ขออิงกระแสหน่อย: น้ำท่วม รถติด มันก็เรื่องประเภทเดียวกัน

ขออิงกระแสหน่อย: น้ำท่วม รถติด มันก็เรื่องประเภทเดียวกัน

ผมขอฝากคำถามให้ทุกท่านพิจารณาแล้วกันนะครับ



สมมุติทีแรก คุณเลี้ยงหนู 2 ตัว คุณให้อาหารมันอย่างเพียงพอทุกวัน
คุณดูแลมันอย่างดี

ต่อมา หนูมันขยายพันธุ์ ออกลูกออกหลาน แต่คุณก็ไม่ได้สนใจ
ก็ยังให้อาหารมันอยู่เท่าเดิม

ผลคือ .. พอหนูมันมากขึ้น อาหารมันไม่พอ มันก็กัดกันเอง
บางตัวก็เจ็บ ก็ตายไป ...
หนูพวกที่เจ็บที่ตาย ก็เจ็บแค้นหนูตัวที่ทำร้ายตน ก็ก่อกรรมก่อเวรกันไปอีก

แต่น้อยคนนักจะคิดว่า จริงๆ แล้ว คนที่ดูแล เขานึกว่าเขาทำเท่าเดิม
คือดีอยู่แล้ว ?

วันนี้น้ำท่วม รถติดบัลลัย .. ผมก็ขับรถนั่งนึกไป ว่าภาษีรถแสนแพงที่เก็บได้
สงสัย คนถือเงินคงเห็นเงินมันเยอะ แต่หารู้ไม่ว่า จะต้องเอาไปทำอะไร
ก็คงจะเอาไปทำโน้นนี้ ถ้าคนจำพวกคิดอะไรไม่ออก ก็คงจะดีใจ
เร่งนโยบายเพิ่มรถเข้าไปอีก จะได้เก็บภาษีอู้ฟู้ นั่งนับเงิน

แต่จริงๆหารู้ไม่ว่า .. พวกที่ขึ้นมาปกครองประเทศแบบนั้น มันขึ้นมาเพือ
มาเอานรกชัดๆ .. มันก็แปลกอยู่นะ แย่งกันลงนรก .. หึหึ

 

นี่ก็อีกตัวอย่าง.. หลายคน ทึบ ไปโทษคนทิ้งขยะ
สงสัยจะไม่เคยเดินหาถังขยะกัน อยู่เป็นเทวดากันหมด หรือไง

ขยะทีเห็นทิ้งนี้ ก็อยู่บริเวณถังขยะอยู่แล้ว ลองนึกดูถ้าไม่มีคนดูแล
คอยเอาขยะไปทิ้ง แล้วขยะมันก็ต้องล้น มันก็สมเหตุสมผลถูกไหมล่ะ?

ถ้ามีจัดงงจัดงาน แล้วดันจัดคนดูแลเท่าเดิม แล้วคิดว่าปัญหาจะไม่มีเลย
ผมว่าก็ ปญอ. แระ

 

ความสามารถในการคำนวณ รองรับขนาดของปัญหาในอนาคต

ทุกวันนี้เราเรียนวิชาคำนวณ แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆ เอาไว้ทำอะไร
ไม่ใช่แค่ใช้คิดเงินทอนตอนซื้อขนมกินอย่างเดียวนะ

 

เพราะว่าผู้บริหารและลูกทีมของเมืองไทยยังขาดการจัดการบ้านเมืองที่ดี ให้เป็นระบบระเบียบ ลดปัญหาของสังคมให้ได้มากที่สุดอะนะ แต่แล้วก็เหมือนแบบ เดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆส่วนใหญ่เอาไปคิดเรื่องหาตังค์เข้าหลวงอย่างเดียว โดยที่ไม่ค่อยคิดวิธีจัดสรรงบประมาณแผ่นดินให้มันใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนในสังคมโดยรวมทั้งประเทศ =..=

 

ของขึ้นบ่อยรักษาจิตไม่ไหว
พอผ่านหน้าฝนไปได้เรียบร้อย
คุณธรรมสันติธรรมในใจติดลบ
ต้องมาเริ่มพุทโธ ใหม่นะฮะ

 

ปัญหาทั้งหมดเกิดมาจากคน
ทั้งคนที่เป็นฝ่ายปกครอง( ผู้บริหาร )
และคนที่เป็นฝ่ายถูกปกครอง( กบ )
ฝ่ายหลังต้องมีคุณภาพและวิสัยทัศน์ที่ดีพอ
จึงจะเลือกและมอบหมายบุคคลที่จะเข้าไปใช้
อำนาจบริหารแทนตนเอง

เมื่อใฝ่บริหารถูกเลือกมาโดยมติของคนส่วนใหญ่
ที่ไม่มีวิสัยทัศน์ คนถูกเลือกก็ย่อมไม่ตอบสนองผู้เลือก
แต่
ก็เป็นไปตามที่ส่วนใหญ่ ( กบ )ต้องการ
คงเป็นแบบนี้อีกนาน
ถ้าการศึดษาของเรายังไม่พัฒนากว่านี่

 

ตำรา การจัดการที่เผยแพร่กันอยู่ เป็นวิชาจัดการ แบบวัวหายแล้วมาล้อมคอก
(ความลับของการจัดการ ไม่ค่อยมีคนเผยเคล็ดลับ)
ดังนั้น จึงหลีกหนีไม่ได้ทีจะต้องโดนด่าเสียก่อน
แต่ไม่เท่านั้น แม้โดนด่า บางคนไม่ถนัดคำนวณ เลยหาทางออกก็ไม่เจอ
ก็ใช้ยาหอมโปรยแก้กันไป คราวหน้าค่อยมาว่ากันใหม่ว่าจะหาใครมาโดนแทน

อันนี้ไม่ได้พลาดพิงประเด็นใดประเด็นหนึ่ง เป็นการพูดรวมๆ
(เรื่องเพิ่มเวลากิจกรรม อันนั้นก็ดีอยู่)

ที่ผ่านมาการขึ้นมาครองอำนาจ ไม่ได้จำเป็นต้องเก่งมาก
แล้วคนเหล่านี้ล่ะ ก็มาวางหลักสูตรแบบเรียนให้เด็กๆ แล้วก็คิดกันว่า
เด็กๆ พวกนี้มันเรียนไปเหอะ ไม่ได้ขึ้นมาใหญ่แบบเขาหรอก
หรือเผลอๆ ก็อาจจะหลงคิดไปว่า เรียนไปเพื่ออะไร? เพราะว่าคนวางหลักสูตร
ก็ไม่เห็นประโยชน์เช่นกัน

 

เนื้อหาหลักสูตรตั้งแต่อนุบาลจนยันอุดมศึกษา
ป.ตรี-เอก เน้นวิชาการที่รับใช้ชาติเพื่อสร้างชาติ
คล้ายเกาหลีผสมญี่ปุ่น ผสมสิงคโปร์
หรือไม่เอาทั้งหมดกล่าว

เอาแบบภูฏาณ ล้วนๆ
เลยพลเมืองมีเสรีมีความสุข และ
ไม่รู้สึกว่าตนเองล้าหลัง

ถ้าไม่เปลี่ยนที่การพัฒนาพลเมือง ก็ต้องเปลี่ยนมาพัฒนาที่
ใจเราให้เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

 

มันพูดยากนะที่ต้นตอของปัญหานั้นท้ายที่สุดแล้วจะมาจากคนระดับล่างเอง ที่เป็นคนคัดสรรเลือกกลุ่มคนพวกนั้นเข้าไปบริหารงานปกครองตนอะนะ เชื่อป่ะ ต่อให้คนระดับล่างมีความรู้สูงขึ้นแค่ไหน แต่ว่ามันก็มีส่วนช่วยได้มากกว่าเดิมไม่มากนักหรอก เพราะว่าไรเหรอ ที่ผมถึงคิดเช่นนั้น ก็เพราะว่า ต่อให้คนและกลุ่มคนที่คนระดับล่างคิดไว้ว่าดีหรือคัดสรรมาว่าดีแล้วแค่ไหน แต่สุดท้ายพอพวกเค้าเข้ามาบริหารนานๆ เข้า นิสัยพวกเค้าก็อาจจะเปลี่ยนไปได้ อาจมีความโลภเพิ่มมาขึ้นกว่าเดิม ระดับหัวหน้าเริ่มชักชวนทั้งคณะของตนให้เปลี่ยนไปตามตนเพื่อผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง เพื่อที่จะโกงทุจริตคอรัปชั่นได้ง่าย,เยอะและนานขึ้น เพราะว่าถ้าพรรคพวกหรือหน่วยงานที่ตัวเองคุมอำนาจอยู่ เป็นฝ่ายที่เห็นพ้องด้วยกับตนมีการแบ่งผลประโยชน์ตามข้อตกลงกันแล้ว มันก็ไม่มีอะไรที่จะมาแย้งหรือตรวจสอบการโกงทุจริตได้ สุดท้ายก็เป็นแบบ เดิมๆ ฉะนั้นจุดที่ผิด ใหญ่ๆอีกข้อที่ไม่ควรมองข้าม คือลูกน้องพรรคพวก หรือหน่วยงานใต้บังคับบัญชา ที่ต้องไม่เห็นดีด้วยกับการกระทำผิดทั้งหมดของหัวหน้าผู้บริหารตน ไม่งั้นเละ IQ ต้องมีควบคู่กับ EQ และ EQ ต้องวัดและประเมินตลอด จะครั้งละ 3เดือน,6 เดือน หรือ 1 ปี ก็ว่าไป แต่ต้องวัดตลอดทั้งหมด ไม่ว่าจะผู้บริหารระดับบนหรือระดับล่าง ประชาชนด้วยก็ต้องวัด

 

กว่าจะไต่เต้าขึ้นมาตำแหน่งใหญ่ได้ ก็หมดปัญญาคิดแล้ว คนไทย
คนฝรั่งเขาคิดล่วงหน้าเป็น 100 ปี คนไทย 10 ปีก็เก่งแล้ว

 

ประเทศเจริญอย่างไรก็ยังต้องมีสลัม ต้องมีขอทาน
ต้องมีโจร
เพราะไม่ว่าสังคมไหนๆ ก็ประกอบไปด้วยผู้คนที่เปรียบดัง
บัว ๔ เหล่า นี่เป็นคำกล่าวของจอมปราชญ์

ประเทศไหนมีแต่บัวเหล่าที่ ๑ บ้างฮะ
ดังนั้น ต่อให้อบรมสั่งสอนกันในวิชาการทางโลกและธรรม
เข้มข้นด้วยอุดมการณ์ปานใด
ก็ไม่สามารถทำให้พลเมืองทั้งหมดกลายเป็นบัว
เหล่าที่๑
ไปได้
ส่วนบัวเหล่าที่ ๑ จะอาทรบัวเหล่าอื่นมากน้อยแค่ไหนนั้น
ดูเหมือนสังคมไทยจะอาศัยกฏหมายเป็นเกณฑ์
จึงต้องสู้ความถูกผิดกันด้วยหลักกฏหมาย

คุณธรรมจริยธรรมจะไม่ค่อยนำ
ใช้ในการเกื้อกูลกันดูแลกันครับ

 

ผู้ฉลาดที่ทำแต่เรื่องที่ผิดกฏหมาย ผิดจารีตหรือจริยธรรม
เป็นผู้ฉลาดที่ไม่ได้เข้าเกณฑ์ บัวเหล่าที่ ๑
เพราะบัวเหล่าที่ ๑ จะทำแต่สิ่งที่โลกไม่อาจติเตียนได้เท่านั้น

 

ทุกๆอย่างมันก็ต้องเริ่มตั้งแต่ในครอบครัวแหละว่าสอนกันมาอย่่างไรตั้งแต่เล็กๆก็ต้องสอนกันแล้วตั้งแต่เรื่องทิ้งขยะ ทําตัวในสังคม ส่วนคนที่มีตําแหน่งสูงๆเขาก็หันไปเล่นตุ๊กตากันซะแล้ว

 

เห็นด้วยครับ
คนโต ๆ หันไปเล่นตุ๊กตาตัวละ 2 พัน 3 พัน บ้างก็เล่น
ฆ้อนสวรรค์เงินผ่อน.อันละ 2 แสน 3 แสน
บางทีมีเล่นสิ่งที่พิลึกพิเรนทร์มากกว่านี้แต่เราตามไม่ทัน
ก็เป็นได้

 

น้ำท่วมบนสะพานพระราม 8 .. อันนี้ผิดปกติจริงๆ คงไม่ใช่แค่จัดการไม่ดีครับ

เพราะปกติ สะพาน หรือ ถนนลอยฟ้านี้ ต้องมีการคำนวณอัตราการระบายของน้ำอยู่บ้าง
ซึ่งจะว่าไปการอุดตันนั้นมีโอกาสน้อยเพราะไม่ได้มีคนเดินที่จะมีทิ้งขยะได้ เพราะมีแต่รถวิ่งผ่าน

ดังนั้น ปริมาณน้ำฝน น่าจะมีเยอะกว่าปกติจริงๆ
ซึ่งคงต้องแก้ไข เพิ่มอัตราการระบายเป็นอีกเท่าตัว

 

ลุงแมวว่าใช่นะฮะ

เพราะสะพานมีหน้ากว้างมากกว่าหลังคาบ้าน
ฝนตกหนักระดับเกินกว่า 80
มม.ขึ้นไป
หลังคาบ้านน้ำยังไหลโจ๊ก แต่พื้นที่ผิวหน้าบนสะพานมันกว้างและยาวมันก็มีอาการไหลไม่ทันจึงเหมือนท่วมขัง

 

ขอร่วมออกความเห็นด้วยคนนะคะ

น้ำท่วมในเมืองใหญ่ ประเทศไทยอย่างไรก็หลีกหนีไม่พ้นค่ะ กรรมของบุคคลผู้มีราคะมาก. หลงไหลมัวเมาในวัตถุ หลงไหลแสงสีเทคโนโลยี เมืองใดมีมากก็โดนมาก ๑ การจัดการบริหารระบบบ้านเมือง ๒ ค่ะ

ประเทศไทยเป็นเมืองที่บริหารยากที่สุดในโลก เพราะสัมพันธ์แนบแน่นด้วยระบบยึดติดมาตั้งแต่บรรพชน ระบบอุปถัมถ์และพวกพ้องนะคะ

การบริหารประเทศถ้าไม่มากด้วยผู้มีบุญบารมีแล้วไหลไปตามกระแสหมดค่ะ เพราะผู้มีบุญบารมีนั้น อย่างไรเสียแล้วไม่ว่าบุคคลหรือสิ่งงแวดล้อมไม่มีอำนาจหรือมีอิทธิพลเหนือจิตใจท่านได้ ค่ะ

 

"กทม. ทุ่มงบประมาณ 4,390.69 ล้านบาท ผุด 21 โครงการใหญ่ในปี 2560"

ทำไม รายการมีแต่สร้างเขื่อนล่ะครับ ..
สงสัยเสียไป 4พันล้านเสร็จ ก็ยังท่วมเหมือนเดิม
ก็เราเอาฮาอยู่แล้วนี่นะ




1.โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก(ค.ส.ล.)พร้อมทางเดินริมคลองแสนแสบบริเวณประตูระบายน้ำหนองจอกถึงสุดเขตกทม.และคลองนครเนื่องเขตจากคลองแสนแสบถึงบริเวณคลองหลวงแพ่งงบประมาณ 293.205ล้านบาท

2.โครงการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.และประตูระบายน้ำคลองลาดพร้าวคลองบางบัวคลองถนนคลองสองและคลองบางซื่อจากบริเวณเขื่อนเดิมอุโมงค์ยักษ์พระราม 9 – รามคำแหงไปทางประตูระบายน้ำคลองสองสายใต้งบประมาณ 1,031.135 ล้านบาท

3.โครงการพัฒนาปรับปรุงศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมงบประมาณ 155.1 ล้านบาท

4.โครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองทวีวัฒนาบริเวณคอขวดและจ้างที่ปรึกษาควบคุมงามงบประมาณ 230 ล้านบาท

5.โครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบจากอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าวถึงบริเวณซอยลาดพร้าว 130 และจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานงบประมาณ 154 ล้านบาท

6.โครงการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.คลองบางเขนจากบริเวณถนนพิบูล-สงครามถึงบริเวณคลองบางบัวงบประมาณ 84 ล้านบาท

7.โครงการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.และประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์คลองคู้บอนคลองบางชันจากประตูระบายน้ำ(ปตร.)คลองพระยาสุเรนทร์ถึงคลองแสนแสบงบประมาณ 185 ล้านบาท

8.โครงการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.คลองสามวาจากปตร.คลองสามวางบประมาณ 133 ล้านบาท

9.โครงการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.คลองหนองบอนช่วงจากคลองประเวศบุรีรมย์งบประมาณ 95 ล้านบาท

10.โครงการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.คลองมะขามเทศช่วงจากคลองหนองบอนถึงคลองสองห้องงบประมาณ 135 ล้านบาท

11.โครงการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.พร้อมทางเดินคลองภาษีเจริญจากบริเวณถนนราชพฤกษ์ถึงสุดเขตกทม.งบประมาณ200.8ล้านบาท

12.โครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำด้านใต้คลองภาษีเจริญช่วงคลองภาษีเจริญถึงคลองสนามชัย(ก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.คลองพระยาราชมนตรีตอนที่2)งบประมาณ37ล้านบาท

13.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะตลิ่งและคันป้องกันน้ำท่วมโครงการแก้มลิงคลองมหาชัย-คลองสนามชัยงบประมาณ 51.5 ล้านบาท

14. โครงการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.คลองบางนาจากถนนทางรถไฟสายเก่าถึงบริเวณคลองเคล็ดงบประมาณ 80 ล้านบาท

15.โครงการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.คลองหนองบอนช่วงสถานีสูบน้ำบึงหนองบอนถึงคลองปลัดเปรียงงบประมาณ 130 ล้านบาท

16.โครงการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.คลองมหาศรจากบริเวณคลองบางไผ่ถึงบริเวณคลองภาษีเจริญงบประมาณ 75 ล้านบาท

17.โครงการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.คลองบางไผ่บริเวณคลองพระยาราชมนตรีถึงบริเวณสุดเขตกทม.งบประมาณ 103 ล้านบาท

18.โครงการบำบัดน้ำเสียคลองเตยงบประมาณ 9 ล้านบาท

19.โครงการบำบัดน้ำเสียธนบุรีงบประมาณ 1,090 ล้านบาท

20.โครงการบำบัดน้ำเสียบึงหนองบอนงบประมาณ 11 ล้านบาทและ

21.โครงการนำน้ำที่ผ่านการบำบัดกลับมาใช้ประโยชน์งบประมาณ 107.95 ล้านบาท

 

คนบริหารงาน แต่ไม่เข้าใจเรื่องงาน .. ขำดีว่ะ
ต่อไปก็เรียนวิธีหาเสียงพอ ให้ทุกๆ คนเรียนแค่วิธีหาเสียงพอ ลื่นเป็นปลาไหลพอ
(นึกๆ ดูน่าจะตั้งวิทยาลัยเพื่อ การพูดลื่นเป็นปลาไหล เลยนะ)
พอขึ้นมาเป็นก็ตั้งงบตั้งอะไร ทำไปล้มเหลว เสียเงินสูญไป
ก็ไปหาคนที่เรียนหาเสียงคนใหม่มาแทน เวียนล้มเหลวไปเรื่อยๆ

ประเทศขำๆ ว่ะ

 

ไม่พูดไม่ได้ว่ะ เดี๋ยวคนมันจะโง่ไม่หาย

เข้าใจคำว่าอัตราการระบายกันไหม? ต่อให้ฝนมันตกลงมาแค่เฉพาะหมู่บ้านเดียว
ถ้าอัตราการระบายไม่ทัน ฝนตกจุดเล็กๆ มันก็ท่วม

ที่นี่ท่วมแล้ว บางที่ระบายได้ช้าก็ยิ่งท่วมหนัก ยิ่งเป็นที่ต่ำยิ่งเป็นที่รวมของ
น้ำจากที่อื่นๆ ก็ยิ่งหนักเข้าไปอีก ยิ่งระบายไม่ทันเข้าไปอีก

แต่หลักการแล้ว อยู่ที่การควบคุมเตรียมเรื่องอัตราการระบายนะครับ จะเร่งจะขยายท่อเพิ่มแนวท่อก็ว่าไป
การป้องกัน ทำเขื่อนทำอะไรนี่ มันถูกแค่ 25-40% นะ