การรักษาอารมณ์ของมโนมยิทธิ โดยหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ชนะ สิริไพโรจน์, 24 มกราคม 2011.

  1. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    [​IMG]

    วิชามโนมยิทธิเป็นหลักสูตรทางพระพุทธศาสนาทางด้านวิชชา ๓ กึ่งอภิญญา<O:p</O:p
    คำว่ามโนมยิทธิ แปลว่ามีฤทธิ์ทางใจเป็นวิชาที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ<O:p</O:p
    พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)นำมาสอน จุดประสงค์<O:p</O:p
    เพื่อให้คนได้พิสูจน์พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ในเรื่อง นรก สวรรค์<O:p</O:p
    พรหม พระนิพพาน เป็นสิ่งที่มีจริงเป็นจริงเป็นการตัดตัววิจิกิจฉาความลังเลสงสัย
    ในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นการละสังโยชน์ข้อที่ ๒ ในสังโยชน์ ๑๐
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คนที่ฝึกได้สามารถใช้จิตหรืออทิสมานกายท่องเที่ยวไปตามภพภูมิต่างๆ ได้<O:p</O:p
    เมื่อเขาไปเห็นแดนอบายภูมิเห็นโทษจากการละเมิดศีล เขาก็จะตั้งใจและ<O:p</O:p
    รักษาศีลได้บริสุทธิ์เป็นการละสังโยชน์ข้อที่ ๓ คือสีลัพพตปรามาส
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คนที่ฝึกมโนมยิทธิได้การทรงอารมณ์พระโสดาบันจะได้ผลอย่างรวดเร็ว<O:p</O:p
    เพราะพระโสดาบันตัดสังโยชน์ได้ ๓ ข้อ คือสักกายะทิฐิ, วิจิกิจฉา และ<O:p</O:p
    สีลัพพตปรามาส และพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง ท่านกล่าวไว้ว่า<O:p</O:p
    สักกายะทิฐิของพระโสดาบันคือคิดว่าตัวเราจะต้องตายแน่ และให้นึกถึง<O:p</O:p
    ความตายอยู่เสมอ คิดว่าเราอาจจะตายวันนี้พรุ่งนี้ จะได้ไม่ประมาทในชีวิต
    การรักษาอารมณ์พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านกล่าวไว้ดังนี้
    การรักษาอารมณ์ของมโนมยิทธิ
    มโนมยิทธินี่จะพาเราเป็นพระอริยะเจ้าได้เร็วที่สุด
    วิธีที่จะทรงมโนมยิทธิได้ก็คือ
    ๑) พยายามรักษาอารมณ์ให้ทรงอยู่ในศีล
    ๒) นิวรณ์ ๕ ประการอย่าให้มายุ่งกับใจ

    ไอ้นิวรณ์ ๕ ประการน่ะไปไล่เบี้ยให้ดีว่ามีอะไรบ้าง แล้วก็วิธีที่จะระงับนิวรณ์ ๕ ก็ไม่ยาก
    ก็คือไม่สนใจมันเสียเลยในขณะที่ทรงสมาธิหนักเข้าๆ พยายามไม่สนใจมันซะทั้งวัน
    สนใจอย่างเดียวว่าจับพระรูปพระโฉมองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ชัดเจนอยู่ตลอดเวลา
    คำว่า "ตลอดเวลา" ท่านอาจจะบอกว่ามันยากเกินไป แต่อย่าลืมว่าผมทำมาได้
    ในตอนต้นผมทำได้ที่ผมมาพูดนี่ผมทำได้ผมถึงมาพูด มันไม่ใช่ยากเกินไป และคนอื่นเขาก็ทำได้

    [​IMG]

    คืออย่างใหม่ ๆ มันก็ลืมบ้าง ไม่ลืมบ้าง ลืมบ้าง นึกได้บ้างเป็นของธรรมดา
    นี่ผมไม่ตำหนิแต่พยายามควบคุมกำลังใจว่า ถ้าว่างเมื่อไหร่
    จับพระรูปพระโฉมพระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้เป็นปกติ
    ถ้ามันชินจริงๆ ถ้าเราพูดอยู่ ทำงานอยู่ จิตมันก็จับเห็นพระพุทธรูปเป็นปกติ
    ถ้าทำได้ตลอดเวลานี่เป็นฌานเป็น "พุทธานุสสติกรรมฐาน"

    [​IMG]

    ถ้าเราเห็นพระพุทธเจ้าอยู่เป็นปกติท่านไม่ต้องสนใจว่าอารมณ์ของท่านจะเสื่อมเมื่อไหร่
    ไม่มีคำว่าเสื่อมมันมีความแจ่มใสตลอดเวลา การที่จะเห็นเทวดา เห็นพรหมไปนิพพานเรื่องง่าย ๆ
    อารมณ์มันอยู่ตรงนี้

    [​IMG]

    แต่ว่า !ภาพพระพุทธเจ้านี่เป็นเครื่องวัดจิตของเรา ถ้าวันไหนถ้าจิตเราเลว
    วันนั้นภาพพระพุทธเจ้าจะไม่ผ่องใส จะมัวหมอง ถ้าเลวมากจะหายไปเลย
    เราก็ต้องค้นคว้าว่า มันเลวเพราะอะไรทวนถอยหลังดูว่าตั้งแต่เช้ามาถึงเวลานี้
    เราทำอะไรผิดบ้าง ถ้าทำอะไรผิดไป เรารู้ตัวก็ขอขมาโทษต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสีย
    ว่าจะไม่ทำต่อไปแล้วอารมณ์ก็จะแจ่มใสตามเดิม นี่เป็นการรักษาอารมณ์แบบง่ายๆ
    [​IMG]

    ประการที่ ๒ การขึ้นไปนิพพานน่ะ! ต้องขึ้นทุกวัน ถ้าวันหนึ่งหลายเที่ยวยิ่งดี
    การขึ้นไปไม่ต้องไปนั่งขัดสมาธิ ให้มันคล่องตัวจริง ๆ เดินไปเดินมาปั๊บ!กำหนดจิตขึ้นไปถึงนิพพานเลย
    ขึ้นไปไหว้พระพุทธเจ้าต้องการรู้อะไรถามพระพุทธเจ้าโดยตรง อย่ารู้เอง ถ้ารู้เองไม่ช้าผิด
    ถ้าเราจะรู้อะไร ถ้ามันมีความรู้อยู่บ้าง ตัดอารมณ์รู้ทิ้งไปเสียก่อนทำไม่รู้ไม่ชี้ ให้จิตมันทรงตัว
    แล้วก็เข้าไปถามพระพุทธเจ้าตรงท่านบอกยังไงเชื่อตามนั้น ตรงกับความจริงทั้งหมด
    นี่เป็นการรักษาอารมณ์ว่ากันโดยย่อนะ

    [​IMG]

    สำหรับท่านที่ยังไม่ได้อย่าท้อใจคิดว่ายังไม่ได้ ก็รวมความว่าถ้าไม่มีบารมีมาในกาลก่อน
    ท่านก็ไม่อยากเจริญกรรมฐาน นี่เป็นเครื่องวัด! คนที่ไม่มีความดีมาเลย กรรมฐานนี่เขาไม่ทำกัน
    บารมี ๓ ขั้น
    คือถ้ามีบารมีต้น แค่บารมีต้นอย่างเดียวการเจริญกรรมฐานก็ไม่อยากทำพอใจขั้นศีลกับทาน
    ถ้าหากมีบารมีเป็นอุปบารมี ก็พอใจแค่ฌานสมาบัติ
    ถ้าหากบารมีถึงขั้นปรมัตถบารมี จึงจะพอใจพระนิพพาน
    อันนี้ไปวัดใจเอาเอง!!

    ถ้าหากว่าบารมีถึง อุปบารมี เราก็เร่งรัดเป็น ปรมัตถบารมีได้ ไม่ใช่มันจมอยู่แค่นั้น
    มันสร้างต่อได้ นี่ขอท่านจงมั่นใจในความดีในอดีตของท่านว่าเคยสั่งสมความดีมามากแล้ว
    ตอนนี้ถ้าทุกคนที่ได้แล้วนะ จะไปถามองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า
    ขอดูภาพเดิมก็จะเห็นชัดว่าเราเคยได้ฌานสมาบัติมาแล้วกี่ชาติ
    ถ้าท่านถามจริงๆ ท่านจะงงเต็มทีว่า โอ้โฮ!นี่เราได้มาตั้งเยอะแล้วหรือนี่

    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา </O:p>
    *
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2011
  2. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,684
    ค่าพลัง:
    +9,239
    [​IMG]


    ขออนุโมทนาค่ะ

     
  3. jakarat

    jakarat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +148
    ขอสาธุอนุโมทนากับคำสอนของหลวงพ่อครับ ผมได้ฟังแล้วรู้สึกเข้าใจถึงแก่นแท้และคำอธิบายของหลวงพ่อนัก
     
  4. ลิงเผือก

    ลิงเผือก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +140
    อนุโมทนา ครับ กระผมยังประมาทอยู่มาก เคยฝึกมโนมยิทธิได้แต่ไม่ได้รักษา ไม่ฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ทำให้การปฏิบัติล่าช้า เมื่อกลับมาฝึกฝนใหม่ ก็เลยไม่แจ่มใสเหมือนเดิม ขอให้กำลังใจกับผู้ที่เคยฝึกได้ และผู้ที่พึ่งจะเริ่มฝีก ให้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ขอให้ทุกท่านจงสมความปราถนาในธรรม จงสำเร็จทุกประการเทอญ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  5. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465
  6. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291
  7. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG]
    กราบอนุโมทนาสาธุครับ สาธุ....
     
  8. bcbig_beam

    bcbig_beam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +3,246
    ถ้าเราเห็นพระพุทธเจ้าอยู่เป็นปกติท่านไม่ต้องสนใจว่าอารมณ์ของท่านจะเสื่อมเมื่อไหร่
    ไม่มีคำว่าเสื่อมมันมีความแจ่มใสตลอดเวลา การที่จะเห็นเทวดา เห็นพรหมไปนิพพานเรื่องง่าย ๆ

    อารมณ์มันอยู่ตรงนี้

    ขอกราบโมทนาในธรรมทานด้วยครับ
    สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

     
  9. สน2550

    สน2550 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2007
    โพสต์:
    369
    ค่าพลัง:
    +280
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงมากๆครับสำหรับกระทู้นี้
     
  10. M78

    M78 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +55
    ไม่ทราบว่า ถ้าสนใจจะเริ่มฝึก
    มีสถานที่ไหน ในกรุงเทพที่เปิดสอนบ้างไหมครับ

    ขอบคุณครับ
     
  11. Poohrich Assawanuwat

    Poohrich Assawanuwat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +341
    เคยฝึกมโนมยิทธิกับหลวงพ่อ ที่ซอยสายลม ตอนที่หลวงพ่อท่านยังอยู่

    จากคนที่ไม่เคยมีความรู้ทางด้านนี้เลย

    ระหว่างการฝึก สามารถเห็นได้ด้วยจิต แต่เห็นแต่ราง ๆ ไม่ค่อยชัดเจนนะ ไม่เหมือนมองด้วยตาเนื้อนะ คือมองเห็นเป็นเฉพาะส่วน มองด้านบนเห็นเฉพาะด้านบน มองด้านล่างเห็นเฉพาะด้านล่าง ไม่เห็นทั้งหมด

    เราเห็นสมเด็จพระพุทธเจ้าองค์ปฐมก่อนเลย (สงสัยเวียนว่ายมานานแล้ว) และพ่อแม่ของเราในอดีตชาติ เห็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน แสดงธรรม โดยมีหมู่พรหม เทวดา พระอริยะ ทั้งหลายมาร่วมชุมนุม นั่งแบ่งตามลำดับ (ตอนนี้จำไม่ค่อยได้แล้ว) แต่เรานั่งห้อยท้ายอยู่หลัง ๆ และให้ไปดูวิมานในพระนิพพานที่เป็นของเรา ก็เห็นนะ (แต่ยังไม่รู้ได้ไปในชาตินี้หรือเปล่า)

    พอฝึกเสร็จหลวงพ่อแจ้งเลย ว่ามีคนไปพระนิพพานได้กี่คน ไปจุฬามณีฯ ได้กี่คน

    ที่นำมาเล่า อยากให้ทุกท่านที่อยากฝึกมโนมยิทธิ (คำว่ามโนมยิทธิ แปลว่ามีฤทธิทางใจ ใช้ได้ตั้งแต่ขณิกสมาธิเป็นต้นไป ยิ่งระดับฌาณสมาธิสูงยิ่งขึ้นไปย่อมมองได้เห็นชัดเจนขึ้นเพียงนี้น ) แต่ถ้ายังไม่กล้า หรือฝึกแล้วแต่ยังไม่ได้ ไม่ต้องกล้ว มีครูฝึกคอยดูแลเป็นอยางดี คอยควบคุมดูแลประคองจิตของแต่ละคน แต่ถ้าทำได้ดีแล้ว เก่งแล้ว ค่อยไปฝึกฝนด้วยตัวเองที่บ้านก็ได้

    ที่ตรงนี้ ที่พวกเราได้มาคุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เข้ามาชมกัน ขอรับรู้ไว้นะว่า พวกเราเดินทางตาม หลวงพ่อ ตามมาเป็นพรวน ๆ เดินตามมากันเป็นสายเลย นับจำนวนหลายแสนคน หลายภพหลายชาติแล้ว

    ตัดใจ ในชาตินี้ขอมีศีล 5 บริสุทธิ์
    เบื่อหน่ายในวัฏฏะสงสาร ร่างกายนี้ไม่มีในเรา เราไม่มีในร่างกาย
    และมีความตั้งใจมุ่งเน้นสู่ดินแดนพระนิพพาน ตั้งจิตให้มั่น หากวันใด เราไม่มีในร่างกายแล้ว โน้มเข้าหา มโนมยิทธิมุ่งสู่ดินแดนพระนิพพานเลย

    หลวงพ่อท่านเป็นกำลังใจให้พวกเราเหล่าลูกศิษย์ และรอพวกเราอยู่ที่นั่น

    สุดท้าย ผมก็เป็นแค่ปุถุชนคนหนึ่ง ไม่ได้มีภูมิธรรมอะไรมากมาย แต่ก็ได้พยายามหมั่นนึกคิดและปฏิบัติถึงคำที่หลวงพ่อสอน หากที่กล่าวมาในข้างต้น ไม่ถูกต้องหรือ ท่านที่มีภูมิธรรมสูงกว่าไม่เห็นด้วย ขอโปรดชี้แนะนำให้ด้วย

    ด้วยจิตคารวะ

    Puranut


    นิพพานัง ปรมังสุขัง
    นิพพานัง ปรมังสูญญัง
    นิพพานัง ปัจจะโยโหตุ
     
  12. online2522

    online2522 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2010
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +12
    อนุโมทนาครับ ผมจะปฎิบัติให้มาก และจะตั้งใจทำ ได้อ่านแล้วมีกำใจมากขึ้นจริงๆครับได้กำลังใจขึ้นเยอะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...