การรวมหยินหยางในประเทศไทย

กระทู้นี้ ตั้งใจว่าเขียนขึ้นเพื่อเป็นการประท้วงต้นสังกัด ที่กีดกันไม่ให้ เราออกจากห้องสี่เหลี่ยมขนาด 6 ตารางเมตร

ก่อนอื่นต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า เราเคยเป็นระดับอัปสรา ที่ถูกปลดระวางแล้ว และไม่มีทางหนีไปไหน เราถูกต้นสังกัดสั่งปลดระวาง ปัจจุบันเราถูกกักขังในห้องสี่เหลี่ยม มีข้าว มีน้ำ มีเงินเล็กน้อยให้ใช้ยังชีพรายเดือน อยู่ได้ด้วยผักและไข่ คืออาหารหลัก

 

มิติที่เราไปแต่ละแห่งนั้น จะเป็น มิติที่ถูกจำลอง คล้ายเมืองโบราณทั้งสิ้น
คือจะเป็นมิติที่ย่อให้มีขนาดเล็กลง
เราเลยไม่กล้าออกไปไหน
กลัวหลงมิติ
การออกไปค้างแรมที่ไหน ก็ไม่กล้าออกไป เพราะมักเกิดอาการ ฝันซ้อนฝัน ทำให้ตื่นขึ้นมาไม่ได้
เช่นนี้เป็นต้น

 

เราพยายามจะ merge หยินหยาง โดยเขียนจดหมายไปขอความช่วยเหลือจากฤาษีท่านหนึ่งที่ออกจากป่ามาได้สักระยะหนึ่ง
ปรากฏว่า ท่านก็ถูกต้นสังกัดของท่านควบคุมตัว ควบคุมระบบการสื่อสาร ต้องมีผู้ใหญ่บ้านคุยโทรศัพท์แทนให้ และมีคนตามประกบจำนวน 3 คนก่อนออกจากป่าเพื่อมาพบเรา
ในขณะที่เราเองก็ถูกควบคุมตัวด้วย วิธีเดียวกัน
การพบกันนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ทำได้แต่ทางจดหมายและทางญาณหากเป็นไปได้

 

สิ่งที่เราต้องการคือ การรวมญาณ เพื่อเป็น พรหมสมิง
เนื่องจากเราไม่อยากเป็นอัปสราที่ถูกใช้งานในเรื่องอย่างว่า
การรวมญาณไปชั้นพรหม จึงเป็นสิ่งที่เราปรารถนา
ส่วนพระอาจารย์ฤาษีท่านออกจากป่ามาและท่านตามเทคโนโลยีไม่ทันแล้ว
ท่านต้องมาเรียนรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพราะอาจารย์ของท่านเสียชีวิตแล้ว
การอยู่ป่านานๆ ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เพราะตามเทคโนโลยีไม่ทันและไม่มีเงินใช้
เรื่องเงินเป็นสิ่งสำคัญมาก
เพราะเมื่อ balance กฎแห่งกรรมแล้ว จะไม่มีเงินใช้เลย เป็นเช่นนี้ทุกคน

 

ทุกวันนี้ ท่านปลุกเสกของขลังเพื่อหาเงินมาเข้าวัด
นับว่าท่านมีความสามารถมากๆ
แต่ต้นสังกัดก็ไม่ยอมปล่อยให้ท่านรวมญาณหยินหยาง
คนที่ต้นสังกัดปล่อยไปรวมญาณเช่น พระอาจารย์มิตสึโอะ เควสโก
ท่านเป็นระดับพรหม
เราไม่กล้าโวยวายอะไรมากนัก เพราะหากเราทำตัวมีปัญหา ทางต้นสังกัดจะแกล้งเราต่างๆนานา
เราได้แต่รอให้ท่านฤาษีมาช่วยเรา
และรวมญาณกัน
แต่ดูเหมือนว่าความฝันจะเลือนลาง
เพราะเงินเก็บหรือบุญของเราก็ร่อยหรอ
ส่วนท่านก็หาเงืนได้พอเลี้ยงตนเอง
ทุกอย่างล้วนอาศัยเงินทั้งสิ้น

 

การรวมญาณหยินหยางในประเทศไทยนั้นจึงไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก
กรณีของท่านมิตสึโอะ เควสโก นับว่าเป็นการกระทำที่กล้าหาญมากๆ
เราเองไม่รู้ว่า จะหากินอย่างไรให้ประทังชีวิตไปได้ เพราะเมื่อครบวงจรบาลานซ์กฎแห่งกรรมแล้วจะไม่มีเงินเหลือเลยสักบาท
คนส่วนใหญ่จึงบวชหรือเข้าป่าไป
แล้ว สภาพของเราในตอนนี้ หากเข้าป่าไป ตายแน่นอน
เพราะหากินในป่าไม่ได้
ด้วยเหตุผลนี้
จึงเป็นสาเหตุที่ต้องมีต้นสังกัดคอยดูแล
หากเราเริ่มวงจรชีวิตใหม่ กลับไปแต่งงานใหม่ มีครอบครัว ก็คือ เปิดบัญชีกรรมฉบับใหม่ มันก็ไม่เวิร์ค
เขาเรียกว่า การรีไฟแนนซ์ใหม่
จะทำให้ส่งผลกระทบและยุ่งยากกับคนที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย
เราจึงไม่ได้รับการอนุมัติให้ทำการ รีไฟแนนซ์ชีวิตจากต้นสังกัด
ทุกวันนี้ เรารอท่านฤาษีมารับเพื่อรวมญาณกัน
นี่คือเรื่องจริงที่เอามาเล่าสู่กันฟัง

 

ต้นสังกัดบอกว่า
ที่ควบคุมเราแน่นหนา เพราะหากเรารวมญาณกับพระฤาษี
แล้วเกิดมีลูกขึ้นมา
จะเกิดปัญหาขึ้นในระดับประเทศ
ต้องขยับ ญาณ หมด
เราเองก็ ไม่เข้าใจ
แต่ก็ไม่เถียง
เรื่องก็มีเท่านี้ค่ะเพื่อนๆ

 

อ้อ เพื่อนๆ ถามว่า ทำไมเราไม่รวมญาณกับพวกวังหน้า
คำตอบคือ เราเคยคุยกับวังหน้าท่านหนึ่ง
ปรากฏว่า ท่านใจร้อน วู่วามมากๆ
เรายังไม่ทันได้อธิบายอะไรเลย
ท่านก็ตัด connection ทิ้งเสียแล้ว
ส่วนอีกท่าน ที่อยู่ที่วังหลังท่าพระจันทร์
ท่านเลือกเฉพาะที่สวยๆ
ไม่สวย ไม่เสียเวลา
เราถูกปลดองค์แล้ว จึงอ้วนท้วน ไม่ผอมเพรียว
จึงมีแต่ท่านฤาษีที่เมตตา ให้ความช่วยเหลือ
ท่านใจดีมากๆค่ะ