การเจริญเมตตา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย รสมน, 29 มีนาคม 2009.

  1. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    การเจริญเมตตา เป็น การเจริญ สมถภาวนา

    ส่วนการแผ่ส่วนกุศล เป็น การอุทิศส่วนกุศล

    คือ ทานกุศล
    ...................ที่เป็น ปัตติทาน.



    .



    เรื่องของ "การภาวนา" .....................

    เป็นการอบรมให้เกิดขึ้น จนเป็นอุปนิสัย

    คือ การอบรมให้เกิดขึ้น บ่อย ๆ เนือง ๆ



    .



    เพราะฉะนั้น
    ..............ท่านมีเมตตา จริงค่ะ

    แต่ว่า เล็กน้อยเหลือเกิน
    .........ไม่มากเลย

    และเกิดกับบางท่าน บางบุคคล ฯ เท่านั้น.



    .



    ตามความจริงแล้ว
    สำหรับเรื่อง การแผ่เมตตา

    ก่อนที่ท่านจะแผ่เมตตา ไปให้แก่บุคคลอื่นนั้น

    จิต ของท่านในขณะนี้ มีเมตตากับใครบ้าง.?

    ยังมีความติดขัด อยู่ที่บุคคลไหน
    ........ก็แผ่ไป


    อย่าเพิ่งข้าม ไปถึง............สัตว์ บุคคล อื่น ๆ



    .



    การอบรม เจริญเมตตา ที่ว่า "กว้างขึ้น"นั้น

    หมายความว่า ไม่จำกัด อยู่เฉพาะในวงแคบ

    คือ ในบุคคล ในกลุ่ม ในหมู่คณะของท่าน

    แต่จะต้องกว้างออก ๆ จนถึงสัตว์ทุกชนิด ฯ



    .



    ต่อเมื่อไร
    ..........ที่ความเมตตา สามารถ

    ไปถึง สัตว์ ทุกชนิด ทุกชีวิต ได้จริง ๆ

    เป็น ความเมตตาที่เปี่ยมล้นอย่างแท้จริง

    ก็ไม่ต้องหวั่นเกรง อันตรายใด ๆ ทั้งสิ้น.



    .



    แต่ต้องเข้าใจ ความหมาย ของการแผ่เมตตา

    คือขณะนั้น จิต ต้องประกอบด้วยเมตตาจริง ๆ

    (ในขณะนั้น จิต ปราศจาก โลภะ โทสะ โมหะ)

    ซึ่งถ้า จิต ในขณะนั้น เป็นเมตตา จริง ๆ แล้ว

    จิต ในขณะนั้น ไม่มีความโกรธ ไม่เบียดเบียน

    ทั่วพร้อมทั้ง ทางกาย ทางวาจา และ ทางใจ.



    .



    เพราะฉะนั้น......การอบรมเจริญ ความสงบ

    หรือ การอบรมเจริญกุศล ขั้น ภาวนา นั้น


    จะต้องเกิด....พร้อมกับ สติ สัมปชัญญะ.



    หมายความ ว่า
    ...........................................

    ขณะนั้น.......
    จิต รู้ลักษณะ ของสภาพธรรม

    ที่กำลังปรากฏ ตามปกติ ตามความเป็นจริง.



    ก็แล้วแต่ ว่า
    จะเป็น ในขั้นของ สมถภาวนา

    หรือเป็นขั้นของ สติปัฏฐาน

    ซึ่ง เป็นขั้น วิปัสสนาภาวนา.



    .



    ถ้า เป็นขั้น สมถภาวนา..........................

    ก็หมายความว่า เป็น "ตัวท่าน" นั้นแหละ

    ...................ที่เปี่ยมไปด้วย ความเมตตา.



    คือ ไม่ใช่ สภาพธรรม ที่เป็นความเมตตา

    สภาพธรรม ซึ่งไม่ใช่
    ตัวตน สัตว์ บุคคล

    แต่ยังมีความเป็น "เรา" ที่มี ความเมตตา.



    หมายความว่า
    ....... ยังมีความเป็น "เรา"

    เป็นผู้ที่มีความเปี่ยมไปด้วย ความเมตตา

    และ ถึงแม้ว่า ท่านจะสามารถ แผ่เมตตา

    ไปได้กว้างไกล
    ...........
    สักเท่าไร ก็ตาม.



    ถ้าสติ
    ไม่ระลึกรู้ "ลักษณะของความเมตตา"

    ตามความจริง ว่า ไม่ใช่ สัตว์ บุคคล ตัวตน

    ขณะนั้น
    ก็ยังเป็น ปัญญา ขั้น สมถภาวนา

    คือ ยังมีความยึดถือ ว่า
    ..............................

    "ตัวท่าน" เป็นผู้ที่ประกอบด้วยความเมตตา.




    .



    ถ้าไม่มี การอบรม เจริญเมตตา
    ...เป็นปกติ

    ในชีวิตประจำวันจนเป็นอุปนิสสัย แล้วละก็


    อย่างเช่น เวลาที่เจองู
    .............................

    ท่านแผ่เมตตา ได้จริง ๆ..... หรือเปล่าคะ.?


    ถ้าไม่เคยอบรม เจริญเมตตา
    ......................

    ที่จะให้มีเมตตาเป็นปกติ โดยเป็นอุปนิสสัย

    เวลาที่เจองู
    .....ก็คงจะแผ่เมตตาไม่ทันแน่.!



    .



    เพราะฉะนั้น ก็ตรงกับ คำว่า
    "ภาวนา"

    การอบรม ให้มีมากขึ้น จนเป็นอุปนิสสัย

    อุปนิสสัย ที่จะเป็นผู้สงบ คือ สงบจาก

    โลภะ โทสะ โมหะ
    .....
    ป็น สมถภาวนา.


     
  2. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    อนุโมทนาด้วยครับ ปกติท่าวันไหนผมทำสมาธิ ได้ไม่ดีผมจะเพ่ง เมตตาแทน เคยอ่านวิทีมาจากหนังสือของแม่ชีท่านหนึ่ง ใช้ได้ดีมาก เคยเจอประสบการการแผ่เมตตาให้สิ่งที่ไม่ดีมาทำร้ายเราด้วยปรากดผลที่ดีเลย อารมของพรหมวิหารธรรม ช่วยตัดนิวรได้อย่างดี เข้าฌาณได้ง่าย นำมาพิจารณาก้ง่าย ท่าทำได้ถึงฌาณ4 ก้ช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วย
     
  3. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,796
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,020
    ครับ เวลาเราเเผ่เมตตา เราควรเเผ่ให้ทุกคน ทุกดวงวิญญาณ กระทั่งศัตรูของเราครับ อนุโมทนา
     
  4. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    การเจริญเมตตา เป็น การเจริญ สมถภาวนา....

    ดีแล้วครับ... นอกจากนั้น การเจริญเมตตา คือ อย่างไร
    ดูนิดนึง บุคคลใด ทำตัวเหมือนแม่คอยดูแลบุตรในครรภ์ ฉันใด บุคคลเจริญเมตตาก็ฉันนั้น

    พระราชาปกครองดูแลประชาชนด้วยทศพิศราชธรรมฉันใด บุคคลเจริญเมตตาก็ฉันนั้น

    บุคคลกระทำประพฤติด้วยพึงเห็นประโยชน์สุขส่วนรวมเป็นใหญ่ ฉันใด บุคคลเจริญเมตตาก็ฉันนั้น

    การเจริญเมตตา พึงกระทำด้วย กาย วาจา ใจ ด้วยการกระทำ

    ผู้เจริญถึงพร้อมด้วยเมตตา ย่อมยังให้ได้อานิสงฆ์ 11 อย่าง ดังนี้
    1.หลับก็เป็นสุข
    2.ตื่นก็เป็นสุข
    3.ไม่ฝันร้าย
    4.เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย
    5.เป็นที่รักของเทวดาทั้งหลาย
    6.เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย
    7.ไฟ พิษ และ อาวุธ ทั้งหลายไม่สามารถทำอันตรายได้
    8.สามารถเข้าสมาธิได้เร็ว
    9.หน้าตาผ่องใส
    10.จะตายอย่างมีสติ
    11.หากไม่สามารถบรรลุธรรมในชาตินี้ ย่อมเข้าถึงพรหมโลก
     
  5. MayaJit

    MayaJit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +56
    เรียนเจ้าของกระทู้ครับ แล้วการเจริญเมตตาในขั้นสติปัฏฐานที่ปราศจากการยึดถือว่าเป็น "ตัวเรา" เป็นเช่นไรครับ มีผลแตกต่างจากขั้นสมถภาวนาอย่างไรครับ มองภาพไม่ออกจริงๆ ครับ ขอรบกวนช่วยอธิบายให้หน่อยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...