กโปตกชาดก-ชาดกว่าด้วยความเป็นผู้มีใจโลเล

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย หลบภัย, 20 กันยายน 2011.

  1. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    กโปตกชาดก-ชาดกว่าด้วยความเป็นผู้มีใจโลเล

    [​IMG]
    นกพิราบและกาได้อาศัยรังอยู่ใกล้ๆ กันด้วยความอนุเคราะห์จากพ่อครัว
    อันพระพุทธวัจนทั้งหมดทั้งสิ้นที่ผ่านความยาวนานของกาลเวลามากกว่า 2500 ปีนั้น มีพระธรรมคำสอนเพียงไม่กี่ข้อที่ผู้คนในโลกจำกันขึ้นใจ บุคคลพึงสำเร็จได้ด้วยความเพียรก็เป็นพระพุทธธรรมข้อหนึ่งที่เราจดจำนำไปปฏิบัติกันอย่างกว้างขวาง การปฏิบัติกิจใดโดยความเพียรก็ย่อมมีข้อขันติอดทน ไม่มีใจโลเลเป็นสิ่งนำสู่ความสำเร็จด้วยดังเห็นการนำไปสู่การตรัส กโปตกชาดกในพระเชตะวันมหาวิหาร ณ พุทธกาลครั้งหนึ่ง

    [​IMG]
    ภิกษุหนุ่มผู้มีใจโลเลในการประพฤติธรรม

    กาลครั้งนั้นยังมีภิกษุรูปหนึ่งมีนิสัยโลเลบางครั้งก็ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด แต่บางครั้งก็เบื่อหน่ายเลิกล้มความพากเพียรลง “นั่งสมาธิ(Meditation)อยู่นานแล้ว ใยจิตใจของเรายังไม่สงบนะ เฮ้อ..มันชั่งยากจริงๆ” บางครั้งภิกษุท่านนี้ถึงขนาดท้อแท้ขาดกำลังใจไม่อาจกระทำความเพียรไปได้อย่างสม่ำเสมอ

    [​IMG]
    ภิกษุหนุ่มท้อแท้ใจในการปฏิบัติธรรมของตน
    “โธ่เอ้ย..เวรกรรมอะไรของเรานะ” เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงโปรดด้วยพระกรุณาธิคุณแก่ภิกษุผู้มีจิตใจโลเลนั้นด้วยเรื่องราวในอดีตชาติที่พระองค์เคยเกื้อกูลสั่งสอนกันมาก่อน ทรงระลึกชาติครั้งนั้นด้วยบุพเพนิวาสนุสติญาณผ่านเวลาย้อนไปในชาติภพหนึ่งในพาราณสี ณ กาลนั้นมีพ่อครัวจิตใจดีคนหนึ่ง มีหน้าที่ซื้ออาหารมาปรุงรสเลี้ยงดูทุกคนในตระกูลของนายจ้าง

    [​IMG]
    เมืองพาราณสีที่เจริญรุ่งเรืองและสงบร่มเย็น

    พ่อครัวคนนี้ซื่อตรงมีวินัยและจิตใจดี “อือ...วันนี้ตลาดมีของสดเยอะแยะเลย อะไรๆ ก็น่าซื้อน่ากินไปซะหมด ของดีๆ สดๆ ทั้งนั้นเลย” ทุกครั้งเมื่อซื้อผักพืชผลใดๆ มาได้ ก็แบ่งคัดเพื่อปรุงให้กับเศรษฐีนายจ้างและเหล่าบริวารเหมาะสมตลอดมา “อันนั้นนะ ส่วนของท่านเศรษฐีน่ะ เอ้า..อันนี้นะ ส่วนของเจ้า ไปปรุงกินกับสามีเจ้าเถิด”

    [​IMG]
    พ่อครัวประจำบ้านท่านเศรษฐีหาซื้อกับข้าวในตลาด

    “ขอบคุณมาก เดี๋ยวข้าทำเสร็จแล้วจะตักแบ่งมาให้ท่านด้วยนะ” “เฮอะๆๆ ไม่เป็นไรหรอกพวกเจ้าทานกันให้อิ่มเถอะ สามีเจ้าทำงานหนักมาทั้งวัน คงจะหิวแล้วหล่ะ ไม่รู้แค่นี้จะพอหรือเปล่าน่ะ” “ฮ้าๆๆ” “เออๆๆ รีบไปทำเข้าเถอะ ไม่ต้องมาประชดข้าหรอก” ที่ชายคาโรงครัวนั้นพ่อครัวใจบุญได้นำตะกร้ารองด้วยใบหญ้าเป็นรังให้นกพิราบตัวหนึ่งได้พักอาศัย

    [​IMG]
    พ่อครัวแบ่งกับข้าวให้กับบริวารอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ

    นกพิราบออกไปกินอาหารในละแวกเมืองพาราณสีแต่เช้า ใกล้อาทิตย์ตกก็กลับมานอนรังของตน มิเคยรบกวนให้พ่อครัวร้อนใจ “รังนี้อุ่นจัง พ่อครัวใจดีแท้อุตส่าห์ทำรังให้เราอยู่” จนกระทั่งมีอีกาตัวหนึ่งเข้ามาตีสนิทคบหากัน อีกาตัวนั้นแวะเวียนมามิได้ห่าง “กา กา วันนี้เราไปหากินทางตะวันตกบ้างนะไกลหน่อย แต่ของอร่อยเยอะมาก ขอบอก”

    [​IMG]
    พ่อครัวทำรังให้นกพิราบอาศัยบริเวณชายคาโรงครัว

    “ได้สิจ๊ะแม่กา มารับแต่เช้าทุกวันเลยนะ ไปกันเถอะ พูดแล้วข้าก็ชักหิว” ตอนเช้ากาจะมารอใกล้ๆ รังนกพิราบแล้วบินออกไปด้วยกัน พอเย็นก็แวะลงมาส่งจนเป็นปกติที่มิตรสหายปฏิบัติต่อกัน “โอ้..ช่วงนี้อากาสหนาว เจ้านะรีบเข้ารังซะตั้งแต่วันเถอะ เราไปก่อนหล่ะ” “จ้า แล้วพรุ่งนี้เช้าเจอกันเหมือนเดิมนะ เจ้าก็บินกลับรังดีๆ ละ”

    [​IMG]
    แม่กาตัวหนึ่งเข้ามาตีสนิทกับนกพิราบเพราะต้องการเป็นเพื่อนด้วย
    นานวันเข้าอีกาก็ยิ่งทำตัวสนิทเข้าใกล้ชิดจนถึงรังที่อยู่อาศัยของนกพิราบอย่างเปิดเผย “ยังไม่ตื่นอีกหรือนกพิราบ กา กา กา เพื่อนที่แสนดีมารับแล้วจ้า กา กา” “ตายจริง..นี่เจ้ามารับเราถึงรังเลยเหรอ” “ก็ข้าไม่เห็นเจ้าออกมาสักที ก็เลยมาหานะซิ ว่าแต่รังเจ้านี่น่าอยู่จังนะ” “ใช่ซิจ๊ะ พ่อครัวเค้าทำไว้ให้นะ อุ่นมากเลยนะ”

    [​IMG]
    แม่กามารับนกพิราบเพื่อออกไปหากินด้วยกันเป็นประจำทุกวัน

    อีกานั้นช่างพูดช่างเจรจาอีกทั้งคบหากันมาหลายวันก็ไม่ได้ทำผิดคิดร้ายอะไร นกพิราบก็เริ่มใช้ชีวิตอย่างปกติสุขคลายความทุกข์จากการระแวงอีกาลงไป “มีแม่กาเป็นเพื่อนนี่ก็ดีเหมือนกันหายเหงาได้เลยเรา” พ่อครัวรู้เห็นการคบค้าสมาคมของนกพิราบกับอีกาอยู่ตลอดเวลาจึงสงเคราะห์ด้วยการแขวนรังใหม่ขึ้นอีกรังหนึ่งให้อีกา “เอ้าๆๆๆ มาอยู่ใกล้ๆ กันซะ จะได้มีเพื่อน อือ..”

    [​IMG]
    พ่อครัวสร้างรังให้แม่กาได้อาศัยอยู่ใกล้กับนกพิราบ

    “กา กา กา กา กา พ่อครัวใจดีที่สุดเลยตอนนี้เราได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ กา กา กา” “อย่าเอ็ดไป..จะรบกวนพ่อครัวกับคนในครัวเค้า” “แหม่..ก็ข้าดีใจนะ กา กา กา อุ๊ยตาย รังอุ๊น อุ่น น่านอนจริงๆ” เมื่อได้สิทธิเสมอกัน อีกาจึงเริ่มตีตนออกห่าง ไม่บินไปหากินพร้อมกันดังเคยปฏิบัติ “กา กา กา เจ้าไม่ควรเถลไถลหากินจนมืดค่ำเกินเวลาอย่างนี้เลย ไม่ดีน่า”

    [​IMG]
    นกพิราบออกไปหากินตามลำพัง

    “วันนี้เราออกไปกินไกลหน่อยนะ แล้วทำไมแม่กาไม่ไปด้วยกันหล่ะ” “โอ้ย..ข้าไม่อยากไปไกลหรอก กินใกล้ๆ นี่แหละจะได้กลับมานอนในรังอุ่นๆ เร็วๆ” ที่ประหลาดมากกว่านั้นบางวันอีกาทำท่าเหมือนไม่อยากออกไปหากิน ซึ่งผิดจากธรรมชาติของกาทั่วไป “อุ๊ย..น่ากินจัง ปลาทะเลนึ่งซีอิ๋ว ปลานึ่งบ๊วยก็มี ปลาต้มเค็ม ปลาสามรสอีก อูยยย....เห็นแล้วน้ำลายสอเลยเรา”

    [​IMG]
    แม่กาแอบมองอาหารในครัวด้วยความหิวกระหาย

    ในโรงครัวมักมีอาหารคาวที่อีกาโปรดปรานมายั่วน้ำลายมันอยู่เสมอๆ สิ่งนี้จึงทำให้อีกาเกิดความอยาก ไม่ต้องการไปหาอาหารที่อื่น อยากลิ้มรสอาหารในโรงครัวแทน “วันนี้มีแต่ปลาตัวโตๆ สดๆ ทั้งนั้นเลย ท่านเศรษฐีต้องชอบใจแน่ๆ เลย” “งั้นเดี๋ยวข้าคัดตัวเล็กๆ หน่อยไปตากไว้ทำเป็นแดดเดียวบ้าง ดีไหมพ่อครัว”

    [​IMG]
    แม่การอจังหวะและโอกาสที่จะเข้าไปกินอาหารในโรงครัว

    “เออ..ดีๆๆ แขวนระวังๆ ล่ะ อย่าให้มดหรือแมลงวันมาตอมแล้วกัน” บางครั้งพ่อครัว แม่ครัวก็เอาปลาบ้างเนื้อบางมาแขวนผึ่งลมไว้ใกล้หน้าต่าง อีกาทนกลืนน้ำลายอยู่ไม่ไหว เกิดอยากขโมยกินตามสันดานของกา “อึมม....ปลาน่ากินจัง โอ้ย...หอมเหลือเกิน ของโปรดเราทั้งนั้น หนอนตัวโตแค่ไหนรสชาติก็สู้เนื้อปลาไม่ได้ อู๊ยย...น่ากินเหลือเกิน”

    [​IMG]
    แม่กาแสร้งทำเป็นป่วยไม่ออกไปหากินกับนกพิราบ

    วันหนึ่งอีกาแสร้งทำเป็นปวดท้องบินไม่ไหวขอหยุดนอนในรังหนึ่งวัน แต่นกพิราบนั้นรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมจึงเตือนด้วยเห็นว่าเป็นมิตรสหาย “อู๊ย...วันนี้เราปวดท้องเหลือเกินสงสัยจะออกไปหากินกับเจ้าไม่ได้แล้วหล่ะ อูยปวดท้อง อู้ย...กา กา กา อูย สงสัยท้องเสียแน่เลย” “เจ้ากาเอ๋ยสัญชาติกานั่นนะ ไม่มีโรคปวดท้องมารบกวนหรอก

    [​IMG]
    แม่กาแอบเข้าไปกินอาหารในโรงครัว
    เรารู้ดีนะว่าธรรมชาติของกานั่นนะย่อมหิวไม่เคยอิ่ม เรารู้ว่าเจ้ามีแผนอะไรในใจ ไม่ควรนะเจ้า” “เจ้าอย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลยน่ะ เรานะไม่อยากจะกินหนอนอะไรอีกแล้ว ดูซิในครัวมีแต่ปลาตัวโตๆ ทั้งน้าน..เจ้านะไปเถอะเราจะกินของในครัวนี่แหละ” “อาหารนั้นนะ พ่อครัวเก็บไว้สำหรับมนุษย์พวกเค้า เราควรออกไปหากินประสาเราเถอะ

    [​IMG]
    แม่กาถูกพ่อครัวจับได้เพราะแอบขโมยกินอาหาร
    อย่าเห็นแก่ปาก อย่าอยากตามท้องเลยเจ้ากาเอ้ย” “เจ้าไม่ต้องมาสั่งสอนข้าเลย สัญชาติกาก็ต้องกินปลา มันเป็นของคู่กัน มื้อนี้หวานปากแน่ๆ” “เฮ้อเจ้ากา เราเตือนเจ้าแล้วนะ” เมื่อกาไม่ยอมทำตามนกพิราบก็จำต้องออกจากรังไปหากินตามลำพัง “เจ้ากาเอ้ย ถ้าเจ้าเห็นแก่ความอยากเช่นนี้ เจ้าต้องได้รับกรรมสนองแน่”

    [​IMG]
    นกพิราบกลับมาเจอแม่กาในสภาพที่ถูกถอนขนชะโลมด้วยน้ำเกลือและเนยเปรี้ยว

    เมื่อนกพิราบออกไปจากรัง อีกาก็รอจนในโรงครัวเงียบเสียงลง ก็กระโดดเข้าไปบนโต๊ะเตรียมอาหาร “ว๊าว..ปลากะพง อุ๊ย..เนื้อตุ๋น ไม่มีใครอยู่เฝ้าด้วย มื้อนี้ขอละกัน ลาภปากจริงๆ อุ๊ย..หวานๆๆ” แต่แล้วอีกาก็คิดผิดและตกใจจนแทบสิ้นสติ เพราะพ่อครัวเข้ามาพบเข้าอย่างจัง “กา กา กา ตายแล้ว พ่อครัวปิดประตูหน้าต่างขังเราแล้ว กา กา กา คราวนี้ตายแน่ๆ”

    [​IMG]
    แม่กาทนความเจ็บปวดไม่ไหวสิ้นใจตายในที่สุด

    หลังจากไล่ต้อนอยู่ไม่นานอีกาก็โดนพ่อครัวจับตัวไว้จนได้ “เสร็จข้าละ เจ้ากาเนรคุณให้พักอาศัยดีๆ ยังไม่สำนึกอีก อยากจะกินเนื้ออบรึ! ดี ข้าจะเอาเจ้ามาหมักดูบ้าง” “กา กา กา ข้าผิดไปแล้วปล่อยข้าไปเถอะ ฮือๆๆ กา กา กา” กรรมสนองกรรมของอีกาครั้งนี้ นกพิราบได้มาพบเห็นก็เย็นมากแล้วจึงได้แต่เวทนามัน “โธ่เอ้ย..ถูกถอนขนชะโลมน้ำเกลือและเนยเปรี้ยวขนาดนี้นะเห็นทีเจ้าต้องตายแน่” “กา กา กา โอ๊ย..เหม็น แสบไปทั้งตัว ฮือๆๆ”

    [​IMG]
    นกพิราบขอบคุณพ่อครัวที่ได้ให้ที่พักอาศัยแก่ตน
    “อันความทุกข์ใหญ่หลวงของเจ้าเนี่ย เกิดเพราะนิสัยโลเลทำดีไม่ตลอดและโลภมากนั่นเอง” ไม่ทันสิ้นแสงตะวันอีกาใจโลเลก็สิ้นลมหายใจตาย ซ้ำยังทิ้งความเดือดร้อนไว้เบื้องหลังเป็นบาปติดตัวไปยังนรก “เฮ้อ กาตัวเนี่ยทำให้พ่อครัวไม่ไว้ใจเสียแล้ว ขืนอยู่ต่อไปก็คงมีอันตรายเข้าสักวัน นับว่าเราไว้ใจคบคนชั่วเป็นมิตรแท้ๆ เฮ้อ”

    [​IMG]
    พระพุทธองค์ทรงแสดงอริยสัจ 4

    รุ่งอรุณจับขอบฟ้าวันต่อมานกพิราบก็กล่าวขอบคุณพ่อครัวที่อนุเคราะห์ที่พักอาศัยมานาน อย่างสำนึกในพระคุณแล้วออกเดินทางไปหารังใหม่อาศัยต่อไป จนสิ้นอายุขัย พระพุทธองค์ตรัส กโปตกชาดกจบแล้วทรงแสดงอริยสัจ 4_โดยเอนกปริยาย ภิกษุผู้ละความเพียรเพราะใจโลเลก็รู้เหตุและน้อมนำพระธรรมเทศนาเป็นกำลังใจปฏิบัติดีได้ในบัดนั้น ผู้ใดบุคคลกล่าวสอนอยู่ ไม่ทำตามคำสอนของผู้ปรารถนาดีผู้อนุเคราะห์ด้วยประโยชน์เกื้อกูล ผู้นั้นย่อมถึงความหายนะเศร้าโศกอยู่เหมือนกาไม่เชื่อฟังคำของนกพิราบต้องตกอยู่ในกิเลสฉันนั้น

    ในพุทธกาลสมัย อีกากำเนิดเป็น ภิกษุผู้จิตใจโลเล
    นกพิราบเสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า

    โย อัตถะกามัสสะ หิตานุกัมปิโน
    โอวัชชะมาโน นะ กะโรติ สาสะนัง กโปตะกัสสะ
    วะจะนัง อะกัตวา อมิตตะหัตถัตโตวะ เสติ
     
  2. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ชาดก นี่อ่านยากเน๊าะ..อ่านผิดอันตรายนะนี่..อย่าอ่านผิดล่ะยังไงก็ตามให้กำลังใจดี..
    นี่ได้อ่านก่อนนะ เตรียมการณ์ไว้แล้ว กะว่าเข้าหนาวเมื่อใดจะปล้นบิ๊กซีดูสักครั้ง รึไม่ก็ 7-11 ดูสักที ครึ่งๆเอามะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...