การยื่นเรื่องขอไปเกิดต่างประเทศ

สมัยนี้ หากต้องการไปเกิดต่างประเทศจริงๆ
ต้องยื่นเรื่อง แสดงเหตุผลที่อยากไป
และต้องมั่นใจว่า
ประเทศปลายทาง เขารับเอาไว้ด้วยนะคะ
ยกตัวอย่างนะคะ
เรากำลังจะเขียน proposal ยื่นไปคณะสงฆ์ของประเทศหนึ่ง
เรื่องขออนุญาตเรียน มันดาลาค่ะ
โดยอธิบายว่า จะเรียนมันดาลา เพื่อเอาไปใช้ประโยชน์ด้านใด
ซึ่งเราต้องเขียนไปปรึกษาสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชในเมืองไทยก่อน
โดยต้องมั่นใจด้วยว่า ชาติหน้าจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีกค่ะ

 

ฟังดู ไร้สาระ ใช่ไหมคะ
แต่เรากำลัง เรียบเรียงและรวบรวมข้อมูลและเหตุผลในการขอไปเรียนการใช้มันดาลาค่ะ
ซึ่งหากเหตุผลของเราฟังขึ้น เราคงได้มีโอกาสย้ายไปเกิดที่ประเทศปลายทางจริงๆ
โดยทั้งนี้ หากเราสร้างประโยชน์ให้แก่มนุษยชาติและโลกใบนี้ได้จากการใช้ประตูมันดาลา จริงๆ ก็จะเป็นเรื่องดีมากเลยทีเดียว

 

เราใฝ่ฝันเรื่องการเรียนการใช้ภาพมันดาลามานานแล้วค่ะ
ชาตินี้เราไม่มีโอกาสได้เรียน
ชาติหน้าจึงจะขอเกิดเป็นพลเมืองของประเทศปลายทาง
เราเคยดูบทสัมภาษณ์ของ ริมโพเช่ ท่านหนึ่ง
ท่านทราบว่า เมื่อสิ้นลมหายใจแล้วจะไปเกิดที่ไหนด้วยค่ะ
คือ พอสิ้นลมหายใจก็จุติในครรภ์มารดาเลยค่ะ
ซึ่งเรายังไปไม่ถึงขั้นนี้

 

ยิ่งเรามองภาพมันดาลา ยิ่งเกิดความอยากรู้อยากเห็นว่า ภาพนี้นั้น สามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง
โพรเทคเทอร์ของด่านพุทธเช่นท่าน ยานี คือใคร
สามารถใช้ประตูมันดาลาเข้า ออก มิติได้อย่างไร
หลังใช้ภาพมันดาลาเสร็จแล้วทำไมต้องลอยทิ้งน้ำ เช่นนี้เป็นต้น
หากเรามีบุญจริง เราคงได้เขียน proposal ผ่านนะคะเพื่อนสมาชิก
ขอบคุณที่สละเวลาอ่านกระทู้นี้นะคะ
เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ

 

มีเพื่อนของเราคนหนึ่ง
เป็น กุมารี
เธอบอกว่า อยากเรียนการใช้มันดาลา
เพื่อให้มั่นใจได้ว่า
จะสามารถเอาเท้าแตะพื้นได้
โดยที่ไม่ต้องให้พ่ออุ้ม
นี่คือ ตัวอย่าง เหตุผล ที่พวกกุมารี อยากเรียนการใช้มันดาลา

 

นานาจิตตังนะคะ
ส่วนเราจะเอามันดาลาไปเชื่อมกับ แบลคโฮล
ว่าจะอันตรายและเป็นไปได้ไหม
ตามสถานี earthworm ต่างๆ
เพื่อให้เป็น ไทม์แมชชีน ค่ะ

 

สิ่งที่เรากลัวที่สุดคือ
อะตอมในร่างกายของเราจะเสียหาย
เพราะเราผ่าน หลุมดำ มาแล้วจนคนเรียกเราว่า blackhole girl
หากเราผ่านประตูมันดาลา
อะตอมในร่างกายเราอาจทนทานไม่ได้
นั่นเอง

 

มีสิทธิ์ ดวงจิตแตก ในระดับอะตอม เลยนะคะ
มิใช่แค่เป็น Benjamin Button