ขอคำแนะนำเรื่องการสอนพุทธศาสนาหน่อยครับ

สวัสดีครับ ผมเพิ่งตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ถเ้ามีอะไรผิดพลาดขออภัยด้วยนะครับ
คือผมเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนโครงการ AFS รุ่นที่ 50 สหรัฐอเมริกา จะเดินทางในเดือนสิงหานี้ ระหว่างที่ไปศึกษาที่นู่น ผมอยากจะเอาพุทธศาสนาไปเผยแผ่ให้คนที่นั่นรู้จักพุทธศาสนาบ้าง แล้วก็รู้จักรวัฒนธรรมของเราด้วย

ผมเลยอยากขอคำแนะนำว่าผมควรจะเอาเรื่องอะไรไปเล่าให้เขาฟังดี ควรจะเริ่มจากเรื่องไหนและอธิบายอย่างไร เพราะผมเองก็เข้าใจเฉพาะพระธรรมพื้นฐานที่อยู่ในวิชาพุทธศาสนา กับเพิ่มเติมอื่นๆอีกเล็กน้อย เรื่องที่ผมคิดจะเล่าก็มีเรื่องอริยสัจ กฎแห่งกรรม ฯลฯ ทำนองนี้แหละครับ แต่ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจดีเท่าไร โดยเฉพาะเรื่องกฎแห่งกรรม พอรู้บ้างแต่ก็ไม่เคลียร์ อยากให้ผู้รู้ช่วยให้คำแนะนำผมด้วยครับ

มีอีกคำถามหนึ่งอยากจะถามครับ ท่าน ว.วชิรเมธี บอกว่า ศาสนานอกพุทธศาสนามีอยู่สามรูปแบบคือ
1. ศาสนาที่เชื่อว่าทุกสิ่งเป็นเรื่องบังเอิญ
2. ศาสนาที่เชื่อการดลบันดาลของพระเจ้า
3. ศาสนาที่เชื่อว่าชีวิตเป็นไปด้วยกรรมเก่า

ผมเลย งง ว่า อ้าว ศาสนาพุทธไม่เชื่อเรื่องกรรมเก่าหรอกเรอะ แล้วเชื่อเรื่องอะไรล่ะ ขอคำแนะนำจากผู้รู้ด้วยครับ

 

การที่คุณจะแนะนำพระพุทธศาสนาให้กับชาวต่างชาตินั้นอย่างหนึ่ง คุณต้องมีความคิดและใจที่เปิดกว้างเป็นอันดับแรกครับ.....ชาวพุทธโดยเฉพาะฝากทางยุโรป อเมริกานั้น.....เป็นลักษณะที่เป็นคนที่ชอบวินิจวิเคราะห์และสามารถสัมผัสและพิสูจน์ได้....ไม่ได้มีความเชื่อในแบบที่จับต้องไม่ได้หรือกล่าวง่ายๆก็คือจะเป็นแนวที่มีปัญญามาก่อนศรัทธา.....ไม่ใช่มีศรัทธามาก่อนปัญญา......

พุทธศาสนาตอนนี้ที่เจริญได้มาในแถบนั้นคือเรื่องของการปฏิบัติและการเข้าใจธรรมชาติของชีวิต....ครับ.....

คุณไม่ต้องไปแนะนำอะไรเขามากหลอกนะ.....เรื่องการปฏิบัตินี่นะครับ....เรื่องการนั่งสมาธินี่หละ.....ดีมากสำหรับการที่จะแนะนำคนที่นั่น...เพราะอะไรเหรอครับ....ผมเห็นฝรั่งหลายคนนะโดยเฉพาะศิษย์หลวงพ่อชา หรือหวงพ่อวิริยังค์ก็ดี....ส่วนมากมาเรื่องของการปฏิบัติสมาธิ...และหนังสือเรื่องของการปฏิบัติและเข้าใจความจริงของชีวิตนั้นจะเป็นที่แพร่หลายมากครับ....คำถามที่เจอบ่อยคือ ทำสมาธิมีประโยชน์อย่างไร ช่วยอะไรได้บ้างเช่นทำให้ใจสงบรักษาโรค ไมเกรน ความเครียด สมาธิสั้น อะไรอย่างนี้เป็นต้นครับ....

คุณอย่าได้เอาความเชื่อแบบเทพนิยายอะไรไปพูดกับเขามากครับ...เพราะไม่ได้เรื่องเลยที่จะไปแนะนำที่นั่น...ถ้าเขาถามค่อยเสริมนะ....

อีกอย่างอย่าไปกล่าวว่าศาสนาอื่นนั้นไม่ดีเพราะไม่ใช่วิธีของพระพุทธศาสนานะครับ...ศาสนาพุทธเน้นความจริงตามกฏของธรรมชาติเป็นสิ่งที่จับต้องได้และพิสูจน์ได้อย่างนี้หละนะครับ........

ก่อนไปหาหนังสือธรรมดีๆที่มีการแปลเป็นภาษาอังกฤตไปบ้าง ผมเห็นตามร้านหนังสือนะครับ...ของสำนักพิมพ์ธรรมสภาหลายเล่ม หรือหาที่หน้าปกสวยๆไปก็ได้ครับ....ก่อนกลับเอาไว้เป็นของขวัญ ไม่ก็มอบให้ห้องสมุดได้.....

เช่น

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=661137

 

ไม่ก็ไปโหลดเอาที่นี่ หนังสือที่ระลึก การประชุมวิสาขบูชาโลก ของ มจร.
The 8th of International Celebration on the Occasion of United Nations Day of Vesak 2011

โหลดหนังสือธรรมสายการปฏิบัติแบบหลวงพ่อชา พระอาจารย์ลูกศิษย์หลวงพ่อชาชาวต่างชาติได้เทศนาไว้....มีทั้งอังกฤต และฝรั่งเศษครับ...(ผมแจกเพื่อนชาวยุโรปไปหลายคนแล้ว)

โรงเรียนทอสี | โรงเรียนวิถีพุทธ


เวบวัดป่่า อภัยคีรี ท่านอาจารย์ประสันโน ศิษย์ชาวต่างชาติองค์สำคัญของหลวงพ่อชา...เวบนี้โหลดเสียงธรรมและไปปฏิบัติได้นะครับ....

Abhayagiri Buddhist Monastery


ต้องยอมรับนะครับสมัยนี้ ชาวยุโรปให้ความสนใจกับพุทธศาสนามากนะ....ขนาดผมไม่ได้ไปเรียนฝากนู้น วิชาพุทธศาสนา ก็มีเพื่อชาวยุโรปมาร่วมนั่งฟังและสอบถามแสดงความคิดเห็นหลายคนมากนะครับ.....ถ้าเป็นยุโรป และสหรัฐ ผมเชื่อแน่ว่าต้องมากกว่านี้....

 

ไม่ก็ไปโหลดเอาที่นี่ หนังสือที่ระลึก การประชุมวิสาขบูชาโลก ของ มจร.
The 8th of International Celebration on the Occasion of United Nations Day of Vesak 2011

โหลดหนังสือธรรมสายการปฏิบัติแบบหลวงพ่อชา พระอาจารย์ลูกศิษย์หลวงพ่อชาชาวต่างชาติได้เทศนาไว้....มีทั้งอังกฤต และฝรั่งเศสครับ...(ผมแจกเพื่อนชาวยุโรปไปหลายคนแล้ว)

โรงเรียนทอสี | โรงเรียนวิถีพุทธ


เวบวัดป่่า อภัยคีรี แคลิฟอเนีย ท่านอาจารย์ประสันโน ศิษย์ชาวต่างชาติองค์สำคัญของหลวงพ่อชา ทั้งเป็นพระอุปัชญาย์สามารถบวชพระที่นั่นได้(ดูภาพกิจกรรมนะครับ ซึ้งใจมากับการเจริญของพุทธศาสนาที่นั่นและความงามของพุทธบุตรแท้ผู้เดินตามรอยพระบาทของพระพุทธเจ้า..)...เวบนี้โหลดเสียงธรรมและไปปฏิบัติได้นะครับ....

Abhayagiri Buddhist Monastery


ต้องยอมรับนะครับสมัยนี้ ชาวยุโรปให้ความสนใจกับพุทธศาสนามากนะ....ขนาดผมไม่ได้ไปเรียนฝากนู้น วิชาพุทธศาสนา ก็มีเพื่อนชาวยุโรปมาร่วมนั่งฟังและสอบถามแสดงความคิดเห็นหลายคนมากนะครับ.....ถ้าเป็นยุโรป และสหรัฐ ผมเชื่อแน่ว่าต้องมากกว่านี้....

 

เรื่องกรรมตามหลักของพระพุทธศาสนาศึกษาที่นี่

กรรม หรือ ที่เรียกว่า กฏแห่งกรรม-1

 

พระพุทธเจ้าค้นพบทางหลุดพ้นจาก การ เกิด แก่ เจ็บ ตาย พลัดพราก หรือรวมเรียกว่า ทุกข์

..ค้นพบ หลักคิด หลักปฏิบัติ เรียกว่า อริยสัจ4 โดยการรู้แจ้งแทงตลอดในเหตุแลผล รวมถึงวิถีทางแห่งการปฏิบัติจนบรรลุ สรุปเป็นหลักปฏิบัติให้เกิด ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นหัวใจสำคัญคือ เว้นความชั่วทุกอย่าง ทำความดีทุกอย่าง ทำจิตใจให้ผ่องใส

..การยอมรับความจริง การไม่ฝืนความจริง การยอมรับตามความเป็นจริงตามกฎแห่งกรรม เป็นเรื่องของการละวาง ใน รัก โลภ โกรธ หลง เป็นการตั้งอารมณ์ใจ เพื่อตัดกิเลส

..ปฏิบัติธรรม(ความจริง) ถ้าฝืนธรรม(ความจริง) จะได้ธรรม(ความจริง)เมื่อไร....

..ในโลกสมมตินี้ ไม่มีอะไร ผิด-ถูก มีแต่ ..ทำ อะไรเกิดขึ้น ..ไม่ทำ อะไรเกิดขึ้น อุปมาเช่น โยนหินลงน้ำ เกิดหรือ ไม่เกิดอะไร ....ไม่อยากเกิด ก็อย่าไปทำให้เกิด..ฯลฯ

 

ไม่ค่อยเก่ง แต่อยากช่วยคะ

1.ศาสนาที่เป็นเรื่องบังเอิญ คือ ไม่มีเหตุผล ในแง่ความคิดของข้าพเจ้าคือ
ไม่จำเป็นต้องมีเหตุก็มีผล เช่น เรามาเจอกันได้อย่างไร มันคงเป็นความบังเอิญแต่ในความเป็นจริง ความบังเอิญไม่มีแต่น่าจะเป็นไปในแง่ที่ว่า เราเคยทำบุญร่วมกันมาก่อนจึงได้มาประสพพบกันในชาตินี้ หรือกรรมบันดาลให้ต้องมาประสบเคราะห์กรรมเช่นนี้ ตามหลักเหตุผลก็น่าจะเป็นว่า มีเหตุคือ ในอดีตเคยทำบุญร่วมกันมา แม้จะไม่รู้จักกันแต่ก็มาเจอกัน ส่วนเรื่องบางเรื่องบางครั้งก็เป็นเรื่องทีว่ากฏแห่งกรรมบันดาลให้ปรากฏผลเช่นนั้นร่วมกัน เช่น คน ๆ หนี่งอาจต้องมาประสบเคราะห์กรรมเพราะเคยทำกรรมไม่ดีไว้ และเมื่อกรรมชั่วให้ผล จึงต้องมาอยู่ในเหตุการณ์ที่มีการตายหมู่ในเหตุการณ์นั้น ๆพร้อมกัน หรือ อย่างคนชั่วเมื่อกรรมไม่ดีมาให้ผล ต้องไปติดคุกบังเอิญคนที่อยู่ในคุกเป็นโรคร้ายแรง คนชั่วคนนั้นไปอยู่ในคุกปรากฏว่าไปติดโรคร้ายแรงของคนคุกที่อยู่ก่อนแล้ว ข้าพเจ้าคิดว่านั่นอาจเป็นเพราะกรรมเก่าบันดาลให้ต้องไปรับกรรมในคุก แต่สาเหตุที่ติดโรคในคุกอาจไม่ใช่กรรมเก่า แต่เป็นเหตุการณ์ปัจจุบันที่ปรากฏในคุก จึงไปติดโรค โดยผู้ที่ทำความชั่วดังกล่าว ไม่มีเวรกรรมต้องไปเป็นโรคร้ายแรงนี้
2.ศาสนาที่เป็นเรื่องของพระเจ้า คือ ศาสนาที่เชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปตามพระเจ้าบันดาล หรือ พรหมลิขิต แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นจากการกระทำของเราเอง ใครจะมาตัดสินแทนเราไม่ได้ พุทธศาสนาเชื่อว่า หว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น เหมือนเราปลูกเงาะ ผลก็ต้องได้กินเงาะ เราปลูกทุเรียน ผลเราก็ต้องได้กินทุเรียน
3.ศาสนาที่เชื่อเรื่องกรรมเก่า คือ ข้าพเจ้าคิดว่าน่าจะหมายความว่า ยึดกับสิ่งที่เป็นกรรมเก่าที่ผ่านไป เชื่อว่ากรรมเก่าบันดาล แต่ในความเป็นจริงคนเราสร้างทั้งกรรมเก่าและกรรมใหม่(กรรมปัจจุบันหรือกรรมใหม่ หมายถึง ปัจจุบันเราคิดดี คิดชั่ว ขณะนี้เรากำลังทำดี ทำชั่ว ขณะนี้เรากำลังพูดดี พูดชั่ว ) ไปพร้อม ๆ กัน
ในขณะที่กรรมเก่าที่เคยทำไม่ดีมาส่งผลกับเรา แต่ขณะเดี๋ยวกันเราก็พยายามกำหนดสติรู้เท่าทันจิต (กรรมปัจจุบัน ) ไม่ให้คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว นั้นคือกรรมปัจจุบันที่เรากำลังสร้างขึ้น เมื่อสร้างดี ก็เท่าสร้างเหตุแห่งกรรมใหม่ดี ผลก็ต้องดี
ป.ล. อาจอธิบายผิด แต่คิดว่าน่าจะแนว ๆนี้ อย่างไรแนะนำให้ถามพระ จะดีกว่านะคะ
ป.ล, แนะนำหนังสือหลวงพ่อจรัญ ฐิตตธัมโม ภาคกฏแห่งกรรม และการแก้กรรมในปัจจุบัน ให้ลองอ่านและให้ต่างชาติอ่านนะคะ เพราะรู้สึกว่าหนังสือหลวงพ่อมีภาคที่เป็นภาษาอังกฤษขายด้วยคะ อย่างไรลองดูนะค
ขออภัยที่ล่วงเกินพระธรรม ถ้าอธิบายผิดคะ สาธุ

 

ขอบคุณทุกๆคนมากเลยครับที่ให้คำแนะนำ ผมได้แนวคิดเยอะเลย โดยเฉพาะคุณความคิดเห็นแรก คำแนะนำของคุณมีประโยชน์มากครับ

ความจริงแล้วผมก็ตั้งใจจะเอาหลักที่เกี่ยวกับเหตุผลมากกว่าเรื่องอภินิหารอยู่แล้วล่ะครับ เพราะผมเองก็ไม่เชื่อเหมือนกัน 555 ถ้าเล่าก็จะเล่าในเชิงวัฒนธรรมไทยมากกว่า ไม่เกี่ยวกับศาสนา แต่ก็ขอบคุณมากจริงๆนะครับ ผมไม่ผิดหวังเลย