การแก้ไขปัญหากับกรรมที่เจอไม่ใช่จะเป็นการก้มหน้าก้มตารับกรรมอย่างเดียว

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ฟ้าเช้า, 1 สิงหาคม 2007.

  1. ฟ้าเช้า

    ฟ้าเช้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2005
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,643
    [​IMG]


    หมอพีร์
    กรกฎาคม ๒๕๕๐

    ลูกค้าหลายคนพอเชื่อเรื่องกรรมได้ระดับหนึ่ง เวลาชีวิตจะต้องใช้กรรม ทำให้ต้องไปเจอคนเห็นแก่ตัว คนเอาแต่ใจ คนที่คิดว่าในโลกนี้ความคิดของตัวเองถูกฝ่ายเดียว ฯลฯ มักจะมีความคิดว่าใช้กรรมให้คนประเภทนี้ไป ซึ่งความคิดที่ยอมรับว่าเป็นกรรมต้องใช้กรรมตรงนี้ เป็นความคิดที่ถูก และยิ่งจิตใจภายในยอมรับได้ยิ่งดีมาก ๆ


    แต่ในบางครั้ง ถ้าต้องปล่อยให้พวกเขาทำกรรมเพิ่มฝ่ายเดียวจะยิ่งแย่ไปใหญ่ เรื่องวุ่นวายที่เขาจะทำให้เดือดร้อนอาจจะหนักไปใหญ่ แต่จะตอบโต้กลับไปก็กลัวว่าจะเป็นการสร้างกรรมเพิ่ม ตรงนี้ก็เลยเป็นเหตุทำให้หลายคนกลัวจนปล่อยให้อีกฝ่ายสร้างกรรมไปเรื่อย ๆ
    ความจริงเราสามารถตอบโต้ หรือทำอะไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องใหญ่ไปกว่านี้ได้ไหม หรือจะยอมรับว่าเป็นชะตากรรมไปเรื่อย ๆ ดี

    วันนี้มีเรื่องราวของคนหลายคนที่ตกอยู่ภายใต้เหตุการณ์ความทุกข์ต่าง ๆ ที่จะก่อกรรมเพิ่มหรือก้มหน้าก้มตารับว่าเป็นชะตากรรมให้ต้องเจอแบบนี้ จะยอมใช้ให้หมดไปดีกว่าไหม หรือจะคิดว่าเอาความดีเข้าไปเปลี่ยนอีกฝ่ายดีไหม
    ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง มาดูดวงด้วยความทุกข์ใจอย่างหนัก หน้ายิ้มแย้มแจ่มใส จิตใจภายในดูกำลังทุกข์เหมือนถูกขังอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ใบหนึ่ง ทุกข์แบบนี้เหมือนทุกข์เรื่องความรักเลย

    ถามเขาว่ามีปัญหาเรื่องความรักอยู่หรือเปล่า คำตอบบอกว่า ใช่ครับ ตอนนี้กำลังทุกข์ใจเรื่องแฟนมาก เหมือนเขากำลังอึดอัดไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลยบอกออกมาว่า ผมขอเล่าเลยแล้วกันนะครับ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา

    ตอนนี้ผมคบกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ ตอนแรกที่คบกันเธอก็เป็นคนดี น่ารักและน่าสงสาร เคยเจอกันมานานแล้ว ตัวผมเองชอบทำบุญ ไหว้พระ สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม ตอนแรก ๆ เราสองคนเหมือนจะไปกันได้ดีมาก เวลาผมทำบุญเขาก็จะอนุโมทนาตลอด ไปทำบุญก็ไปด้วยกัน

    แต่ตอนนี้สิครับเขาเปลี่ยนไป ไม่ให้ผมไปไหน ให้อยู่กับเขาตลอด พอขอไป เขาไม่ให้ไป ผมจะไปก็ต้องทะเลาะกันตลอด ก็เลยปล่อยเลยตามเลย ไม่ไปก็ได้ ซึ่งใจลึก ๆ ผมชอบทางธรรมอยู่แล้วก็เลยเป็นทุกข์ที่เป็นอย่างนี้ หาทางออกไม่ได้เลย ส่วนหนึ่งเขากลัวผมนอกใจเขาเหมือนกับแฟนเก่า เขาก็เลยไม่อยากให้ผมไปไหนเลย

    ใจหนึ่งก็คิดว่าเป็นกรรมแหละที่ต้องมาใช้ ก็คิดว่าจะยอมใช้กับเขาให้หมดไป คิดอีกว่ายอมไปก่อน แล้วค่อยเอาธรรมะที่ผมมีอยู่และธรรมะที่ผมเข้าใจไปเปลี่ยนเขา แต่แทนที่ผมจะเปลี่ยนเขาได้ ดันกลับกัน เขามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของผมหมด ผมควรแก้ไขยังไงดีครับ

    บอกพี่เขาไม่ควรตาม ไม่ควรจะกลัวการต้องทะเลาะกัน เพราะถ้าตามใจปล่อยให้เขาทำผิด ขวางทางการทำบุญ การภาวนา เผยแผ่ธรรมะ จะมีแต่สร้างกรรมให้ตัวเขาเองเพิ่มไปอีก

    ตัวผู้หญิงถ้าสะสมบาปแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้โอกาสในการหลุดพ้นไกลออกไปเรื่อย ๆ โอกาสเกิดในพุทธศาสนาก็น้อยลงไปเรื่อย ๆ ไม่ควรจะตามใจเขา สิ่งที่ผู้หญิงกลัว คือกลัวพี่ไปมีคนอื่น

    ดังนั้นการจะไปไหนก็ควรจะบอกเขาว่าเราไปทำกิจกรรมที่ดี เรารักษาศีลห้าไม่นอกใจเขาหรอก พยายามบอกให้มั่นใจทุกครั้ง เขาไม่ยอมเราก็ต้องฝืน ถึงแม้เขาจะทุกข์ เพราะเจตนาของเราไม่ได้นอกใจไปมีคนอื่นอย่างที่เขาคิด เจตนาของเราไปทำกิจกรรมที่มีแต่จะสร้างบุญจริง ๆ ถ้ารักเขาไม่ควรรักเขาแค่วันนี้ ควรมองไปข้างหน้าด้วยว่าเขาเดือดร้อนก็เพราะเรานะ ยังแก้ไขได้อยู่นะคะ อย่ากลัวว่าเขาต้องเสียใจ อย่ากลัวว่าเขาต้องเจ็บปวด ความเจ็บปวดของเขาในวันนี้ มันจะดีกว่าในอนาคตที่เขาจะไม่เกิดในพุทธศาสนาหรือเกิดในพุทธศาสนาแต่ไม่ศึกษาธรรมะ เขาจะน่าสงสารกว่าวันนี้

    ส่วนลูกค้าคนที่สองเป็นลูกค้าทางโทรศัพท์ต่างจังหวัด ตอนนี้เธอกำลังทุกข์เพราะโดนญาติเอาเปรียบเรื่องทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่ ซึ่งโดยดวงของเธอมีวิบากกรรมเรื่องญาติ ๆ ไว้มาก ทำให้ต้องเกิดในครอบครัวที่มีความเห็นแก่ตัวเป็นธรรมดา

    เธอบอกว่าที่ผ่านมาก็ยอมเสียเปรียบเขาตลอด ทำงานหนักแต่ค่าจ้างไม่ได้มากมายอะไร แต่หนักกว่านั้น สมบัติที่เป็นของเธอก็ยังเอามาใช้ไม่ได้ ที่ยอมมาตลอดเพราะส่วนหนึ่งเขาก็เคยเกื้อกูลเรามา แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเขาเริ่มจะเกินไปแล้ว

    กำลังตัดสินใจทวงสิทธิคืน ไม่ยอมให้ถูกเอาเปรียบอีก แต่ใจหนึ่งก็กลัวว่าจะผิดไหม จะเป็นการใช้กรรมไม่หมดหรือเปล่า

    ตอนนั้นก็แนะนำให้เธอกลับมาดูที่ใจ ว่าคิดไปเบียดเบียนเขาไหม หรือคิดจะเอาเกินส่วนที่เรามีสิทธิจะได้หรือไม่ ถ้าใจเราก็ไม่คิดจะเบียดเบียน แต่จะทวงทรัพย์สินที่มีอยู่ก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ อย่าไปกลัวว่าใช้ไม่หมดเพราะถ้ายังใช้ไม่หมดก็คงไม่เริ่มคิดจะทวงสิทธิหรอกค่ะ ที่ผ่านมายอมให้เขาเอาเปรียบก็ถือว่าเป็นการใช้กรรมเหมือนกัน

    กรรมวัดที่เจตนาเป็นหลักค่ะ ถ้าเจตนาไม่ได้เบียดเบียนทำลายใคร และเรามีสิทธิจริง ๆ อยู่แล้ว ก็ไม่ถือว่าผิดอะไร แต่ต้องคุยกันดี ๆ ไม่ใช้อารมณ์โกรธเจรจาค่ะ จะปลอดภัยต่อการสร้างกรรมเพิ่ม

    ลูกค้ารายที่สามเป็นผู้ชายอายุประมาณสามสิบกว่า เป็นลูกชายคนโตของที่บ้าน ต้องรับผิดชอบคนทั้งบ้าน มาดูดวงเพราะกำลังเป็นทุกข์เรื่องน้องสาว ซึ่งอายุมากแล้วแต่ไม่ยอมทำงาน ขอแต่เงินใช้ตลอด แถมประกาศต่อคนทั้งบ้านว่าจะเกาะพี่ชายกินทั้งชาติ จะไม่ยอมไปไหน เลยเป็นทุกข์มาก หาทางออกไม่ได้

    ส่วนหนึ่งเขาคิดว่าเป็นกรรมที่ต้องเจอน้องแบบนี้ ก็เลยต้องช่วยเขามาตลอด แต่ตอนนี้เขาบอกว่าเริ่มไม่ไหว ภาระหนักเกินไป แถมเวลามีแฟน ผู้หญิงที่คบด้วยก็ขอเพราะเขารับไม่ได้ที่เป็นแบบนี้ ไม่มีใครยอมแต่งงานด้วยเลย
    เห็นแล้วก็สงสาร ตัวเองก็เจอเหมือนกันแต่ใจแข็งได้

    แต่กรรมของพี่คนนี้เคยพึ่งน้องคนนี้มาเยอะ เขาเคยช่วยพี่ชายไว้มากจริง เหมือนติดหนี้มาส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่หนักถึงขั้นตลอดชีวิตขนาดนั้น แต่เกิดจากการยอมให้น้องสาวใช้เงินอย่างสบายโดยไม่ต้องหามาตลอด สร้างให้เขาสบายไม่ยอมลำบากไว้ ทำให้เขาสู้งานหนักหรือสู้ปัญหาเรื่องคนไม่ไหวแล้ว
    บอกว่ากรรมน่ะ ก็ติดหนี้เขามาจริง ๆ แต่ไม่ใช่ยอมเขาขนาดนี้ ต้องให้เขาทำงาน ถ้าเขาไม่อยากทำงานบริษัทก็ลองหากิจการเล็ก ๆ ให้ทำเพื่อให้เขาพึ่งตัวเองให้ได้

    ถ้าเขาไม่ยอมก็ควรใจแข็ง ๆ ตัดการช่วยเหลือ เพราะไม่อย่างนั้นก็ต้องรับผิดชอบไปทั้งชาติแน่ เขาเองก็จะกลายมาเป็นคนที่เบียดเบียน ทำให้เราเป็นทุกข์ ก็จะเป็นกรรมกับเขาอีก


    พี่เขาก็บอกอีกว่าแม่ให้ท้ายเขาอยู่ ผมไม่ให้เงินเขาแม่ก็ให้อยู่ดี ไม่อยากให้ไปรบกวนแม่ กลัวแม่ทุกข์ใจ
    ก็แนะนำให้ไปคุยกับแม่ให้ยอมรับความจริงและร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหา เพราะไม่อย่างนั้นจะมีปัญหาต่อเขาได้ เพราะพ่อแม่พี่ชายก็อายุมากกว่าเขาทั้งนั้น เปอร์เซ็นต์ตายก่อนมีเยอะอยู่แล้ว ถ้าทั้งหมดตายไป เขาเองจะลำบากที่สุด จะอยู่ยังไง ก่อนตายเราเองก็คงไม่เป็นสุขหรอก มาทุกข์ใจเรื่องห่วงน้องอีก แทนที่จะไปดีก็ไปไม่ดีได้ง่าย ๆ

    ถ้าพี่ทำไม่ได้ก็ไม่มีทางอื่นนอกจากยอมรับสภาพ ก้มหน้าก้มตาเลี้ยงเขาต่อไป ห้ามบ่นห้ามท้อแท้

    ถ้าเราต่อรองเขาแล้วไม่ยอม ก็ต้องใจแข็งเพื่ออนาคตเขาเอง เราไม่ได้ใจดำหรือเห็นแก่ตัว แต่เราเห็นแก่อนาคตระยะยาวของเขา อย่าให้ความสงสารเป็นตัวทำลายชีวิตเขาดีกว่า

    ถ้าน้องจะทำงานก็เกื้อกูลเขาก่อนที่เขาจะได้เงินเดือนก็ได้ หรือถ้าแม่เป็นคนช่วยก็ควรให้เงินแม่ตามปรกติที่เคยให้ ถ้าแม่จะแบ่งให้น้องเราก็ทำใจ

    ดังนั้นการแก้ไขปัญหากับกรรมที่เจอไม่ใช่จะเป็นการก้มหน้าก้มตารับกรรมอย่างเดียว ก็ต้องใช้ปัญญาพิจารณาด้วยว่าสมควรแก่เหตุหรือไม่ ถ้าไม่เกินเหตุ ไม่มีเจตนาทำร้ายทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ไม่เป็นการสร้างกรรมเพิ่มให้ตัวเอง บางทีกรรมก็เกิดจากการจำยอมมากไปเหมือนกัน
    เจตนาของเราต้องดูให้ดี ๆ เพราะบางทีกิเลสชอบหลอกเราว่าทำถูก ลองปรึกษาเพื่อนดูหลาย ๆ คนก่อนตัดสินใจก็ได้ เพื่อความสบายใจและปลอดภัย


    http://dungtrin.com/dharmaathand
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2007
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    เห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาครับ เพราะถ้ายอมรับฝ่ายเดียว จะทำให้กำลังใจเราตกลง ซึ่งส่งผลกับการปฏิบัติของเราด้วยครับ ดังนั้นอุเบกขาได้เฉพาะบางเรื่องนะครับ บางเรื่องต้องใช้ปัญญาช่วยไขทางออกที่เหมาะสมด้วยครับ

    อนุโมทนาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...