า ก็ได้ลองกำหนดตัวเองให้ลอยขึ้น ลอยขึ้นไปในอากาศ และก็ได้มีบางอย่างแปลกๆๆเกิดขึ้นมา ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตอนนั้น ข้าพเจ้าเหมือนถูกบีบแคบลงมา แล้วก็เหมือนกับว่าร่างที่นอนราบของข้าพเจ้ากำลังลอยขึ้นมา และเมื่อลอยขึ้นมาแล้วข้าพเจ้าได้กำหนดให้หมุน 1 รอบ และพอหมุนเสร็จแล้ว ก็บอกให้ลอยไปในอากาศ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตัวเองลอยไปจนติดเพดานห้องในท่ายืน ในขณะนั้นรู้สึกว่ารอบตัวเป็นกลางคืน แต่แปลกที่ข้าพเจ้าสามารถมองเห็นทุกสิ่งในห้องได้หมด แล้วข้าพเจ้าก็ลอยไปเรื่อยจนถึงประตูห้อง และตอนนั้นข้าพเจ้าก็รู้สึกว่ามันสุดทางแล้วและก็ได้บอกตัวเองให้ลอยกลับมาที่เตียงแล้วพอถึงเตียงก็กลับสู่ท่านอนปกติ และพอนอนอยู่กับที่แล้วข้าพเจ้าก็มองเห็นรอบห้องหมด รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับตื่นขึ้นมาแล้ว แต่แปลก แขนขาขยับตัวไม่ได้ แล้วพอลองตั้งสติได้ ข้าพเจ้า ก็รู้สึกว่าตนเองได้ลืมตาขึ้นมาและก็ขยับแขนขาได้แล้วตอนนี้ พอตื้นขึ้นมาข้าพเจ้าก็มาทบทวนด้วยความมึนงงกับตัวเองว่า เมื่อกี้นี้ข้าพเจ้าถอดจิตไปเหรอ...หรือว่าตนเองฝันไปกันแน่ ชักไม่แน่ใจ เพราะว่าฝันทำไมมันรู้สึกเหมือนจริง เห็นอะไรชัดเจนมากและก็รู้สึกเหมือนตัวเองลอยได้จริงๆๆ หากท่านใดเคยถอดจิตได้ หรือมีความเห็นอย่างใดช่วยบอกกันด้วยครับ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,427
    ค่าพลัง:
    +35,048
    เป็นอย่างที่คิดนั่นหละครับ..ทายว่าสภาพแวดล้อมต่างๆเหมือนเดิมแต่สีออกเขียวๆเหมือนมองผ่านกล้าองส่องตอนกลางคืน..นั้นเพราะกำลังสมาธิเราเองและคุณก็มีสติทางธรรมพอควรและยังสามารถรักษาอารมย์ได้นานด้วย..ทำได้แบบนี้บ่อยๆก็ไม่เป็นไรครับ..แต่ไม่ได้เพิ่มกำลังสมาธินะครับ.ถ้าจะเพิ่ม.ถ้าถึงจุดนี้อีก..พอสตินึกได้ให้เพิกกลับมาทำสมาธิต่อก็จะไปได้อีกขั้น..ทำไปเรื่อยๆจนสภาพแวดล้อมเป็นปกติ..แต่ว่าเหมือนตอนกลางวัน..นั้นหละจะบอกเป็นตัวชี้วัดความสะอาดของจิตด้วยครับ..ช่วงนี้ระวังแค่เรื่องความอยากที่จะกลับไปสู่จุดนั้นอีกนะครับ..ต้องเฉยๆไม่สนใจเพราะจิตจะเครียดได้..
    อนุโมทนาสาธุครับ..
     
  3. The-matrix

    The-matrix Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +79
    ขอบพระคุณมากครับ จะปฏิบัติตามคำแนะนำครับ
     
  4. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    255
    ค่าพลัง:
    +2,693
    เป็นฤทธิ์ทางใจ หรือมโนมยิทธิครับท่านเจ้าของกระทู้...ผมก็เคยมีอาการคล้ายอย่างนั้นเหมือนกัน ควรทำให้คล่องๆโดยการรักษาอารมณ์ใจเบาๆอย่างนั้นไว้ให้ได้ตลอดทั้งวัน โดยการงดดูทีวี เข้าเน็ทฯ หรือการพูดคุยกับบุคคลที่ไม่สัปปายะ

    เพื่อตั้งหลักให้แน่นๆ ที่สำคัญก็คือ อย่าดีใจหรือเสียใจหากสภาวะแบบเดิมไม่ปรากฎขึ้นอีก ต้องทำความพอใจเสมอๆในการเจริญกรรมฐานทุกครั้ง และควรเจริญวิปัสสนาภาวนาควบคู่ไปด้วย เพื่อความปล่อยวางในตัวตน จิตจะพัฒนาไปสู่ความละเอียดมากยิ่งขึ้น และจะไม่เสื่อมถอยนะครับ

    อ้อ!...เพิ่มอีกนิดคือ หากจับอารมณ์กรรมฐานตอนตื่นเช้าอีกช่วงหนึ่งได้ก็จะดีมาก(ไม่ต้องใช้เวลานาน) จิตจะได้ทรงตัวไปตลอดทั้งวันครับ

    ------------------------

    ผมขอนำเอาหลักพื้นฐานที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ ที่ได้จากพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีฯมาฝากมีดังนี้,

    การเข้าถึงสะเก็ดความดี
    ๑. ไม่สนใจจริยาบุคลลอื่น
    ๒. ไม่โอ้อวด
    ๓. ไม่ยกตนข่มท่าน
    ๔. ไม่ถือตนเกินไป

    การเข้าถึงเปลือกความดี
    ๑. รักษาศีล+กรรมบทสิบให้บริสุทธิ์คือ
    ๑.๑ ไม่ละเมิดด้วยตนเอง
    ๑.๒ ไม่ยุยงให้ผู้อื่นละเมิด
    ๑.๓ ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิด
    ๒. ตัดความกังวลใจทั้งหมด
    ๓. พร้อมระงับนิวรณ์ห้าได้โดยพลัน
    ๔. มีพรหมวิหารสี่เป็นปรกติ
    ๕. พยายามทรงภาพพระแก้วใส หรือภาพกสินให้ชัดทุกขณะที่ว่าง (ทำให้ชินและคล่อง)

    การเข้าถึงกระพี้ความดี
    ๑. เจริญปุพเพนิวาสานุสติญาณ (ระลึกชาติ)

    การเข้าถึงแก่นความดี
    ๑. เจริญจุตูปปาตญาณ-ทิพยจักษุญาณ
    ๒. ระลึกถึงมรณานุสติไว้เป็นปรกติ (ระลึกถึงความตาย)
    ๓. ระลึกถึงอุปสมานุสติ (ตั้งใจไปพระนิพพานไว้โดยเฉพาะ)

    ส่วนครูบาอาจารย์ของผมในสายอยุธยา ท่านเน้นพื้นฐานมาก เช่นให้หมั่นสวดมนต์มากๆ และทำทุกอย่างให้ใช้ใจสบาย (ไม่เน้นตึงที่กาย) เพราะใจที่สบายนั้นมีอานุภาพมาก!!

    ผมขอโมทนาและขอบารมีองค์พระรัตนตรัยคุ้มครองท่านเจ้าของกระทู้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2012
  5. The-matrix

    The-matrix Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +79
    ขอบคุณมากครับ คุณ ปาริสัชชา มีเรื่องแปลกอีกเรื่องนึงที่ข้าพเจ้ายังไม่ได้เล่าให้ฟัง คือ ข้าพเจ้าเคยไปลองฝึก มโนมยิทธิ มาครั้งนึง ที่สถานที่แห่งหนึ่ง ใน กทม. ข้าพเจ้ารู้สึกว่าการฝึกมโนมยิทธิ ไม่สามารถทำให้ข้าพเจ้า เกิดปัญญาในการทำสมาธิได้แต่อย่างใด คงเพราะไม่ถูกกับจริตของข้าพเจ้า และข้าพเจ้ายังมีความเคลือบแคลง สงสัยอยู่เป็นอันมากก็เป็นได้ และผ่านมาอีกหลายปี วันนึง ข้าพเจ้าได้ฝันว่า ไปเดินเที่ยวอยู่ในป่า เป็นฝันที่มีความชัดเจน เห็นรายละเอียดต่างๆมาก และก็ได้ขึ้นไปบนภูเขาสูง แล้วทันใดนั้นข้าพเจ้าก็ได้พบกับ หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ ใบหน้าท่านดูอิ่มเอิบมีรอยยิ้ม รับรู้ได้ถึงความเมตตาปราณีเป็นอย่างมาก หลวงพ่อได้ให้ข้าพเจ้าเป็นศิษกับท่าน และข้าพเจ้าได้ก้มลงกราบตรงพระบาทของท่าน และก็ได้ขอขมาท่านในสิ่งต่างๆที่อาจจะได้เคยปรมาสท่านไป และเมื่อหลวงปู่ท่านรับข้าพเจ้าเป็นศิษย์แล้ว หลังจากนั้นหลวงปู่ก็ได้เดินไป และข้าพเจ้าก็เดินตามหลวงปู่ไปด้วย และภาพก็ตัดมาที่ข้าพเจ้ากำลังขึ้นเรือลำนึงแล้วก็เดินทางไปใหนไม่ทราบ และก็ได้ลุกขึ้นตื่นขึ้นมา และวันนั้นก็เกิดปิติสดใสไปทั้งวันเลยที่เดียว และจนวันนี้ข้าพเจ้าก็ได้เข้าใจแล้วว่า กรรมฐานทุกสาย สามารถทำให้เราหลุดพ้นได้หมดและสำคัญที่การมี "สติ"
     
  6. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    255
    ค่าพลัง:
    +2,693
    โมทนาด้วยครับที่ได้เป็นศิษย์หลวงพ่อผู้เป็นเลิศ...คุณคงเคยเป็นลูกหลานท่านมาในอดีตก็ได้นะครับ ท่านนำวิชชามโนมยิทธิแบบนี้มาสอน สำหรับคนที่เคยได้อภิญญามาแล้วในอดีตชาติจึงทำได้ง่าย ส่วนคนที่ไม่เคยได้อภิญญามาก่อนในอดีตชาติ ต้องไปเริ่มที่กรรมฐานอื่นเช่น กสินครับ

    ดังนั้นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณนี้เป็นของเก่าของคุณที่อาจเคยได้อภิญญามาแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ปรากฏกับคุณแล้วนี้ต้องงดการสงสัย ควรรักษาอารมณ์อย่างนั้นให้ดี และทำต่อไปให้คล่องดังที่ผมกล่าวไปแล้วนะครับ

    อ้อ!..แล้วที่คุณฝันหรือนิมิตถึงหลวงพ่อฯ และก็ได้ลงเรือออกเดินทางนั้นถ้าจะแปลความหมายก็น่าจะเป็นว่า คุณกำลังเดินทางไปสู่ความสำเร็จ หรือจะข้ามฝั่งไปสู่โลกุตระก็ว่าได้นะครับ
     
  7. The-matrix

    The-matrix Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +79
    ขอบคุณอีกครั้งครับคุณ ปาริสัชชา ถ้าเป็นอย่างงั้นก็คงเป็นเรื่องที่น่ายินดี และข้าพเจ้าก็คงดำเนินมาถูกทางแล้วนะครับ
     
  8. The-matrix

    The-matrix Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +79
    ขอให้ผลดีจงบังเกิดกับทุกท่านเช่นกันครับ
     
  9. Ga_t

    Ga_t เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +867
    ขอ อนุโมทนา สาธุ ในบุญในกุศลของทุกๆท่านและ เจ้ากระทู้ด้วยครับ
     
  10. wisarn

    wisarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    741
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,505
  11. ไม่ใช่ตัวตน

    ไม่ใช่ตัวตน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2018
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +175
    ถ้าเจริญปัญญา

    รู้ทุกข์อริยสัจ

    เราไม่ต้องอาศัยสภาวะใดๆ ในการประคับประคอง ไม่รักษา

    แล้วจะเบื่อไปเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...