ข้อความจากต่างมิติ - ตัวตนหลากมิติของเรา & คุณลักษณะของ Light worker (โดย Kryon)

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


ข้อความนี้เป็นของครายออนนะครับ และอันที่จริงแล้วก็มีชื่อตอนว่า

"Attributes of the Match Bearer"

ซึ่งผมก็แปลเป็นไทยตรงๆว่า "คุณลักษณะของผู้ที่ถือไม้ขีดไฟ"
แต่ครั้นจะเอาชื่อนี้มาเป็นชื่อกระทู้ ก็กลัวว่าผู้อ่านจะนึกไม่ออก
ว่าเนื้อหาข้างในน่าจะเกี่ยวกับอะไร ก็เลยตั้งชื่อกระทู้เอาเองตามใจชอบหนะครับ

เนื้อหาของกระทู้นี้ เหมาะกับผู้ที่คิดว่าตัวเองเป็น Star seed
หรือเป็น Light worker หรือ เป็นผู้ที่มาจากต่างมิติทั้งหลาย
เพื่อมาทำภาระกิจบางอย่าง เพื่อช่วยโลก ในช่วงเวลาสำคัญนี้
..อะไรแบบนั้นหนะนะครับ..

แต่อย่างไรก็ตามอย่างที่ผมจะบอกเอาไว้ก่อนเสมอว่า
ให้ใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลเอาเองนะครับ
ว่าท่านควรจะเชื่อหรือไม่ อย่างไร มากน้อยแค่ไหน
รวมถึงท่านจะได้รับประโยชน์จากการอ่านกระทู้นี้หรือไม่ อย่างไร
ก็แล้วแต่ท่านนะครับ..ผมแค่นำสาสน์มาส่งให้ท่านอ่านเท่านั้นเอง
หาใช่เจ้าของข้อมูลไม่...

ด้วยความปราถนาดีครับ

................................................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

ผมแปลเป็นผู้ถือคบเพลิงอ่ะ -_-"

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)

วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California

ที่มา:

Attributes of the Match Bearer > Kryon

ตอนที่ 1


สวัสดีที่รักทั้งหลาย ฉันคือครายออนแห่งหน่วยบริการแม่เหล็ก
ตอนนี้มีจิตวิญญาณเก่าแก่กลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าฉันเหมือนอย่างเคย
พวกเขาแต่ละคนต่างก็มีคุณลักษณะทางด้านจิตวิญญาณและทางโลกเฉพาะตัว
มันคือความเป็นทวิภาวะที่มีความเหมาะสม และมันคือการบรรยายของปีที่พวกคุณกำลังอยู่นี้ นั่นก็คือปี 2011

หากพวกคุณนำเอาตัวเลข 2011 นี้มาพิจารณา อย่างที่พวกเราได้เคยพูดถึงไปแล้วก่อนหน้านี้
พวกคุณก็จะได้พลังงานของเลข 2 และเลข 11

เลข 2 หมายถึง “ความเป็นทวิภาวะ” ส่วนเลข 11 หมายถึง “การส่องสว่าง”
พวกคุณอาจจะพูดได้ว่า..
“ปี 2011 เป็นปีแห่งการส่องสว่างของความเป็นทวิภาวะ”

และเมื่อพวกคุณบวกมันเข้าด้วยกัน พวกคุณก็จะได้เท่ากับ 4
ซึ่งเลข 4 หมายถึง “โครงสร้าง” และ “ไกอา”
(ไกอา คือจิตวิญญาณของดาวเคราะห์โลก – ผู้แปล)

ดังนั้น ปีนี้จึงเป็นปีแห่งบทเรียนครั้งใหญ่
ซึ่งจะเกิดขึ้นกับทั้งในระดับส่วนรวม และในระดับส่วนบุคคล

เหตุผลทั้งหมดของการที่ต้องมีบทเรียนเหล่านี้ก็คือ “เพื่อพัฒนาความเมตตากรุณา”
ซึ่งถ้าโลกทั้งโลกมีความเมตตากรุณามากขึ้นกว่านี้ ระดับความสั่นสะเทือนด้านจิตวิญญาณของโลก
ก็จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย และนั่นแหละคือเป้าหมาย ดังนั้น จิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายที่อยู่ในห้องนี้
จึงมีเป้าหมายสำหรับการมาอยู่ที่นี่ (บนโลกใบนี้-ผู้แปล) ด้วยกันทั้งสิ้น

เพราะว่าการมาอยู่ที่นี่ มันไม่ใช่การแค่มามีตัวตนอยู่เฉยๆเท่านั้น
และมันก็ไม่ใช่การมาเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆเท่านั้น

ซึ่งนั่นแหละคือสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดถึงหละ


(ปล.ข้อความก่อนหน้านี้ที่ครายออนพูดถึงปี 2011 ท่านสามารถเข้าไปอ่านได้
ในกระทู้ที่ผมแปะลิงค์ไว้ให้ข้างล่างนี้นะครับ - ผูแปล)

"ข้อความจากต่างมิติ-เกี่ยวกับปี-2011-เลข-11-11-และ-dna-ทั้ง-12-ชั้น"

http://palungjit.org/threads/ข้อความจากต่างมิติ-เกี่ยวกับเลข-11-11-และ-dna-ทั้ง-12-ชั้น.299202/

.............................................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)

วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California

ที่มา:

Attributes of the Match Bearer > Kryon

ตอนที่ 2 : ศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย (Potentials)

ฉันกำลังจะพูดถึงข้ออุปมาข้อหนึ่งที่พวกเราเคยพูดถึงกันไปแล้วอยู่บ่อยๆ
แต่ครั้งนี้ที่เราจะพูดถึงมันอีกครั้งหนึ่ง ก็เพราะว่ามันมีความหมายพิเศษบางอย่างอยู่

สำหรับข้อความสื่อสารชุดนี้ ฉันมีชื่อตอนให้มันแล้ว แม้ว่าโดยปกติแล้ว
พวกเราจะไม่ตั้งชื่อตอนให้กับข้อความสื่อสารชุดใดเอาไว้ก่อน เพราะฉันจะปล่อยให้ผู้ร่วมงานของฉัน
(นาย Lee) ไปตั้งชื่อเอาเองภายหลัง แต่ครั้งนี้ฉันจะตั้งชื่อให้มันเองว่า
“คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ” (The Attributes of the Match Bearer)

ซึ่งในที่นี้ก็คือบรรดาผู้ที่กำลังนั่งอยู่ต่อหน้าฉัน ณ.ที่นี้ และผู้ที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ในตอนนี้นั่นเอง

มันมีอยู่สองเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการมาที่โลกใบนี้ของพวกคุณ มันมีคำถามอยู่สองชุด
ที่พวกคุณกำลังแบกเอาไว้อยู่ ในขณะที่กำลังนั้งอยู่ที่นี่

คำถามชุดแรกก็คือคำถามเกี่ยวกับตัวคุณเอง อย่างที่มันควรจะเป็น พวกคุณมีคำถามว่า

“ฉันจะไปจากจุด A ไปถึงจุด B ได้อย่างไร
และฉันจะสามารถเก่งขึ้นในเรื่องที่ฉันมาที่นี่เพื่อมาทำมันได้อย่างไร?
และฉันจะมีชีวิตที่ยืนยาวได้อย่างไร?”

พวกคุณอาจจะถามว่า..

“ฉันจะสามารถกำจัดบทละครในชีวิตของฉันให้หมดไปได้อย่างไร?”
ฉันจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้อย่างไร?”

ส่วนคำถามชุดที่สองก็คือ..

“ฉันกำลังทำอะไรเพื่อโลกใบนี้อยู่หรือเปล่า?”

ซึ่งคำถามเหล่านี้ไม่ใช่อะไรที่จะมาเป็นคู่กันจริงๆ เพราะว่าคำถามชุดที่สอง
ต้องการพลังงานของฝูงชนที่เป็นจิตวิญญาณเก่าแก่ ผู้ที่ต้องการจะรู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะมีชีวิตที่ยืนยาว
เพื่อทำภาระกิจของพวกเขาเองบนโลกใบนี้ได้

ถ้าคุณได้มีโอกาสสัมภาษณ์ใครสักคนที่กำลังนั่งอยู่ในห้องนี้
พวกเขาก็อาจจะมีคำตอบที่แตกต่างกันไป ว่างานที่พวกเขากำลังทำอยู่คืออะไร
แต่ว่าพวกเขาก็คงจะไม่ได้มาอยู่ที่นี่ ถ้าพวกเขาไม่ได้ถามคำถามชุดที่สองก่อนแล้ว

ดังนั้น พวกเรากำลังจะอธิบายแบบค่อนข้างกว้างๆทั่วๆไป แต่ก็จะค่อนข้างจำเพาะเจาะจงด้วย
จิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายเอ๋ย พวกเรากำลังจะบอกเหตุผลที่พวกคุณมาอยู่ที่นี่ให้พวกคุณฟัง
ซึ่งเป็นเหตุผลที่พวกคุณไม่ค่อยได้คิดถึงสักเท่าไหร่นัก ว่าตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้

เหตุผลที่พวกคุณมาที่นี่ก็เพื่อที่จะมา

“จุดประกายแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด”

พวกคุณไม่ได้มาอยู่ที่นี่เพื่อมาพยายามชักชวนให้คนอื่นๆเปลี่ยนมานับถือศาสนาที่พวกคุณนับถืออยู่
หรือเพื่อมาเปลี่ยนแปลงความเชื่อของมนุษย์โลกคนอื่นๆให้หันมาเชื่อตามความเชื่อของพวกคุณเอง

เพราะว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ความเชื่อ
แต่ปัญหามันอยู่ที่ระดับความสั่นสะเทือนของโลกทั้งโลก
และมันจะเปลี่ยนแปลงไปได้ก็ด้วยจิตสำนักที่บริสุทธิ์เท่านั้น

มันไม่ได้เป็นแบบที่พวกคุณเชื่อ มันขึ้นอยู่กับการ “เป็น” ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับการ “กระทำ”
มันคือการเป็นแสงสว่าง เพราะว่าเมื่อพวกคุณเดินไปไหนต่อไหนพร้อมด้วยแสงสว่างที่พวกคุณมีแล้ว
พวกคุณก็จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นความมืดไปด้วย

พวกคุณอาจจะพูดว่า พวกคุณได้นำพาพลังงานใหม่มาแทนที่พลังงานเก่าก็ว่าได้
และนั่นแหละที่กำลังเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณ
นั่นแหละคือวัตถุประสงค์ทั้งหมดทั้งมวลของพวกคุณ

ดังนั้น เดี๋ยวอีกสักครู่พวกเราจะมาลงในรายละเอียดเรื่องนี้กัน พวกเราจะเริ่มจากภาพรวมใหญ่ก่อน
แล้วค่อยลงไปหารายละเอียดปลีกย่อย และสิ่งแรกที่จะเริ่มก็คือข้ออุปมานี้ แม้ก่อนที่ฉันจะเริ่มสอนก็ตาม

อีกครั้งหนึ่ง ที่รักทั้งหลาย สำหรับผู้ที่กำลังอยู่ในห้องนี้
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กำลังอ่านอยู่ในขณะนี้ ฉันเห็นพวกคุณทุกคน


คุณสมบัติอย่างหนึ่งของพระเจ้าก็คือการไร้กาลเวลา ดังนั้น หากว่าคุณกำลังฟังอยู่ในตอนนี้
ในขณะที่กำลังบันทึกเสียงอยู่นี้ หรือว่ากำลังอ่านข้อความนี้อยู่ ณ.ที่แห่งไหนก็ตาม
มันก็คือ “เดี๋ยวนี้” เช่นเดียวกัน

นั่นแหละคือแบบที่กาลเวลาปรากฎแก่ฉันหละ แต่สำหรับผู้ที่กำลังนั่งอยู่ต่อหน้าฉันในขณะนี้แล้ว
กาลเวลามันไม่ได้เป็นแบบนั้นด้วย เพราะว่าจิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลาย ที่กำลังนั่งอยู่ต่อหน้าฉันในขณะนี้
พวกเขากำลังอยู่ในมิติที่ 3 และกำลังอยู่ในกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรง

ดังนั้น มันจึงวิกฤติสำหรับพวกเขามาก ที่จะต้องมีชีวิตอยู่อย่างถูกจำกัดขอบเขตการรับรู้แบบนี้

แต่ว่านั่นไม่ใช่สำหรับฉัน ดังนั้น ความเป็นไปได้อันหลากหลาย ที่หูของพวกคุณจะได้ยินข้อความนี้
จึงเป็นที่รับรู้ก่อนล่วงหน้าแล้วสำหรับฉัน ในฐานะที่เป็นอะไรบางอย่างที่พวกคุณอาจจะทำ

ฉันรู้ว่าพวกคุณอยู่ที่นี่ ฉันรู้ว่าพวกคุณกำลังฟังอยู่และกำลังอ่านอยู่
เรื่องนี้มันอาจจะยากที่พวกคุณจะเข้าใจได้ เพราะว่าพวกคุณอาจจะพูดว่า
“แม้แต่พระเจ้ายังไม่สามารถบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เลย
แล้วครายออน คุณจะรู้ก่อนล่วงหน้าได้อย่างไร ว่าฉันจะมาฟังหรือมาอ่านข้อความนี้?”

คำตอบมันง่ายนิดเดียวเอง เพราะว่าศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ (potential)
ของสิ่งที่พวกคุณจะกระทำมันเข้มข้นรุนแรงมากๆ
เพราะฉะนั้น ฉันจึงรู้ว่าพวกคุณจะต้องทำมันแน่ๆ

ฉันกำลังนั่งอยู่ต่อหน้ากลุ่มผู้ฟังที่มีอยู่ประมาณ 100 คน และฉันก็รู้ก่อนล่วงหน้าแล้วว่า
พวกเขาแต่ละคน ได้ตัดสินใจว่าจะมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่

ฉันรู้จากศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย (potentials) ของพวกเขา
ที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับการชุมนุมในครั้งนี้ และฉันก็รู้แม้กระทั่งว่า ใครบ้างที่เพิ่งมารู้เมื่อวานนี้เองด้วย

ฉันรู้มาก่อนแล้ว เพราะว่าพลังงานของศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย
มันอยู่ในควอนตั้มซุป (Quantum soup) ที่ฉันเคยกล่าวถึงไปแล้วบ่อยๆ

มันไม่ใช่อนาคต แต่มันคือ “ศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย” (potentials)

และนี่แหละที่ทำให้พวกเราสามารถนำ “คณะผู้คอยให้ความช่วยเหลือพวกคุณ” (entourage)
มารอคอยพวกคุณที่นี่ก่อนล่วงหน้าได้ และมันยังทำให้พวกเราสามารถ
กำหนดหัวข้อของการสื่อสารในครั้งนี้ได้อีกด้วย พวกเรารอคอยให้พวกคุณมาถึง
แล้วมานั่งลงตรงหน้าพวกเรา ที่รักทั้งหลาย พวกเรารู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าจริงๆ ว่า
พวกเรากำลังจะพูดถึงเรื่องอะไร และพวกเรากำลังจะทำอะไร ดังนั้น ฉันจึงรู้จักพวกคุณ
และขอขอบคุณพวกคุณที่มาที่นี่ นี่คือช่วงเวลาของพวกคุณบนโลกใบนี้

........................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)

วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California

ที่มา:

Attributes of the Match Bearer > Kryon

ตอนที่ 3


อุปมาดั่งแสงสว่างและความมืด


เดี๋ยวเรามาเริ่มการเรียนการสอนกันเลยดีกว่า ข้ออุปมานี้ถูกยกขึ้นมาอธิบายครั้งแล้วครั้งเล่า

ให้จินตนาการดูว่ามีห้องอยู่ห้องหนึ่ง ที่เนืองแน่นไปด้วยสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า “มนุษย์”
ที่กำลังพากันเดินไปเดินมาท่ามกลางความมืดมิดของห้องนั้นอยู่ อุปมาข้อนี้
หมายถึงความมืดมิดด้านจิตวิญญาณหนะนะ

มนุษย์เหล่านั้นไม่มีใครรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร หรือว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
พวกเขาไม่รู้เลยว่าพวกเขาล้วนเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานแห่งการสร้างสรรค์ของพระเจ้า
พวกเขาจะพากันทำตามแต่สิ่งที่ถูกสอนมา และทำตามแต่หลักการ, ปรัชญา
หรือคำสอนทางศาสนาที่พวกเขาถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เล็กเท่านั้น

พวกเขาพากันค้นหาพระเจ้าในทุกๆที่ๆพวกเขาทำได้ ซึ่งบางคนก็ได้พบพระเจ้าแบบละเอียดอ่อนลึกซึ้ง
แต่บางคนก็ไม่ ส่วนอีกหลายๆคนก็ทำตามแต่พิธีการเท่านั้น
และไม่เคยเข้าใจอะไรที่นอกเหนือจากพิธีการเหล่านั้นเลย

และดูเหมือนว่า เมื่ออยู่ในความมืดมิดแบบนั้น พวกเขาจะเดินชนกันเองอยู่บ่อยๆ
บางคนเมื่อเดินไปชนคนอื่นแล้ว ก็โกรธขึ้นมา แล้วสงครามก็บังเกิดขึ้น
นั่นแหละคือสิ่งที่เกิดขึ้นในความมืดมิด ที่พวกคุณไม่สามารถมองเห็นได้ว่าอะไรเป็นอะไร
นอกเหนือจากที่รู้แต่สิ่งที่เกี่ยวกับตัวเองเท่านั้น

เพราะฉะนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เสมอๆก็เลยไม่เกี่ยวข้องกับพวกคุณ และก็เลยกลายเป็นเรื่องลึกลับไป
เพราะเหตุนี้ มันจึงมีบทโศกเกิดขึ้น
เพราะเหตุนี้ มันจึงมีทฤษีสมรู้ร่วมคิด และความไม่ไว้วางใจกันเกิดขึ้น
เพราะเหตุที่อยู่ในความมืดมิดจึงพากันก่อสงครามขึ้น
เพราะเหตุที่อยู่ในความมืดมิดจึงพากันแบ่งแยกเราเขา และก่อเกิดความเกลียดชังกันขึ้น
เพราะเหตุที่อยู่ในความมืดมิดจึงพากันหวาดกลัว และวิตกกังวล


จากนั้น เมื่อข้ออุปมานี้ดำเนินมาถึงตอนนี้ สมมุติว่ามีมนุษย์คนหนึ่ง ที่กำลังอยู่ในความมืดมิดนั้น
รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ซึ่งพวกคุณอาจจะเปรียบเทียบคุณสมบัติของคนผู้นี้ว่า เปรียบเสมือน “ผู้ที่มีไม้ขีดไฟ” ก็ได้

เพราะว่าคนผู้นี้มีความสามารถที่จะก่อให้เกิดแสงสว่างได้ เพราะว่าเขามีไม้ขีดไฟก้านเล็กๆอยู่ก้านหนึ่ง



(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ในห้องที่มืดสนิทแบบนี้ การจุดไม้ขีดไฟขึ้นจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก
เพราะว่ามันจะทำให้เกิดแสงสว่างเพียงพอที่จะทำให้ทุกๆคนในห้องนั้นมองเห็นได้แบบสลัวๆ

ดังนั้น ผู้ที่มีไม้ขีดไฟคนนั้นจึงตัดสินใจที่จะจุดไฟขึ้นมา ท่ามกลางห้องที่มืดมิดนั้น

เหตุผลคืออะไรหนะหรือ? ก็เพื่อที่จะศึกษาความเป็นจิตวิญญาณของตัวเอง,
เพื่อศึกษาคุณค่าของตนเอง และเพื่อที่จะมองเห็นตัวเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ดังนั้น พวกเขาจึงจุดไม้ขีดไฟขึ้นมาเพื่อตัวพวกเขาเอง
เพื่อที่จะให้ตัวเองเอื้อมมือไปจับมือกับตัวตนที่สูงส่งกว่าของตัวเองได้ (Higher-Self)
และเพื่อที่จะค้นให้พบว่าตนเองเป็นใคร

เพราะเหตุนี้ พวกเขาจึงจุดไม้ขีดไฟของตนเองขึ้นมา และในกระบวนการของการจุดไม้ขีดไฟนี้
มันก็ได้ทำให้ส่วนอื่นๆของห้องนั้นสว่างขึ้นด้วย (แต่สลัวมากๆ) และในทันใดนั้น
มนุษย์คนอื่นๆก็สามารถมองเห็นซึ่งกันและกันได้ด้วย และพวกเขาก็ชอบด้วยที่ได้มองเห็นแบบนี้

เพราะว่าพวกเขาสามารถมองเห็นครอบครัวของตนเองได้ และความหวาดกลัวก็เริ่มจางหายไป
และเพราะว่าตอนนี้มีความเข้าใจแล้วว่าอะไรอยู่ข้างๆตัวเอง จึงทำให้เกิดความเข้าใจ และความสงบขึ้น
ความคลางแคลงใจก็ลดน้อยลง

ตอนนี้บางคนก็เริ่มมองหาแล้วว่าแสงสว่างนี้มาจากที่ไหน แต่อีกหลายๆคนก็ไม่

ลักษณะของแสงสว่างจากผู้ถือไม้ขีดไฟคนนั้น ก็คล้ายๆกับประภาคารที่ตั้งอยู่ริมทะเลนั่นแหละ
ซึ่งพวกเราได้เคยพูดถึงไปแล้วก่อนหน้านี้ ประภาคารที่ว่านั้นตั้งอยู่เพียงลำพัง
ยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวของมันเอง มันส่องแสงสว่างออกไป ที่ใครอาจจะมองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ได้
ซึ่งสามารถนำทางพวกเขาให้เข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัยได้ ตามความสมัครใจของพวกเขาเอง
เพราะว่าพวกเขาต่างก็มี “หางเสือแห่งทางเลือกอิสระ” อยู่บน “เรือแห่งชีวิต” ของพวกเขาเองด้วยกันทุกคน

ผู้ถือไม้ขีดไฟก็เช่นเดียวกัน เขาจะนั่งอยู่กับไม้ขีดไฟของเขา ส่องแสงสว่างเพื่อตัวเขาเอง
แต่ก็ส่งผลกระทบในด้านบวกต่อผู้คนที่อยู่รอบๆตัวพวกเขาด้วย

ผู้ถือไม้ขีดไฟจะไม่พูดอะไรเลย และผู้คนที่อยู่รอบๆตัวเขา ก็อาจจะไม่รู้จักชื่อของเขาหรือเธอเลยด้วยซ้ำ
ผู้คนเหล่านั้นอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าเขา/เธอคนนั้นได้จุดไม้ขีดไฟขึ้นแล้ว!

ที่พวกเขารู้ทั้งหมดก็คือตอนนี้พวกเขาสามารถมองเห็นแล้ว!
คนบางคนอาจจะเริ่มค้นหาไม้ขีดไฟในตัวเองบ้างแล้ว
แล้วพวกเขาก็ค่อยๆทะยอยกันจุดไม้ขีดไฟของตนเองขึ้นมาช้าๆ
แล้วห้องนั้นก็ค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อยๆ

ยิ่งห้องนั้นมีความสว่างมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้มากขึ้นเท่านั้นด้วย
และความลึกลับก็จะลดน้อยลงเท่านั้นด้วย

และยิ่งมนุษย์สามารถมองเห็นตัวเอง และครอบครัวของตัวเองได้มากเท่าไหร่
ความเข้าใจ และความสงบสุขก็จะมีมากขึ้นเท่านั้นด้วย
นี่แหละคือลักษณะของดาวเคราะห์โลกที่พวกเรากำลังมองเห็นอยู่ในขณะนี้
พวกเราได้เคยบอกไปแล้วหลายต่อหลายครั้งว่า
ขอเพียงแค่ไม่ถึง 0.5% ของจำนวนประชากรโลกทั้งหมด
ที่จุดไม้ขีดไฟขึ้นมาเท่านั้น ก็จะทำให้เกิดสันติสุขขึ้นมาบนโลกได้แล้ว

ตอนนี้พวกคุณก็รู้เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของมันแล้วใช่ไหม ซึ่งมันหมายความว่า
สามารถปล่อยให้มีจำนวนชาวโลกมากมาย ทั่วทุกมุมโลก ที่ไม่เคยจุดไม้ขีดไฟของตัวเองขึ้นมาเลย
ที่ไม่เคยเชื่ออะไรอย่างที่พวกคุณเชื่อเลย แต่พวกเขาก็ยังสามารถมีส่วนร่วมด้วยได้
เพราะว่าพวกเขาจะมีส่วนร่วมโดยอาศัยแสงสว่างของพวกคุณ

เรื่องนี้มันอาจจะยากต่อความเข้าใจของพวกคุณ ว่าเพียงไม้ขีดไฟก้านเล็กๆแค่นี้
มันจะสามารถทำให้เกิดความแตกต่างขึ้นได้อย่างไร แต่มันทำได้ ดังนั้นในห้องนี้

ผู้ที่กำลังฟังฉันพูดอยู่ในตอนนี้
และผู้ที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ในตอนนี้
พวกคุณคือ “ผู้ถือไม้ขีดไฟ”

ฉันรู้ได้ยังไงหนะหรือ? ก็เพราะว่าฉันรู้จักพวกคุณหนะสิ

โอ..มนุษย์โลกเอ๋ย ในห้องนี้มีนักรบอยู่มากมาย มีเรื่องราวมากมายที่อาจจะทำให้พวกคุณขนหัวลุกเลยหละ
ทั้งเรื่องราวบู้ล้างผลาญแบบพระเอกๆ และเรื่องราวแห่งความสุข

มันมีเรื่องราวอันน่าเศร้าสลดอย่างไม่น่าเชื่ออยู่ด้วย
มันมีเรื่องราวของความซาบซึ้งใจอยู่ด้วย

ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกคุณนึกออกว่า มันได้เคยเกิดขึ้นกับมนุษย์คนใดคนหนึ่งแล้วบนโลกใบนี้ อยู่ที่นี่หมดแล้ว
บทละครที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบางบท ที่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้แล้ว พวกคุณก็เคยได้ร่วมแสดงแล้ว
บทบู้ล้างผลาญสุดๆแบบพระเอกๆบางบท ที่มนุษย์คนหนึ่งจะสามารถทำกับคนอื่นๆได้ พวกคุณก็เคยแสดงมาแล้ว
บทบาทแห่งความทุกข์ทรมานแบบสุดๆบางบท ชนิดที่ว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นบนโลกนี้ได้เลย
พวกคุณก็เคยมีประสบการณ์มาแล้ว
บทบาทที่ต้องเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ที่เคยมีมาบนโลกใบนี้ ก็เกี่ยวข้องกับพวกคุณอีกนั่นแหละ

.........................................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)

วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California

ที่มา:

Attributes of the Match Bearer > Kryon

ตอนที่ 4 : ความหลากหลายของพลังงานของจิตวิญญาณเก่าแก่


ในห้องนี้มีผู้ชายหลายคนที่เคยคลอดลูกมาแล้ว! เพราะว่าในวันนี้เพศของพวกเขาเปลี่ยนไปแล้ว
แตกต่างจากในอดีตชาตินั่นเอง และมีผู้หญิงหลายคนที่เคยสวมเสื้อเกราะมาก่อน

เพราะว่าตอนนั้นเพศของพวกเขาแตกต่างจากที่เป็นอยู่ในตอนนี้
เพราะว่าจิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายกลับมาเกิดใหม่อีก พวกคุณรู้ไหม?

นี่คือบางสิ่งที่ฉันอยากจะบอกพวกคุณในตอนนี้ และฉันก็อยากให้พวกคุณรับฟังด้วย
เพราะว่ามันเป็นแนวความคิดที่พวกคุณไม่ค่อยคิดถึงกันบ่อยนัก

มนุษย์มักจะมีแนวโน้มที่จะอยู่กันเป็นครอบครัว เป็นเวลานานมากๆ หลายภพหลายชาติ
พวกเขาจะอยู่ในวัฒนธรรมใดวัฒนธรรมหนึ่งเป็นเวลานานมากๆด้วยเช่นกัน

โอ..แต่ว่าพวกคุณอาจจะย้ายไปอยู่ที่อื่นตอนที่พวกคุณเกิดได้
แต่ว่าสายเลือดของพวกคุณไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ใช่หรือไม่?
พวกคุณไม่สามารถเปลี่ยนที่ๆคุณจากมาได้ ไม่ว่าคุณจะย้ายไปอยู่ที่ไหนก็ตาม ใช่หรือไม่?

ในวันนี้ พวกคุณอาจจะนั่งอยู่บนเก้าอี้ ในอเมริกา แต่มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนสถานที่เกิดของพวกคุณได้
ดังนั้น สิ่งที่ฉันอยากจะพูดถึงก็คือ สิ่งที่อยู่นอกขอบเขตของมิติที่ 3 ซึ่งนั่นก็หมายความว่า
ความเป็นไปของสิ่งต่างๆ มันอยู่นอกเหนือความเข้าใจของพวกคุณ
หรือหมายความว่าเรื่องราวเกี่ยวกับบรรพบุรุษ, ญาติพี่น้อง และเชื้อสายเผ่าพันธุ์ของพวกคุณ
มันไม่ได้เป็นอย่างที่พวกคุณคิดว่ามันเป็น มันแตกต่างจากที่พวกคุณคิดและเข้าใจมาก

ดังนั้น ตอนนี้พวกเราจะมาพูดถึงเรื่องพ่อแม่ของพวกคุณ, ปู่ย่าตายายของพวกคุณ
และพ่อแม่ของพวกเขาด้วย พวกเราจะย้อนกลับไปเมื่อ 100 กว่าปีที่ผ่านมาหรือนานกว่านั้นกัน

.........................................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)

วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California

ที่มา:

Attributes of the Match Bearer > Kryon

ตอนที่ 5 : ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนระดับขึ้น (The Timing of the Shift)

ผู้ร่วมงานของฉัน (นาย Lee) เคยพูดไว้ว่าช่วงเวลาในทุกวันนี้เป็น “ช่วงเวลาแห่งแฟรกตัล” (Fractal time)
เขาเคยยกตัวอย่างไว้หลายตัวอย่าง เพื่ออธิบายว่ากาลเวลามีการหมุนเวียนเป็นวัฏจักรอย่างไร
ซึ่งผู้ที่อยู่ในมิติที่ 3 อย่างพวกคุณไม่อาจะเข้าใจได้ แต่นั่นแหละคือวิถีความเป็นไปของสิ่งต่างๆ
ที่อยู่ใน “โลกหลากมิติ” (เราจะใช้คำว่า “โลกแห่งควอนตั้ม” แทนความหมายนี้)

ซึ่งวงการวิทยาศาสตร์ของพวกคุณเอง ตอนนี้ก็เริ่มที่จะเข้าใจ และหันมาให้การยอมรับความเชื่อที่ว่า
กาลเวลาอาจจะมีลักษณะเป็นวัฏจักรที่ดีเลิศก็ได้แล้ว


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - fractal)

และหากว่าพวกคุณนำวัฏจักรของกาลเวลามาผ่าตามขวาง
พวกคุณก็จะพบว่ามันมีสิ่งที่เรียกว่าแฟรกตัล (fractals)
หรือวัฏจักรที่สามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้
ถึงผลกระทบที่อาจเป็นไปได้ ที่จะเกิดขึ้นบนวิถีปกติของมัน
ซึ่งศักยภาพแห่งความเป็นไปได้เหล่านี้เราสามารถคำนวณได้
และดังนั้น พวกมันจึงมีอยู่ที่นั่น แม้ว่าจะไม่มีใคร
ไปพยากรณ์อะไรเกี่ยวกับมันไว้เลยก็ตาม

ใครในที่นี้ก็หมายถึงผู้ที่มีปฏิทินเก่าแก่ทั้งหลายหนะนะ
ส่วนปฏิทินที่ว่านี้ก็คือปฏิทินที่สามารถสะท้อนถึงวัฏจักรของกาลเวลาได้

พวกเราเคยคุยกับพวกคุณไปแล้วว่าชาวมายา นอกจากพวกเขาจะมีความรู้ด้านดาราศาสตร์แล้ว
พวกเขายังมีหอสังเกตการณ์อยู่มากมายในระบบของพวกเขา และก็เหมือนกับชนเผ่าโบราณอื่นๆ
ที่พวกเขาจะใช้ญาณหยั่งรู้ของพวกเขา ในการพัฒนาระบบปฏิทินของพวกเขา
จนกลายมาเป็นสิ่งลึกลับ (ด้านจิตวิญญาณ) ที่ใช้สำหรับการศึกษาเรื่องแฟรกตัลของกาลเวลา
และใช้พยากรณ์ถึงศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย มาจนถึงทุกวันนี้

พวกเราเคยบอกพวกคุณไปแล้วว่า พวกคุณกำลังอยู่ในช่วง “คาบเวลา 36 ปี”
ที่กำลังมีปรากฎการณ์ procession of the equinoxes อยู่
(ปรากฎการณ์ที่ดูเหมือนว่าจักรวาลภายนอกเคลื่อนที่ย้อนกลับไป
ซึ่งในรอบ 72 ปี จะดูเหมือนว่าย้อนกลับไป 1 องศา – ผู้แปล)
และจุดศูนย์กลางของคาบเวลานี้ก็คือปี 2012

พวกเราได้บอกพวกคุณไปแล้วว่าช่วงคาบเวลา 36 ปีนี้
คือช่วงที่พวกคุณเรียกกันว่า
“พลังงานแห่งการเรียงตัวกันของกาแล็กซี่ ในปี 2012”
(the 2012 Galactic Alignment energy)

และอีกชื่อหนึ่งที่พวกคุณเรียกกันก็คือ
“การเปลี่ยนระดับครั้งใหญ่” (The Great Shift)

ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้จริงๆ ก็แสดงว่ามันสามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้ และก็มีผู้พยากรณ์เอาไว้แล้วมากมาย
และถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันก็หมายความว่า มันถูกคาดหมายได้
และศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย ของการคาดหมายนั้น ก็กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้

........................................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)

วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California

ที่มา:

Attributes of the Match Bearer > Kryon

ตอนที่ 6 : การประชุมกันของบรรพบุรุษของพวกคุณในโลกหลากมิติที่ไร้กาลเวลา


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ขอให้ฉันได้พาพวกคุณมายังอีกฟากฝั่งหนึ่งของม่านพรางซะหน่อยเถอะ ซึ่งที่นี่มันไม่มีกาลเวลา

อย่าลืมว่าที่ฟากฝั่งนี้ของฉันมันไม่มีกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรง
เหมือนกับที่มีอยู่ในมิติที่ 3 นี้นะ

พวกเราอยู่ในสภาวะแห่งความเป็นหลากมิติ
ที่พวกเรามักเรียกกันว่า อยู่ใน
“สภาวะแห่งควอนตัม” (quantum state)

หรือถ้าจะเทียบกับความหมายในวิชาฟิสิกส์จริงๆหละก็ ก็จะหมายถึง “อยู่นอกมิติที่ 3”

ณ.ฟากฝั่งโน้นของม่านพราง ฉันอยากจะเล่าให้พวกคุณฟังถึงเรื่องการประชุมที่ได้เกิดขึ้นแล้ว
และก็กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ด้วย เพราะว่าเมื่อมันไร้ซึ่งกาลเวลาแล้ว มันก็จะมีแต่
“ศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย” (potentials) เท่านั้น
และเมื่อมันมีแต่ “ศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย” (potentials) เท่านั้น
ดังนั้น แม้แต่อดีต, ปัจจุบัน และปัจจุบันขณะนี้ ก็ยังดูพร่ามัวสำหรับพวกคุณเลย

ที่พวกมันพร่ามัวก็เพราะว่าพวกคุณมีตัวกรองแห่งมิติที่ 3 บังเอาไว้อยู่

อนาคตคือสิ่งที่ไม่อาจรับรู้ได้ล่วงหน้า
แต่ศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย
ของสิ่งที่พวกคุณอาจจะทำ สามารถรับรู้ได้ล่วงหน้า

และความเข้มข้นของศักยภาพแห่งความเป็นได้ที่ว่านี้
ก็เกิดขึ้นจากความตระหนักรู้ของพวกคุณ
และเกิดจากสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้, เมื่อวานนี้, และพรุ่งนี้ด้วย

จงมากับฉัน มาที่การประชุมของพ่อแม่และปู่ย่าตายายของพวกคุณ
เพราะว่าพวกเขาก็เป็นจิตวิญญาณเช่นเดียวกับพวกคุณ พวกเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้า/พระผู้สร้าง
เช่นเดียวกันกับพวกคุณ

แม้ว่าในขณะที่พวกเขากำลังอยู่บนโลกใบนี้ พวกเขาจะยังไม่เคยตื่นขึ้นมารู้ความจริงเลยว่า
ในขณะนี้พวกเขากำลังประชุมกันอยู่นอกโลกด้วยก็ตาม

ไปที่การประชุมนี้กันเถอะ ที่ๆพวกเขากำลังอยู่ที่นั่น แม้แต่ในตอนนี้ ในขณะนี้เลย

“เดี๋ยวก่อนนะครายออน! พ่อแม่ของฉันยังไม่ตายนะ
พวกเขาจะไปประชุมอยู่ที่ฟากฝั่งโน้นของม่านพรางได้อย่างไร?”

แต่สำหรับพวกเราแล้ว พวกเขากำลังประชุมกันอยู่ที่นั่นแหละ
เพราะว่าพลังงานส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณของพวกคุณทุกคน
ก็อยู่ที่ฟากฝั่งโน้นของม่านพรางตลอดเวลาเลย

ที่รักทั้งหลาย พวกคุณคิดว่า “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (higher Self)
ของพวกคุณเป็นใครกันหละ?

มันก็คือพลังงานของตัวตนของพวกคุณเองนั่นแหละ
ที่อยู่ในรูปแบบของเทพ ซึ่งข้ออุปมาที่พวกเรา
อยากจะเปรียบเทียบให้ฟังก็จะเหมือนกับ
การที่พวกคุณยืนคร่อมให้ขาข้างหนึ่ง
อยู่ที่ฟากฝั่งโน้นของเครื่องพราง
ส่วนขาอีกข้างหนึ่งก็อยู่ในมิติที่ 3 ตลอดเวลานั่นเอง

ซึ่งปัญหาทั้งหมดของพวกคุณที่อยู่ในความเป็นทวิภาวะนี้
และบททดสอบทั้งหมดที่มีอยู่ในชีวิตของพวกคุณ
ก็เพื่อที่จะทำให้พวกคุณสามารถเปิดประตูออกมา และมองเห็นมันได้
และเพื่อให้พวกคุณสามารถยื่นมือออกมาจับมือกับตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณเองได้นั่นเอง

ตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณ ก็จะเป็นตัวตนเดิมเสมอตลอดเวลา
ไม่ว่าพวกคุณจะเวียนว่ายตายเกิดไปเกิดเป็นใคร และกี่ภพกี่ชาติแล้วก็ตาม
มันจะเป็นตัวตนเดิมเดียวกันนี้ทุกยุคทุกสมัย

ตอนนี้พวกคุณรู้แล้วใช่ไหม? ไม่ว่าพวกคุณจะเคยเกิดมาแล้วกี่ภพกี่ชาติก็ตาม
ไม่ว่าพวกคุณจะเคยทำอะไรมาบ้างแล้วก็ตาม ไม่ว่าพวกคุณจะเคยไปอยู่ที่ไหนมาบ้างแล้วก็ตาม
ตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณตัวตนเดียวกันนี้ ก็จะไปอยู่ที่นั่นกับพวกคุณด้วยเสมอ
เพราะว่ามันคือแก่นแท้ของพวกคุณเอง!

พวกคุณเริ่มเข้าใจบ้างหรือยัง ว่าทำไมพวกคุณถึงควรจะเชื่อมต่อกับมันให้ได้?

.....................................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)

วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California

ที่มา:

Attributes of the Match Bearer > Kryon

ตอนที่ 7 : การกำเนิดของผู้ถือไม้ขีดไฟ


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

มาที่การประชุมนี้กับฉัน และดูให้ดีนะ ปู่ย่าตายายของพวกคุณก็กำลังอยู่ที่นั่นด้วย
ในขณะที่พวกเขากำลังประชุมอยู่นั่น พวกเขากำลังมองดูทุกสิ่งทุกอย่างด้วยจิตใจของพระเจ้า
ซึ่งมีอยู่ในพวกเขาอยู่แล้วอยู่ พวกเขาไม่ได้อยู่ในมิติที่ 3 พวกเขาอยู่ในที่ๆสมบูรณ์แบบ
ที่ๆมีพลังงานของพระผู้สร้างอยู่ นอกเหนือจากอะไรทั้งหมดที่พวกคุณจะสามารถจินตนาการได้

และแม้ว่าสำหรับผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้าแล้ว มันจะปราศจากความเป็นเอกเทศ
หรือ ความเป็นปัจเจกบุคคลก็ตาม และแม้ว่าผู้ที่กำลังอยู่ในการประชุมครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของ
“กลุ่มควอนตัมร่วม” (collective quantum group) กลุ่มหนึ่งก็ตาม
แต่แก่นแท้ของศักยภาพแห่งความเป็นตัวตนของพวกเขาที่พวกเขาเคยเป็น
และที่จะเป็นในอนาคต ก็ยังอยู่ที่นั่นด้วย

ฉันไม่ขอให้พวกคุณเข้าใจเรื่องนี้หรอกนะ ฉันเพียงแต่จะขอให้พวกคุณมองดูมันไปพร้อมกับฉันเท่านั้นเอง

อดีตชาติทุกๆภพชาติของพวกเขากำลังอยู่ที่นั่นกับพวกเขาด้วย

พอมาถึงตรงนี้ มาถึงจุดที่พวกคุณเรียกกันว่าอดีต ฉันอยากจะบอกพวกคุณว่าพวกเขาพูดว่าอะไรบ้าง:

“พวกเราจะลงมาเกิดที่ดาวเคราะห์โลก พวกเรากำลังจะไปที่นั่น ที่ๆมีระดับพลังงานต่ำ
และพวกเราก็จะพยายามสาดส่องแสงสว่างออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่มันก็อาจจะไม่มากเท่าไหร่นัก พวกเราอาจจะไม่มีวันตื่นรู้เลยก็ได้ เพราะว่ามันยังไม่ถึงเวลา

แต่พวกเราก็มองเห็นศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเรียงตัวของกาแล็กซี่ ที่ใกล้จะมาถึงนี้
และพวกเราก็มองเห็นช่วงคาบเวลา 36 ปีที่ใกล้จะมาถึงนี้ด้วย
แม้ว่าถึงตอนนั้นพวกเราอาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม”

แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังพากันวางแผน เพื่อที่จะมาที่นี่อยู่ดี
พวกเขาคือจิตวิญญาณเก่าแก่ และมีงานอะไรบางอย่างต้องทำ
นั่นก็คือการ “เพาะเมล็ดพันธุ์” เอาไว้บนโลก

พวกคุณอาจจะถามว่า..

“แล้วทำไมพวกเขาจึงมาที่โลกใบนี้ ในขณะที่ยังเป็นยุคพลังงานเก่าอยู่หละ?”

คำตอบก็คือ: พวกเขา,ปู่ย่าตายายของพวกคุณทั้ง 4 คน, กำลังจะมาที่โลกใบนี้
เพื่อมาให้กำเนิดพ่อและแม่ของพวกคุณ และขณะนี้ พ่อและแม่ของพวกคุณ
ก็กำลังอยู่ในการประชุมนี้ด้วยนะ

และก็..พวกคุณก็ด้วย พวกคุณก็กำลังอยู่ในการประชุมนี้ด้วยเหมือนกัน!
และก็..รวมถึงลูกๆของพวกคุณก็ด้วย ก็กำลังอยู่ในการประชุมนี้ด้วย

พวกคุณเข้าใจไหม?”

พวกคุณทั้งหมดคือส่วนหนึ่งของกลุ่มนั้น
และส่วนหนึ่งของพวกคุณแต่ละคน
ก็ไม่เคยแยกออกจากกลุ่มนี้ไปไหนเลย
แม้ว่าพวกคุณจะกำลังอยู่ที่นี่ก็ตาม
กำลังเดินอยู่บนโลกใบนี้ก็ตาม

เพราะว่าการประชุมภายใต้สภาวะแห่งควอนตัมนั้น
มันไม่มีกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรง
มันมีแต่ศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลายของกาลเวลาเท่านั้น

ซึ่งเรื่องนี้มันอาจจะยากต่อการเข้าใจ
ของผู้ที่คิดแบบเป็นเส้นตรงอยู่สักหน่อย

ฟังนะว่า..ปู่ย่าตายายของพวกคุณ, พ่อแม่ของพวกคุณ และพวกคุณเอง
กำลังทำข้อตกลงกันว่า พวกเขาจะมาเป็นบรรพบุรุษของพวกคุณ และพวกเขาก็พูดว่า

“พวกเรากำลังจะมาทำสิ่งนี้ เพื่อให้ลูกๆของเรา ได้ทันเกิดมาในยุคแห่งการเลื่อนระดับขึ้นพอดี”

พวกเขารู้ว่าศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลายนั้นคืออะไร
และพวกเขาก็ต้องการจะเลือกเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่จะทำให้พวกคุณ ได้มาเกิดในช่วงเวลานี้พอดี

ฉันสามารถย้อนกลับไปได้ ในช่วงเวลาก่อนที่จะถึงรุ่นปู่ย่าตายายของพวกคุณอีกนะ

ถ้ามันเป็นความจริงที่ว่าช่วงเวลาแห่งการเลื่อนระดับขึ้นนี้ เป็นที่รู้กันก่อนล่วงหน้าแล้ว
เพราะว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของไกอา (ไกอา คือจิตวิญญาณของดาวเคราะห์โลก – ผู้แปล)
และเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรของโลกแล้ว ดังนั้น มันก็คือระบบอย่างหนึ่งหาได้เป็นความบังเอิญไม่

นั่นก็หมายความว่า การวางแผนของผู้ที่มีศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ ที่จะมาเป็นบรรพบุรุษของพวกคุณ
รวมถึงของตัวพวกคุณเอง และลูกหลานของพวกคุณด้วย ก็ถูกวางแผนมาอย่างถูกต้องสมบูรณ์แบบแล้ว
เพื่อให้เซลในร่างกายของพวกคุณมีเชื้อสาย และมีบันทึกแห่งฟ้า (Akashic record) อย่างที่มันเป็นอยู่นี้

พวกคุณเคยคิดถึงเรื่องนี้ไหม? พวกคุณอาจจะเริ่มที่จะรู้แล้วว่าพวกคุณอาจจะเป็น
“จิตวิญญาณเก่าแก่ผู้เชี่ยวชาญ” จริงๆด้วยซ้ำไป ที่มาอยู่ที่นี่ในช่วงเวลาที่พอเหมาะพอดีแบบนี้


เรามาต่อกันที่บทสนทนาของพ่อแม่ของพวกคุณ อย่างที่เราพวกเราได้ทำไปแล้วก่อนหน้านี้กันดีกว่า
พวกเขาอาจจะพูดว่า..

“พวกเรากำลังจะมาเกิดที่ดาวเคราะห์โลกใบนี้ แล้วพวกเราก็จะมาพบกัน แล้วให้กำเนิดลูกคนนี้
ซึ่งเป็นจิตวิญญาณเก่าแก่ (ที่เคยเกิดมาบนโลกใบนี้แล้วหลายครั้ง)

เขา/เธอเป็นหนึ่งในบรรดาจิตวิญญาณที่เก่าแก่ที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เคยมีมา
หรือแม้แต่เป็นจิตวิญญาณที่มีความเก่าแก่ยิ่งกว่าพวกเราเองซะอีก

พวกเราอาจจะไม่สามารถตื่นรู้ได้เลย แต่ว่าการมาเกิดที่โลกใบนี้คืองานของพวกเรา
พวกเราอาจจะไม่สามารถมีแสงสว่างได้มากนัก พวกเราอาจจะแม้กระทั่งวิพากวิจารณ์ลูกคนนี้ก็ได้
พวกเราอาจจะแม้กระทั่งขับไสไล่ส่งพวกเขาออกไปจากครอบครัวด้วยซ้ำไป!

พวกเราอาจจะแม้กระทั่งข่มเหงและดูถูกเหยียดหยามพวกเขาด้วยซ้ำไป
เพราะว่าพลังงานเก่าอาจจะซุกซ่อนเจตจำนงค์อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดนี้ของพวกเราไว้อย่างมิดชิดก็ได้

แต่ว่านั่นแหละคือเหตุผลที่พวกเราจะต้องมา เพื่อให้ลูกๆของพวกเรากลายเป็นหนึ่งในผู้ที่มีภูมิปัญญา
และมีศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ที่จะตื่นรู้ขึ้นมา พวกเขาจะกลายเป็นผู้หนึ่งที่ถือไม้ขีดไฟ”


ตอนนี้ พวกเราจะไม่ย้ำเตือนพวกคุณอีกว่า มันไม่มีอะไรที่ถูกกำหนดไว้ก่อนล่วงหน้าเลย
และอีกครั้งหนึ่ง นี่เป็นเพียงการประชุมแผนการเกี่ยวกับศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลายเท่านั้น

มันไม่ใช่พันธะสัญญา แต่อย่างไรก็ตาม ปกติมนุษย์ที่มีกรรมเกี่ยวเนื่องกันอยู่
ก็มักจะเกิดมาร่วมกลุ่มกันเสมอ ดังนั้น กฎแห่งการดึงดูด และการซินโครนิซิตี้ (Synchronicity)
จึงมักจะเข้ามามีบทบาท และเพิ่มโอกาสแห่งความเป็นไปได้ให้สูงมากขึ้นไปอีก
ที่พวกเขาจะได้มาพบกันจริงๆ และได้มาร่วมกันให้กำเนิดพวกคุณในที่สุด


ผู้ที่ถือไม้ขีดไฟทั้งหลาย ตามข้ออุปมัยข้างบนนั่น ก็คือผู้ที่เกิดในช่วงเวลานี้
และคือผู้ที่สามารถจุดไม้ขีดไฟขึ้นในท่ามกลางความมืดมิดของพลังงานเก่านี้ได้
และทำให้ดาวเคราะห์ดวงนี้สว่างไสวขึ้น

พวกคุณเคยคิดถึงเรื่องนี้ไหม? ว่าพ่อแม่ของพวกคุณ พวกเขามาที่นี่อย่างมีเป้าประสงค์

โอ..ฉันรู้ว่าพวกคุณกำลังจะพูดว่า

“เดี๋ยวก่อนนะครายออน คุณไม่รู้จักพ่อแม่ของฉันดีพอ เพราะฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะมีจิตสำนึกแบบนั้นหรอก”

ในฟากฝั่งนี้ของม่านพราง พวกเขาอาจจะไม่มีจิตสำนึกแบบนี้จริงๆ แต่ว่าที่รักทั้งหลาย
พวกคุณเข้าใจสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดไหม? ด้วยจิตใจแห่งพระเจ้า พวกเขามาที่นี่แล้วพูดว่า

“พวกเราอาจจะไม่สามารถตื่นรู้ได้ พวกเราอาจจะจดจำแผนการณ์นี้ไม่ได้
หรือแม้กระทั่งไม่เชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ด้วยซ้ำไป เพราะว่าพลังงานเก่าจะปิดกั้นพวกเราไว้จากการมองเห็น
แต่ว่าพวกเราก็จะมีลูกที่จะเป็นผู้ถือไม้ขีดไฟคนหนึ่ง ลูกคนที่เป็นจิตวิญญาณที่เก่าแก่มากๆคนหนึ่ง
ของดาวเคราะห์โลกใบนี้ นั่นแหละคือเหตุผลที่พวกเรามาที่นี่”


นั่นแหละคือเหตุผลที่ปู่ย่าตายาย และพ่อแม่ของพวกคุณมาที่นี่ และพวกเขาก็ได้มาแล้วด้วย
เชื้อสายวงษ์ตระกูลของพวกคุณ มีอยู่ที่นั่นให้พวกคุณได้เห็นแล้ว ศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย ก็อยู่ที่นั่นให้พวกคุณได้เห็นแล้ว

และที่พวกคุณต้องมานั่งบนเก้าอี้ และฟังการสื่อสารนี้อยู่ในวันนี้
ก็เพราะว่าทั้งหมดนี้มันโยงใยเกี่ยวข้องกันอยู่
และพวกคุณก็คือผู้ถือไม้ขีดไฟ

.........................................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)

วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California

ที่มา:

Attributes of the Match Bearer > Kryon

ตอนที่ 8 : คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)

เรามาพูดถึงไม้ขีดไฟที่พวกคุณถือกันอยู่บ้างดีกว่า ที่รักทั้งหลาย
ฉันกำลังจะพูดถึงผู้ถือไม้ขีดไฟทั้งที่กำลังอยู่ที่นี่ และที่กำลังอ่านอยู่ด้วย


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ไม่ว่าพวกคุณจะทำให้เกิดแสงสว่างขึ้นที่ใดก็ตาม
ในสถานการณ์ใดก็ตาม ผ่านทางการกระทำของพวกคุณเอง
พลังงานที่พวกคุณสร้างขึ้นมานั้น
จะไปเปลี่ยนแปลงพลังงานของไกอา
ในจุดที่พวกคุณกำลังเดินอยู่นั่นแหละ

มันจะไปเปลี่ยนแปลงควอนตัมของสิ่งที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณ

โลกทั้งโลกรู้จักพวกคุณดี ถ้าพวกคุณตื่นขึ้นแล้ว โลกทั้งโลกก็จะรู้ว่าพวกคุณได้ตื่นขึ้นแล้ว
ไกอารู้จักพวกคุณทุกคน ถ้าคุณเข้าไปเดินในป่าตามลำพัง ต้นไม้ในป่าก็รู้จักพวกคุณ
สัตว์ทั้งหลายก็รู้จักพวกคุณด้วย พระเจ้ารู้จักพวกคุณทุกคน ฉันรู้จักพวกคุณทุกคน

นั่นแหละคือเหตุผลที่พวกคุณมาที่นี่ นั่นแหละคือความรู้สึกของพวกคุณในขณะนี้
และนั่นแหละคือสิ่งที่นำพวกคุณมาที่นี่ มันคือเหตุผลว่าทำไมพวกคุณถึงมานั่งอยู่บนเก้าอี้นี้
และนั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมพวกคุณถึงมาในวันนี้
พวกคุณอาจจะพูดว่า..

“มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นกับฉันเหรอ?
ในภพชาตินี้ ฉันกำลังรู้สึกอะไรอยู่เหรอ?
ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าฉันจะต้องทำอะไรบางอย่างหละ?”

เอาหละ..ตื่นได้แล้ว..เหล่าผู้ถือไม้ขีดไฟเอ๋ย..
เพราะว่านี่คือโชคชะตาของพวกคุณ แต่ก็ด้วยความสมัครใจนะ

พวกคุณจะต้องส่องสว่างชีวิตของพวกคุณเอง
ให้ถึงจุดที่ผู้คนรอบๆตัวพวกคุณ รู้ว่าพวกคุณเป็นใคร
หรืออย่างน้อยก็ให้พวกเขารู้สึกถึงแสงสว่างในตัวพวกคุณได้


ดังนั้น ฉันอยากจะถามพวกคุณเกี่ยวกับครอบครัวของพวกคุณซักหน่อย
ฉันอยากจะถามพวกคุณเกี่ยวกับครอบครัวของพวกคุณในภพชาตินี้
ครอบครัวทางสายเลือดของพวกคุณ ว่าพวกคุณปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไรบ้าง?

พวกคุณบางคนอาจจะพูดว่า “เอ่อ..อย่าพูดถึงพวกเขาได้ไหม เพราะว่าฉันไม่ชอบพวกเขามากๆเลย”

นั่นแหละคือละครบทเศร้า ที่วนเวียนเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ตลอดเวลา
ที่รักทั้งหลาย พวกคุณอาจจะพูดต่อไปอีกว่า

“ฉันทำดีที่สุดแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่ชอบพวกเขาเอามากๆเลย แต่ฉันมั่นใจว่าฉันจะเป็นดั่งดวงดาว
เมื่อฉันไปถึงการประชุมในยุคพลังงานงานใหม่แล้ว ฉันจะรักทุกๆคนที่นั่น ฉันจะรักพวกเขาทุกๆคน”

[หัวเราะ]

ใช่แล้ว..แต่ฉันไม่ได้ถามถึงเรื่องนั้น เพราะว่ามันเป็นเรื่องง่าย ที่จะเข้ากันให้ได้ กับคนที่เหมือนๆกันกับพวกคุณ
เพราะว่าพวกคุณทุกๆคน ต่างก็มีแสงสว่างด้วยกันทั้งนั้น!

ไม่ใช่แบบนั้นเลย..ฉันกำลังพูดถึงตัวคุณเพียงคนเดียว
ที่กำลังอยู่ในความมืดมิดโดยลำพังคนเดียวเท่านั้น
ฉันอยากจะรู้ว่าคุณจะทำอย่างไรกับครอบครัวของคุณ?

ฉันอยากจะบอกพวกคุณว่า ผู้ถือไม้ขีดไฟ เขาจะมองครอบครัวของพวกเขาอย่างไร
หมายถึงครอบครัวในภพชาตินี้นะ

พวกเขาจะมองข้ามการถูกข่มเหงรังแก พวกเขาจะมองข้ามความเจ็บปวดไป
ซึ่งเมื่อพวกเขามองดูสิ่งที่ผู้อื่นกระทำต่อพวกเขา พวกเขาอาจจะแม้กระทั่งพูดกับจิตวิญญาณว่า

“คุณแม่ คุณพ่อ ลูกขอกราบขอบพระคุณพวกท่าน ที่ท่านได้ให้ชีวิตลูกมา
และที่พวกท่านสามารถรับรู้จากอีกฟากฝั่งโน้นของม่านพรางได้ว่า
ลูกสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ ลูกขอกราบขอบพระคุณท่าน
สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกท่านได้ทำไว้ในการวางแผนครั้งนั้น
ไม่ว่าลูกจะถูกพวกท่านด่าทอ หรือขว้างปา และกระหน่ำยิง และข่มเหงรังแก
และเรียกชื่อลูกว่าอย่างไรก็ตาม ลูกก็ยังเคารพรักพวกท่านเสมอ”

เอาหละ..นั่นคือพวกคุณหรือเปล่า?


พวกคุณเข้ามาพร้อมกับความสัมพันธ์ แต่เมื่อพวกคุณโตขึ้น บางครั้งความสัมพันธ์ก็อาจจะเปลี่ยนไป
และเมื่อพวกคุณอยู่กับพวกเขาเป็นเวลานานๆ พวกเขาก็อาจจะเปลี่ยนไปอีกครั้งหนึ่ง

ตอนนี้อาจจะพูดได้ว่าในความสัมพันธ์นั้น มันมีเรื่องเศร้าอยู่ จงจำไว้ว่า
นี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่มันคือความสมัครใจ

พวกคุณคิดว่ามันมีความเป็นไปได้ไหมที่พวกเขาจะพบกันใหม่อีก
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าคิดนะ ดังนั้น ในความสัมพันธ์นี้ พวกคุณจะมองเห็นสิ่งนี้ไหม?

ไม่ว่าพวกเขาจะพูดอะไรไม่ดีกับคุณบ้างก็ตาม
ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรไม่ดีกับคุณบ้างก็ตาม
ไม่ว่าคุณจะถูกทรยศหักหลังมาอย่างไรก็ตาม
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันนี้ก็ตาม

ผู้ถือไม้ขีดไฟก็จะมองดูพวกเขา แล้วพูดว่า..

“คนๆนี้คือสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าสร้างขึ้น และถูกกำหนดมาเพื่อมาให้บทเรียนแก่ฉัน
และเพื่อให้มาผลักฉันให้ออกจากรัง บางทีบทเรียนนั้น ก็อาจจะถึงกับเตะฉัน
เพื่อให้ฉันมีความเมตตากรุณาต่อมนุษย์คนอื่นๆ

ขอบคุณพระเจ้าที่ส่งพวกเขามาให้ฉัน”

นั่นแหละคือสิ่งที่ผู้ถือไม้ขีดไฟจะพูดหละ
พวกคุณทำแบบนี้ได้ไหม?

………………...............................

#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)

วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California

ที่มา:

Attributes of the Match Bearer > Kryon

ตอนที่ 9 : ผู้ถือไม้ขีดไฟ จะมีแสงสว่างแห่งพระเจ้าอยู่ และพวกคุณก็อาจจะพูดว่า

“เอ่อ..คุณหมายถึงคุณแม่เธเรซ่า (Mother Teresa) ใช่ไหม ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะทำแบบนั้นได้
มันเป็นเรื่องที่ยากมาก ครายออน เพราะว่าคุณไม่รู้จริงๆหรอกว่ามีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตของฉันบ้าง..
คุณไม่รู้หรอกว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับผู้คนรอบข้างฉัน และครอบครัวของฉันบ้าง”

โอ..ฉันรู้สิ..เพราะว่าฉันเห็น..เพราะว่าฉันก็อยู่ที่นั่นด้วย..
เหล่าทวยเทพที่คอยติดตามคุณไปทุกหนทุกแห่งก็อยู่ที่นั่นด้วย

ทำไมคุณถึงไม่จับมือของพวกเขา ตอนที่พวกเขายื่นมือมาให้คุณจับหละ? ฉันรู้ว่าใครอยู่ที่นี่บ้าง!

คุณชอบทำอะไรคนเดียวเสมอใช่ไหม? คุณก็ต้องฟังด้วยนะ ผู้ร่วมงานของฉัน (นาย Lee)
เพราะว่าเรื่องนี้ก็สำหรับคุณด้วย คุณชอบทำอะไรคนเดียวเสมอ
แม้ว่าจะมีความช่วยเหลืออยู่มากมายห้อมล้อมคุณอยู่ก็ตาม
แต่คุณก็ยังอยากทำคนเดียวอยู่ดี

พวกเรารู้ว่าใครเคยทำอะไรกับใครไว้บ้าง เพราะว่าพวกเราอยู่ที่นั่นด้วยในทุกย่างก้าวของพวกคุณ


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟแท้ๆ ก็คือการ “เผื่อแผ่ความรัก” (push love)
พวกเขาจะมีความอดทนต่อมนุษย์ทุกคนที่พวกเขาเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
พวกเขาจะมองเห็นว่ามีความรักอยู่ในทุกสถานการณ์
พวกเขาสร้างสรรค์แสงสว่าง

ฉันอยากจะเล่าเรื่องแสงสว่างและความมืดให้พวกคุณฟังอีกครั้งหนึ่ง..ว่า..
ถ้าพวกคุณได้จุดประกายแสงสว่างขึ้นมาแล้ว ความมืดก็มิอาจครอบงำพวกคุณได้อีก
ความมืดซึ่งไม่มีพลังงานอะไรเลย จะสามารถมาโอบล้อม และครอบงำพวกคุณ
ซึ่งกำลังถือแสงสว่างอยู่ได้อย่างไร? เพราะว่าความมืด อย่างที่บอกไปแล้วว่า มันคือความไร้ซึ่งแสงสว่าง

แต่ว่าก็มีผู้ปฏิบัติงานแห่งแสงสว่าง (light workers) บางคน ที่มีความคิดแปลกๆแบบสามมิติอยู่ว่า

“ฉันไม่อยากไปที่นั่น เพราะว่าความมืดมิดอาจครอบงำฉันได้
ฉันจะระมัดระวังเป็นอย่างมากเวลาฉันไปที่ไหน
ฉันไม่อยากไปใกล้คนพวกนั้น เพราะว่าพวกเขามีพลังงานด้านมืดอยู่”

โอ..ผู้กล้าเอ๋ย..ทำไมพวกคุณถึงไม่ไปที่นั่น
และสาดส่องแสงสว่างของพวกคุณออกมาสู่ชีวิตของพวกเขาหละ?

พวกคุณอยากจะไปเฉพาะแต่ในที่ที่มีแสงสว่างอยู่แล้วอย่างนั้นเหรอ?
หมอจะไปตรวจโรค และรักษาให้เฉพาะกับหมอด้วยกันเองเท่านั้นเหรอ?

พวกคุณจะปฏิบัติต่อครอบครัวของพวกคุณอย่างไร?
เมื่อพวกคุณไปทำงาน มีอะไรเกิดขึ้นที่นั่นบ้าง?

ตอนนี้ฉันได้ยินเสียงพูดจอแจว่า

“ฉันมีเจ้านายที่แย่ที่สุดในโลกเลย เจ้านายคนนี้ชอบทรมานพวกเรา
ด้วยการให้ทำงานที่ไม่เข้าท่าเอาซะเลย เพียงเพื่อจะหางานให้พวกเราทำเท่านั้นเอง
เจ้านายคนนี้ไม่ชอบ New Age เพราะว่าเขาเกิดมาเพื่อเชื่อในแบบอื่น ดังนั้น เขาจึงขบขันกับมันมาก”

พวกคุณไม่คิดหรือว่า พวกเราก็รู้เรื่องนี้ด้วย ที่รักทั้งหลาย จงจำไว้ว่า ผู้ที่มีหน้าที่
ไม่จำเป็นต้องมีภูมิปัญญาในหน้าที่นั้นๆเสมอไป

บางครั้งพวกเขาก็เป็นพวกยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตนสูง พวกคุณไม่คิดเหรอว่าพวกเราก็รู้เรื่องนี้ด้วย?

นั่นแหละคือเหตุผลที่ว่าพวกเขาไปอยู่ในที่ๆพวกเขากำลังอยู่นั้นๆได้อย่างไร?

แล้ว..พวกคุณจะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร?
พวกเขายังคงยั่วยุอารมณ์ของพวกคุณอยู่ไหม?
พวกเขาแกล้งยั่วให้พวกคุณโมโหไหม?
หรือไม่บางทีพวกคุณอาจจะเจอกับใครที่เอาแต่หดหู่ซึมเซาอยู่ตลอดเวลา ใช่หรือเปล่า?

เพราะฉะนั้น พวกคุณจึงจำเป็นต้องเดินเข้าไปในพลังงานมืดนั้น
ตลอดเวลาที่ต้องไปทำงานใช่ไหม..

หรือว่ามันเบาบางลงมาบ้างแล้ว เพราะว่าแสงสว่างของพวกคุณ?

………….................................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

ผมอ่านแล้ว

มีข้อคิดเห็นดังนี้...อดีต คือ มิติ อนาคตคือ มิติ ปัจจุบัน คือ มิติ ที่ทับซ้อนกัน อยู่ ทั้ง 3 มิติ ด้วย เพราะ มีรูปนาม ที่รับรู้ได้เท่านั้น

แล้วไอ้จิตวิญญาณที่คุณกล่าวถึง ที่เรียกว่า ปู่ย่าตายาย นั่นน่ะ มันก็แค่ มิติที่ทับซ้อน แบบอนันตมิติ หรือ จินตนาการที่ไม่มีที่สิ้นสุด มันมีอยู่ในที่ของมัน แต่มันไม่อยู่ในที่ของโลก

นั่นหมายถึง มัน มีอยู่ ในอดีต อนาคต แต่ มีแต่โลกเท่านั้น ที่ฉายภาพ ออกมา เป็น ปัจจุบัน ของ ชีวิต ปัจจุบันของรูปนาม....ส่วน ชีวิตที่ผ่านมาแล้ว และ จะเกิดใหม่ มันยังไม่อยู่ในโลก ไม่ไช่ปัจจุบันของโลก

เจ้าของกระทู้ จิต แตก แล้ว ไม่สามารถ รวมจิต ตนเอง เข้ารูปนามของตนได้

ก็เลย ฟุ้งซ่าน เหมือน คน ที่ฟุ้งซ่านเป็นธรรมดา...อาการนี้ รักษาได้

 

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะครับ

 

ที่คุณเอามานำเสนอนั้น เป็นเพียงแค่ เหล้าเก่าในขวดใหม่ ที่ไม่สามารถรองรับ เหล้าเก่าได้

รูปนามคุณ ไม่สามารถ รวบรวม สติไม่ดี พอ ที่จะเอาชนะ จิตที่ แตกกระจาย ฟุ้งซ่านนี้ได้ เท่านั้นเอง

เพราะเท่าที่ผมอ่าน ข้อความของคุณ มันก็แค่ ดัดแปลง สาส์น จาก ศาสดา ดัดแปลงคำสอนของศาสดา ให้ดูเหมือน ...พิสดาร ก็แค่นั้น

เรื่อง เด็ก ๆ ที่ พวกคุณ ปัญญาไม่พอที่จะรองรับ ไม่ไม่สามารถเข้าใจได้ แค่นั้น

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)

วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California

ที่มา:

Attributes of the Match Bearer > Kryon

ตอนที่ 10

ผู้ถือไม้ขีดไฟเอ๋ย..ฉันอยากจะบอกความจริงแก่พวกคุณว่า หากพวกคุณมีแสงสว่างอยู่แล้ว
ก็จะไม่มีความมืด หรือพลังงานด้านมืดใดๆ ที่จะมาส่งผลกระทบต่อพวกคุณได้หรอก

พวกคุณกำลังจะเดินไปที่นั่น เปิดประตูออกมา แล้วก็ทำงานของพวกคุณไป
และในระหว่างที่พวกคุณอยู่ที่นั่น พวกคุณจะพูดว่า

“ขอบคุณพระเจ้า ที่ทำให้ฉันมีงานทำ ขอบคุณสำหรับที่นี่และเดี๋ยวนี้
เพราะว่าที่ไหนก็ตามที่ฉันไป ฉันจะทำให้เกิดความแตกต่าง”

แต่บางคนอาจจะพูดว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เกิดความแตกต่างใดๆขึ้นในที่ทำงาน
และพวกเขาอาจจะพูดอีกว่า “คุณไม่รู้หรอกว่างานของฉันเป็นอย่างไรบ้าง”

โอ..คุณช่างเป็นคนที่อยู่ในมิติที่ 3 จริงๆเลยนะเนี่ย!

คุณไม่รู้เหรอว่าแสงสว่างที่คุณมีอยู่นั้น
มันก่อให้เกิดความอดทน, ความประทับใจ และความรักขึ้น?

มันจะก่อให้เกิดการแบ่งปัน และการรับฟังด้วยความเอาใจใส่ขึ้น
มันจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้

บางคนที่อยู่รอบตัวคุณ สักวันหนึ่งอาจจะเข้ามาหาคุณ พร้อมกับปัญหาของพวกเขา
คุณอาจจะนั่งลงแล้วถามว่า..

“ฉันสงสัยว่าทำไมพวกเขาจึงอยากจะมาเล่าให้ฉันฟัง?”

บางทีอาจจะเป็นเพราะว่า โดยสัญชาตญาณของพวกเขาแล้ว
พวกเขามองเห็นแสงสว่างของคุณ
หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขามองเห็นความอดทนของคุณ
หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะว่ามีคุณเพียงคนเดียวที่ยอมรับฟังพวกเขา
และในกระบวนการนี้ คุณเผื่อแผ่ความรักให้แก่พวกเขา

เพราะว่าในกระบวนการนี้ ระหว่างที่พวกเขานั่งอยู่ข้างๆคุณนั้น คุณรักพวกเขา

และบางทีความรักนั้น อาจจะเป็นเพียงความรักเดียวที่พวกเขาได้รับในวันนั้น
หรือในสัปดาห์นั้น หรือในเดือนนั้น หรือแม้แต่ในปีนั้นด้วยซ้ำไป

..ผู้ถือไม้ขีดไฟที่รักเอ๋ย..


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

นั่นแหละคือสิ่งที่คุณทำ กับมนุษย์ทีละคนๆ คนแล้วคนเล่า โลกก็จะเปลี่ยนมนุษย์ไปทีละคนๆ
และนั่นแหละคือเหตุผลที่พวกคุณมาที่โลกใบนี้
นั่นแหละคือเหตุผลที่พ่อแม่ของพวกคุณมองเห็นศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลายของมัน

ทุกๆที่ที่พวกคุณไป ทุกๆสถานการณ์ที่พวกคุณอยู่
พวกคุณมีโอกาสที่จะจุดไม้ขีดได้เสมอ
ยิ่งแสงสว่างของพวกคุณมีมากเท่าไหร่
โลกก็จะยิ่งสว่างไสวมากขึ้นเท่านั้นด้วย

ดังนั้น ตอนนี้ พวกคุณยังสงสัยอยู่อีกไหม
ว่าทำไมพวกคุณถึงมาที่โลกใบนี้?

“ครายออน แต่ฉันไม่ใช่ผู้บำบัดรักษา หรือเป็นนักเขียนนะ และฉันก็ไม่ใช่ผู้รับสาส์นด้วย
ฉันแค่ไปทำงาน แล้วก็กลับบ้าน แล้วก็ทำธุระอะไรบางอย่าง แล้วก็เข้านอน
จากนั้นตื่นเช้าขึ้นมาก็ไปทำงานใหม่อีกครั้ง ก็เท่านั้นเอง ทำไมชีวิตฉันถึงเป็นอย่างนี้?”

ฉันจะบอกพวกคุณว่า ที่รักเอ๋ย..นั่นแหละคือชีวิตของผู้ถือไม้ขีดไฟหละ!

บรรพบุรุษของพวกคุณขอร้องให้พวกคุณมา เพื่อให้พวกคุณมาเดินอยู่บนโลกใบนี้ แล้วจุดไม้ขีดขึ้น
การไปทำงาน การเข้านอน การไปทำธุระ แล้วก็กลับบ้านอีกครั้งหนึ่ง นั่นแหละคือเหตุผลที่พวกคุณมาที่นี่หละ!

ฉันไม่ต้องการให้พวกคุณทำสิ่งเหล่านั้นน้อยลงกว่าเดิมเลย แม้แต่ช่วงเวลาเดียว
เพราะว่าในทุกๆที่ที่พวกคุณไปมันจะมีแสงสว่างเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าพวกคุณ

…………………..............................

#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

ถ้าผมบอกว่า ไอสไตล์ บ้าคิด ...แต่ คิดด้วยเหตุและผล

แต่พวกคุณ บ้าคิดและจินตนาการ ด้วยภาพ ที่หลอกตาตนเอง หลอกปัญญาของตนเอง เพราะ ปัญญาของตนไม่ดีพอ รูปนามของตนเองไม่บริสุทธิ์พอ มันก็เลย แบก เกินน้ำหนัก..game over ...

ที่พวกคุณยกมา แค่ ดัดแปลง ...ให้ดูแปลก ไป เท่านั้นเอง

หรือเพราะ ปัญญาพวกคุณเข้าใจได้แค่นี้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมว่า นี่แหล่ะ เพราะปัญญาของพวกคุณ เข้าไม่ถุง รับรู้ไมใด้ เลยไม่สามารถเข้าใจ ความจริง ที่แท้จริงได้

สุดท้ายก็อยู่กับ ภาพลวงตา นั่นเอง

มิติ มันมีจริง แต่ มิติ ที่ ควรจะจริง กับรูปนาม ของมนุษย์ ของโลก คืออะไร

นี่แหล่ะ คือ สิ่งที่ศาสดาชี้เอาไว้ ทุกอย่างลวงตา แต่ จริง มีอยู่ 1 เดียว

จงหาให้เจอ ด้วย ตนเอง

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)

วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California

ที่มา:

Attributes of the Match Bearer > Kryon

ตอนที่ 11

คุณจะจัดการกับความกลัวและความวิตกกังวลได้อย่างไร?
อะไรที่เป็นตัวกระตุ้นอารมณ์เหล่านั้นของคุณ?
อะไรที่ทำให้คุณกังวล?
มันถึงเวลาที่จะเอาชนะสิ่งเหล่านั้นได้หรือยัง?
ครั้งล่าสุดนี้ มีอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณ เพื่อทดสอบคุณ?

ฉันไม่ได้กำลังพูดกับเฉพาะผู้ที่กำลังนั่งฟังอยู่บนเก้าอี้ที่นี่เท่านั้นนะ
ฉันพูดกับผู้ร่วมงานของฉันด้วย ฉันพูดกับเขาตลอดเวลา เพราะเขาก็เหมือนกับพวกคุณนั่นแหละ
ที่ต้องเดินทางชีวิตเหมือนกับพวกคุณ เขามีคำถามบางคำถามที่เหมือนๆกับพวกคุณ
แม้ว่าเขาจะเป็นผู้รับสาส์น (Channeller) ก็ตาม


ดังนั้น ฉันจึงกำลังพูดกับทุกๆคน ฉันคือครายออน ฉันไม่เคยเกิดเป็นมนุษย์มาก่อน
ฉันดูเหมือนว่าจะยืนอยู่ข้างนอกนั่นตลอดเวลา ฉันมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร
ที่ส่งผ่านมาจากตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณ ที่ส่งผ่านมาจากเทพผู้นำทางของพวกคุณ
สำหรับพลังงานของดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ถ้าพวกคุณอยากจะเรียกอย่างนั้นหนะนะ

ฉันไม่เคยถูกอนุญาตให้มาที่นี่เลย จนกระทั่งได้เกิดการเปลี่ยนระดับขึ้น
เพราะว่าพลังงานของดาวเคราะห์โลกในตอนนั้น ยังไม่สูงพอที่จะรองรับพลังงานของข้อมูลข่าวสาร
ที่ฉันกำลังสอนอยู่ในขณะนี้ได้

ฉันจะอยู่ที่นี่ไปอีกนาน เพราะว่าศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย (potentials)
ที่พลังงานนี้จะอยู่ได้ และเจริญเติบโตขึ้นมีอยู่

ซึ่งทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ก็เพราะว่า “ผู้ถือไม้ขีดไฟทั้งหลาย” นั่นเอง

อะไรที่ทำให้พวกคุณโมโหได้มากที่สุด?
ต่อมอารมณ์ไหนของพวกคุณที่ถูกกระตุ้นได้ง่ายดายที่สุด?

เมื่อตอนที่พวกคุณดูข่าว, เมื่อตอนที่พวกคุณดูเรื่องการเมือง,
เมื่อตอนที่พวกคุณดูการแสดงความคิดเห็นบางอย่าง
พวกคุณรู้สึกโกรธไหม?

ลองพยายามคิดดูว่าอะไรที่ทำให้พวกคุณโกรธหรือโมโหมากที่สุด?

ตอนนี้ ฉันอยากจะถามพวกคุณว่า
พวกคุณสามารถที่จะอดทนมองดูมันเฉยๆได้ไหม?

เอาหละ..นั่นแหละคือสิ่งที่ “ผู้ถือไม้ขีดไฟ”
จะต้องเรียนรู้เพื่อที่จะทำให้ได้หละ

แต่พวกคุณอาจจะพูดว่า..

“ฉันเกลียดสงคราม ฉันไม่ต้องการจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมัน
ฉันเกลียดความเศร้าโศกที่เกิดจากสงคราม ฉันเกลียดความเสียใจที่เกิดจากสงคราม
มันดูเหมือนว่าจะไม่มีวันจบสิ้นเลย”


ฉันก็ไม่ได้ขอร้องให้พวกคุณรักสงครามนี่
แต่ฉันกำลังขอร้องให้พวกคุณ
รักมนุษย์โลกผู้ที่ก่อสงครามขึ้นต่างหากหละ
เพราะว่าพวกเขาเอง ก็เป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้าด้วย
เช่นเดียวกันกับพวกคุณ

พวกคุณสามารถมองดูพวกเขาด้วยความอดทนได้หรือไม่
และมองให้เห็นว่าส่วนหนึ่งของพวกเขาก็คือส่วนที่พระเจ้ารัก?

หากพวกคุณสามารถทำได้เช่นนั้นเมื่อใด พวกคุณก็จะสามารถสาดส่องแสงสว่างของพวกคุณ
เข้าไปสู่ชีวิตของพวกเขาได้ มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใด
และพวกเขาอาจไม่เคยรู้เลยว่าพวกคุณเป็นใครด้วยซ้ำ

เพราะว่ามันก็เหมือนประภาคารบนโขดหินนั่นแหละ ที่จะมีกัปตันของเรือสักกี่ลำกัน
ที่เคยมาร่วมทานอาหารเที่ยงกับผู้ดูแลประภาคาร?

คำตอบก็คือคงมีน้อยมากๆ เพราะว่าพวกเขาคงจะมองหาแต่ประภาคารเท่านั้นแหละ ใช่ไหมหละ?

ทีนี้..มนุษย์โลกก็เหมือนกัน พวกเขาก็จะมองหาพวกคุณ
เพราะว่ามันเป็นสัญชาตญาณ ที่แม้แต่พลังงานที่มืดมิดที่สุด
ก็ยังรู้จักแสงสว่างเลย!

…………….................................

#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

ไอ้ควานตัม มิติ แห่งเวลา สนามแม่เหล็กน่ะ

พวกท่าน ยังไม่รู้หรอกว่า ที่จริง มันคือ อะไร.....จริง แต่ไม่จริง คำนี้พวกท่านยังไม่มีปัญญา ออกจากมันได้...ก็เลยอยู่แต่ กับ ความรู้ สมมุติ การรับรู้ ที่ เห็น ที่มัในสมอง ในสัญญา

พวกท่าน ก็เลย หลงอยู่กับความคิดของตนเอง อยู่ในเข่วงกตของ ตนเอง อยู่ในความสงสัย ของตนเอง ...อยู่แบบนี้

คิดมาก ก็ ได้ยาก แบบนี้แหล่ะ

รู้มาก ยากนาน....

 

เอาชนะ ความคิด เอาชนะ อารมณ์ เอาชนะ รูปนาม เอาชนะสมมุติแห่งตน

เอาชนะ ภาพลวงตาทั้งหลายไม่ได้....ก็ จะเป็นแบบพวกท่านนี่แหล่ะ

อยู่แต่กับ ภาพลวงตา ที่หาทางออกไม่เจอ

เฮ้อ ภพภูมิหนอ ภพภูมิ เข้าได้ สร้างได้ ....แต่หาทางออกไม่เจอ ทำลายไม่ได้ ลบไม่เลือน

อิอิ

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: คุณลักษณะของผู้ถือไม้ขีดไฟ (Attributes of the Match Bearer)

วันที่ : 2 กรกฎาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: California

ที่มา:

Attributes of the Match Bearer > Kryon

ตอนที่ 12

มีผู้ถือไม้ขีดไฟอยู่ทุกๆที่ ในทุกๆที่ๆผู้ร่วมงานของฉันไป
หอประชุมจะเนืองแน่นไปด้วยผู้ถือไม้ขีดไฟเต็มไปหมด
นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่ พวกเขาอาจจะไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนัก
แต่พวกเขาก็รู้สึกถึงมันได้จากภายใน

จิตวิญญาณเก่าแก่เหล่านี้มารวมกัน เพื่อมาร่วมในเหตุการณ์ที่เรียกว่า
“การเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งสันติภาพลงบนโลก” (Planting the Seeds of Peace on Earth)

ซึ่งเมื่อช่วงคาบเวลา 36 ปี (การเรียงตัวของกาแล็กซี่ – Galactic Alignment) สิ้นสุดลง
เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นก็จะถูกเพาะลงไปบนโลกอย่างปลอดภัยและถาวร
แล้วจากนั้นศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ ก็จะแก้ไขตัวมันเอง และคลี่คลายตัวมันเองออกมา
และมันก็จะมี “ * ” (wild-card) เกิดขึ้นให้พวกคุณได้เห็นมากมาย

คำว่า “ * “ คือคำที่พวกเราใช้เพื่อหมายถึงการกระทำต่างๆที่ไม่คาดหมายว่าจะเกิดขึ้น
และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของโลก

ซึ่งบ่อยครั้งก็หมายถึงประเทศบางประเทศ ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้
หรือบางครั้งก็หมายถึงผู้นำเผด็จการบางคน ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะร่วงลงมาได้

“ * “ หมายถึงสถานการณ์ใดๆ ที่มนุษย์เริ่มปะติดปะต่อสิ่งต่างๆเข้าด้วยกัน
แทนที่จะแยกชิ้นส่วนมันออกมาจากกัน


นี่คือศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ที่พวกเรามองเห็นเมื่อ 22 ปีที่แล้ว
และมันก็คือศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ที่พวกเรายังคงมองเห็นอยู่ในวันนี้

พวกคุณกำลังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว ไม่มีอะไรสามารถมาทำให้มันเบี่ยงเบนออกนอกเส้นทางได้
แต่พวกคุณก็ยังคงมีทางเลือกอิสระอยู่

มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกมอบให้มาแล้ว และมันก็ใช่อนาคตที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
แต่มันคือศักยภาพแห่งความเป็นไปได้สูงสุดที่พวกเรามองเห็นได้
ใน “ควอนตัมซุป” ของศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลายทั้งหมดของมัน

และพวกเราก็ยังมองเห็นมันอยู่ มันสร้างตัวมันเองขึ้นมา และมันก็กำลังมีหลักฐานปรากฎขึ้นในทุกๆที่
และบรรดาผู้ที่มีไม้ขีดไฟทั้งหลายก็กำลังทะยอยกันจุดไม้ขีดไฟของตัวเองขึ้นมากันอย่างต่อเนื่องอยู่


…………….........................

#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere