"กฎแห่งกรรม" ไม่เคยยกเว้นให้ผู้ใด (วิบากกรรม ที่เกี่ยวกับเรื่องของวจีกรรม)

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 1 พฤศจิกายน 2008.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    " กฎแห่งกรรม" ไม่เคยยกเว้นให้ผู้ใด

    [​IMG]
    พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกริยา

    วิบากกรรมของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ที่เกี่ยวกับเรื่องของวจีกรรม

    กรรมที่ต้องกระทำทุกรกิริยา

    ในสมัยพระกัสสปะพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพราหมณ์ชื่อ โชติปาละ ไม่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ทราบว่าพระกัสสปะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ได้กล่าวว่า "การตรัสรู้ของสมณะโล้น จักมีมาแต่ที่ไหน"

    ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น พระโพธิสัตว์ต้องเสวยทุกข์ในอบายภูมิเป็นเวลานาน ด้วยเศษกรรมยังเหลืออยู่ แม้ในภพสุดท้ายก่อนจะได้ตรัสรู้ พระองค์ยังต้องหลงเดินทางผิด บำเพ็ญทุกรกิริยาทรมานพระองค์เองด้วยวิธีการต่างๆ อันเป็นวัตรของเดียรถีย์ มีการอดอาหาร เป็นต้น จนสรีระผอมเหลือแต่กระดูก ได้รับทุกขเวทนากล้าอันเกิดจากความเพียรเป็นเวลานานถึง ๖ ปี กว่าจะได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ

    กรรมที่ทำให้ถูกกล่าวตู่

    ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์เกิดเป็นนักเลงสุราชื่อ มุนาลิ ได้กล่าวตู่ พระนันทะ สาวกของพระสัพพาภิภู ปัจเจกพุทธเจ้าว่า "เป็นสมณะทุศีล"

    ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น พระโพธิสัตว์ต้องเสวยทุกข์ในอบายภูมิเป็นเวลานาน แม้ในปัจจุบันจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ด้วยเศษกรรมที่ยังเหลืออยู่ พระพุทธเจ้าจึงต้องถูกกล่าวตู่โดยนาง จิญจมาณวิกา

    เรื่องมีว่าเหล่าเดียรถีย์เกิดความริษยา ที่เห็นพระพุทธเจ้ามีบุคลลเลื่อมใสศรัทธาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ลาภสักการะของพวกตนน้อยลง จึงหาทางทำลายพระเกียรติคุณของพระพุทธเจ้า ด้วยการใช้นางจิญจมาณวิกา สาวิกาของพวกตน เป็นผู้ดำเนินการตามอุบาย กล่าวคือในตอนเย็น ขณะที่เหล่าชนกำลังเดินทางกลับเข้าเมือง ก็ให้นางเดินสวนทางออกไป ตอนเช้าขณะเหล่าชนเดินทางออกจากเมือง ก็ให้นางเดินสวนทางกลับเข้ามา

    ทำเช่นนี้เป็นประจำ จนชาวเมืองเกิดความสงสัย ถามว่านางออกไปนอกเมืองทุกเวลาเย็นด้วยเหตุอันใด นางตอบว่า เราออกไปตามความประสงค์ของพระสมณะโคดมผู้เป็นศาสดาของพวกท่าน และพำนักอยู่ในพระคันธกุฏีในพระเชตวัน เวลาล่วงมาหลายเดือน นางจิญจมาณวิกาจึงนำท่อนไม้มาผูกติดเอว สวมเสื้อคลุมทับไว้

    ทำประหนึ่งว่าตนกำลังมีครรภ์เดินเข้าไปหาพระพุทธเจ้าในพระเชตวันวิหาร ท่ามกลางบริษัทที่กำลังพระธรรมเทศนา กล่าววาจาตู่พระพุทธเจ้าว่า เป็นผู้ที่ทำให้นางตั้งครรภ์ พระพุทธเจ้ามิได้โต้ตอบแต่ประการใด ทำให้ชนบางกลุ่มในที่นั้นเกิดความสงสัย คิดว่าหากไม่เป็นความจริง นางคงมิกล้ากล่าววาจาเช่นนี้ต่อหน้ามหาชนเป็นอันมากแน่นอน

    พระอินทร์ทราบความ จึงแปลงร่างเป็นหนูไปกัดเชือกที่นางผูกเอวไว้ขาดออก ท่อนไม้หลุดลงมาทับเท้าของนางจนหลังเท้าแตก เหล่าชนในพระเชตวันวิหารเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น พากันขับไล่นางออกไป เมื่อพ้นประตูวิหาร นางก็ถูกเปลวเพลิงนรกฉุดลงไปสู่อเวจีมหานรก

    กรรมที่ทำให้ถูกกล่าวหา

    ในอดีตกาลพระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลพราหมณ์ ชื่อ สุตวา บวชเป็นดาบสสั่งสอนศิษย์ในป่าหิมพานต์ ต่อมามีดาบสผู้สำเร็จอภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ มายังสำนักของตน ด้วยความริษยาที่เห็นว่ามีวิชาความรู้มากว่าตน จึงกล่าวหาดาบสนี้ว่า "ดาบสนี้หลอกลวง ดาบสนี้บริโภคกาม" และยังแนะให้ศิษย์ของตนกระทำตาม

    ด้วยวิบากแห่งกรรมที่กล่าวหาผู้อื่นโดยไม่เป็นจริง พระโพธิสัตว์และเหล่าศิษย์ต้องเสวยทุกข์ในอบายภูมิเป็นเวลานาน แม้ในปัจจุบันด้วยเศษกรรมที่ยังเหลืออยู่ พระพุทธเจ้าและสงฆ์สาวก จึงถูกกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่านางสุนทรี

    เรื่องมีว่า เหล่าเดียรถีย์ยังคิดที่จะทำลายพระเกียรติคุณของพระพุทธเจ้า ต่อมา จึงใช้ให้นางสุนทรี สาวิกาของพวกตนอีกคนหนึ่งไปดำเนินการ ตามวิธีเช่นเดียวกับนางจิญจมาณวิกา จากนั้นได้ว่าจ้างเหล่าโจรให้ฆ่านาง นำศพไปหมกไว้ใกล้พระเชตวันวิหาร แล้วส่งคนของตนไปร้องเรียนต่อพระราชาว่า สาวิกาผู้หนึ่งของพวกตนหายไป พระราชาจึงมีรับสั่งให้ค้นหา พบศพหมกอยู่ใกล้พระเชตวันวิหาร เหล่าเดียถีย์จึงนำศพวางบนแคร่หาม ออกเดินประกาศไปทั่วพระนครว่า "เหล่าศากยะสมณะร่วมกันฆ่านาง" พระอานนท์ทูลความให้พระพุทธเจ้าทรงทราบ พระพุทธองค์ตรัสว่า อีก ๗ วัน เรื่องนี้จะปรากฏความจริง

    ฝ่ายพระราชา แม้จะมีหลักฐานปรากฏเช่นนั้นก็ยังไม่แน่พระทัย รับสั่งให้เจ้าพักงานออกทำการสืบสวนหาความจริง เจ้าพนักงานไปพบกับเหล่าโจรซึ่งกำลังเมามาย ต่างก็อวดตัวว่าเป็นคนฆ่านางสุนทรี จึงคุมตัวไปเฝ้าพระราชา ทรงสอบถามจนได้ความจริงว่า เหล่าเดียรถีย์เป็นผู้ว่าจ้างพวกตน พระราชามีรับสั่งให้จับเหล่าเดียรถีย์คุมตัวไปเดินประจานไปทั่วพระนคร พร้อมทั้งให้ร้องประกาศว่า "พวกตนเป็นผู้สั่งให้ฆ่านาง มิใช่เป็นการกระทำของเหล่าศากยสมณะ" จากนั้นจึงนำตัวไปลงโทษสถานหนักทั้งหมด

    ชื่อว่า กรรม แม้จะเล็กน้อยหรือยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม เมื่อถึงวาระที่กรรมนั้นให้ผล แม้แต่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐสุดในไตรภพ ก็ยังมิอาจหลีกเลี่ยงให้พ้นไปได้ด้วยประการฉะนี้

    ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๓ อรรถกถาพุทธวรรค พุทธาปทาน, ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓

    ที่มา http://www.gumara.com/node/228
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. แบงก์จ้า

    แบงก์จ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2008
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +1,520
    สา...ธุ
     
  3. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โมทนาครับ

    ถ้าใช้สติและปัญญาสักนิด ก็คงจะลดการก่อวจีกรรมได้เยอะครับ
     
  4. Add-on

    Add-on Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2008
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +64
    คนเราทุกคนเกิดมาเพราะกรรม
     
  5. fonsirada

    fonsirada สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +22
    มีเพื่อนร่วมงานอยู่คนหนึ่ง มีวาจาที่เรียกว่ามุสาเป็นปกตินิสัยคือพูดจาส่อเสียด มีเจตนาให้ร้ายผู้อื่นอยู่เสมอมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวของผู้อื่นด้วยการวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสียหาย....สาเหตุมาจากครอบครัวที่ไม่มีความสุขสามีขี้เหล้าเมายา เที่ยวเสเพล ลูกสาวมีสติไม่ปกติ พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เขาเลยหาทางออกแห่งทุกข์ด้วยการเพ่งโทษคนอื่น ผลที่เขากำลังได้รับปรากฏอยู่ในขณะนี้คือความทุกข์ใจ เงินทองก็ไม่ค่อยมี เป็นหนี้เป็นสินไปทั่ว นี้แหละนะเขาเรียกว่าวิบากกรรม เขามีกรรมเป็นของๆตน และกำลังรับผลของกรรมนั้นอยู่...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2008
  6. samusunn

    samusunn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    517
    ค่าพลัง:
    +878
    คนทุกคนมีกรรมเป็นของๆ ตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล... อนุโมทนา สาธุค่ะ
     
  7. หนูส้ม

    หนูส้ม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +87
    พูดดี ทำดี คิดดี กันนะคะ...
     
  8. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    <TABLE class=bodyline cellSpacing=0 cellPadding=0 width=978 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=10 background=templates/fisubgreen/images/bg_shadowleft.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=right width="15%"></TD><TD align=right width="70%">
    </TD><TD align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE class=forumline cellSpacing=1 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TH height=28></TH><TH width=200>


    </TH></TR><TR><TD class=row1 vAlign=top><TABLE cellSpacing=20 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>
    [​IMG]


    อิตถีเพศกับการทำบุญ
    โดย ร.ต. เจ้าประเวศ ณ เชียงใหม่

    เราเคยเห็นผู้หญิงสวยๆ ซึ่งแต่ละคนจะสวยไม่เหมือนกัน เห็นดารานักแสดง นางเอก นางงาม แต่ละคนก็หน้าตาสวยไม่เหมือนกัน แต่สรุปแล้วว่าสวยก็แล้วกัน อยากรู้ไหมว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้ผู้หญิงแต่ละคนสวยไม่เหมือนกัน มีเหตุมีผลหรือมีเหตุมีปัจจัยอะไรที่เกี่ยวข้องกับความสวยของคุณผู้หญิง ซึ่งคุณประเวศ ณ เชียงใหม่ ได้รวบรวมเรียบเรียงเรื่องนี้ไว้ในชื่อเรื่อง ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2008
  9. DD.

    DD. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +103
    อนุโมทนาสาธุครับ..
    สาธุ สาธุ สาธุ[​IMG]
    <!-- / message -->
     
  10. chodchoi

    chodchoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,288
    ค่าพลัง:
    +148
    ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ
    กราบขอขมาและอโหสิกรรมด้วยครับ สาธุ
     
  11. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,329
    "กฎแห่งกรรม" ไม่เคยยกเว้นให้ผู้ใด (วิบากกรรม ที่เกี่ยวกับเรื่องของวจีกรรม) ตอบกระทู้

    ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบพูดจานินทาผู้อื่น(นิดหน่อย) พูดจาเสียงดังบางครั้งหยาบคาย บางครั้งไร้สาระ น้อยครั้งที่จะพูดส่อเสียด....พยายามระมัดระวังอยู่ค่ะ รู้สึกว่าต้องใช้สติมากๆเลย


    ;aa43
     
  12. กบ+ตูน

    กบ+ตูน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +48
    ตูนชอบเมาซี่กับเพื่อนๆคุยกันมีสาระบ้างไร้สาระบ้าง นินทาคนอื่นบ้าง ฟังเขานินทาคนอื่นบ้าง
    จะพยายามปรับตัวคะ อนุโมทนาบุญกับเรื่องราวดีๆด้วยคนคะ
     
  13. กบ+ตูน

    กบ+ตูน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +48
    ตูนชอบเมาซี่กับเพื่อนๆคุยกันมีสาระบ้างไร้สาระบ้าง นินทาคนอื่นบ้าง ฟังเขานินทาคนอื่นบ้าง
    จะพยายามปรับตัวคะ อนุโมทนาบุญกับเรื่องราวดีๆด้วยคนคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...