กลอนข้อคิดธรรมะเกี่ยวกับการเมืองที่ควรอ่าน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย siratsapon, 14 เมษายน 2010.

  1. siratsapon

    siratsapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +641
    ผมพยายามแต่งกลอนสะท้อนสภาพปัญหาสังคมการเมืองโดยวิเคราะห์ตามธรรมอย่างเป็นกลางที่สุดในมุมมองพุทธศาสนา หากไม่คล้องจองบ้างหรือมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยครับ...


    ใจพร่ำ...ร่ำเรียกร้อง...หาสันติ
    แต่อคติ...ยังคง...พลุ่งพล่าน
    กิเลสร้อน...ผลักดัน...อลังการ
    ความเป็นพาล...ภายในใจ...มากมี

    หมั่นทำ...พูดคิด...แต่ทุจริต
    อยู่เป็นนิจ...ช่ำชอง...เป็นวสี
    เพียร...อกุศลกรรม...ไม่ดี
    เนิ่นนานปี...เก็บสะสม...สุกงอม


    อดีตชาติ...นั้นมี...กรรมมาแล้ว
    ยังไม่แคล้ว...มีศีล...ให้กลิ่นหอม
    วิบากกรรม...ตามมา...จำต้องยอม
    เลือดจึงย้อม...แผ่นดิน...สิ้นชีวา

    ผู้ไปฆ่า...ชื่อว่า...ก่อเวรอีก
    ยากจะหลีก...หนี้นี้...ที่ยาวหนา
    กรรมสนอง...ย่อมมี...ตามติดมา
    ฆ่าแล้วฆ่า...ผลัดกัน...เป็นอนันต์

    พระสัมมา...สัมพุทธ...เจ้ารู้
    ว่าทุกผู้...ต่างมี...ความคิดฝัน
    ต่างรักสุข...เกลียดทุกข์...สงบกัน
    จึงทรงหมั่น...ทรงสอน...ศีลธรรม

    ให้เรา...ขยันเรียน...ขยันรู้
    ขยันดู...ขยันมี...เพียรทำ
    ละชั่ว...ทำดี...อยู่เป็นประจำ
    ฝึกจิตซ้ำ...ผ่องใส...ไว้เนื่องๆ


    หากทุกฝ่าย...หมั่นทำ...กันอย่างนี้
    ไทยย่อมมี...สันติ...ไร้สีเหลือง
    ไร้สีแดง...สีดำ...ไร้ขัดเคือง
    เป็นบ้านเมือง...ตามฝัน...ดั่งวันวาน

    แต่พวกเรา...มองกัน...ที่ตรงไหน
    มองกันไป...สู่ภายนอก...เรียกขาน
    ขอวัตถุ...เงินทอง...หาใดปาน
    ลืมประสาน...ศีลธรรม...นำชีวี


    นานวัน...มองไม่ออก...แยกไม่ได้
    ใครพูดดี...เข้ากับตน...ร่วมสี
    กล่อมเกลา...เป็นมโหะ...ไม่รู้ดี
    จิตมากมี...ตัณหา...อุปทาน...

    ประเทศไทย...จึงมี...อย่างวันนี้
    ทุกแห่งมี...แตกยาก...ไม่สมาน
    แยกเป็นฝัก...แยกเป็นฝ่าย...ร้าวราน
    อ้างกฏบ้าน...กฏหมู่...ต่อสู้กัน

    ความสงบ...สันติ...สามัคคี
    ยั่งยืนมี...ความสุข...สมานฉันท์
    ต้องมองย้อน...กลับมา...ภายในกัน
    พักฝัน...ประชาธิปไตย...ไกลตน

    ใจไม่ดี...แม้มี...ธิปไตย
    มีแล้วไซร์...ใช่ก่อสุข...ทุกแห่งหน
    ชาวประชา...ยังทุกข์...ทุกผู้คน
    ความยากจน...ยังมี...นี้ควรจำ


    เพราะคนเรา...นั่นต่าง...กันตรงจิต
    กรรมพินิจ...จำแนก...แยกสูงต่ำ
    ความเท่าเทียม...ทุกเรื่อง...ที่ชักนำ
    หลอกหลอนซ้ำ...ให้หลง...ในวิมาน

    อันคนดี...ไม่ดี...บอกหลักไว้
    คนดีไซร์...ทำพูดคิด...ให้สมาน
    หมั่นถือศีล... ภาวนา...ทำทาน
    เกียจคร้าน...อบายมุข...ห่างไกล


    ส่วนคนชั่ว...ไม่ดี...มีผิดศีล
    เป็นอาจิน...ทานไม่ยุ่ง...มุ่งหวั่นไหว
    ภาวนาข้าม...พูดคิดชั่ว...ร่ำไป
    ว่องไวใน...อบายมุข...ประจำ

    ไม่คบพาล...คบบัณฑิต...นี้เบื้องต้น
    แห่งมงคล...ชีวิต...ที่เลิศล้ำ
    ทำครบ...๓๘...เป็นประจำ
    ย่อมชักนำ...ชีวิต...ให้เจริญ

    ผู้ใดเพียร...หมั่นทำ...นำชีวิต
    อันบัญฑิต...ผู้รู้...ย่อมสรรเสริญ
    ทำให้มาก...ทุกคน...ขอเชื้อเชิญ
    ไม่บังเอิญ...ชาติไทย...วัฒนา

    หรืออย่างน้อย...ให้เพียร...ละความชั่ว
    ไม่หมองมัว...ถือศีล...กันไว้หนา
    ศีล...๕...เป็นอาจิญ...ตราบสิ้นชีวา
    รับรองว่า...หมดปัญหา...ทั่วหน้าเอย...

    <!--MsgFile=0-->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2010
  2. siratsapon

    siratsapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +641
    ขอบคุณสำหรับความคินเห็นของทุกท่านมากครับ

    ผมได้ทำการเว้นวรรคตอนในกลอนให้ใหม่ เพื่อผู้ที่ไม่ถนัดอ่านกลอนจะได้อ่านได้ง่ายขึ้นครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...