การบำเพ็ญบารมีด้วยพลังคุ้มกันจังหวัด รักประเทศช่วยได้ง่ายๆ

การบำเพ็ญบารมีด้วยพลังคุ้มกันจังหวัด รักประเทศช่วยได้ อยู่บ้านทำง่ายๆ ไม่ต้องไปประท้วง ไม่ต้องใช้เงิน


การบำเพ็ญบารมีง่ายๆ ได้บารมีมากก้าวหน้าสูง และประหยัด เพราะเรียบง่ายไม่ต้องเริ่มจากทุน หรือเงินมากอะไรเลยคือการสร้างพลังคุ้มกันภัยประจำจังหวัดตน ปกติ พระสงฆ์ทุกวัดจะสวดบทไล่ภัยพิบัติได้อยู่แล้ว แต่พลังนั้นเป็น “อรูป” คือ ไม่มีรูป เหมือนอากาศดีไล่อากาศเสียให้บรรเทาเบาบางได้เท่านั้น แต่ยังมีพลังอีกแบบที่เป็นรูป คือ “รูปฌาน” ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันท่านที่ฝึกกสิณ โดยกำหนดให้พลังจิตมีรูป ไม่ใช่พลังงานที่ไม่มีรูปหรือคล้ายอากาศหรือหมอก แต่ต้องรวมตัวกันมีรูปร่างเฉพาะ ซึ่งรูปร่างที่ดีที่สุด สำหรับการป้องกันภัย คือ “ทรงกลม” หากรวมพลังจิตเป็นรูปทรงกลมปกป้องพื้นที่ต่างๆ ได้ก็จะสามารถคุ้มกันภัยในสถานที่นั้นๆ ได้ นับเป็นวิธีการบำเพ็ญบารมีที่ดีอีกวิธีหนึ่ง ดังนี้ ​

วิธีการ​

๑) หาลูกแก้วขนาดพอเหมาะกับการเพ่งรวมจิต เป็นแบบให้กับพลังคุ้มกัน แล้วตั้งลูกแก้วไว้ตรงหน้า ตั้งจิตอธิษฐานว่า “ขอให้พลังสวดมนต์ของข้าพเจ้าจงรวมกันเป็นพลังคุ้มกันภัยรูปดวงแก้วครอบทั่วจังหวัด...” (ใส่ชื่อจังหวัดที่ต้องการช่วย)​

๒) จุดธูปสามดอกตั้งนะโมสามจบแล้ว สวดมนต์บทที่มีพลังภาคขาวที่ดี เช่น คาถาชินบัญชร หรือบทกำแพงแก้วเจ็ดชั้น หรือบริกรรมสั้นๆ พร้อมทำสมาธิเช่น สัมมา อรหัง ก็ได้ พร้อมเพ่งไปที่ดวงแก้วนั้น เพื่อส่งกำลังจิตเข้าไปสู่ดวงแก้วคุ้มกันภัย ​

๓) สวดมนต์ประจำทุกเช้าหรือเย็น ทำให้เวลาในชีวิตแต่ละวันไม่ผ่านเลยไปอย่างไร้สาระ ทุกวันได้ทำประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง อย่างน้อยก็จังหวัดของตน ซึ่งไม่ใหญ่เกินไปจนเกินกำลังจิต หากสวดคนเดียวแต่หวังจะคุ้มประเทศเป็นไปได้ยาก ​

การประเมินเขตอาคมคุ้มกัน​

หากเป็นพลังจิตของคนๆ เดียว ที่ไม่มากเท่าไร เริ่มฝึก ก็ให้ฝึกครอบคลุมเฉพาะบริเวณสถานที่อยู่ก็พอ ถ้าฝึกมานานพอควร มีกำลังพอควร ให้ลองกำหนดเขตอาคมคุ้มกันคุ้มทั่วจังหวัดดู หากมีหลายท่าน เช่น ในวัดมีพระจำนวนมาก เป็นหลักสิบ อันนี้รวมพลังกันแล้วทดลองคุ้มกันทั่วเขตภาคที่อาศัยนั้นๆ เช่น อยู่ภาคเหนือก็คุ้มกันภาคเหนือ แต่ถ้ามีผู้นั่งสมาธิมาก เช่น เป็นหลักร้อย ก็ให้ลองกำหนดเขตอาคมคุ้มกันภัยให้ทั่วประเทศ สรุป​

๑) คนเดียวเริ่มต้น ฝึกคุ้มกันเฉพาะสถานธรรมที่อยู่อาศัยหรือบุคคลสำคัญ​

๒) คนเดียวชำนาญ ฝึกคุ้มกันทั่วทั้งจังหวัดที่อยู่อาศัย​

๓) หลักสิบคน ฝึกคุ้มกันทั่วทั้งภาคที่อยู่อาศัย​

๔) หลักร้อยคน ฝึกคุ้มกันทั่วทั้งประเทศที่อยู่อาศัย​

ความสามารถในการป้องกันของเขตอาคม​

๑) จิตวิญญาณที่มีฤทธิ์มาก อาจไม่สามารถป้องกันได้ อันนี้ต้องเข้าใจด้วย​

๒) จิตวิญญาณเล็กๆ เช่น ผีที่มีฤทธิ์น้อย พวกบริวารเล็กน้อยๆ อันนี้พอกันไหว​

๓) พวกภัยพิบัติ เช่น ลมพายุ, น้ำท่วม ฯลฯ อันนี้พอควรให้บรรเทาเบาบางลงได้​

๔) พวกแผ่นดินไหว ซึ่งหากเกิดจากภายในศูนย์กลางเขตอาคม ยากที่จะช่วยได้​

ข้อควรระวังของการกำหนดเขตอาคมรูปทรงดวงแก้ว​

หากกำหนดเขตอาคมแล้ว จิตวิญญาณที่อยู่ภายในเขตอาคมทำลายเขตอาคมก็สามารถทำได้ คือ ทำลายจากภายในจะมีปัญหามาก แต่จากภายนอกไม่ค่อยมีปัญหา เพราะรูปทรงกลมมีความสามารถปกป้องได้จากภายนอก ดังนั้น ก่อนกำหนดเขตอาคมควรจัดการเคลียร์พื้นที่ที่จะกำหนดเขตอาคมก่อน ไม่ให้จิตวิญญาณที่เป็นศัตรูเข้ามาอยู่ในเขตอาคมก่อนได้ ถ้าแอบเข้ามาได้ พวกนี้จะรุมทำลายเขตอาคมจากภายใน และทำให้เขตอาคมถูกทำลายได้ง่าย เพราะจุดอ่อนของเขตอาคมอยู่ข้างในของเขตอาคมนั่นเอง​

การสวดส่งพลังคุ้มกันกายทิพย์ปกป้องผู้ป่วยที่อาจถูกมารแย่งร่าง​

ผู้ป่วยบางรายมีอายุมาก และอาจถึงวาระที่หมดอายุขัยแล้ว แต่กายสังขารนั้นเป็นที่พอใจของพญามาร, มาร เช่น คนที่มีตำแหน่งสูง, มีเงินมาก ฯลฯ พวกเขาเหล่านี้ มีกายสังขารเป็นที่น่าปรารถนาของเหล่าจิตวิญญาณมากมาย โดยเฉพาะเหล่ามารและอสูรที่ร้ายกาจรอแย่งเอากายสังขารไปครอง เมื่อป่วยหนักจนจิตใกล้จุติแล้ว พญามารจะเข้ามาทำร้ายกายทิพย์จนสลาย เมื่อจิตดวงเก่าจุติไปแล้ว ลมปราณยังไม่สูญสลายไปจากกายสังขารนั้นหมด จิตวิญญาณที่เป็นมาร หรือพญามารก็เข้าแทรกอาศัย ยึดครองร่างนั้นไป กล่าวอีกนัยหนึ่ง คนผู้นั้นได้ตายไปแล้ว แต่มารมาอาศัยสังขารต่อทำให้เป็นคนที่มีชีวิตอยู่ได้ต่อไปได้ พญามารบางตนมักใช้วิธีนี้ เพื่อยึดครองอำนาจอย่างง่ายดาย



การป้องกันภัยจากมารหรือพญามารเข้าแทรกในกายขณะจะละสังขาร



๑) การครองตนเป็นผู้สมถะมักน้อยไว้ตลอดชีพ เมื่อไม่มีตำแหน่งลาภยศ และเงินทองแล้ว พญามารก็ไม่สนใจอยากได้กายสังขารนั้นอีก จะไม่ยุ่งกับกายเรา วิธีนี้ง่ายและปลอดภัย ทำได้ทุกคน เป็นวิธีที่พระพุทธเจ้าสอนมานานแล้ว แต่ไม่มีคนตระหนักถึงความสำคัญ เพราะท่านไม่อาจพูดได้ตรงๆ ว่ามารจะมาแย่งร่างเอาไป

๒) ใช้เตโชกสิณไฟเผาร่างขณะตาย เมื่อจิตจะจุติให้กำหนดจิตใช้เตโชกสิณไฟเผาร่างให้หมด มารจะอาศัยจังหวะที่จิตเราจุติออกไป ครองแทนไม่ได้ วิธีนี้เป็นวิธีที่พระอานนท์ใช้ได้ผลมาแล้ว แต่ผู้ที่จะทำได้สำเร็จ ตลอดชีพต้องเก็บพลังธาตุไฟไว้ เมื่อสะสมมากพอถึงระดับนั้นแล้ว เมื่อจะละสังขารตายจึงจะอธิษฐานได้ผล

๓) ใช้พลังคุ้มกันกายคือแก้วธรรมกายครองกายทิพย์ไว้ตลอด จนกว่าลมปราณจะสูญสิ้นหมด ให้ผู้ฝึกดวงแก้วธรรมกาย กำหนดจิตอธิษฐานไว้ให้พลังปราณรวมเป็นดวงแก้วธรรมกายครองร่างไว้เมื่อจิตจุติออกไป จนกว่าจะสูญสิ้นลมปราณหมด ก็ค่อยสลายพลังคุ้มกัน พญามารแม้เข้าแทรกก็ไม่อาจได้ผลอีก เพราะตายสนิทแล้ว ไม่มีลมปราณเหลือในสังขารนั้น ก็ประสานเข้าร่างฟื้นคืนชีพอีกไม่ได้



การสวดส่งพลังคุ้มกันกายทิพย์ให้ผู้ป่วย

เพื่อป้องกันไม่ให้จิตวิญญาณอื่นเข้าแทรกแทนจิตผู้ป่วย การสวดส่งพลังคุ้มกันกายทิพย์เป็นดวงแก้ว จะสามารถช่วยให้ปลอดจากการถูกพญามารแทรกได้ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้



๑) ตั้งรูปของคนที่เราต้องการใช้พลังคุ้มกันให้เขาไว้บนโต๊ะบูชาก็ได้ หรือเอาเทวรูปที่เราต้องการส่งพลังคุ้มกันให้ มาตั้งแทนก็ได้ เพื่อใช้ภาพหรือรูปปั้นเป็นสื่อนำจิตของเราให้โน้มนำจิตของเราไปยังเป้าหมายได้ถูกต้องไม่ผิดพลาดไปอย่างอื่น

๒) วางลูกแก้วลูกหนึ่งไว้ตรงหน้ารูปภาพของท่านผู้นั้น เพื่อใช้ในการเพ่งเป็นแบบสร้างพลังคุ้มกัน แล้วอธิษฐานว่า “ขอลูกแก้วลูกนี้ จงเป็นสื่อแทน ดวงแก้วธรรมกายประจำกายทิพย์ ซึ่งคุ้มครองกายทิพย์ให้แก่ท่าน ... ด้วยเทอญ”

๓) จุดธูปสามดอกตั้งนะโมสามจบ อธิษฐานว่า “ขอพลังเสียงสวดมนต์ของข้าพเจ้านี้จงไปเสริมเป็นพลังดวงแก้วธรรมกายคุ้มครองกายทิพย์ให้ ... ด้วยเทอญ”

๔) สวดมนต์บทที่เป็นพลังภาคขาว เช่น บทชินบัญชร พร้อมเพ่งดวงแก้ว เพื่อสื่อให้พลังเข้าไปเสริมดวงแก้วนั้นอยู่เสมอ หรือคำสวดสั้นๆ เช่น สัมมา อรหัง สวดซ้ำๆ พร้อมเพ่งไปยังดวงแก้วนั้นตลอดเวลา พร้อมนับลูกปะคำในมือไปด้วยก็ได้



การสวดมนต์นี้ ถ้าสวดมากก็มีพลังมาก ยิ่งตอนสวดมีสมาธิมาก พลังยิ่งมาก และพลังนี้จะอยู่ได้ไม่นาน ก็จะค่อยๆ สูญสลายแผ่ออกไปตามธรรมชาติ จึงควรสวดทุกวัน บางท่านที่กำลังป่วยมาก และหากวัดใด มีกำลังคนมาก ก็สามารถผลัดเวรช่วยกันสวดให้ก็ได้ ซึ่งได้ผลดีกรณีฉุกเฉิน เพื่อปกป้องกายทิพย์ของผู้ป่วยไม่ให้ถูกจิตวิญญาณอื่นๆ เข้ามาทำร้ายหรือรังควาญ โดยเฉพาะเข้าแทรกแย่งร่างได้ นับเป็นการโปรดสัตว์อีกวิธีหนึ่ง

 

....ดีครับ..ของผม เอาแค่ ขอให้ พลังแห่งธรรม ชนะ อธรรม ก็พอ....ไม่ไปวุ่นวายจังหวัด หรือ ประเทศ หรอกครับ แค่ลำพังตน ก็ ย่ำแย่แล้ว.......อยากถามว่า.....หาก ผม หาลูกแก้วกลมๆไม่ได้ ลองดูุ ลูกนี้ ได้ใหม......