กินเจ...กินเนื้อ - กบกับคางคก โดยหลวงพ่อชา สุภัทโท

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย กลอง, 6 ตุลาคม 2010.

  1. กลอง

    กลอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,468
    ค่าพลัง:
    +2,991
    <abbr class="published" title="2010-10-05T02:25:24+00:00"></abbr>
    [​IMG]


    กินเจ...กินเนื้อ - "กบ" กับ "คางคก"

    พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)

    วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี


    วันหนึ่งมีคนมาถามหลวงพ่อชา
    เกี่ยวกับเรื่องการกินเจ
    กับการกินอาหารเนื้ออาหารปลาต่างกันอย่างไร
    อย่างไหนถูก อย่างไหนผิด

    เพราะปัจจุบัน
    มีสำนักปฏิบัติที่ถือข้อวัตรปฏิบัติต่างกันมากมายหลายแห่ง


    บางแห่งถือว่าการกินเนื้อสัตว์เป็นบาปเป็นกรรมร่วม
    เพราะเท่ากับเป็นการยุให้เขาฆ่าสัคว์
    ที่นั้นจะต้องถือมังสวิรัติ
    เว้นการฉันเนื้อฉันปลาอย่างเด็ดขาด

    บางแห่งว่าการกินเจเป็นข้อวัตรของเทวทัตที่เคร่งครัดเกินไป
    จนพระพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาต
    เขาจึงสงสัยว่าอย่างไรจะถูกอย่างไรจะผิด
    ในระหว่างข้อวัตรปฏิบัติทั้งสองแบบนี้

    ท่านตอบว่า

    “เหมือนกบกับคางคกนั่นแหละ
    โยมว่ากบกับคางคกอย่างไหนมันดีกว่ากัน


    ความจริงแล้ว

    พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ฉันอะไร ไม่ได้เป็นอะไร
    ในจิตของท่านไม่มีอะไรเป็นอะไรอีกแล้ว


    การบริโภคอาหารเป็นสักแต่ว่า
    เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงร่างกายพอให้คงอยู่ได้
    ท่านไม่ให้ติดในรสชาติของอาหาร
    ไม่ให้ติดอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง

    ให้รู้จักประมาณในการบริโภค
    ไม่ให้บริโภคด้วยตัณหา
    นี่เรียกว่า พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ฉันอะไร
    ไม่มีอะไร ไม่เป็นอะไรแล้ว


    ถ้าคนกินเนื้อไปติดอยู่ในรสชาติของเนื้อ นั่นเป็นตัณหา

    ถ้าคนไม่กินเนื้อ พอเห็นคนอื่นกินเนื้อ
    ก็รังเกียจและโกรธเขา ไปด่าว่านินทาเขา
    เอาความชั่วของเขาไปไว้ในใจตัวเอง
    นั่นก็เป็นคนโง่กว่าเขา
    ทำไปตามอำนาจของตัณหาเหมือนกัน


    การที่เราไปโกรธเกลียดเขานั้น
    มันก็คือผีที่สิงอยูในใจเรา

    เขากินเนื้อเป็นบาปเราโกรธเขา
    เราก็เป็นผีเป็นบาปอีกเหมือนกัน

    มันยังเป็นสัตว์อยู่ทั้งสองฝ่าย ยังไม่เป็นธรรมะ
    อาตมาจึงว่าเหมือนกบกับคางคก”

    “แต่ทางที่ถูกนั้น ใครจะกินอะไรก็กินไป แต่ให้มีธรรมะ

    คนกินเนื้อ ก็อย่าเห็นแก่ปากปากท้อง
    อย่าเห็นแก่ความเอร็ดอร่อยจนเกินไป อย่าถึงกับฆ่าเขากิน

    ส่วนคนกินเจก็ให้เชื่อมั่นในข้อวัตรของตัวเอง
    เห็นคนอื่นกินเนื้ออย่าไปโกรธเขา รักษาตัวเราไว้
    อย่าให้คิดอยูในการกระทำภายนอก


    พระเณรในวัดนี้ของอาตมาก็เหมือนกัน
    องค์ไหนจะถือข้อวัตรฉันเจก็ถือไป
    องค์ไหนจะฉันธรรมดาตามมีตามได้ก็ถือไป
    แต่อย่าทะเลาะกัน อย่ามองกันในเง่ร้าย
    อาตมาสอนอย่างนี้
    ท่านก็อยู่ไปด้วยกันได้ ไม่เห็นมีอะไร

    ให้เข้าใจว่า

    ธรรมะที่แท้นั้น เราจะเข้าถึงได้ด้วยปัญญา
    ทางปฏิบัติที่ถูกก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา


    ถ้าเราสำรวมอินทรีย์
    คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจไว้ดีแล้ว จิตก็จะสงบ
    และปัญญาความรู้เท่าทันสภาพของสังขารทั้งหลาย ก็จะเกิดขึ้น
    จิตใจก็เบื่อหน่ายจากสิ่งที่น่ารักน่าใคร่ทั้งหลาย
    วิมุตตก็เกิดขึ้นเท่านั้น”


    (คัดลอกบางตอนมาจาก “ใต้ร่มโพธิญาณ” ใน ข่าวสารกัลยาณธรรม
    ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๓ , หน้า ๕๔-๕๕)


    ที่มา...
    http://www.dhammajak...php?f=7&t=34808 / กินเจ...กินเนื้อ - กบกับคางคก - ลานธรรมเสวนา
     
  2. ผู้เลื่อมใสศรัทธา

    ผู้เลื่อมใสศรัทธา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    911
    ค่าพลัง:
    +2,082
    อนุโมทนา สาธุครับ

    วิทยาทานมากครับ ใกล้ช่วงกินและ

    ปีนี้ผมกะจะกินให้ครบวันเลย
     
  3. ฅนล้านนา

    ฅนล้านนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +1,000
    ...เข้าใจแล้วครับจะกินเจหรือกินเนื้อก็ถูกทั้งนั้น อยู่ที่ว่ากินด้วยใจที่บริสุทธิ์หรือเปล่า
    "อนุโมทนาครับ"
     
  4. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    อนุโมทนาด้วยครับ หลวงพ่อท่านกล่าวได้เป็นกลาง กล่าวได้ถูกทาง และให้ประโยชน์ักับทั้งสองกลุ่มเป็นอย่างดี
     
  5. ชัยธนันท์

    ชัยธนันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    859
    ค่าพลัง:
    +1,488
    อนุโมทนาสาธุขอบคุณมากครับ พอเพียงและเพียงพอกินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน ชัดเจนมากเลยครับ
     
  6. linkinpark.ball

    linkinpark.ball เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +253
    เป็นวิทยาทานที่ดีมากๆเลยครับ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ถ้ากินเนื้อแล้วก็อย่าลืมอุทิศส่วนกุศลให้เค้าด้วยนะครับ
     
  7. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    หลวงปู่โต๊ะพบพระแม่กวนอิม

    (หลวงปู่โต๊ะพบพระแม่กวนอิม)
    ครั้งหนึ่งขณะที่หลวงปู่นั่งเจริญกรรมฐานอยู่ในโบสถ์ พลันก็เห็นเซียน 8 องค์เข้ามาพูดกับท่านว่า

    "พระแม่กวนอิมมารับท่านเป็นสาวกและให้ท่านปฏิบัติแบบมหายาน คือไม่ฉันเนื้อวัว เนื้อควาย และให้ฉันเจทุกเทศกาลกินเจ"

    หลวงปู่ก็ไม่ยอม เถียงไปว่า.........
    "พระแม่เป็นคนจีน หลวงปู่เป็นคนไทยและนับถือพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว ไม่ตกลง"

    นับแต่นั้นมาเซียน 8 องค์ก็มาเฝ้าอ้อนวอนให้หลวงปู่เปลี่ยนใจ

    จนกระทั่งวันหนึ่งเซียนทั้ง 8 องค์ก็มาหาอีกและบอกว่า

    "วันนี้พระแม่กวนอิมเสด็จมาด้วยพระองค์เอง พักรออยู่ข้างนอก"

    หลวงปู่ไม่สนใจได้แต่หลับตาเสีย เซียนองค์หนึ่งจึงไปเชิญเสด็จพระแม่กวนอิมเข้ามาในโบสถ์ และบอกให้หลวงปู่ลืมตาขึ้น หลวงปู่ลืมตาเห็นพระรัศมีสว่างไสวและพระลักษณ์สวยงามมาก พระแม่เจ้าให้หลวงปู่เข้าเป็นสาวกทางพุทธศาสนามหายาน และประทานเสื้อกางเกงชุดพระจีนให้ใส่แทน หลวงปู่เผลอรับเสื้อกางเกงมาสวมใส่ พอกางเกงสวมมาถึงเข่า ก็รู้สึกตัวได้สติ รีบดึงกางเกงออกทิ้งไป พระแม่กลับบอกว่า

    "ท่านเป็นสาวกของพระแม่แล้ว ต่อไปนี้ท่านจะต้องฉันเจทุกปี

    ตามเทศกาลเจของชาวจีน"

    แล้วพระแม่กวนอิมและเซียนทั้ง 8 องค์ ก็หายวับไปกับตา

    พอถึงเทศกาลเจครั้งแรก หลวงปู่ไม่ยอมฉันเจ หลวงปู่ก็อาพาธหนัก พอหมดเทศกาลเจก็หาย ในปีต่อ ๆ มา ก็เป็นเช่นนี้อีก หลวงปู่ทดสอบอยู่หลายปี จนต้องหันมาฉันเจในเทศกาลเจ อาการอาพาธต่าง ๆ ก็หายสิ้น ท่านจึงฉันเจตามเทศกาลแต่นั้นมา

    ทุกปีของเทศกาลเจ หลวงปู่จะแต่งชุดพระจีนในเวลากลางคืน และเมื่อหลวงปู่นั่งสมาธิ พระแม่เจ้าก็ได้พาหลวงปู่ไปเที่ยวดินแดนสุขาวดีพุทธเกษตร พร้อมทั้งสอนวิชชาให้ จึงเป็นสาเหตุว่าชาวจีนทำไมจึงขึ้นกับหลวงปู่โต๊ะมากเป็นพิเศษ และหนึ่งในชาวจีนที่นับถือหลวงปู่โต๊ะมากคือ คุณพ่อของข้าพเจ้าเอง คุณพ่อและคณะศรัทธาธรรมได้ร่วมกันสร้างรูปหล่อพระแม่เจ้าร่วมกับหลวงปู่โต๊ะที่ หน้าถ้ำสิงโตทอง จังหวัดราชบุรี เป็นพระรูปกะไหล่ทองให้ศิษย์ที่นับถือพระแม่กวนอิมสักการะบูชา

    ครั้นหลังเมื่อหลวงปู่กลับจากการเยือนพุทธคยาที่ประเทศอินเดีย หลวงปู่ก็เริ่มฉันภัตตาหารมังสวิรัติ คือ การเว้นเนื้อสัตว์และมันสัตว์ทั้งปวงโดยเด็ดขาดอย่างจริงจัง ตราบถึงกาลมรณภาพ

    เรื่องราวของหลวงปู่โต๊ะเป็นการแสดงถึง ความสมานสามัคคีของผู้มุ่งหวังสร้างบารมี ไม่ว่าพุทธนิกายใด หรือศาสนาใดย่อมอนุเคราะห์ค้ำจุนกันได้เสมอ ทั้งนี้เพื่อขจัดทุกข์บำรุงสุขให้เกิดขึ้น มีขึ้น แก่ผู้ศรัทธาที่เคารพบูชาเสมอ

    และเมื่อหลวงปู่เบิกเนตรองค์พระแม่หยกเขียวนั้นให้แล้วคุณพ่อนำไปวางกับโต๊ะหมู่บูชาที่บ้านในคืนนั้นครั้นเช้าตรู่รุ่งอรุณ ทุกคนต่างตกใจที่ได้ยินแสงระฆังแก้วดังกังวานไปทั่วบ้าน ต่างวิ่งตรูกันออกมาจากห้องนอนมาดูจึงทราบว่าทั่วทั้งโต๊ะบูชามีแสงสว่างไสว เสียงระฆังเพราะมากทุกคนเลยลงไปกราบและว่า "ศักดิ์สิทธิ์ ๆ " และคุณแม่ยังได้รับโชคลาภจากเลขของพระแม่เจ้าในงวดนั้นเอง

    ครอบครัวข้าพเจ้าเคารพนับถือพระแม่กวนอิมมาแต่บรรพบุรุษ โดยเฉพาะคุณย่าผู้ปฏิบัติธรรม และคุณแม่จะสวดมนต์จีนก่อนนอน ข้าพเจ้าจึงจำบทสวดมนต์ของพระแม่ได้ตั้งแต่เด็ก ๆ และในชีวิตก็สวดเป็นแค่บทเดียวคือ กวนอิมแกมึ้งเผ่งอังเกง คุณแม่จึงให้พระแม่กวนอิมแก่ข้าพเจ้าองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นของคุณย่า ข้าพเจ้าดีใจมากเอากลับบ้านพักที่ต่างจังหวัดบูชา และข้าพเจ้าก็เริ่มสวดมนต์กวนอิมแกมึ้งเผ่งอังเกงก่อนนอน พร้อมทั้งอธิษฐานขอบุตรสาวมาเกิดสักคน อยากได้ลูกสาวมาก จำคำพูดคุณย่าได้ว่า......

    "ให้บูชาพระแม่ด้วยความศรัทธาเลื่อมใสปรารถนาสิ่งใดจงอธิษฐานเอา จะสมปรารถนา"

    ข้าพเจ้าสวดมนต์ขอบุตรอยู่ 1 ปี และฝันเห็นแต่เพชรเม็ดงามส่องรัศมีสดใสสว่างไปทั่ว แล้วข้าพเจ้าก็ได้บุตรสาวมาเกิดเป็นเด็กอ้วนท้วมสมบูรณ์ น่ารักและเลี้ยงง่าย ไม่เคยป่วยไข้และมีแววเป็นยอดคนแต่เยาว์วัย

    กราบสักการะบูชาในพระมหาเมตตากรุณาแห่งองค์พระแม่กวนอิมที่ประทานบุตรน้อยมาเกิดสมใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2010
  8. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    เผื่อท่านที่ยังไม่รู้จักหลวงปู่โต๊ะ

    [​IMG]

    พระราชสังวราภิมณฑ์ อยู่ในสมณเพศมาตั้งแต่อายุได้ 17 ปี ท่านได้เล่าเรียนพระธรรมวินัย มีความรู้แตกฉานลึกซึ้ง และถือวิปัสสนาธุระเป็นหลักปฏิบัติในชีวิตอันยาวนานถึง 94 ปีของท่าน เป็นรัตตัญญูผู้รู้กาลนาน เป็นครูของสาธุชนทุกหมู่เหล่า เป็นที่เคารพบูชา ศรัทธาเลื่อมใสของบุคคลทุกเพศวัย ทุกชาติชั้น นับแต่สามัญบุคคลจนถึงองค์พระประมุขของชาติ แม้อายุพรรษาจะมากเพียงใด ท่านก็มิได้ขัดศรัทธาของผู้ที่อาราธนาไปในการบุญกุศลต่าง ๆ มีการไปนั่งเจริญสมาธิภาวนาอำนวยสิริมงคล เป็นต้น จึงในระยะหลัง ๆ นี้ทำให้สังขารร่างกายท่านต้องตรากตรำมากเกินไป และเกิดอาพาธขึ้นบ่อย ๆ แม้จะได้รับการเยียวยารักษาและดูแลพยาบาลอย่างดีเพียงใด กายสังขารของท่านก็ทนอยู่ไม่ไหว ท่านอาพาธครั้งสุดท้ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2524 หลังจากกลับจากถ้ำสิงโตทอง มีอาการอ่อนเพลียลงตามลำดับ ก่อนมรณภาพ 7 วัน ท่านลุกจากเตียงไม่ได้เลย แต่ยังพอฉันได้บ้าง นายแพทย์ต้องให้น้ำเกลือทุกวัน อาหารนั้นถวายข้าวต้มกับรังนกตุ๋น ทุกเช้าราว 07.00 น. ถึงวันที่ 5 มีนาคม เวลาเช้าศิษย์ผู้พยาบาลก็ถวายข้าวต้มกับรังนกอีก คราวนี้สังเกตเห็นว่าแขนข้างขวาท่านบวม จึงกราบเรียนกับท่านว่า "แขนหลวงปู่บวมมาก" ท่านก็พยักหน้ารับคำแล้วฉันและหลับตาพักต่อไป โดยให้ออกซิเจนช่วยการหายใจตลอด เวลา 09.00 น. ท่านอ่อนแรงลงอีก และพอถึงเวลา 09.55 น. ท่านก็สิ้นลมด้วยอาการสงบดุจนอนหลับไป ณ กุฏิสายหยุด นับอายุได้ 93 ปี 10 เดือน กับ 22 วัน
    ขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ แปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ควรทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดให้เชิญศพไปตั้งที่ศาลา 100 ปี วัดเบญจมบพิตร พระราชทานเกียรติยศศพเป็นพิเศษ เสมอพระราชาคณะชั้นธรรม พระราชทานโกศโถบรรจุศพ พร้อมฉัตรเบญจาเครื่องประกอบเกียรติยศครบทุกประการ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่การศพโดยตลอด เสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล 7 วัน 50 วัน 100 วัน และตามโอกาสอันควรหลายวาระ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ และในการบำเพ็ญพระราชกุศลออกเมรุและพระราชทานเพลิงเผาศพ ณ เมรุหน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส ก็ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธาน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่พระราชสังวราภิมณฑ์ ตลอดจนศิษยานุศิษย์ ทุกคนหาที่สุดมิได้<O:p</O:p
    </O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2010
  9. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ขอกราบเคารพธรรมพระเดชพระคุณหลวงพ่อชาเป็นอย่างสูง สาธุ สาธุ สาธุ กราบนมัสการ
     
  10. trirut

    trirut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,420
    ค่าพลัง:
    +1,499
    สุปฏิปันโน ภควโต สาวกะสังโฆ สังฆังนะมามิ
     
  11. pagorn

    pagorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +2,848
    อนุโมทนาทั้งหมดทั้งมวลกับผู้ตั้งกระทู้ และสมาชิกทุกท่านที่มาร่วมอนุโมทนากัน สาธุ สาธุ

    ขอให้ถึงนิพพานทุกท่านเทอญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.8 KB
      เปิดดู:
      3,466
    • 98.jpg
      98.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.6 KB
      เปิดดู:
      3,473
  12. sirawasa

    sirawasa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2010
    โพสต์:
    337
    ค่าพลัง:
    +1,191
    ดิฉันไม่ได้ถือเจที่จะต้องกินเจอย่างเคร่งครัดในช่วงเทศกาล แต่ในชีวิตประจำวันจะกินอาหารมังสวิรัติค่อนข้างบ่อย โดยที่ไม่ได้มองว่าเป็นบาป-บุญหรือคุณวิเศษอะไร แค่เห็นว่าดีกับสุขภาพเท่านั้นเองค่ะ

    ดิฉันไม่นิยมถ้าใครอวดอ้างว่าการกินเจ/มังสวิรัติคือคุณวิเศษ แต่กับคนที่กินเจด้วยเจตนารมณ์เบื้องต้นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการลดการฆ่าดิฉันมองว่าตรงนี้เป็นจิตบริสุทธิ์และมุ่งดี อย่างหลังนี้ก็ยินดีด้วยค่ะ
     
  13. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649

    พ่อเคยเล่าว่าตอนแรกเกิดอายุประมาณ 6 เดือน พอเคยพาไปให้หลางปู่เป่าหัวให้ เพราะตอนนั้นป่วยบ่อยมาก พ่อจะยกถวายเป็นลูกท่าน ท่านบอกว่าตัวผมมีเจ้าของอยู่แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2010
  14. ลิงเผือก

    ลิงเผือก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +140
    กินก็ตาย ไม่กินก็ตาย (กินอย่างมีสติ พิจารณาเป็นสิ่งปฎิกูล พระพุทธองค์ท่านทรงสอน) ขออนุโมทนาสาธุ
     
  15. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    "นี่เป็นปฐมเหตุที่ทำให้ผมเชื่อในองค์พระแม่กวนอิมครับ เป็นเหตุการที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง "

    เมื่อวานหลังจากลงกระทู้กฐินวัดบ่อเงินบ่อทอง เรื่องที่ข้าพเจ้าและครอบครัว จะสร้างพระปัจเจกพุทธเจ้าและ "พระแม่กวนอิม" ถวายวัดบ่อเงินบ่อทองเพื่อร่วมฉลอง "เปิด" โรงเรียนพระปริยัติธรรม

    ที่ผวกเราได้ร่วมกันสร้างจนเสร็จสมบูรณ์ ในคืนนั้นข้าพเจ้ามีอาการแปลกๆคือง่วงนอนมาก

    ปกติจะเป็นคนนอนดึกแต่เมื่อวานง่วงมากๆ ในที่สุดฝืนไม่ได้ก็เข้านอนพอหลับไปก็"ฝัน"

    ในนิมิตข้าพเจ้าเดินไปในที่ๆร่มรื่นมากมีต้นไผ่เขียวชะอุ่มเป็นสุขจริงๆ พอเดินไปได้ไม่นานก็เห็นผู้คนร่วมประชุมกันมากมายต่างใส่ชุดสีขาวนั่งอยู่อย่างเป็นระเบียบ

    พอข้าพเจ้ามองไปไกลๆก็เห็นแสงสว่างเป็นสีทองสว่างมาก เมื่อมองอีกทีก็รู้สึงว่าตัวลอยไปใกล้ๆแสงสว่างนั้น พอเข้าไปใกล้ๆจึงทราบว่าแสงทองสว่างที่เห็นเป็น "พระแม่กวนอิม อวโลกิเตศวร"

    ข้าพเจ้าตัวสั่นทรุดตัวลงไปคุกเข่าร้องไห้สะอึกสะอื้น ปากไม่สามารถพูดได้"ปากหนัก" ในความรู้สึกตอนนั้นมันผุดขึ้นมาเองว่า"

    เมื่อตอนสมัยที่หลวงพ่อแผนท่านจะสร้าง"พระแม่กวนอิม"องค์ใหญ่เท่าตึก2ชั้น เราไม่สนับสนุนเพราะเราชอบสร้างพระพุทธเจ้ามากกว่า ชอบค้านท่านชอบล้อเล่นว่าท่านเป็นหลวงจีน "

    มันมีความรู้สึกนะตอนนั้นว่าเราไม่หน้าไปพูดค้านท่านเลยเพราะพระแม่กวนอิมที่ประทับอยู่ข้างหน้าเราในขณะนี้ช่างเปลื่ยมด้วยความเมตตาเอื้ออาทรเหลือเกิน รู้สึกอบอุ่นใจและรับรู้ได้ถึง"พระมหากรุณา อันมากมาย"จากพระแม่เจ้า.....

    พระพักตร์ของพระแม่เจ้าสวยมากๆมีรอยยึ้มนิดๆที่มุมพระโอษฐ์ พระพักตร์เป็นรูปหัวใจสวยสดงดงามมาก ข้าพเจ้าอยากจะพูดอยากจะถามแต่ทำไม่ได้ ได้แต่ร้องไห้อย่างเดียว ในฝันผู้คนที่นั่งอยู่รอบๆตัวข้าพเจ้าหัวเราะชอบใจที่เห็นข้าพเจ้าเอาแต่ร้องให้ พอสักพักก็ได้ยินเสียงพูดว่า "ให้ร่วมกันสร้าง เราจะมาโปรดสัตย์ไม่ให้สร้างคนเดียว"

    ในฝันข้าพเจ้าตัวชาแต่ไม่ร้องให้แล้ว ท่านยังตรัดอีกว่า "แล้วจะมีแต่ความสุขความเจริญกันทั่วหน้า" ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนมีน้ำมนต์มารดที่"หัว" เย็นจับใจเหลือเกินชื่นใจมาก....

    ข้าพเจ้าลืมตาขึ้นก็ไม่งัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน ดูนาฬิกา ตี5.18นาทีนอนต่อไม่ได้ลุกมาสวดมนย์ระลึกถึง"พระแม่กวนอิม" มันอิ่มใจชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก......ตอนเช้าเลยโทรไปรายงานท่านมหาแผนเล่าให้ท่านฝัง ท่านนึ่งไปสักพักเหมือนผูดอะไรไม่ออก แต่ก็พูดทีเล่นทีจริงว่า..

    "นี้เชื่อแล้วหลือ...เจ็กกบฏ"

    แล้วท่านก็หัวเราะ ท่านพูดต่อว่า

    "องค์นี้ต่อไปจะเป็นที่พึ่งของผู้ตกทุกข์ได้ยาก..."

    ข้าพเจ้าคิดอยุ่นานว่าจะมาบอกบุญดีไหมเพราะข้าพเจ้ามีความพร้อมตั่งแต่แรกที่ตั้งใจจะสร้างอยู่แล้วแต่ในเมื่อ "เป็นคำสั่ง" ก็ขัดไม่ได้เลยต้องมาบอกบุญกับทุกๆท่านข้าพเจ้าทุกๆท่านเพื่อร่วมกันสร้าง"พระแม่กวนอิม อวโลกิเตศวร"กันมากๆในครั้งนี้เพื่อพลังอันเต็มเปลื่ยมเป็นน้ำจิตน้ำใจรวมเป็นหนึ่งเดียว

    จากกระทู้:
    "ให้ร่วมกันสร้าง เราจะมาโปรดสัตว์ไม่ให้สร้างคนเดียว"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2010
  16. @ahingsaka@

    @ahingsaka@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +916
    มโน ปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, มโนเสฏฺฐา มโนมยา
     
  17. รักษ์11

    รักษ์11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +516
    หลวงพ่อท่านพูด ไช้คำง่ายๆ อธิบายง่ายๆ

    ฟังแล้วเข้าใจได้ดี และก็ไม่ยากเลย

    อนุโมทนา สาธุครับ
     
  18. วิญญูชนจอมปลอม

    วิญญูชนจอมปลอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +1,124
    อนุโมทนา สาธุครับ

    ถ้ากินเจเวลาท่านกินอาหารมือนั้นๆ คำนั้นๆให้พิจารณาด้วยว่า
    อาหารเจที่ท่านทานเข้าไปกับ อาหารที่มีเนื้อมันต่างกันยังไง

    ผมไม่ได้ทานเจนะครับ คือถ้าอยากทานก็ทานเลยไม่มีเทศกาล บางครั้งก็ยาว บางครั้งก็ 1 มื้อครับ
    เพียงแต่ได้ทราบมาว่าต้องพิจารณาไปด้วยถึงจะได้บุญเพิ่ม
    ส่วนตัวเชื่อตามคำกล่าวข้างต้น คำของลป.ชา ครับกินอะไรก็ได้ขอมีพระธรรมอยู่ในใจ

    แล้วก็ไม่ทานข้าวในวันพระครับ เพื่อละกิเลส(บางส่วน) ช่วงแรกหิวก็ล่อน้ำเต้าฮู้ หิวก็กินตลอด(ต่อสายยางเลยทีเดียว)
    ไม่ได้พิจารณรา มีอยู่ช่วงนึงไม่ได้กิน หาที่ซื้อไม่ได้ (เข้าไปป่าพอดี) หิวมากๆ เลยคิดว่า อ๋อ มันต้องต้องพิจารณาด้วยนี่หว่า
    หิวยังไง ใครหิว กายเราหิวหรือว่าใจเราหิว ไม่กินได้ไม๊
     
  19. EakChutidet

    EakChutidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +856
    ขออนุโมทนา ขอความเจริญในธรรมจงบังเกิดแก่ทุกท่านทุกรูปทุกนาม หากการกระทำใดๆ
    ของข้าพเจ้าล่วงเกินท่านทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวจีกรรม,มโนกรรม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้

    ขอปฎิญาณตนเป็นคนดี ละเว้นการกระทำชั่ว ถือศิล มีธรรมะประจำใจ มีพระนิพพานเป็นอารมณ์
    จะขอมีสติทุกลมหายใจเข้า-ออก ระลึกถึงความตายไว้เสมอทุกลมหายใจเข้า-ออก ละลึกเสมอว่า
    ตัวเรามิใช้ของเรา กายเราก็มิใช่ของเรา เคารพในครูบาอาจารย์ หมั่นปฎิบัติมิให้ขาด ตั่งจิตตั้งใจ
    จะไม่เกิดใหม่อีก ขอให้ถึงพระนิพพานในชาตินี้

    ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ไปให้ทุกรูปทุกนามทั้ง 20 ชั้นพรหมโลก 6 ชั้น
    เทวะโลก มนุษย์โลก มารโลก ยมโลก อบายภูมิทั้ง 4 มี นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน
    และในหมื่นโลกธาตุกับอีกแสนจักรวาลพิภพ ทั้งที่เป็นมนุษย์ อมนุษย์ รูปวิญญาณ อรูปวิญญาณ
    และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งที่เป็นมิตรและศัตรู ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า
    .........ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย
    อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงโมทนาในส่วนกุศลนี้
    พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดนี้ด้วยเทอญ .........

    พร้อมกันนี้ ขออนุโมทนา บุญกุศลกับทุกท่านด้วยครับ
    นายชุติเดช วรรณสุวงค์
    _/l\_ สาธุ สาธุ สาธุ _/l\_
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    กราบอนุโมทนาสาธุในคำสอนของหลวงปู่อย่างยิ่งค่ะ ยินดีและขออนุโมทนากับทุก ๆ ความเห็นนะคะ ขออนุญาตแบ่งปันกระทู้นะคะ ขอบพระคุณค่า..สาธุ. _/\_
     

แชร์หน้านี้

Loading...