กิเลส๔๙ และมารทั้ง๕คืออะไร พระพุทธเจ้าปราบกิเลสและมารได้อย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ยศวดี, 12 กรกฎาคม 2012.

  1. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    กิเลส๔๙ และมารทั้ง๕คืออะไร พระพุทธเจ้าปราบกิเลสและมารได้อย่างไร

    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

    กิเลสคือธรรมเป็นเครื่องเศร้าหมองคือทำให้สภาพธรรมที่เกิดร่วมด้วยคือจิตเศร้า-

    หมอง กิเลสเป็นเจตสิก

    ซึ่ง กิเลส มีแสดงหลากหลาย นัย แบ่งไปตามประเภท ตามทวาร ทีเ่กิด เป็นต้น

    กิเลส มีโดยนัย กิเลส 3 กิเลส 10 อุปกิเลส 16 และ กิเลส 1500 เป็นต้น ทีเ่ป็นกิเลส

    3 คือ โลภะ โทสะ โมหะ ส่วน กิเลส 49 ยังไม่พบที่มา ครับ แต่ไม่ว่าจะแสดง กิเลสมี

    ประมาณเท่าใด พระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงให้เห็นความละเอียดของกิเลส ที่มีประการ

    ต่างๆ และเป็นสิ่งที่มีเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เพื่อให้สัตว์โลก ได้เห็นโทษของกิเลส

    ด้วยปัญญา จึงอบรมปัญญา ศึกษาพระธรรมเพื่อละกิเลส

    นี่คือประโยชน์ของการศึกษาเรื่องกิเลส ที่ไม่ใช่เป็นเรื่องของจำนวน แต่เป็นเรื่อง

    ของ กุศลธรรมที่จะเิกิดขึ้นในจิตใจ คือ ปัญญา ทีเ่ห็นโทษของกิเลส และ รู้จักตัว

    กิเลส ตามความเป็นจริงว่าเป็นแต่เพียงธรรม ไม่ใช่เรา ไม่มีเราที่มีกิเลส ครับ และ

    กิเลส ประการแรกที่ควรละ คือ ความยึดถือ สำคัญผิดว่ามีสัตว์ บุคคล ตัวตนเป็นสำคัญ

    เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ

    กิเลสคืออะไร ?

    กิเลสหมายถึงอะไร

    กิเลส 16 กับกิเลส 10 ต่างกันอย่างไรครับ ?

    ธรรมเป็นกิเลส [ธรรมสังคณี]

    ประโยชน์ของการศึกษากิเลส ๑๕๐๐ ตัณหา ๑๐๘

    ***************************************

    จากคำถามที่ว่า มาร 5 คืออะไร

    เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ

    มารคือใคร

    พระสูตร เรื่องมาร ... วันเสาร์ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๕

    มาร ๕ [ข้าศึกทั้งปวง...ตอนที่ ๑]

    มาร ๕ [กิเลสมาร...ตอนที่ ๒]

    มาร ๕ [ขันธมาร...ตอนที่ ๓]

    มาร ๕ [อภิสังขารมาร...ตอนที่ ๔]

    มาร ๕ [มัจจุมาร...ตอนที่ ๕]

    [เทวบุตรมาร...ตอนที่ ๖...จบ]

    อุปธิ

    ความเข้าใจที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น...[คิดเบียดเบียนผู้อื่น...ตอน ๑]

    *****************************************

    คำถามที่ว่า

    พระพุทธเจ้าปราบกิเลสและมารได้อย่างไร

    กิลส เป็นสภาพธรรมที่มีจริง พระพุทะเจ้าทรงละกิเลสมาร หรือกิเลสไ้ด้หมด ด้วย

    สภาพธรรมที่ตรงกันข้ามกับกิเลส คือ ปัญญา และ ไม่ใช่เพียงปัญญาเท่านั้น กุศล

    ประการต่างๆ ทีเ่ป็นบารมี ที่พระองค์สะสมมา เป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้สามารถละกิเลส

    ได้หมดสิ้น อันมีปัญญา เป็นหัวหน้า ซึ่ง พระองค์อาศัยการบำเพ็ญบารมี มานับชาติ

    ไม่ถ้วน และ ในพระชาติสุดท้าย ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระองค์ทรงละกิเลสได้

    หมดสิ้น ด้วยทางสายกลาง คือ อริยมรรคมีองค์ 8 อันเป็นทางสายเดียวที่จะละกิเลส

    ได้หมดอันมี สัมมาทิฏฐิ คือ ความเห็นถูกที่เป็นปัญญา เป็นหัวหน้า ครับ ส่วน พระองค์

    ทรงละมารอื่นๆ มี อภิสังขารมารได้แล้ว คือ ไม่มีเจตนาที่เป็นไปในกุศล อกุศล แต่เป็น

    เจตนาทีเ่กิดกับกิริยาจิตและวิบากจิตเท่านั้น และ ทรงละมัจจุมารได้ในอนาคต คือ จะ

    ไม่เกิดอีก ครับ และ ละขันธมารได้ในอนาคต คือ จะไม่มีการเกิดขึ้นของขันธ์ ครับ และ

    ละ เทวปุตตมารได้ คือ เทวดาผู้ที่เห็นผิด ที่คอยขัดขวางพระองค์ เมื่อพระองค์ยังไม่

    ไ้ด้ตรัสรู้ พระโพธิสัตว์ ชี้นิ้วลงที่แผ่นดิน เป็นพยานว่า พระองค์บำเพ็ญบารมีมา เพื่อ

    ตรัสรู้ ณ บััลลังค์นี้ แผ่นดินไหว ทำให้เทวปุตตมาร และกองทัพมารพ่ายแพ้ไป ครับ

    เพราะฉะนั้น เมื่อดับกิเลสมาร คือ กิเลสได้หมด ด้วยการเจริญอริยมรรคมีองค์ 8 ย่อม

    ละมาร ทุกอย่างได้หมดสิ้นทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ครับ

    จึงเป็นเครื่องเตือน ครับว่า มาร ก็มีอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน หนทางที่จะกิเลสมาร

    คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมปัญญาและกุศลประการต่างๆ ย่อมละ มาร

    ต่างๆทั้งหมดได้ ครับ ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

    ชีวิตประจำวันของบุคคลผู้ที่ยังเป็นปุถุชน หนาแน่นไปด้วยกิเลส ย่อมจะมีกิเลส

    อกุศลเกิดขึ้นเกือบทั้งวัน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในวันนี้ ในชาตินี้เท่านั้น แต่ว่าได้เป็นอย่างนี้

    มานานแล้วในสังสารวัฏฏ์ เพราะได้สะสมกิเลสมาอย่างมากมายนับชาติไม่ถ้วน

    จึงเป็นผู้ไหลไปด้วยอำนาจของกิเลส ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย

    และทางใจ ซึ่งน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง เพราะเหตุว่า กิเลสทั้งหลาย มีโลภะ โทสะ โมหะ

    เป็นต้น เป็นศัตรูภายในเป็นข้าศึกภายใน เป็นมลทินของใจ ไม่นำประโยชน์สุขใด ๆ

    มาให้เลย มีแต่นำมาซึ่งทุกข์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

    เพราะฉะนั้น ผู้มีโอกาสได้ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจไปตาม

    ลำดับ ก็จะเห็นพระมหากรุณาคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระองค์ได้ทรง

    แสดงพระธรรมอย่างละเอียด ซึ่งถ้าไม่ทรงแสดงพระธรรมโดยละเอียด ก็จะไม่มีใครรู้จัก

    ตัวเองตามความเป็นจริงว่ายังเป็นผู้เต็มไปด้วยกิเลส ยังมีส่วนที่ไม่ดีอยู่มาก เพราะยัง

    มีกิเลสอยู่นี้เอง จึงยังต้องมีการเกิดและตายอย่างไม่มีวันจบสิ้น จนกว่าจะได้มีการฟัง

    พระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง อบรมเจริญปัญญา

    สะสมปัญญาไปตามลำดับ จึงจะค่อย ๆ ละคลายมาร คือ กิเลส ให้เบาบางลง จนกระ

    ทั่งสามารถดับมารคือกิเลสได้ ในที่สุด

    กิเลสทั้งหลายที่มี ต้องดับได้ด้วยปัญญา พระอรหันตสัมมาัสัมพุทธเจ้า กว่าจะได้

    ทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้อย่างหมดสิ้นนั้น ต้องอาศัย

    การสะสมพระบารมีมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานถึงสี่อสงไขยแสนกัปป์ จนพระบารมี

    ถึงความบริบูรณ์ พระองค์ก็ทรงได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้

    อย่างหมดสิ้น ครับ.


    ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุก ๆ ท่านครับ.
    โมทนาสาธุคะ
    อ้างอิงจากhttp://www.dhammahome.comเจ้าคะ
     
  2. ก้อนหิน

    ก้อนหิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +238
    มีขันธ์เกิด เกิดพอใจ เกิดขาดสติ มาร ๆอุปทานขันธ์ แมนบ่
     
  3. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    โอยยยยย แกล้งกันหรือเปล่าเนี่ยะ

    ถ้า ยก ธรรมโฮมมาก็ต้อง ย้อนแย้งตามระเบียบอะเนาะ

    เอาอันไหนดีหว่า อ้อ เอาอันนี้ดีกว่า

    *************

    เคยได้ยินไหม พ่อแม่ครูบาอาจารย์บางท่าน หาก ผู้ภาวนาภาวนามาได้อย่าง
    ยิ่งยวด มีจิตเป็นสมาธิดีมาก สว่างไสวไปหมด ( ไม่ใช่ ฌาณนะ )

    พระท่านก็จะกล่าวว่า "กิเลสมันของเก่า สมาธิก็ของเก่า" อันนี้ อนุปุพิกถา

    หากไม่กระเพื่อม งุน งง งง งวย พระท่านก็จะตามด้วย "กิเลสฆ่าไม่ได้หรอก"

    หากเข้าใจ ก็จะตามด้วย

    รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง
    สังขารเที่ยงหรือไม่เที่ยง
    สัญญาเที่ยงหรือไม่เที่ยง
    เวทนาเที่ยงหรือไม่เที่ยง
    วิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง

    5 บรรทัดนี้เนี่ยะ หากตอบโดย ขาดปัจจัตตังรองรับ ก็ไม่รู้เรื่อง
    หรอกว่า เขาภาวนาแล้วพ้นกันยังไง ประหานสมุทเฉทเนี่ยะ
    ยังไง

    สุดทางจินตนาการ เลยไปอีกยังมีไหม ภาวนาเป็นก็ต้องตอบว่ามีนะ

    ภาวนาไม่เป็น หัวเสีย หน้ายุ่งเป็น ขมูขีเลย ต้องเอา ยิ้มมาฉีกกลบไว้

    ***********

    อย่าลืมนะ จขกท "ขัดทางเทคนิค เฉยๆ" ไม่ใช่ขัด จขกท
     
  4. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    มาเถียง ปัจจัตตัง นั่นละตัวดี(ย้ำดี) "กิเลสฆ่าไม่ได้หรอก":mad::'(
     
  5. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    หว่า ไฟ ตกละ สลดเลย เฮ้อ ให้มันมี ความชุ่มชื่นมั๊งดิ ชอบดักจับเรื่อยเลย
    ปล่อยๆ มั๊งเฮอะ เดี๋ยว จขกท เฉาตายหนา เดี๋ยวจะเหงาเอานา
     

แชร์หน้านี้

Loading...