การดับด้วยความจำได้หมายรู้อันยิ่งใหญ่(การเข้า อภิสัญญานิโรธ)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ยศวดี, 27 พฤษภาคม 2012.

  1. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    การเข้าอภิสัญญานิโรธ​


    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี เป็นเวลาเช้า พระองค์ทรงดำริว่า เราจะเที่ยวบิณฑบาตไปในกรุงสาวัตถีก็ยังเช้านัก เราควรจะเข้าไปหาโปฏฐปาทะปริ พาชกยังมัลลิการาม โปฎฐปาทะ ได้ทูลถามองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเรื่อง การเข้าอภิสัญญานิโรธ(การดับด้วยความจำได้หมายรู้อันยิ่งใหญ่)

    ซึ่งพระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ดูกรโปฏฐปาทะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีสกสัญญา เธอพ้นแล้วจากปฐมฌานจากทุติยฌานนั้นๆแล้ว ย่อมได้บรรลุอากิญจัญญายตนฌานโดยลำดับ เมื่อเธอตั้งอยู่ในอากิญจัญญายตนฌานแล้ว ย่อมมีความปริวิตกว่า เมื่อเราคิดอยู่ก็ยังชั่ว เมื่อเราไม่คิดอยู่จึงจะดี แต่ถ้าเรายังขืนคิดขืนคำนึง สัญญาของเราเหล่านี้พึงดับ สัญญาอย่างหยาบเหล่าอื่นพึงเกิดขึ้น เราไม่พึงคิด ไม่พึงคำนึง สัญญาเหล่านั้นก็ดับไป สัญญาที่หยาบเหล่าอื่นก็ไม่เกิดขึ้น เธอก็ได้บรรลุนิโรธ.

    ดูกรโปฏฐปาทะ การเข้าอภิสัญญานิโรธแห่งภิกษุผู้มีสัมปชัญญะโดยลำดับย่อมมีด้วยประการอย่างนี้แล.

    พระพุทธเจ้า ดูกรโปฏฐปาทะ การเข้าอภิสัญญานิโรธแห่งภิกษุผู้มีสัมปชัญญะเช่นนี้ ก่อนแต่นี้เธอเคยได้ยินบ้างหรือ?

    โปฏฐปาทะ หามิได้ ข้าพระองค์เพิ่งรู้ทั่วถึงธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้วอย่างนี้แล.

    ดูกรโปฏฐปาทะ เพราะเหตุที่ภิกษุเป็นผู้มีสกสัญญา พ้นจากปฐมฌานเป็นต้นนั้นแล้วย่อมบรรลุอากิญจัญญายตนฌานโดยลำดับ เธอย่อมมีความปริวิตกอย่างนี้ว่า เมื่อเรายังคิดอยู่ก็ยังชั่ว เมื่อเราไม่คิดอยู่จึงจะดี ถ้าเรายังขืนคิด ขืนคำนึง

    สัญญาของเราเหล่านี้พึงดับไป และสัญญาที่หยาบเหล่าอื่นพึงเกิดขึ้น ถ้ากระไร เราไม่พึงคิด ไม่พึงคำนึง ครั้นเธอปริวิตกอย่างนี้แล้ว เธอก็ไม่คิด ไม่คำนึง เมื่อเธอไม่คิด ไม่คำนึง สัญญาเหล่านั้นก็ดับไป และสัญญาที่หยาบเหล่าอื่นก็ไม่เกิดขึ้น เธอก็ได้บรรลุนิโรธ การเข้าอภิสัญญานิโรธแห่งภิกษุผู้มีสัมปชัญญะโดยลำดับย่อมมีด้วยประการอย่าง นี้แล.

    โปฏฐปาทะ.ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ทรงบัญญัติอากิญจัญญายตนะไว้อย่างเดียวหรือหลายอย่าง

    ดูกรโปฏฐปาทะ เราบัญญัติอากิญจัญญายตนฌานอย่างเดียวก็มี หลาย
    อย่างก็มี.

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ไฉนพระองค์จึงทรงบัญญัติอากิญจัญญายตนฌาน ไว้อย่างเดียวก็มีหลายอย่างก็มี.

    ดูกรโปฏฐปาทะ พระโยคีย่อมบรรลุนิโรธด้วยประการใดๆ เราก็บัญญัติอากิญจัญญายตนฌานด้วยประการนั้นๆ เราบัญญัติอากิญจัญญายตนฌานอย่างเดียวบ้าง หลายอย่างบ้าง ด้วยประการอย่างนี้แล.

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สัญญาเกิดก่อน ญาณเกิดทีหลัง หรือว่าญาณเกินก่อน
    สัญญาเกิดทีหลัง หรือทั้งสัญญาและญาณเกิดไม่ก่อนไม่หลังกัน.

    ดูกรโปฏฐปาทะ สัญญาแลเกิดก่อน ญาณเกิดทีหลัง เพราะสัญญาเกิดขึ้นฌานจึงเกิดขึ้น ญาณเกิดขึ้นแก่เราเพราะสัญญานี้เป็นปัจจัย เธอพึงทราบว่า สัญญาเกิดก่อนญาณเกิดทีหลัง เพราะสัญญาเกิดขึ้นฌานจึงเกิดขึ้น.




    ขอกราบขอบพระคุณ ลานบุญ ดอทคอม เจ้าคะ
    โมทนาสาธุคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2012
  2. วัชรพงษศ์

    วัชรพงษศ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2012
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +15
    กระผมจะพยายามตอบตามความรู้ที่มีแต่เน้นโดยสัมมาทิฏฐิเป็นสำคัญ

    สัญญาคือความจำได้หมายรู้ ในการปฏิบัติธรรมต้องอาศัยการจำได้หมายรู้พิจาณาอย่างแยบคายในหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์พระบรมศาสดาองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าโดยธรรมโดยชอบไม่บิดเบือน แล้วน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติโดยสัมมาทิฏฐิในกายในวาจาในใจด้วยจิตใจที่ใสสอาดบริสุทธิ์ตามพระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงด้วยความสุจริตบริสุทธิ์โดยสัมมาทิฏฐิเป็นปัจจัย แล้วจึงเป็นเหตุให้เกิดการปฏบัติธรรมที่เป็นสัมมาทิฏฐิเป็นฌานสัมมาสมาธิบังเกิดเป็นการปฏิบัติที่ถ่ายถอนระงับแลดับกิเลสเข้าถึงทางแห่งวิมุตทางแห่งความหลุดพ้นจากกิเลสเข้าสู่ความพ้นทุกข์เช่นนั้นเอง (แต่เรื่องของฌานเป็นเรื่องอจินไตยในธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงว่าห้ามสงสัย)
     
  3. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ผมรู้แค่ว่า นิโรธ เพราะ หนี เพราะ กดข่ม เพราะกระทำ ...(สมาธิ) มันไม่ไช่

    แต่ผมรู่ว่า นิโรธ ที่ไช่ คือ ไม่ต้องกระทำ อะไรเลย ..เสร็จแล้ว จะกระทำอะไรก็ได้ ทั้งนั้น มันก็ ยังนิโรธ ของมันอยู่แบบนั้น

    แบบนี้ คือ นิพพาน ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...