การมีคู่คือการมีทุกข์ จริงหรือ?

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย จิตปรุง, 13 สิงหาคม 2010.

  1. จิตปรุง

    จิตปรุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +802
    [​IMG]

    ที่เค้าบอกว่าการมีคู่ คือการมีทุกข์นั้นจริงหรือ แล้วหากคนเรามีคู่แล้วไม่ว่าจะแต่งงานแล้วหรือไม่ก็ตาม เราควรทำอย่างไรให้ทุกข์จากการมีคู่นั่นเบาบางที่สุด ในทางธรรม แนะนำกันหน่อยได้มั้ยจ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 สิงหาคม 2010
  2. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ที่คุณถามมานั้น น่าสนใจ และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนหลายคน

    ขอตอบเป็นประเด็นดังต่อไปนี้
    1 ที่ถามว่า การมีคู่นั้น คือการมีทุกข์จริงหรือ

    ข้อนี้ขอตอบว่า .....จริง

    2 ที่ถามว่า ควรทำอย่างไรให้ทุกข์จากการมีคู่นั้นเบาบางที่สุด

    ขอตอบเป็นหลักทั่วไปว่า จงเอาใจเขามาใส่ใจเรา และจงซื่อสัตย์กับคู่ของตนเอง

    ขออธิบายให้พิสดารยิ่งขึ้นไป

    การมีคู่นั้น ก็เหมือนกับคำพังเพยที่ว่า คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า ยิ่งโดยเฉพาะชีวิตคู่ที่เป็นคู่สามีภรรยา สามีหรือภรรยาหลายๆคนบ่นออกมาในทำนองว่า รู้อย่างนี้ อยู่เป็นโสดดีกว่า แต่ก็สายเสียแล้ว จะทิ้งคู่ของตัวเองไปดื้อๆ ก็ดูออกจะไร้ความรับผิดชอบ

    ส่วนผู้ที่ยังไม่มีคู่ ก็ไขว่คว้าหาคู่ เพราะนี่คือนิสัยหรือจะเรียกว่าสันดานของมนุษย์ ที่จะต้องมีคู่เพื่อการสืบเผ่าพันธุ์

    และเนื่องการไขว่คว้าหาคู่นี่แหละ ที่ทำให้เกิดทุกข์ ทุกข์ว่า

    เอ๊ะ เค้าจะรักเรามั้ย เราจะจีบเค้าติดหรือเปล่า ตอนนี้เค้าอยู่ที่ไหน ทำไมเค้าไม่รับโทรศัพท์เรา ทำไมเค้าหายหน้าไปตั้งนาน เค้าจะไปกินข้าวกับเรามั้ย ทำไมเค้าไปกับเราครั้งเดียวแล้วเค้าไม่ไปอีกเลย พยายามหนีหน้าเราตลอด เอ๊ะ คนนั้นเป็นแฟนของเค้าใช่ไหม เอ๊ะ เราเป็นตัวสำรองหรือเปล่า.....

    พอแต่งงานไปปุ๊ป ทุกข์ตามมาอีกเป็นกระบุง

    เอ๊ะ ทำไมเรายังไม่มีลูก ใครเป็นหมันกันแน่ ช่วงนี้ทำไมแฟนเราดูอ้วนเอาๆ อ้วนแบบไม่บันยะบันยัง เดือนนี้ช็อต เราจะหาเงินที่ไหนให้แฟนเรา เราจะต้องผ่อนบ้านอีกนานเท่าไหร่ ผ่อนรถอีกนานเท่าไหร่ เดี๋ยวโรงเรียนลูกจะเปิดเทอมแล้ว ต้องซื้อชุดนักเรียนและหนังสือเรียนอีก ข้าวสารก็ไม่พอจะกรอกหม้ออยู่แล้ว จะหาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย เอ๊ะ ทำไมช่วงหลังๆ แฟนเราจู้จี้ขี้บ่นแถมขี้หึง พอแต่งงานถึงรู้ว่าแฟนเรามันบ้าหวยอย่างหนัก ตอนเป็นแฟนกันธรรมดา สร้างภาพซะเนียน .... เอ๊ะ มีคนมาจีบแฟนเราหรือเปล่า

    และเมื่อถึงเวลาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องพลัดพรากจากกัน.... ป่านนี้ เธอไปอยู่สวรรค์ชั้นไหนแล้ว รู้ไหมเธอปล่อยให้ชั้นอยู่คนเดียว เมื่อไหร่เธอจะมารับชั้นไป

    ทุกข์ทั้งนั้นแหละ คุณเอ๊ย

    และถ้าเรายังไม่ไร้รัก เราจำต้องมีคู่ ก็ขอให้รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ตอนที่เป็นแฟนกัน อะไรก็ดูดีไปหมด แต่คนเราพออยู่นานๆเข้า ตัวตนที่แท้จริงก็แสดงออกมา เริ่มเอาแต่ใจมากขึ้น เห็นแก่ตัวมากขึ้น อีกฝ่ายจะเป็นอย่างไรไม่สน นั่นแหละ เป็นตัวทำให้ชีวิตคู่เป็นทุกข์หนักมากขึ้น

    อีกอย่างหนึ่งก็คือ ความซื่อสัตย์ ถ้าเราไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่ของเรา ก็เท่ากับเป็นการโหมเชื้อไฟแผดเผาชีวิตคู่ ชีวิตคู่ก็มีสิทธิพังทลายโดยง่าย ทุกข์ก็จะบังเกิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    การที่คนๆหนึ่งจะไม่มีคู่นั้น หากเป็นเพราะว่าคนๆนั้นยังไม่เจอคนที่ใช่ และใจคนนั้นยังไขว่คว้าอยู่ คนๆนั้นก็จะมีความทุกข์ซ่อนเร้นอยู่ลึกๆในใจ
    แต่ถ้าหากการที่คนๆหนึงไม่มีคู่ เพราะรู้เห็นพิษภัยและความทุกข์ของการมีคู่แล้วไซร้ คนผู้นั้นก็เริ่มสลัดหลุดบ่วงที่พันผูกตัวเองไว้กับการเวียนว่ายตายเกิดไปทีละน้อยๆ

    ถ้าเราจะทำลายชาติภพให้สิ้น ต้องไม่เหลือเยื่อใยในความรักของหนุ่มสาว..... และในโลกนี้ รสชาติใดเล่า จะเป็นสุขยิ่งกว่ารสแห่งพระธรรม.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2010
  3. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,459
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    1. จริงครับ จริงเเท้เเน่นอนเลยล่ะั

    2. ให้อภัยซึ่งกันเเละกันยามที่อีกคนทําผิด รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันเเละกัน พูดจากันดีๆ ไม่ใช้อารมณ์ ศึกษาธรรมะด้วยจะดีที่สุดครับ จะได้รู้เท่าทันตัวเองด้วย เจริญในธรรมครับ
     
  4. aces

    aces เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    193
    ค่าพลัง:
    +587
    สำหรับผม ไม่มีสร้า้งภาพครับ
    เวลาจีบใคร ถามเลย เขาทนผมแบบนี้ได้หรือเปล่า
    แล้วผมก็ขอให้เขาทำตัวแบบเป็นตัวของเขาเองออกมา
    แล้วผมก็ถามใจตัวเองว่า รับแบบนี้ได้ไหม

    ถ้ารับกันได้ทั้งคู่ ก็ค่อยต่อยอดจีบกันเป็นแฟน
    ถ้ารับกันไม่ได้ ก็หยุดอยู่ที่เพื่อนสนิท

    ทำแบบนี้จะลดทุกข์ของทั้ง 2 ฝ่ายครับ
    เพราะเห็นสิ่งที่เข้าใกล้ธาตุแท้ของแต่ละคนแล้ว

    สำหรับผม ผมก็เคยเจอนะ บางคนก็สวยมาก
    นิสัยดีด้วย แต่พอเริ่มๆไปเรื่อยๆ มันเข้ากันไม่ได้ครับ
    ตอนนี้เขาก็เป็นเพื่อนสนิทที่ดีของผมคนนึง
    โดยไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรกันเหมือนหลายๆคู่

    ก่อนจะจีบกันเราต้องคุยกับเขาดูก่อนครับ
    ตกลงกันให้ได้ในเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น ว่า
    ถ้าเราเข้ากันไม่ได้ เราจะขอแค่เป็นเพื่อนกัน และจะไม่โกรธกัน
    เพราะเข้ากันไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่า ต่างคนต่างเลว
    เพียงแต่ อยู่กันไม่ได้เท่านั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2010
  5. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    จริงจ๊ะ การมีคู่เป็นทุกข์ แสนสาหัส เห็นนรกชัดๆเลยจ๊ะ ควรอยู่ตัวคนเดียวหากเป็นไปได้ จะเกิดความสุข สงบ เย็น ไม่เร่าร้อน

    เราควรทำอย่างไรให้ทุกข์จากการมีคู่นั่นเบาบางที่สุด ในทางธรรม แนะนำกันหน่อยได้มั้ยจ๊ะ
    เราควรทำใจค่ะอย่าไปยึดติดกับเขา เขาจะเป็นไรจะดีจะชั่ว ก็อย่าเอาใจไปเกี่ยวเกาะ มองเขาเป็นเพื่อนร่วมโลก เป็นอะไรที่เราต้องให้ความเมตตา เขาไม่ใช่ของๆเรา เรามีเขาไม่ใช่หวังครอบครอง ไม่ใช่หวังให้เขาอยู่กับเราตลอดไป เขาจะอยู่เขาก็อยู่ ถ้าเขาจะไป ก็เป็นไปตามกฎธรรมชาติ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป ไม่มีอะไรอยู่กับเรามั่นคงถาวร ถ้าเราวางใจอย่างงี้ได้การมีคู่ก็จะทุกข์น้อยลง ใช้พรหมวิหารสี่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แล้วไม่ต้องหวังให้เขามาเป็นอะไรอย่างที่ใจเราต้องการ อยู่กันก็ให้ความรัก ความปรารถณาดี เมตตาต่อไป ไม่ไปยึดติดเรื่องกามคุณจนไม่สามารถที่จะหักห้ามใจได้ หากวันใดที่เขาเปลี่ยนไป เมื่อถึงเวลาที่เขาเปลี่ยนไป หรือไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด เราก็จะไม่ทุกข์เลย เพราะเรารู้อยู่แล้ว เตรียมใจไว้แล้ว ว่า มันก็เป็นเช่นนั้นเอง
     
  6. ying_tuy

    ying_tuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,120

    การมีคู่ จะพูดถึงการแต่งงานอยู่กินนะคะ มีทุกข์มากกว่าสุขคะ ทุกข์จากประสบการณ์จริงล้วนๆเลยที่เจอ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะอดทนได้มากกว่ากัน.
    เริ่มจาก สามีเปลี่ยนไป กินเหล้า กลับบ้านดึก ติดเพื่อน ติดกิ๊ก ติดเมียน้อย สารพัดเลยล่ะ เป็นเมียก็เหมือนเป็นนางทาส ใช้งานจนคุ้มเลยล่ะ

    การใช้ชิวิตคู่กับการคบหากันเป็นแฟนเป็นกิ๊กมันต่างกันลิบลับ หน้ามือเป็นหลังมืออ่ะคะ ชิวิตคู่ไม่ใช่รักเพียงอย่างเดียว ต้องเมตตา ให้อภัยกัน อีกอย่างต้องอึดอดทนด้วยนะ

    เราควรทำอย่างไรให้ทุกข์จากการมีคู่นั่นเบาบางที่สุด ในทางธรรม แนะนำกันหน่อยได้มั้ยจ๊ะ

    ถ้าสามีมีศีลทั้ง5ข้อ ก็พาชิวิตคู่ไปตลอดรอดฝั่งคะ
    คิดได้แค่นี้แหละคะ
     
  7. wavepoo

    wavepoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +113
    ......การมีคู่จริงๆ นั้น ถ้าจะต้องมีจริงๆ ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนทั้ง 2 ฝ่ายนะครับ ไม่ว่าจะ เป็น เรือง เงินก็ดี เรื่องความเป็นอยู่ก็ดี ถ้าหากมีการปฎิบัติด้วย ก็ต้องยิ่งฝึกปฎิบัติให้มากๆ เพื่อพร้อมรับ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต การกระทบกระทั่งกันบ้าง การไม่เข้าใจกันบ้าง ต้องเกิดขึ้นแน่นอน แต่หากว่า จะต้องมีความเข้าใจ ซึ่งกันและกัน อะไรๆก็จะผ่านไปได้โดยง่าย
    ......ต้องตั้งคำถามขึ้นมาว่า คุณจะมีคู่เพราะอะไร และวางแผนที่จะทำอะไร สิ่งนั้นมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน กับคุณและ หลายๆคน ...
    ......หากตัวเราสามารถดูแลช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว เราควรที่จะมีคู่ดีกว่านะครับ เพราะว่าตอนนั้นจะมีความพร้อมในหลายๆอย่าง หากดวงใครจะต้องมียังไงก็ต้องมีครับ อดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่าครับ และสำคัญที่สุดคือ ทั้ง 2 ฝ่ายต้องยอมรับและเข้าใจซึ่งกันและกัน

    ....การมีคู่เป็นทุกข์หลายๆประการ แต่ถ้าเราเข้าใจและมีวิธีแก้ไขในหลายๆประการนั้น เราอาจจะทุกข์น้อยลง...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 สิงหาคม 2010
  8. Tawan1990

    Tawan1990 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +320
  9. aces

    aces เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    193
    ค่าพลัง:
    +587
    เลือกคู่ให้ดีแต่ทีแรก หมดทุกข์ไปเกือบครึ่งครับ

    เป็นธรรมชาติของคน ที่ต้องมีทะเลาะกัน
    ขนาดแฝดกันคลานตามกันมา ยังทะเลาะกันได้
    แล้วแฟนเป็นใคร ที่จะไม่มีทางทะเลาะกับเรา

    ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องของสุขครับ

    เหมือนที่คนสมัยก่อนเขาบอก

    ยินยอม ปลงใจ ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ฉันสามีภรรยา

    ถ้ารับ 5 คำนั้นได้ก็มีคู่
    ถ้ารับไม่ได้ก็โสดไป

    เท่าที่ผมสังเกตมา คู่ที่ทะเลาะกันน้อยที่สุด
    จะเป็นคู่ที่เริ่มจากเป็นเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนแท้ หรือเพื่อนตาย
    คู่นี้ จะรักกันมากๆ เพราะรู้ธาตุแท้ของแต่ละคน

    ส่วนคู่ที่เลิกง่ายสุด ก็พวกคู่ของวัยรุ่น
    ที่มักจะดูหน้าตากันเป็นหลัก
    ส่วนใหญ่ไม่ถึงปี ก็เลิก เพราะรับนิสัยกันไม่ได้

    อยากรุ้ว่าธาตุแท้ของคู่เราเป็นไง
    นิสัยเข้ากันได้หรือเปล่า
    ลองไปพิสูจน์รักดูครับ
    เช่นที่นิยมๆกัน ก็ ปีนภูกระดึง
    จะรู้ว่ายามที่ลำบาก เขาจะช่วยเราหรือเปล่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2010
  10. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    เออ.....แล้วการไม่มีคู่ นี่ไม่มีทุกข์หรือเปล่า

    คำตอบก็คือ ยังทุกข์อยู่อีกนั่นแหละ แต่เป็นความทุกข์ที่ต่างกันเท่านั้น

    ความเป็นจริงก็คือ คนเราเกิดมาก็เพื่อใช้กรรม
    แต่ถ้ารู้จักบริหารกรรม ก็จะทุกข์น้อยลงไป

    ชาย-หญิง เกิดมาเพื่อมีคู่ นั่นเป็นปกติธรรมดาโลก
    ถ้าจะเลือกคู่ ก็ต้อง พิจารณาตามหลักสมชีวิตตาธรรม ครับ
    เพราะยังงัยก็ต้องใช้กรรมอยู่ดี แต่จะใช้กรรมกับใครเท่านั้น
     
  11. nong_cm

    nong_cm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    721
    ค่าพลัง:
    +4,975
    ความรักทำให้เกิดทุกข์เป็นจริงเช่นนี้แล...:'(
     
  12. สีฆะสีฆัง

    สีฆะสีฆัง บุญเป็นเรื่องด่วนต้องรีบทำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +428
    ผมก็ว่ามีคู่แล้วทุกข์มากกว่าเป็นโสดนะ ก่อนแต่งงานเราทุกข์กับปัญหาของเราคนเดียวแต่พอมีคู่เราก็ทุกข์กับปัญหาส่วนตัวที่เกิดกับคู่ครอง หรือปัญหาที่เกิดกับเราทั้งสองคนไปด้วย มีหลายอารมณ์เกิดขึ้นเช่น โกรธ น้อยใจ เสียใจ เบื่อหน่าย เกลียดชัง ห่วงใย ฯลฯ แต่ก็เข้าใจละว่าการแต่งงานเป็นเรื่องคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า สำหรับฆราวาสอย่างเราๆ หนุ่มสาวที่ยังไม่เคยมีคู่ไม่เคยแต่งงานมักคิดว่าชีวิตหลังแต่งงานจะมีแต่สิ่งดีๆ perfect แต่ความจริงชีวิตคนเรามันก็มีสุขมีทุกข์คละเคล้ากันไปทุกๆวันละครับ การมีคู่เราก็ต้องพลอยรับกรรม(บางส่วน)ร่วมกับคู่ครองของเราด้วยครับ ก็ต้องเลือกคนที่จิตใจดีเข้ากันได้กับเราแล้วค่อยพิจารณาเรื่องอื่นตามมาครับ ส่วนคนที่มีคู่แล้วก็พยายามใช้หลักธรรมะเข้ามาบริหารชีวิตคู่ของเราให้มีปัญหาน้อยที่สุดละครับ ผมสังเกตเห็นว่าพระสุปฏิปัณโณ ท่านไม่มีคู่ครองท่านละชีวิตทางโลกเพื่อมาบวชหาความสุขสงบทางธรรม ท่านจึงมีใบหน้าอิ่มเอิบ ผิวพรรณผ่องใส มีความสุขมากกว่าเราๆเสียอีกครับ
     
  13. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ยินดีให้คุณ Tawan1990 นำไปเผยแพร่ ความเห็นหรือสิ่งที่ผมนำมาโพสต์นั้น ถ้าเป็นประโยชน์ต่อใคร ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากผม

    มาต่อกันเรื่องการมีคู่ จริงๆแล้ว ธรรมชาติสอนให้เราตระหนักความจริงบางประการ กล่าวคือ
    ตอนที่เรามา เรามาคนเดียวใช่ไหม แล้วตอนที่เราไป เราไปคนเดียว ใช่มั้ย

    เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของชีวิตนั้น หนึ่งเดียวเสมอ แต่เนื่องจากมนุษย์ยังมีกิเลส ยังมีความใคร่ เพราะกิเลสและความใคร่นี่แหละที่ก่อให้เกิดการสืบเผ่าพันธุ์ มนุษย์บางคนบูชาความรักของหนุ่มสาวมาก ชาตินี้เจอกันแล้ว ก็ขอให้เจอกันในชาติหน้าและชาติต่อๆไปอีก นั่นแหละเป็นสิ่งที่เรียกว่า "บ่วง" บ่วงที่พันผูกเราไว้กับการเวียนว่ายตายเกิด จำไว้นะ เราจะทำลายชาติภพให้สิ้น เราก็ต้องตัดเยื่อใยความรักของหนุ่มสาว

    การมีคู่นั้น เป็นทุกข์อย่างยิ่ง และไม่ต้องขนาดมีคู่หรอก เอาแค่เริ่มจะหาคู่ ก็มีทุกข์แล้ว ทุกข์ตั้งแต่เค้าจะรักเรามั้ย เราดีพอหรือยัง อะไรเหล่านี้เป็นต้น และถ้าเกิดขนาดคิดไปแย่งคู่คนอื่น ก็ยิ่งก่อให้เกิดทุกข์หนักขึ้นไปอีก ทุกข์ทั้งตัวเราเองและคนที่เราเกี่ยวข้อง

    ในโลกนี้นั้น จะมีมนุษย์สักกี่คนที่ตระหนักถึงเภทภัยของการมีคู่ เพราะถ้ามนุษย์คนไหนที่ตระหนักถึงเภทภัยดังกล่าวจนไม่มีคู่ ก็จะถูกมองจากมนุษย์ด้วยกันเองว่า ผิดมนุษย์มนา หรือสงสัยชอบเพศเดียวกัน นั่นแหละคือความคิดของมนุษย์ และเพราะมนุษย์มีความเข้าใจอย่างนี้ มนุษย์จึงต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ

    มนุษย์บางคนเห็นว่า การมีคู่นั้นเป็นทุกข์อย่างยิ่ง ก็เพราะมนุษย์ผู้นั้นรู้ว่านี่คือ "ไฟ" เมื่อรู้แล้ว จะยังขืนไปแหย่ให้มันร้อน ให้มันเจ็บไหม ? แต่มนุษย์ที่ไม่รู้ ก็มองกองไฟนั้นเหมือนสิ่งสวยงาม กว่าจะรู้ก็ต่อเมื่อตกเข้าไปอยู่ในกองไฟนั้นแล้ว และก็อีกหลายๆคนที่ไม่รู้ว่านั่นคือกองไฟ และก็ยังไม่รู้เช่นนั้นอีกนานแสนนาน

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นแบบอย่างที่ดี พระองค์ทรงเห็นเภทภัยของการมีคู่ และนอกจากนี้ สาวกขององค์พระผู้มีพระภาคเจ้า ยังได้รับการถ่ายทอดถึงเพศภัยของการมีคู่มานับพันๆปี ดังจะเห็นได้จากคำพังเพยทีว่า สตรีเป็นศัตรูแห่งเพศพรหมจรรย์ เพราะฉะนั้นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จะระมัดระวังเรื่องผู้หญิงเป็นอย่างมาก เพราะนี่แหละคือศัตรูตัวฉกาจ มิพักต้องขยับไปพูดถึงเรื่องการมีคู่เลย.....

    สุดท้าย ฆราวาสใดก็ตามที่ดำรงตนอยู่ในศีลในธรรม ดำรงตนอยู่เนื่องด้วยเห็นถึงเภทภัยของการมีคู่ ท่านก็เปรียบเสมือนเป็นพระอยู่กลายๆ แม้ท่านจะไม่ได้นุ่งเหลืองห่มเหลืองก็ตาม

    ขอให้ปัญญาและความเจริญในธรรมบังเกิดกับท่านทั้งหลายด้วยเทอญ......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2010
  14. จิตปรุง

    จิตปรุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +802
    ขอถามต่ออีกนิดนะจ๊ะ จริงหรือป่าวที่หากอีกฝ่ายปฎิบัติธรรมแล้วอีกฝ่ายต้องปฎิบัติตามให้ทัน เพราะหากภูมิธรรมต่างกันมากจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่เรามีความคิดว่าคนที่ปฎิบัติรู้และมีธรรม ก็น่าจะยิ่งเข้าใจอีกฝ่ายได้มากขึ้น รบกวนผู้รู้ช่วยไขข้อข้องใจได้ไหมจ๊ะ ขอบคุณจ้า
     
  15. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ภูมิธรรมก็มีส่วน แต่ไม่ 100% ปัจจัยที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่จะทำให้อยู่ด้วยกันได้หรือไม่ได้ก็คือ

    "สิ้นวาสนาต่อกัน" หรือ "สิ้นเวรสิ้นกรรม" ต่อกัน หรือยัง
     
  16. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    ใจเป็นทุกข์วิบากยังไงก็เป็นทุกข์
    ใจเป็นไม่เป็นทุกข์วิบากยังไงก็ไม่เป็นทุกข์
    ใจเป็นใหญ่ วิบากยังไง รักษาใจไว้ ใจไม่เป็นทุกข์

    ภูมิธรรมต่างกันมีโอกาสสูง คนหนึ่งไปรถ คนหนึ่งไปเดิน เรียกขึ้นรถไม่ขึ้นโอกาสคลาดกันสูง
     
  17. สีฆะสีฆัง

    สีฆะสีฆัง บุญเป็นเรื่องด่วนต้องรีบทำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +428
    บางทีฝ่ายที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรมจะตีจากไปเองก็ได้ครับ ฝ่ายที่ปฏิบัติเขาก็คงอยากให้คู่ของเขาปฏิบัติด้วยเช่นกันเพราะจะได้พูดคุยกันรู้เรื่อง มีสัมมาทิฏฐิเหมือนกัน แต่ทีนี้ถ้าฝ่ายไม่ปฏิบัติยังไม่ถึงเวลาของเขา เขาก็จะไม่มาทางนี้และถ้าเป็นคู่ครองแบบเจ้ากรรมนายเวร ไม่ใช่คู่สร้างคู่สม ก็อาจจะทำให้เขาตีจากไปเองครับ
     
  18. จิตปรุง

    จิตปรุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +802
    จะสุขหรือทุกข์อยู่ที่เราเลือกทำค่ะ เราเองก็เป็นทุกข์กับเรื่องความรัก ที่ทุกข์มัวแต่เรียกร้องอยู่ ส่งจิตออกไปอยู่แต่อีกฝ่ายตลอดเวลา ตอนนี้ก็รับวิบากแห่งทุกข์ที่สร้างขึ้นแต่ไม่ไปทุกข์ร้อนกับมัน(ไม่สร้างทุกข์ใหม่) ตอนนี้เราก็พยายามจะตามคู่เราให้ทันเหมือนกัน
     
  19. yaka

    yaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    647
    ค่าพลัง:
    +1,384
    ขออนุโมทนาสาธุ ดังคำโบราณท่านว่ามีคู่ผิดคิดจนวันตายใช่หรือเปล่าค่ะ
     
  20. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    การมีคู่มีทั้งสุขและทุกข์ครับ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าได้คู่แบบไหน

    แต่การเกิดเป็นทุกข์แน่นอนครับ

    โมทนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...