กรุแหลก ที่วัดถ้ำท่าเกย จ.เพชรบูรณ์

[FONT=&quot] หลวงปู่ผินะได้สร้างวัตถุถาวรขึ้นที่ถ้ำท่าเกย ต.สามแยก อ.วิเชียร จ.เพชรบูรณ์
เพื่อไว้เปิดโลกแก่พุทธศาสนิกชนเพื่อจะจรรโลงพระพุทธศาสนาให้มั่นคงถาวรต่อไป พร้อมกันนี้ได้สร้างพระเครื่องขึ้นหลายชนิดเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้ที่ไปร่วมในงานก่อสร้างครั้งนั้นด้วย

หลวงปู่ผินะได้สร้างโบสถ์แหล็บศาลาวิหารธรรมเจดีย์ ๖ อย่างนี้โดยกว้าง ๕ วา สูง ๘ วา ๖ ชั้น นับว่าหาที่เปรียบได้ยาก เมื่อผู้ใดได้พบเห็นแล้วจะเกิดปัญญาปฏิภาณบารมี หาที่เปรียบได้ยาก
เพื่อจะได้เพิกถอนอวิชชา ตัญหา อุปาทาน ตามคำกล่าวของพระพุทธวัจนะในบทอนัตตรคนะสูตรขันธ์ ๕
อายะตะนะ ๖ รวมเป็นอนัตตา จะได้เกิดธัมสังเวชจะได้เป็นที่พึ่งพ้นภัยนานา เข้าถึงนิสัยบารมีไปนิพพาน
ถึงอมตธรมคำว่าไม่ตายรู้แล้วละขันธ์ ๕ ผันผายไม่เกี่ยวข้องในรูปนามในโลกธัมกามคุณเพราะเห็นของจริง
จะมีอาจารย์ประจำอยู่บนแหล็บ จะมีองค์สาธิตอยู่ในวิหารไว้ชี้ทางที่แน่แท้ไม่แปรผัน ปลงเห็นสังขารว่าต้องดับ
มีจิตต์และสังขารอาศัยตัณหาให้เกิดเป็นกรรมนำไปเกิด แล้วให้เกิดภพเกิดชาติอยู่ไม่สิ้นจนกว่าจะละวาง

ขอให้พุทธบริษัททั้งหลายจงไปปลงร่างกายที่หลวงปู่ผินะได้สะสมไว้เป็นกายพิพิธภัณฑ์เพื่อเป็นหลักสูตรวิชาข้ามวัฏฏะสงสาร
จะเห็นว่าสังขารอนิจจาไม่เที่ยงหนอ เกิดเท่าไรตายเกลี้ยงไม่เหลือหลอทั้งผู้ดีเข็ญใจต้องตายเตียนยอ ถึงตัวหมอก็ต้องตายวายชีวัน
แรกกำเนิดเกิดเล็กเป็นเด็กน้อยกระจ้อยล่อยเรี่ยงแรงไม่แข็งขัน นอนในเปลเห่กล่อมถนอมกันแล้วก็แปรผันไปไม่ทันนานชายก็เป็นหนุ่ม
หญิงก็เป็นสาวราวกับว่าจะอยู่ค้ำฟ้าคู่โลกโอฆสงสาร สดชื่นดังบุพผายุพาพานไม่นานกลับกลายแก่ชรา
ร่างก็แก่แลดูช่างอนาถ หูอื้อตาฝาดฝ้าฟางหมดกำลังทั้งแข้งขาหนังก็เหี่ยวฟันก็หักประจักษ์ตา นี่แหละหนาว่าไม่เที่ยงอย่าเถียงเลย[/FONT]
[FONT=&quot]
จะขอบรรยายโบสถ์แหล็บศาลาธรรมวิหารเจดีย์ต้งแต่กกถึงปลายที่ตั้งอยู่ในถ้ำแสงจันทร์นั้น [/FONT]
[FONT=&quot] ศาสนาแปลว่าคำสอน เช่น ใครถือศาสนาอะไรก็คำสอนของผู้นั้น เช่น ศาสนาพุทธก็คำสอนของพระพุทธหรือพระศาสดา
ศาสนาคริสต์ก็คำสอนของพระเยซูผู้เป็นเจ้า ศาสนาอิสลามก็คำสอนของอัลเราะห์
ที่หลวงปู่ผินะได้ทำขึ้นภายในถ้ำแสงจันทร์นี้ประชุมศรอยู่ ๒๗ ดอกด้วยกัน
หลังโบสถ์มีศร ๑๒ ดอก ก็หมายถึงอายะตะนะ ภายนอกภายในรวม ๑๒
ส่วนแหล็บนั้นมีศร ๖ ดอก หมายถึงธาตุ ๖ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ วิญญาณธาตุ
ขึ้นไปบนศาลาชั้น ๓ ก็มีศรอีก ๖ ดอก หมายถึงทิศทั้ง ๖ ทิศเบื้องหน้าคือบิดามารดา ทิศเบื้องขวาอาจารย์
ทิศเบื้องหลังบุตรภรรยา ทิศเบื้องซ้ายมิตร ทิศเบื้องต่ำบ่าว ทิศเบื้องบนสมณะพราหมณ์
อีกชั้นหนึ่งเรียกว่าวิหารมีศร ๓ ดอก นั้นหมายถึงคำสอนให้รู้จักพระไตรสรณคม
อีกชั้นหนึ่งเรียกว่าธรรมเจดีย์ เพราะมีเจดีย์ตั้งอยู่บนนั้น บรรจุสิ่งที่ทำให้เกิดธรรมสังเวชและปูชนียสถาน นามชื่อผู้ร่วมสร้างอยู่บนยอดของพระเจดีย์[/FONT]

[FONT=&quot]อายะตะนะ ผาสุวิหาโร[/FONT]


[FONT=&quot]ขอเชิญเซียนทั้งหลายไปพิสูจน์ได้ที่วัดถ้ำท่าเกยครับ ครั้งนี้กรุแหลกเห็น ๆเดี๋ยวจะหาว่าไม่บอกกัน :d
[/FONT]