การสร้างมิติที่ปลอดภัย

หากท่านใดอ่านแล้วมีความเห็นที่แตกต่าง ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย

เริ่มจากการคัดเลือกสถานที่ที่มีระบบสาธารณูปโภคพร้อม เช่น เครื่องปรับอากาศ ระบบน้ำประปา ต่อตรงมาในห้องพักที่เลือก
และห้องต้องมีขนาดไม่ใหญ่กว่า 3x3 ตารางเมตร เพราะจะทำเป็นห้องสูญญากาศได้ยากมาก หากเป็น Slab ชั้นเดียวจะดีมาก

ต้องติดเบรกเกอร์ควบคุมระบบไฟฟ้าด้วยเพื่อควบคุมระบบไฟฟ้าลัดวงจร

 

ให้ทำการเปลี่ยนมิติด้วยการไล่อากาศออกจากห้อง หรือทำให้ห้องอยู่ในสภาพสูญญากาศ คล้ายสภาวะของเครื่อง Sarco Machine ซึ่งจะใช้เวลาปิดตายห้องประมาณ 1 อาทิตย์โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ไล่อากาศใดๆ แค่นั่งหายใจในห้องที่ปิดสนิท

ขั้นตอนนี้ กรุณาอาศัยความอดทน เพราะท่านจะอยู่ในสภาพขาดอากาศไปพร้อมกับห้องที่ปิดสนิท

 

ช่วงนี้กรุณาอย่าออกจากห้องเลย จนกว่าจะขาดอากาศและหมดสติไปในห้องดังกล่าว

เมื่อฟื้นขึ้นมา ห้องนี้จะเป็นห้องที่ท่านต้องรีบออกไปให้เร็วที่สุด จงเดิน ถอยหลังนับก้าว จำไว้ว่า ให้เดินถอยหลัง ไปยังประตูทางออกโดยเร็วที่สุดเมื่อมีสติฟื้นขึ้นมา

เท่านี้ก็จะได้ห้องที่มีมิติที่ปลอดภัยที่สุดของตัวท่านเอง
และโปรดอย่าลืมว่า ห้ามต่อเติมห้องดังกล่าวอีกเป็นอันขาดตลอดชีวิตของท่าน

 

วิธีการตรวจสอบว่าห้องที่สร้างนี้เป็นมิติที่ปลอดภัยหรือเปล่า
ให้ดูจาก ความสะอาดในห้อง เช่น ปริมาณฝุ่น เศษผง กลิ่นต่างๆ ในห้อง หากห้องสกปรก แสดงว่ามีผู้บุกรุก
โดยห้ามเปิดห้องนี้ เพื่อรับอากาศจากภายนอกอีกเลยในมิติของท่าน

 

ตัวอย่างการสร้างห้องน้ำไว้ในห้องนอน

 

อ้อ ลืมบอกไปว่า ระยะเวลาที่ขังตัวอยู่ในห้องเพื่อให้ขาดอากาศนั้น อย่าลืมเปิดเบรคเกอร์ไฟไว้ด้วยนะ มิใช่สับสวิตซ์ปิดล่ะ ยุ่งแน่ๆ

 

สำหรับคนที่กลัวโดนสอยตามมิติ
แนะนำให้เอาเลื่อยเข้าไปในห้องด้วย
เพื่อจัดการกับเหล็กดัด ในกรณีฉุกเฉิน
ขอให้ทุกท่านโชคดีนะ

 

มิติธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
"ทำความดี ละเว้รความชั่ว และทำจิตใจให้บริสุทธิ์" คือสิ่งที่คนไทยพุทธได้ยินมาแต่เด็กๆ
แต่ใครจะบ้าง ว่าการทำให้จิตใจบริสุทธิ์นี่ มันส่งผลอะไรยังไงบ้าง
อย่างคนๆหนึ่ง มีบ้านเป็นของตนเอง(ไม่มีหนี) อาจจะมีห้องนอนไม่ใหญ่ 3 X 3 ม.
อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่ได้รู้สึกว่า ตนเองจิตใจบริสุทธิ์พอสมควร ก็ได้ดับขันธ์ตนเองลง
การที่จิตใจบริสุทธิ์ขึ้น บริสุทธิ์ = เล็กละเอียด
กลายเป็นเมื่อดับขันธ์ไป ตัว(จิต) ได้หดเล็กลง โดยยังเห็นแขน ขา สเกลเท่าเดิม
บ้าน,ห้อง เดิม มันก็ขนาดเท่าเดิม แต่ตัว(จิต)หดเล็กลง (ยังรู้สึกตัวเท่าเดิม)
แต่จะรู้สึกว่า บ้าน,ห้อง มันขยายใหญ่ขึ้น ยิ่งบริสุทธิ์มากขึ้น บ้าน,ห้องก็ใหญ่ขึ้น
จากห้องนอน 3 X 3 ม. ก็ได้ขยายขึ้นๆ ยิ่งจิตใจบริสุทธิ์มาก ทรัพย์สินยิ่งขยายมาก
จนท้ายที่สุดแต่ไม่สุดท้าย แผ่นกระเบื้องในห้องนอน ได้ยกตัวขึ้น
จากนั้นได้กลายสภาพเป็นลูกบอลกลมๆ ที่ซึ่งเมื่อมีกรรมเกี่ยวข้อง(ด้านบุญกุศล)
เจ้าของห้องก็ได้เคลื่อนเข้าไปยังแผ่นกระเบื้องที่ตัวขึ้น ที่มันได้กลายเป็นดาวดวงหนึ่งไปเสียแล้ว
บ้านและที่ดินก็เช่นกัน อย่างบ้านหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ที่มีที่ดินรอบบ้านเกือบ 3 ไร่
มีรั้วรอบขอบชิด มีบ่อปลา มีไม้ผลหลายต้น เมื่อยกบ้าน+ที่ดินดังกล่าว ขึ้นแจกแผนที่ และแปลงเป็นลูกบอล
มันคือดาวดวงหนึ่ง ที่ซึ่งมีเจ้าของมีผู้ครอบครอง และมีประชาชนอยู่อาศัยยังดาวดวงดังกล่าว
โดยผู้คนที่ตัวเล็กกว่าเจ้าบ้านในฝั่งโลกมนุษย์ "คนธรรพ์" ที่มีขนาดเท่ากำปั้นของ มนุษย์
ยักษ์(ไททั่น/เนฟิลิม) -> มนุษย์(ตัวเท่ากำปั้นยักษ์) -> คนธรรพ์(ตัวเท่ากำปั้นมนุษย์)
ที่ซึ่งคนธรรพ์เองนั้นได้เรียกพวกตนเองว่ามนุษย์ และได้เรียกมนุษย์(ฝั่งเรา) ว่า "ยักษ์"
คนธรรพ์ของคนธรรพ์ของคนธรรพ์ --->>>> เล็กละเอียดไม่สิ้นสุด และ กว้างใหญ่อย่างไร้ขอบเขต
สุดแท้แต่กรรม และ บุญกุศล (ตะกอนบุญ รายได้จากการ ทำความดี งานสุจริต #ที่มีมูลค่าสูง)

 

ปกติมิติจะหดลงนะท่าน musafa

เล็กสุดประมาณตะเกียงของจินนี่นั่นแหละ

ที่ให้สร้างมิติของตนเองเพื่อจะได้ไม่ยืดไม่หด

และมีความปลอดภัยสูง

 

พวกศาลพระภูมินี่ต้องมาทะเลาะกับเจ้าของบ้านที่เลือกวิธีปลูกบ้านแบบ refabricated กันตลอด มันยุ่งยากมาก มิติที่เรานำเสนอนั้น ไม่ยืดไม่หด และมาจาก slab

 

ต้องดูด้วยครับ เพราะสิ่งที่ตัวใหญ่ขึ้นนั้น หลักๆมันมาจากทรัพย์สินภายใน(บุญกุศล)
หากมีทรัพย์ที่มากพอ และใช้ เทคฯควอนตั้ม จนตัวเล็กหดลงมาก
ขนมปังแผ่นเดียวจากเดิม จะแปลงเป็นแผ่นเบ้อเร่อ และกินได้ยาวๆจนกว่ามันจะหมดอายุ หากมันเหลือชิ้นเล็ก คนบางส่วนกลับเลือกที่จะให้ตัวเล็กลงๆ ๆ ๆ จน??? ซึ่งการปรากฏตัวของกลุ่มที่ว่า จะถูกพบ(โดยคนอื่น)เห็นคนกลุ่มดังกล่าวปรากฏเป็น สัตว์ เป็นอนุมูลอิสระ สะงั้น ซึ่งมันไม่เวิร์คเรยชิมิ
ขณะที่ทิศทางการสะสมทรัพย์นั้น จะสวนทางกัน การที่ตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆนั้นจะดีกว่าหดลงๆ
เมื่อตัวใน(จิต) มีขนาดใหญ่ขึ้น ร่างกายตัวใน(จิต)มันใส่ชุดเดิมไม่จุ(คับขึ้น)
ก็จะมีการลอกคราบ โดยการเคลื่อนตัวใน(จิต) เข้าสู่มิติช่องความถี่ใหม่ ที่เป็นพื้นที่สำหรับLEVELที่สูงกว่า ขณะที่คราบเก่าก็จะถูกลอกออก อันปรากฏเป็น "ศพ" Body ขณะที่ตัวจิตเคลื่อนเข้าสู่มิติใหม่ โดยระยะเวลาในมิติใหม่ ผ่านไปเพียงวันเดียว ที่ซึ่งมิติเก่านั้นผ่านไปหลายสิบปี-ร้อยปี แน่นอนว่าไปอยู่ในมิติใหม่เพียงวันเดียว เข้านอนคืนแรกแล้วตื่นขึ้นมา คนอื่นๆจากมิติเก่าก็เข้ามาอยู่มิติใหม่มิติเดียวกันสะครบถ้วน อารมณ์ ความรู้สึก เมื่อเข้ามิติช่องความถี่ใหม่(ตัวตนโลกมิติภพภูมิที่สูงกว่า) เรื่องก่อนหน้า(ในมิติเก่า)จะถูกเจ้าตัวรู้สึกว่า "มันเป็นฝัน" ที่ฝันเมื่อคืน ที่อาจจะรู้สึกว่าฝันเมื่อคืนมันเหมือนได้ใช้ชีวิตมาหลายปีในฝันนั้นไปเสีย เช่นตื่นมาพร้อมกับความทรงจำใหม่(จิต + ตัวตนในมิติที่สูงกว่า)และอาจรู้สึกว่า เมื่อคืนได้ฝันว่าตัวเองตาย ประมาณนั้น

 

ที่ท่าน musafa ได้กล่าวเอาไว้ว่า ระดับจิตละเอียดขึ้นนั้น เห็นด้วยว่ามีขนาดอนุภาคเล็กลง ถึงขนาดที่สามารถควบคุมการเกิด nuclear fusion ให้อยู่ในสภาวะเสถียรได้

เช่นที่รัสเซีย ได้มีการเก็บศพของท่านเลนนินเอาไว้เนื่องจากอนุภาคดวงจิตของท่านมีความละเอียดมากๆ และมีการสันนิษฐานกันว่า หากไม่มีอนุภาคดวงจิตของท่านประธานเลนนิน ก็จะไม่สามารถสร้างความเสถียรให้กับโรงงานนิวเคลียร์ได้

ซึ่งเป็นการควบคุมการจุดระเบิดของอะตอมของมิตินั้นๆ ลองคิดดูว่า ที่รัสเซียหนาวมากๆ ขนาดติดลบ หากไฟแช็กจุดไม่ติดไฟขึ้นมา จะทำอย่างไร นี่คือการยกตัวอย่าง ฉะนั้น ต้องมีอะตอมที่ละเอียดประจำมิตินั้นๆ เป็นตัวควบคุมการเกิดการจุดระเบิดและการดับของอะตอมและการเกิดปฏิกริยาลูกโซ่

 

ตัวอย่างการหดเล็กลงของอนุภาคดวงจิตจากการทำกสินไฟที่เอามาแต่งเป็นการ์ตูนให้พวกเราดู