"กายทิพย์" ประสบการณ์นอกกายเนื้อ - อ.ยุทธพงษ์ แสงอรุณกุศล

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย MBNY, 3 พฤศจิกายน 2005.

  1. MBNY

    MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,864
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,511


    มีประสบการณ์เร้นลับจากการฝึกจิตอย่างหนึ่งซึ่งน่าสนใจและน่าพิสูจน์ นั่นคือเรื่องของการถอดจิตจน "กายทิพย์" สามารถแยกออกจากกายเนื้อไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆหรือแม้แต่ใน "โลกทิพย์" ภพภูมิของวิญญาณได้ โดยที่กายเนื้อยังมีชีวิตอยู่


    การฝึกถอดจิตนับเป็นหนึ่งใน 8 ศาสตร์วิชาทางศาสนาพุทธซึ่งเชื่อกันว่าในประเทศไทยมีผู้ที่มีความสามารถทางด้านนี้หลายท่าน นับแต่พระเกจิอาจารย์ที่มีอภิญญาชั้นสูงหลายๆรูปหรือแม้แต่ฆราวาสที่เป็นนักปฏิบัติธรรมชั้นสูงบางท่านก็สามารถทำได้ อย่างนักปฏิบัติธรรมท่านหนึ่งที่ผู้เขียนได้ยินชื่อเสียงของท่านมานานจึงอยากจะพาไปรู้จัก ท่านนี้คืออาจารย์ยุทธพงษ์ แสงอรุณกุศล ท่านเป็นนักปฏิบัติธรรมที่มีลูกศิษย์ลูกหาเยอะแยะมากมาย ซ้ำยังมีประสบการณ์จากสมาธิหลายเรื่องที่จะเล่าให้เราฟัง


    อาจารย์ยุทธพงษ์เล่าให้เราฟังว่าท่านสนใจในเรื่องของพลังอำนาจจิตและวิญญาณมานานแล้ว เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2510 ที่ไหนมีการแสดงพลังจิต มีการประทับทรงท่านก็ชอบไปศึกษาแต่ในระยะแรกจะเป็นไปในลักษณะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จากนั้นก็เริ่มศึกษาวิธีการปฏิบัติอย่างจริงจังเพราะต้องการจะรู้ว่าเรื่องของพลังจิตและวิญญาณมีจริงหรือไม่และที่สำคัญคืออยากจะรู้ว่าทำไมคนเราจึงต้องมาเกิด อาจารย์ได้เริ่มต้นเล่าประสบการณ์ของการฝึกจิตให้เราฟังว่า


    "ผมเริ่มสนใจปฏิบัติสมาธิจริงๆตอนอายุ 26 อาจเป็นบารมีเก่ามาหนุนให้เรามีความสนใจเรื่องนี้ จึงทำให้เราอยากไปดู อยากไปเห็น ฝึกครั้งแรกก็เป็นสมาธิธรรมดา พุทโธๆต่อมาผมได้พบกับอาจารย์ซึ่งเป็นท่านแรกที่สอนผมให้มอง "กึ่งกลางระหว่างคิ้ว" คนที่สอนผมคนนี้เป็นคนลาวนะเขาสอนผมแค่ให้หลับตาและมองกึ่งกลางระหว่าคิ้วให้รวมจิตให้เป็นหนึ่งแล้วกายทิพย์จะแยกออกจากร่างไปเที่ยวตามที่ต่างๆที่เราปรารถนาจะไปได้

    ท่านสอนเพียงเท่านี้ เราก็หัดหลับตามองไปที่กึ่งกลางระหว่างคิ้ว ปรากฏว่าฝึกๆไปมันเกิดหนึบๆเกิดปวดเสียวและตึงๆที่กีงกลางระหว่างคิ้ว แต่ผมก็ยังเพ่งไปที่จุดตำแหน่งนั้นอยู่ตลอดเวลา ทั้งกลางวันกลางคืน ฝึกจนแม้เวลาหยุดเพ่งก็ยังมีอาการปวดหนึบๆอยู่ตรงนั้นฝึกปีหนึ่งครับก็เริ่มลอดได้แต่ใหม่ๆจะยังไม่คล้อง แต่ก็พอมองเห็นว่าภาวะที่กายทิพย์แยกออกจากกายเนื้อนี่เป็นยังไง"

    อาจารย์ยุทธพงษ์บอกกับเราว่า จุดกึ่งกลางระหว่างคิ้วนั้นคือประตูสู่สวรรค์ ซึ่งหลายประเทศให้ความสำคัญ อย่างชาวจีนก็มีการสอนกันมาว่า "หน้าผาก" คือแหล่งเปล่งรัศมีไว้คุ้มครองตัว ล้าใครไว้ผมบิดหน้าผาก เส้นผมจะบังรัศมีทำให้พบภูติผี วิญญาณได้ และชาวอินเดียก็จะมีการเจิมหน้าผากที่กึ่งกลางหน้าผาก ซึ่งจะสังเกตได้ว่าทั้งเทวดาอินเดียและจีนก็มีตาที่สามที่มีอิทธิฤทธิ์อยู่ที่กึ่งกลางหน้าผากเช่นกัน ส่วนชาวไทยเราก็มีการเจิมอุณาโลมที่กึ่งกลางระหว่างคิ้วเช่นกัน นับว่าตำแหน่ง "จุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว" นี้ถือเป็นตำแหน่งสำคัญที่ใช้สัมผัสกับโลกวิญญาณมานานแสนนาน ตั้งแต่ครั้งโบราณจนถึงปัจจุบัน

    คำว่า "กายทิพย์" นั้นผู้อ่านหลายท่านอาจจะสงสัยว่าคืออะไร อาจารย์ยุทธพงษ์ได้อธิบายให้ฟังว่า กายทิพย์มีสภาพคล้ายอากาศที่โปร่งแสงและจะแฝงแนบสนิทอยู่กับกายเนื้อดุจเป็นเนื้อเดียวกันและเมื่อเวลาหลุดแยกออกจากร่างจากการฝึกถอดจิต ร่างที่เป็นกายเนื้อของเราก็ยังมีชีวิตอยู่มีเพียงกายทิพย์ที่หลุดออกไปโดยเป็นร่างโปร่งแสงที่ไม่อาจสัมผัสได้ และระหว่างที่กายทิพย์แยกออกไปนี้จะมีสายใยที่เรียกว่า "สายใยแห่งชีวิต"

    ซึ่งมีลักษณะโปร่งใสเป็นสีเงินยวงเชื่อมโยงอยู่ตลอดเวลาและยังสามารถยืดยาวไกลออกไปได้ดังใจปรารถนา และสายใยแห่งชีวิตนี้จะทำหน้าที่พิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือถ้ากายเนื้อยังมีสายใยนี้เชื่อมอยู่ก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าสายใยนี้ถูกตัดขาดลงเมื่อไหร่กายเนื้อก็จะตายลงทันทีซึ่งก็หมายถึงถ้ากายเนื้อหรือมนุษย์ผ็นั้นตายลงวันใด "สายใยแห่งชีวิต" นี้ก็จะขาดจากกายเนื้อมนุษย์ผู้นั้นในทันที

    ประสบการณ์นอกกายเนื้อจากการลอดกายทิพย์ของอาจารย์ยุทธพงษ์นั้นท่านได้บันทึกเรียบเรียงไว้ในหนังสือประสบการณ์จากสมาธิ-วิญญาณ ซึ่งผู้เขียนได้ขออนุญาตนำเรื่องเล่าที่น่าสนใจมาเผยแพร่ต่อไปดังนี้
    ลอดจิตไปนมัสการเจ้าพ่อหลักเมือง

    เรื่องนี้เป็นประสบการณ์จากการลอดจิตครั้งแรกของอาจารย์ยุทธพงษ์ หลังจากที่เพียรฝึกฝนมาเป็นเวลา 1 ปี โดยตั้งความหวังไว้ว่าอยากจะลอดกายทิพย์ให้หลุดจากกายเนื้อให้ได้คืนหนึ่งก็รู้สึกว่าขณะที่ปฏิบัติอยู่นั้นเกิดอาการปวดเสียงตึงเหมือนลูกข่างปลายแหลมปักลึกเข้าไปในหัวกะโหลกและหมุนอยู่ตลอดเวลาจนทะลุถึงท้ายทอยตรงก้านสมอง
    อาการอย่างนี้หมายถึงเริ่มจะลอดกายทิพย์ได้แล้ว และขณะนั้นก็มีความรู้สึกว่าเหมือนตัวเองเป็ฯกายเนื้อเข้าไปในโลกอีกโลกหนึ่ง (โลกวิญญาณ) ที่มโหฬารไพศาล สลับซับซ้อนด้วยแสงสีและเกิดความรู้สึกหวาดเสียวล้อมรอบตัวมากมาย เห็นวิญญาณรูปร่างต่างๆทั้งที่แปลกหูแปลกตาไม่เคยพบเห็นในโลกมนุษย์ ทำให้กายทิพย์เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาทันทีและกายทิพย์ก็แล่นกลับคืนสู่กายเนื้อทันทีทันใด เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจนจบใช้เวลาเพียง 1 นาที เท่านั้น ซึ่งในบันทึกของอาจารย์ยังได้เล่าต่อไปอีกว่า...


    "ต่อมาวันหนึ่งตั้งใจนอนแต่หัวค่ะประมาณ 6 โมงเย็นเราก็รีบเข้านอนโดยทำใจให้สบายๆหลับพักผ่อนเต็มที่ ตื่นขึ้นมาอีกครั้งประมาณตี 3 รู้สึกไม่ง่วง สำรวมจิตทำใจให้ปลอดโปร่งสบายและนอนท่าหงายตัวขึ้นรวมจิตเป็นหนึ่งมองไปที่จุดปวดเสียวตึงกึ่งกลางระหว่างคิ้วเพียงแวบเดียวก็สามารถรวมตัวเป็นลูกข่างที่หมุนเจาะลึกเข้าไปในสมอง ขณะนั้นเราคิดได้ว่าทุกครั้งที่เราถอดกายทิพย์ได้นั้นมักจะพบกับสิ่งน่ากลัว คราวนี้เราตั้งต้นใหม่ เราตั้งใจจะไปหาครูอาจารย์ของเราคือท่านเจ้าพ่อหลักเมืองสนามหลวงกรุงเทพฯท่านต้องคุ้มครองเราแน่นอน เราก็ตั้งจิตอธิษฐานนึกถึงเจ้าพ่อหลักเมือง โดยไม่ได้นึกถึงสถานที่ (ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองที่สนามหลวง)

    ทั้งนี้เมื่อเรานึกถึงบุคคล ชื่อ นามสกุลแล้วก็เน้นให้เห็นใบหน้าของคนนั้นให้ปรากฏชัดแจงในความนึกคิดขณะนั้น แม้ว่าเราะจะไม่รู้ว่าเขาตอนนั้นอยู่ที่ไหนก็ตาม กระแสพลังจิตก็ดึงดูดเหนี่ยวนำให้เข้าไปหากันจนได้ และเมื่อกายทิพย์หลุดพ้นจากกายเนื้อแล้ว กายทิพย์จะหลุดลอยออกไปด้วยความเร็วสูงมาก พุ่งเข้าไปในห้วงอวกาศอันเงียบสงัด เวิ้งว้างกว้างใหญ่ ไม่มีขอบฟ้า

    กายทิพย์เมื่อออกจากกายเนื้อจะเกิดมีอำนาจพิเศษหนุนนำคือ "ทิพย์อำนาจ" เข้าผสมกับอำนาจพลังจิตที่กายเนื้อฝึกได้ในชีวิตประจำวัน และเพียงจิตที่เปลี่ยนแปลงชั่วแวบว่าเราจะไปหา "เจ้าพ่อหลักเมือง" ก็เกิดบันดาลเป็นอำนาจดึงดูดให้กายทิพย์เปลี่ยนทิศทางทันที วูบหล่นมายืนอยู่บนพื้นดินทันทีซึ่งขณะนั้นก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ท่ามกลางความมืดนั้นพอจะมองเห็นรางๆกายทิพย์กำลังยืนอยู่ที่สนามหญ้าแห่งหนึ่ง

    ข้างหน้าเรามีบ้านหลังหนึ่งใหญ่พอสมควร ข้างบ้านมีโรงรถติดกับบ้าน ขณะที่เรากำลังยืนพิจารณาอยู่นั้นก็เกิดเห็นร่างยักษ์ผู้ชาย 5 ตน ผิวดำร่างใหญ่โตมาก เท่ากับยักษ์วัดแจ้ง ผมหยิกตาโต ปากแยกเขี้ยววิ่งเข้ามาจะตะครุบ หวังจับตัวเราให้ได้ เรากลัวมากอยากจะหนูไปให้พ้นจึงกำมือสองข้างเข้าหากันที่หน้าอก รวมจิตเป็นหนึ่งอธิษฐานนึกอยากหนีให้พ้นจากตรงนั้น กายทิพย์ไม่ต้องเดิน ไม่ต้องเหาะ ไม่ต้องวิ่ง กายทิพย์ล่องหนหายวับไปกับตาทันทีจากที่ตรงนั้น


    การเคลื่อนไหวหรือการเดินทางของกายทิพย์เร็วเท่าๆกับความนึกคิดของจิตที่นึกคิดด้วยใจที่อธิษฐานอย่างแน่วแน่ ทั้งมุ่งมั่นว่าจะกลับเข้ากายเนื้อ กายทิพย์ก็ไปถึงกายเนื้อทันที ชั่วแวบหนึ่งกายเนื้อก็เริ่มรู้สึกตัวมีความนึกคิดสมบูรณ์ นั่งตรึกตรองอยู่พักหนึ่ง ทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นว่าฝันไปหรือไม่ไม่ใช่ฝันแน่เพราะเรามีสติรู้เห็นตลอดเรื่อง เราจึงยืนยันว่า "เป็นการถอดกายทิพย์ออกจากกายเนื้อไปได้จริง" .................................








    ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท
    ที่มา : นิตรสารหญิงไทย
    โดย : คุณสายทิพย์
     
  2. Nukool

    Nukool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,073
    ขอโทษนะครับ อ่านลำบากมาก ตัวมันเล็กไปหน่อยนะครับ
     
  3. MBNY

    MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,864
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,511
    ขอบคุณนะคะ ..
    พี่สงสัยมุมมอง จากหน้าจอคอม
    ของพี่ทำไมตัวอักษร เท่าของน้องเลยค่ะ
    พี่มองไม่เห็นว่า อักษรตัวเล็ก .. แต่เดี๋ยว
    จะแก้ใหม่ นะคะ ขอบคุณที่ โพสบอกนะคะ :cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Image1.jpg
      Image1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      154.7 KB
      เปิดดู:
      360
  4. timetime

    timetime เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2005
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +3,373
    อ่านแล้วรู้สึกมีพลัง โมทนาครับ
     
  5. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,403
    โมทนาครับ
     
  6. artty

    artty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    662
    ค่าพลัง:
    +2,388
    this story is Sood Yod ja P'MBNY jaaa. Art likes this story so bad leau..
     
  7. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    อนุโมทนาค่ะ
    ตอนเริ่มศึกษาสมาธิใหม่ๆ ก็มีคนแนะว่าให้กำหนดจิตที่ใดที่หนึ่ง บอกว่าที่กลางหน้าผากก็ได้ ที่ปลายจมูก หรือที่กลางอกอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ที่เป็นจริตของเรา ที่เราชอบ ดิฉันเคยได้ยินก่อนนั้นว่า วางไว้กลางหน้าผากดี เพราะเป็นประตูของจิต แต่พอวางที่กึ่งกลางหน้าผากแล้ว รู้สึกปวดเสียวตลอดเวลาที่รวมจิตกึ่งกลางหน้าผาก แค่เพียงคิดในปัจจุบัน (ขณะนี้) ก็ปวดเสียวแล้ว ทำให้ปวดคิ้ว โดยเฉพาะปวดขมับทั้งข้างซ้ายและขวามากๆ ไปด้วย ปกติก็เคยป่วยเป็นไมเกรนอยู่แล้ว ผู้แนะเขาว่าถ้ามันรู้สึกไม่สบาย ก็ให้เปลี่ยนการกำหนดที่ตำแหน่งใหม่ ดิฉันเลยเปลี่ยนมากำหนดที่ปลายจมูก

    ขอถามผู้รู้ ใครก็ได้ค่ะ
    1.ถ้าจะย้ายมากำหนดที่กึ่งกลางหน้าผากอีก จะทำอย่างไรไม่ให้ปวดขมับ หรือปวดบริเวณคิ้วทั้งสองข้างไปด้วยคะ
    2.หรือดิฉันควรฝึกไว้ที่ปลายจมูกเหมือนเดิมก็สามารถถอดกายละเอียดได้เหมือนกันคะ
    3.ดิฉันเคยถอดกายละเอียดได้ครั้งหนึ่ง ครั้งเดียว โดยบังเอิญ ตอนนั้นยังไม่ได้ศึกษาธรรมะจริงจังเท่านี้ ตอนนั้นอายุยังไม่ 20 เลย และตอนนั้นก็ไม่ได้กำหนดจิตที่หน้าผาก หรือืที่ไหนๆ ยกเว้นคำบริกรรมคำหนึ่ง จิตเกิดรวมเป็นหนึ่งโดยบังเอิญ อย่างนี้แสดงว่า การบริกรรมให้จิตเป็นหนึ่งของดิฉันในตอนนั้น เป็นการรวมอยู่ที่กลางหน้าผากโดยที่ดิฉันไม่รู้ตัว เพราะใจคิดแต่คำๆ นั้น หรือรวมไว้ที่อื่น ก็ได้ผลเหมือนกันคะ

    ขอบคุณผู้ช่วยตอบล่วงหน้าค่ะ
     
  8. dalink

    dalink เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +2,436
    อนุโมทนา สาธุ

    ต้องขอบคุณที่แนะนำเรื่องดีๆ ให้ทราบโดยทั่วกันค่ะ และเพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนใจบุคคลอื่นด้วยว่า ในโลกมนุษย์ ก็ยังมีภพภูมิอื่นๆ อยู่ และให้หันมาทำความดีกันดีก่า ง่ะ
     
  9. BiMode

    BiMode เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +2,322
  10. uptoyou

    uptoyou สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +10
    จะถอกายทิพย์ไปเพือ่อะไร อยากถอด ได้ มันเป็น กิเลส หรือ ป่าวว
     
  11. สายชน

    สายชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    250
    ค่าพลัง:
    +1,232
    ลองไปฝึกกับแม่ชีพิมพาซิที่สำนังปฎิบัติธรรมประชาชื่นวัดกำแพงบางจากซอยเพชรเกษม20เขตภาษีเจริญ
     
  12. Mikas

    Mikas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +342
    ถอดจิตมันจำเป็นต้องออกมาทางหน้าผากหรือปล่าวครับ
    ผมเคยนอนๆ แล้วรู้สึกเหมือนมันออกมาได้เอง ก่อนจะออกรู้สึกหมุนๆ บางทีก็ลอยๆ แต่ไม่ได้ออกทางหน้าฝาก เหมือนเราลุกจากที่นอนธรรมดา
    ไม่รู้คิดไปเองหรือปล่าว เพราะลองสังเกตุสิ่งของที่เห็นตอนที่มีความรู้สึกว่าจิตออกไป แล้วตอนตื่นมาดูเปรียบเทียบ บางอย่างมันไม่เหมือนกัน
    มีทีนึงไม่ได้ออกธรรมดา แต่รู้สึกเหมือนพุ่งไปเลย ไปไหนไม่รู้ รู้สึกแต่ว่าเร็วมาก เร็วจนเสียว เหมือนได้ยินเสียงลมปะทะด้วย เลยพยายามจะลืมตามาดูว่าพุ่งไปไหน พอลืมตามาได้เท่านั้นแหละ เห็นแต่เพดาน จบกันเรย ^^"
     
  13. sao-wanee

    sao-wanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +124
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">ทุกอย่างถือเป็นประสบการณ์ได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือทางธรรม จะเป็นทางโลกีย์ทรัพย์ หรือ โลกุกตรธรรม ทุกอย่างย่อมมีขั้นตอนอยู่ จะลัดขั้นตอนไม่ได้หรอก แต่จะผ่านจุด(แต่ละขั้น)ต่าง ๆ นั้น มันมีตัวแปรเยอะแยะ
    ทุกคนทำได้ ไปถึงฝั่งฝันได้ จะช้าหรือจะเร็วแค่นั้น เราทุกคนต้องไปถึงสิ่งที่ตนต้องการ คือ ฝั่งพระนิพพานได้อย่างแน่นอน
    </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. sao-wanee

    sao-wanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +124
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">เคยทำ ก็จะมีอาการเหมือนในหนังสือบอก ก็จะตึง ๆ ที่หัวคิ้ว แต่ไม่ได้ลองต้องเพราะไม่มีครูบาอาจารย์กำกับ ตัวเจอสิ่งที่ไม่อยากเห็น เพราะอินทรีย์อ่อน ๆอยู่เลยค่ะ หากท่านผู้ใดอินทรีย์แข็งแกร่ง(ผ่านประสบการณ์มาเยอะ)ก็ดีไปค่ะ แต่อินทรีย์อ่อน ๆ เหมือนเรา ต้องพึงระวัง มารนะค่ะ หากไม่การควบคุมที่ดี ก็สามารถเกิดอะไรขึ้นก็ได้</TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,403
    เท่าที่รู้ ไม่จำเป็นครับ
     
  16. Mikas

    Mikas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +342
    มีที่ไหนเปิดสอนการถอดจิต แบบเป็นเรื่องเป็นราวเลยไหม๊ครับ
    อยากทำแบบมีอาจารย์ ไม่อยากมั้วๆเอาคนเดียว กัวจะบ้าเอาซะก่อน
     
  17. nok

    nok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +255
    ถ้าใครสนใจสามารถหาอ่านได้ที่ ฝึกถอดจิต ของหลวงพ่อ โต พรหมรังสี ค่ะ
    ท่านสอนไว้โดยละเอียด
     
  18. Elulu

    Elulu สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +2
    ใช่ความรู้สึกเหมือนมีอะไรดันดันออกมาตรงหว่างคิ้วรึเปล่า
    .....
    เคยเป็นหลายหนเเต่ไม่ได้สนใจอะไร นึกว่าดั้งจมูกขึ้น
     
  19. chue27

    chue27 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,358
    ถอดเพื่อให้ได้รู้ได้เห็นกับตาตัวเองครับว่า นรกสวรรค์ ภพชาติมีจริง ทำให้เกรงกลัวต่อบาป ไม่ประมาทในการทำความดีครับ แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ไม่ควรไปยึดติดในอิทธิปาฏิหาร์
     
  20. จันทร์เจ้า

    จันทร์เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,948
    เมื่อตอนเช้าของเมื่อวาน ผมลองฝึกถอดกายทิพย์โดยการเพ่งที่หว่างคิ้วดูครับ
    ปรากฏว่ามีอาการคล้ายๆจะหมดสติ (รู้สึกเบรือๆ) พอผมเรียกให้สติคืนมาทีก็สดุ้งที
    เป็นอย่างนี้หลายรอบ และถี่มาก ถ้าใครผ่านมาเห็นเข้าต้องคิดว่าผมเล่นเป็นเจ้าเข้าทรงแน่เลย
    (ผมนอนฝึกอยู่ในห้องนอนคนเดียวครับ เลยไม่มีใครมาเห็น)
    ต่อมาผมรู้สึกเหมือนชาๆไล่จากปลายแขนขึ้นมา ซึ่งอาการคล้ายกับประสบการณ์ถอดจิตที่ผมเคยอ่านมาเลย
    และรู้สึกว่าจิตแยกออกจากร่างกายแล้ว แต่พอมองดูรอบๆตัว มันมืดไปหมดเลย
    ไม่เห็นว่าจะเห็นห้อง เห็นตัวเองเหมือนที่เขาว่ากันเลย
    เห็นแต่สีดำเท่านั้น เพียงแต่รู้สึกว่าตัวที่เป็นกายเนื้ออยู่ใกล้ๆตัวห่างไปสัก 3-4 เมตรเท่านั้น
    (คงเป็นเพราะผมตั้งจิตว่า อยากถอดจิตมาอยู่แค่ข้างๆตัวเอง ไม่อยากไปไหนไกลเพราะกลัว)
    ไม่เห็นสัสันสว่างไสว และตัวของเราเองกำลังนอนอยู่อย่างที่เขาว่ากันเลย
    ผมทำอะไรผิดพลาดหรือเปล่า หรือว่าผมเข้าใจผิดไปเองว่าถอดกายทิพย์ได้แล้วครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...